ขอถวาย พระพรช้ย ด้วยใจภักดิ์
พร้อมจงรัก ภักดี พระศรีสยาม
ครองสมบัติ ขัตติยะ ในพระนาม
แห่งสยาม องค์เจ้าฟ้า วชิราลงกรณ์

ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อม
 ขอเดชะ

รุ่งรพี  สาดส่องภพ ราชวัลลภ ครบกระบวน
ไกรสร  กระแสสรวล เอิบอาบอิ่ม ปริ่มดุษฎี

พร้อมถวาย ใจจงรัก สวามิภักดิ์ กายเป็นพลี
พระองค์  ทรงภูมี ธ.ล้นเกล้า วชิราลงกรณ์

ชาติไทย  ได้ชื่นชม เอกบรม  อดิศร
แผ่นหล้า ฟ้าบวร สยามสุโข โพธิสมภาร

ตามเบื้อง พระปิตุชาติ ไผทราษฎร์ ปณิธาน
อริใด เป็นภัยพาล ปราบเสี้ยนมาร ชูชาติคง

 

วันที่หนึ่ง เดือนธันวา มหารำลึก
มโนนึก น้อมนำ ในความหนาว เย็นสบาย เบิกบาน มานานยาว
ทั้งดวงเดือน ดวงดาว แพรวพราวพรรณ

ในวันนี้ ปีห้าเก้า กลับเศร้าโศก ยังชุ่มโชก ชลนัย ไม่นึกฝัน
ความรู้สึก สะอึกสะอื้น อกตื้นตัน มิเจือจาง จิตจาบัลย์ ในธันวา

เดือนของพ่อ รอมานาน ท่านมาพราก ทำใจยาก ลำบากจิต คิดผวา
งานฉลอง มหาราช จัดเตรียมมา เหล่าประชา ซึมเซา เศร้าทั่วกัน

ประโลมเร้า ชาวไทย ให้ใจแกร่ง ได้เห็นแสง รัศมี ดังทีฝัน
เดือนสกาว ดาวสพร่าง สว่างสุริยัน
องค์พระบรม สมราชัน ปลอบขวัญไทย

 

ยี่สิบ นาฬิกา
ตามวัดวา อารามทั่ว
ระฆัง หง่างเหง่งรัว
เร่งระเร้า เขย่าโลกา

ลั่นฆ้อง กรับก้องโก่ง
มะหม่างโหม่ง เหม่งเหมงมา
กลองย่ำ ระรำรา
ประโคมคลึม กระกรืมกราว

รับเสด็จ ถวัลยราชย์
เจิดจรัส พระแพรวพราว
สุริยัน จันทรดาว
ส่องน้อมเกล้า เจ้าภูธร

แด่องค์ พระจอมเจ้า
ข้าพระพุทธเจ้า ถวายพระพร
วชิ ราลงกรณ์
พระดวงรัตน์ กษัตริย์ไทย

สี่ทุ่ม ทางทีวี แจ้งข่าวดี เฉพาะกิจ
บังคม ทูลสถิต เถลิงราชย์ ถวัลยา

วชิ ราลงกรณ์ อดิศร องค์ราชา
ตั้งแต่ สิ้นราชบิดา สิบสามห้า สิบสองนาที

แห่งกฏ มณเฑียรบาล ราชปณิธาน พระทรงศรี
อีกราช ประเพณี ทุกบุรี มิขาดตอน

ราบกราบ บรมฉายา รับราชา นิรันดร
ปวงข้า ถวายพระพร รัชกาลที่สิบ ทรงพระเจริญ

เพื่อประโยชน์ ของประชาชน ชาวไทยทั้งปวง
องค์ในหลวง รัชกาลที่สิบ ทิพยวรางกูล
แผ่นดินไทย ทั้งขวานทอง นองพอกพูน
สิ้นราชย์อริ มีแต่กุศลบุญ เพิ่มพูนทวี

 

ทั้งสี่องค์ โอรสธิดา มหาราช
จอมกษัตริย์ ยิ่งใหญ่   ไทยสยาม
ช่วยราชชนก ทุกราชกิจ  เฝ้าติดตาม
ทุกเขตคาม แม้ทุกข์แสน   ทั่วแคว้นไทย

สดุดี ทั้งสี่พระองค์  ทรงงานหนัก
แจ้งประจักษ์ จิตภักดี  ที่ถวาย
เพื่อประชา ได้ผาสุก  ความทุกข์คลาย
ขอรวมใจไทย ถวายภักดี  ทั้งสี่พระองค์

สัททุลวิกกีฬิต ฉันท์ฯ
อันองค์อัครภพประสบวิริยภาพ กายจิตพระซึ้งซาบ 
ทหาร น้อมเคารพนพสูรยตะญาณ ใต้โพธิสมภาร
กษัตริย์ จอมทัพปราบอริราบประลาตบรมฉัตร
บำรุงระเบียบบัตร ณรงค์
เหล่าปวงข้าสละชีพถวายศิริประสงค์ สืบศักดิ์พิทักษ์องค์ เสมอ

สี่พระองค์

องค์หนึ่งพี่นาง เติมทางพื้นฐาน
ถ่ายทอดทรงงาน ส่งเสริมสังคม
องค์สองครองราชย์ ร่มฉัตรบรม
ชุบไทยหายตรม สมเชื้อชายชาญ

องค์สามตามเบื้อง ทุกเรื่องรู้รอบ
ต่างชาติชิดชอบ ลึกรู้โบราณ
องค์สี่มีศิลป์ ไล่สิ้นโรคพาล
สี่องค์ทรงงาน เพื่อถิ่นขวานทอง

 

มาณวก ฉันท์ฯ

ล่วง ลุณ กาล สาน อนุ กรม
เอ กบ รม รา ชอุ รส
รัฐ ก็ แถลง แจ้ง ระบุ หมด
ตาม ทำนำ กฏ สม หฤ ทัย

รา ชก ษัตริย์ พั ฒน ชาติ
ไทย ลุประ ลาต ขับ อริ ไกล
เท พส ถิต ชิด มน ใน
สม จิต ไทย แช่ม ดุจ เดิม

 

ยี่สิบแปด กรกฎาคม พระบรมขัตติย์
อธิราช องค์กุมาร จากสวรรค์สรวง
เสด็จประสูติกาล สราญใจ ไทยทั้งปวง
พสกรัฐ สลัดห่วง จากดวงใจ
ปีพ.ศ. สองพันสี่ร้อย เก้าสิบห้า
รวมประชา สิ้นทั้งมวล เป็นส่วนใหญ่
อธิษฐาน กษัตริย์ราชินี ศรีสยามไทย
พระราชทานให้ พระราชโอรสา สง่างาม
ปีเก้าห้า ที่ฟ้าฝนแดด แผดไปทั่ว
แล้ววันนี้ มีฟ้าฝนรัว ฉ่ำทั่วสยาม
ปละมนต์พรม พระพายพลิ้ว ทิวเขตคาม
ได้พระราชโอรส แห่งไทยสยาม งามพริ้งพราย
ขึ้นหกค่ำ เดือนเก้า ป่าวประกาศ
วิทยุ แห่งชาติ ออกแพร่หลาย
ปีมะโรง ตรงวันจันทร์ ลั่นกระจาย
บกเรือปืนใหญ่ ก้องลั่น สนั่นเมือง
ญาติประยูร คุณหมอ รออัมพรสถาน
เต็มหน้าพระลาน พลุกพล่าน กันต่อเนื่อง
เสียงประชาชน โห่ร้อง ก้องทั้งเมือง
ได้รัชทายาส งามเมลือง วชิราลงกรณ

 

พระภูมิพล ล้นเกล้า เฝ้าใกล้ชิด
พระทรงฤทธิ์ กำลังใจ ใกล้บรรจถรณ์
ห้าโมงเย็น สี่สิบห้า สุริยารอน
ดวงทินกร ส่งพระเทวา มาประสูติการ
ทุกดวงใจ ไทยทุกดวง สิ้นห่วงแล้ว
เกิดดวงแก้ว สุขสมหวัง ดังอธิษฐาน
ขอพระองค์ ทรงพระเจริญ ยิ่งยืนนาน
ได้รัชทายาส ขัติยตระการ จอมกษัตริย์ไทย

ครั้นหนึ่งเดือน สิบแปดวัน พระชันษา
พระกรุณาสงฆ์พราหมณ์ ทำพิธีให้
การขึ้นพระอู่ ภู่กุศล มงคลไชย
กล้อมเห่ไกว พระโอรสา ประเพณี

ครั้นพอครบ หนึ่งพรรษา พระกรุณาโปรดเกล้า
ให้สมเด็จ พระสังฆราชเจ้า เป่าราศี
ถวายพระนาม องค์น้อยเจ้าฟ้า มหาจักรี
ถวายภูมี นามเบิกฟ้า มหาอมร
   สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าวชิราลงกรณ
บรมจักรยาดิศรสันตติวงศ์ เทเวศธำรงสุบริบาล
อภิคุณูประการมหิตลาดุลเดช ภูมิพลนเรศวรางกูร
กิตติสิริสมบูรณ์สวางควัฒน์ บรมขัติยราชกุมาร

 

ราชโอรส หนึ่งเดียว พระปิตุเรศ
ภูมิพล อดุลเดช อดิศร
ราชชนนี สิริกิติ พระมารดร
ร่วมอุทร หญิงอุบลรัตน๋ เชษฐภคิณี
กับอีกสอง ขนิษฐาภคิณี ผ่องพิลาศ
พระเทพรัตน์ จุฬาภรณ์ อัปสรศรี
ทุกพระองค์ ทรงรู้รัก สามัคคี
ท่านทั้งสี่ คือดวงชีวัน ขวัญประชา
เป็นกุศล ของคนไทย ในยุคเปลี่ยน
ขวัญมณเฑียร ของยอดฉัตรที่อยู่ยอดปราสาทของรัฐ
เป็นแรงใจ ใกล้ชิด สนิทมา
พระราชา พระราชินี คลุกคลีงาน

เริ่มถวาย พระอักษร ตอนสี่ชันษา
ที่โรงเรียน จิตลดา มหาสถาน
ทรงสนพระทัย แต่ในขั้น ชั้นอนุบาล
แม่นหลักการ งานสะอาด ระเบียบวินัย
เมื่อพระชนม์ พรรษา ที่สิบสี่
พระราชชนก ชนนี ดำริให้
ตามโอรส ทรงถนัด จัดให้ไป
เกาะอังกฤษ ศึกษาใน คิงส์มีด
แคว้นซัสเสกส์ รับภาษา เมืองซีฟอร์ด
เรียนต่อยอด ที่มิลฟิลด์ เมืองสตรีท
สองห้าหนึ่งสาม สิ้นเสร็จ สำเร็จสัมฤทธิ์
กลับจากอังกฤษ เรียนต่อ ออสเตรเลีย

องค์สมเด็จ พระบรม โอรสาธิราช
ทรงปฏิบัติ ระเบียบวินัย ไม่เคยเสีย
ทรงแคล่วคล่อง ว่องไว ไม่รู้เพลีย
ไม่มีเปลี้ย พระกำลัง ทรงวังชา
พระชนกชนนี เสด็จไหน ท่านไปด้วย
ทุกครั้งช่วย ทรงงาน การเข้าหา
ท่านลึกซึ้ง ถึงใจดวง ปวงประชา
กอรปพระเมตตา บารมี มิเว้นวาง
พระเบื้องบาท จัดให้สม การศึกษา
ทรงชอบกีฬา รักษากาย มิวายว่าง
องค์พระบรม สมสง่า ท่วงท่าทาง
พระชนกชนนี ทรงวาง เพื่อสร้างไทย

พ.ศ.สอง  ห้าหนึ่งสาม เดือนสิงหา
จบศึกษา ระดับมัธยม บรมราชวินิจฉัย
ออสเตรเลีย แหล่งศึกษา วิทยาลัย
พระราชชนก ส่งศึกษาในคิงส์สคูล
ชื่อพารา มัตตา มหานครซิดนีย์
เป็นสถานที่ เตรียมทหาร มีวิทยาการหนุน
สองห้าหนึ่งห้า ต่อทหาร ที่ดันทรูน
มีพร้อมมูล ให้ทรงศึกษา วิทยาการ
เป็นนักเรียน นายร้อย คล้อยตามเพื่อน
ทุกเรื่องเหมือน ปุถุชน อย่างพลทหาร
ทั้งฝึกฝน อดทนเสี่ยง เยี่ยงชายชาญ
ชาติทหาร นักรบกล้า มานะทานทน
มิถือองค์ ทรงปฏิบัติ ยอดขัติยะ
มีมานะ ด้วยกายแรง ทุกแห่งหน
เรียนนายร้อย สุดแสนยาก ตรากตรำทน
วิริยะจน สำเร็จสุด ยุทธวิธี
นายร้อยดันทรูน ศูนย์วิชาการ ทหารกล้า
สมเด็จพระบรม โอรสา ทรงฝ่าวิถี
ให้ชาวโลก พร้อมภักดิ์ รู้จักดี
เป็นเกียรติศรี ทหารกล้า ประชาไทย
ปีสองห้า หนึ่งห้า กรกฎาคม
องค์พระบรม ฝึกศึกษา สมพระอุปนิสัย
ถึงสองห้า หนึ่งแปด แวดวงไทย
ต่างชื่นใจ ใกล้พระองค์ ได้ทรงกลับวัง
ในทุกแห่ง แหล่งศึกษา ประชาราษฎร์
ประชาชน คนทั้งชาติ คอยความหวัง
เป็นแรงใจ ให้พระองค์ ทรงพลัง
เป็นความหวัง พระยุพราช เสริมกษัตริย์ไทย

อุปนิสัย วัยพระเยาว์ ทรงกล้าหาญ
ชอบศึกษา หาประสบการณ์ งานไหนไหน
เวลาว่าง มีวันหยุด รุดรีบไป
พระหฤทัย ฝักใฝ่รู้ สู้เหตุการณ์
ทรงมุ่งมาด ด้วยศรัทธา ภารกิจ
ทรงใกล้ชิด ที่ตั้งของ กรมกองทหาร
พระทัยจริง สิ่งสะสม อุดมการณ์
ตำแหน่งพิเศษ นักเรียนเตรียมทหาร ประทานองค์
ตั้งแต่ปี สองพัน ห้าร้อยเก้า
แม้พระเยาว์ เข้าพระทัย ในประสงค์
ด้วยเหตุมั่น ระเบียบวินัย พระทัยมั่นคง
ของพระองค์ เสริมส่งท่าน เรียนดันทรูน
จากราชบิตุรงค์ ทรงได้รับ การประดับยศ
เป็นปรากฏ สัญญาบัตร ฉัตรเกื้อหนุน
เมื่อสำเร็จ โรงเรียนทหาร จากดันทรูน
ทรงประจำศูนย์ กรมข่าว ทัพบกไทย
เป็นทหาร เต็มตัว รั้วแห่งชาติ
พระยุพราช ปฏิบัติองค์ ตรงอัธยาสัย
ในราชการ กลาโหม สมพระทัย
เสด็จไป ถึงแนวรบ ป่าอรันย์
เข้าใจไปถึง แล้วพัฒนา ได้ศรัทธาเลิศ
สิ่งไรเกิด มิใส่พระทัย กลางไพรสันต์
พระพักแรม กองกำลัง ทั้งคืนวัน
บำรุงขวัญ ไล่เหล่าร้าย ปราบไพรี
วันสำเร็จ โรงเรียนดันทรูน รับทูลถวาย
ทหารไทย ทั้งสามทัพ เกริกเกียรติศรี
ฉลองพระองค์ ทรงพระยศ ปรากฎมี
ถวายสดุดี ผลสัมฤทธิ์ ดังจิตจง

ปีสองห้า หนึ่งสี่ มีพระราชกิจ
ทำสัมฤทธิ์ ประสิทธิ์เสร็จ สำเร็จประสงค์
เยือนญี่ปุ่น พันธมิตร สถิตดำรง
อาคันตุกะ ขององค์ แห่งเจ้าชาย
อากิฮิโต มกุฏ  ราชกุมาร
ทรงสืบสาน ผูกไมตรี มีเชื้อสาย
สนิทสนม เชิงชิด มิตรไม่คลาย
แล้วเสด็จกราย ถึงอิหร่าน สมานไมตรี
ระหว่างพอศอ หนึ่งเก้า เจ้าชายอิหร่าน
พระราชกุมาร วชิรา  สมสง่าราศี
ตามคำเชิญ กุมารเรซา ปาห์ลาวี
เพิ่มไมตรี ตะวันออกกลาง สร้างระบบงาน

พระใช้เวลา อดิเรก ดังเฉกเช่น
ทรงโน้มเน้น เล่นกีฬา กายบริหาร
ทรงนิพนธ์ พระอักษร
กาพย์กลอนกานท์ มิว่างวาร ไร้กังวล
สนพระทัย ด้วยสังกัด กลาโหม โสมนัส
ท่านเคร่งครัด ตามกฏ บทพิสัย
ร่วมทำสัตย์ ปฏิญานตน ต่อธงไชย
จารึกไว้ ในประวัติศาสตร์ ชาติสยาม

เสด็จไป  ออสเตรเลีย มิเสียเที่ยว
ด้วยเด็ดเดี่ยว เชิงเช่น จัดเจนสนาม
ฝึกโดดร่ม ลาดตระเวน โดดเด่นงาม
เสด็จไปตาม แหล่งรัฐ ที่จัดทูลเชิญ
ทูตต่างประเทศ เกษตรกรรม กิจทหาร
ชลประทาน งานเหมือง เมืองเมลเบิร์น
นำประโยชน์ สู่ไทย ได้กอรปเกิน
ทรงเผชิญ ทั้งตรากตรำ ย้ำปณิธาน
ทรงเข้าศึกษา เรียนเสธนาธิการทหารบก
หลักสูตรหลัก รุ่นห้าสิบหก นักการทหาร
ระดับเสธ วางแผนสุด ยุทธการ
ประมาณงาน จำลองรบ ครบชาญชาย
รู้การศึก ฝึกยุทธวิธี วิถีรบ
กระบวนจบ พบงานยาก ลำบากหลาย
มิทรงท้อ ระย่อหย่อน ผ่อนพระวรกาย
งานทำลาย ทางอากาศ องอาจประจัญ
ทรงรู้รับ สรรพประสิทธิ์ วิทยายุทธ
ชั้นสูงสุด ยอดนักบิน ถิ่นสวรรค์
บินไอพ่น  บินลำเลียง เพียงชีวัน
พระมิหวั่น สนั่นนาม โพ้นคามไกล