นิราศรุ่น 01

ศุกร์สามสิบ  มกรา  ปีห้าสอง                           เราพวกพ้อง  ผองเพื่อน  มาเยือนบ้าน

วางเวที  ดนตรีตั้ง  ตรงกลางลาน                                เตรียมอาหาร  จานเรียง  ไว้เพียงพอ

บ้านดอนเมือง  เมืองใหม่  ไม่ไกลนัก                          หาไม่ยาก  เย็นยิ่ง  จริงจริงหนอ

เนื่องน้ำใจ  ในหมู่เรา  ชาว ร.ว.                                   ที่เฝ้ารอ  รวมรุ่น  ศูนย์หนึ่งเรา

ลงทางด่วน  ศรีสมาน  แล้วควานหา                           สรงประภา  สามสิบ  รีบเลี้ยวเข้า

คอทองแดง  แข็งหน่อย  ไม่ค่อยเมา                             รินบางเบา  เจือจาง  นั่งล้อมวง

แย่งจับไมค์  ใส่ลีลา  ท่านักร้อง                                   ตะเบ็งก้อง  ตะบันสอ  ลำคอโก่ง

กรอกช่องหู  ผู้สูงวัย  ส่ายหัวงง                                   ก่อนลาโรง  ส่งกลับนอน  ตอนสองยาม

                        ขอกรายกลอน  ย้อนเวลา  คราสังสรรค์           คนสำคัญ  วันล้อมวง  ลงสนาม

ยอดภรรยา  มาเคียงคู่  ดูงดงาม                                                พ่นคำราม  ตามลำคอ  จ่อลงไมค์

จากเจ้ากรม  สื่อสาร  จัดสถานที่                                  วงดนตรี  พันเอกพิศิษฐ์  นั่งดีดให้

คุนลันทม  โหมอาหาร  บานตะไท                              เปลื้องปล่อยคลาย  ใจเต็มที่  ไม่มีตรม

ขอกล่าวถึง  พลโท  กิตติทรรศ์                                               คุณสมบัติ  จัดจำเพาะ  ดูเหมาะสม

ครั้งร่วมงาน  พิษณุโลก  ยกขึ้นชม                              เคยร่วมจม  หัวท้าย  ในราชการ

โชคบุญนำ  กรรมเสริมแต่ง  สร้างแรงฤทธิ์                 มาสถิต  ดังจิตสม  กรมสื่อสาร

ลุยหัวหก  ยกก้นขวิด  อดีตกาล                                  นานเท่านาน  จำปลาบปลื้ม  มิลืมกัน

ท่านมอบโกล์ด  เต็มรัง  ยกตั้งไว้                                 พวกเราได้  ใช้เยียวยา  พาสุขสันต์

บริกร  ทุกตอนครบ  จนจบงาน                                  เราสำราญ  ท่านสุขใจ  เพราะได้บุญ

                        คนให้เหล้า  เท่ากับแช่ง  แรงไปหน่อย                        ถ้าให้น้อย  ไม่พอเหยื่อ  เพียงเกื้อหนุน

อยู่ที่ตน  คนดื่มเหล้า  เจ้าพ่อคุณ                                  อยากได้บุญ  อุดหนุนเรา  เหล้าน่ะดี

                        เสี่ยปรีชา  มหาชัย  ให้ซีฟู้ด                              สายัณห์จุด  เตาถ่านย่าง  สังกะสี

เจ้าน้องตุ้ม  ควบคุมเตา  เฝ้าอีกที                                 เหลืองพอดี  มีน้ำจิ้ม  ส่งลิ้มลอง

หมวดสายัณห์  ท่านผู้นี้  วินัยจัด                                  หัวหน้าหัด  ทหารใหม่  ไม่เป็นสอง

โล่เกียรติศักดิ์  จากกองทัพ  รับมาครอง                      ด้วยลูกน้อง  มีศักดิ์ศรี  เช่นปรีชา

ย้อนขอชม  บรมครู  หมู่ดิเรก                                      ได้พันเอก  ปีนี้  หรือปีหน้า

รู้มีงาน  ที่บ้านเรา  เขาต้องมา                                      ย่างกุ้งปลา  เต็มกะบะ  เป็นประจำ

                        อาหารกับ  บัปเฟ่ท์  จานเปลใหญ่                    ตักหมูเห็ด  เป็ดไก่  ได้อิ่มหนำ

สั่งก๋วยเตี๋ยว  เรือบก  ยกทั้งลำ                                     คนละชาม  สองชาม  ตามอารมณ์

อภินัน  ทนาการ  ในงานนี้                                           น้ำใจดี  ล้นหลาย  ให้แค่ผม

เนื้อคู่เขา  เราเรียกนันท์  คือลันทม                               เหมือนคู่สม  ทั้งสองนี้  มีน้ำใจ

พ่อค้าปุ๋ย ลุยทุกภาค  เงินมากท้น                                 พุทธมณฑล  โทรไปคุย  ส่งปุ๋ยให้

เราเหวี่ยงหว่าน  รดน้ำ  ให้งามไว                                ปลูกต้นไม้  ป้ายชื่อรุ่น  ศูนย์หนึ่งราชา

ทั้งคุณนันท์  และลันทม  ขอชมหน่อย                                    ขยันน้อย  ลงซักนิด  เพื่อนอิจฉา

ชาระวัณ  ปุ๋ยดี  มีราคา                                                            ส่งชาวนา  สหกรณ์  ร่อนเร่ไป

                        ขอขอบคุณ  ครูราชา  น่าสรรเสริญ                  ชมพู-น้ำเงิน  ปักธงทิว  ปลิวไสว

พลิ้วสะบัด  ผงาดแฝง  ต้องแสงไฟ                             จุดประกาย  ชายชรา  ราชาจริง

ชมพู-น้ำเงิน  ราชาธิวาส  ยอดปรารถนา                      ใช้วิชา  เด็กทั้งหลาย  ทั้งชายหญิง

ทุกสิบเอ็ด  กุมภาพันธ์  มั่นใจจริง                               อย่าประวิง  ไปร่วมงาน  วันโรงเรียน

เชิญมวลมิตร  คิดถึงครู  ผู้สอนสั่ง                               ผู้เริ่มสร้าง  ทางชีวิต  ลิขิตเขียน

สาดสว่าง  ปลั่งแจ้ง  ดุจแสงเทียน                               ส่องวนเวียน  สู่ที่หมาย  จุดปลายทาง

                        คุณนงเยาว์  เข้าต้อนรับ  ยิ้มขับสู้                     เดินดุ่มดู  อยู่ประจัญ  หันรีขวาง

ผมหวังจิต  ผิดอภัย  ไร้แคลงคลาง                              เก็บตัวอย่าง  ครั้งคราวหน้า  ถ้าหากมี

ต่างร่วมด้วย  ช่วยกันจัด  ผลัดกันยุ่ง                           จุดมั่นมุ่ง  หมายให้งาน  มีสีสัน

เคยตั้งวง  ลงความเห็น  เป็นหลายที                            งานคืนนี้  มีเพราะเพื่อน  มาเยือนเยียว

ปุ๊พิชัย  ไฟแรง  ฟิตแข็งขัน                                          ปนปรุงพั้นธ์  เค้นคั้นคน  จนหน้าเขียว

สมพงษ์ตา  นั่งคาซึ้ง  ทอดนิ่งเจียว                              รอแป๊ปเดียว  เดี๋ยวได้ชิม  เล็มลิ้มลอง

ตะวันคล้อยบ่าย  พระพายอ่อน  แดดรอนแสง             เกิดเรี่ยวแรง  แข็งปั๋ง  ดั่งเล่นของ

ลูกตาน้อย  โผล่หน้า  ท้าประลอง                                เริ่มเปิดกล่อง  แกะโกล์ด  โยนมาวาง

น้ำแข็งเยือก  โซดาเย็น  เป็นอันเริ่ม                             แก้วประเดิม  เติมลำไส้  หายเหวิงหวาง

จิบแก้วแรก  แหวกผ่านลิ้น  รินเจือจาง                                   แก้วบอบบาง  วางไม่ลง  คงเมามัน

คนออมสิน  เคยยินชื่อ  ลือกระฉ่อน                             ชื่อบวร  ใครไม่รู้  ดูจะขัน

หลายสาขา  ปฏิบัติ  ผู้จัดการ                                       ยอดนักผัน  เงินตรา  มาก่อนใคร

กินเกือบเมา  เขาต้องขับ  กลับไปก่อน                                    เพื่อพักผ่อน  นอนเตียง  เคียงหลับใหล

สงวนตัว  กลัวเจ็บป่วย  ด้วยห่วงใย                            เหมือนตอไม้  ใกล้ฟากฝั่ง  ระวังตัว

                        คนชื่อเล็ก  บุญฤทธิ์  ไม่ผิดนัด                                    ย่างกร่างมาด  ผงาดงุ่น  หุ่นเจ้าสัว

จูงแคลเซียม  เตรียมแกล้มกับ  นับแสนตัว                  นึกว่าวัว  แต่ทว่า  เป็นปลาเค็ม

อุตส่าห์ลอบ  หอบสังขาร  ผ่านแปดริ้ว                        ขับดิ่งดิ่ว  มุ่งบางเขน  ไม่เบนเข็ม

ต้องพบเพื่อน  ให้จงได้  หัวใจเต็ม                               ทอดปลาเค็ม  ได้กรอบนัก  เพื่อนรักเอย

เพราะบุญดี  มีฤทธิ์  จิตใจเหล็ก                                  ตอนยังเด็ก  เล็กจริง  ค่อยนิ่งเฉย

พูดไม่คล่อง  ย่องไม่ไว  หนูไม่เคย                               กลายเป็นเขย  แปดริ้วได้  ใจสมปอง

                        เห็นนายหนึ่ง  ถึงประตู  ดูท่าเมื่อย                   พูดระเรื่อย  เหนื่อยนักหนา  วางหน้าง๋อง

เหล้าเลิกสน  ตนท้องเสีย  ขอเบียร์ฟอง                        นามสกุล  ตุ้มทอง  ชื่อจรินทร์

สิงห์ ร.ว. หล่อสุด  ชุดลูกเสือ                                      โบกช่วยเหลือ  จราจร  วอนถวิล

ยงยศสาย  สพายบ่า  เป็นอาจิณ                                    เขาจะริน  ตุ้มทอง  ลองนึกดู

ร่วมมานะ  สมาคม  นักเรียนเก่า                                  คารมเขา  พอใช้ได้  มิใช่หมู

ปื๊ดพิชัย  ได้นบน้อม  รีบยอมซู                                    ยกโป้งชู  ว่าจรินทร์  ระบิลไกล

เป็นเกษตร  จากชื่อเก่า  เขาเรียกเหลือ                         ก็ยังเชื่อ  ถือจรินทร์  ไปถิ่นไหน

ถ้าเหลือรู้  ไม่ต้องถาม  จะตามไป                               ยอมหัวใจ  ให้ทุกอย่าง  ดังเพื่อนเกลอ

เหลือพ่อหม้าย  ป้ายแดง  นั้นแข็งข้อ                           แต่งตัวป้อ  หล่อโชว์กล้าม  สม่ำเสมอ

เหตุเลือกนัก  มักลำบาก  ยากเจอะเจอ                         แดดร่มเลอ  อ๊ากโอ๊ก  ยกแก้วชง

ขอหมั้นใคร  ใคร่ตกแต่ง  ยังแห้งเหี่ยว                                    เจอแป๊ปเดียว  หนาวที่ใจ  ให้ใหลหลง

ปื๊ดเถ้าแก่  แห่แค่ไหน  เหลือไม่ปลง                           เหงางวยงง  เอายังไง  ไหงรวนเร

ปื๊ดกับปุ๊  สู้อุตส่าห์  มองหาให้                                     ยุอย่างไร  พี่เหลือ  ยิ่งเฟือเขว

เรื่องรินเหล้า  เรียกเมื่อใด  พลันได้เฮ                           ไม่โฉเก  โทรมาก่อน  เดี๋ยวร่อนมา

                        เจอคู่หู  ดู๋ดี๋  ที่สนุก                                          ตีสนุ๊ก  สุขขี  เป็นคู่ขา

เห็นจงรักษ์  รวีวรรณ  ท่านปรีชา                                เราศรัทธา  เขาจริง  ผู้ยิ่งยง

ธุรกิจ  คิดการใหญ่  หาใครเหมือน                              เขาคือเพื่อน  ผู้แรงฤทธิ์  ไร้พิษสง

ถ้าพูดถึง  เรื่องโกรธ  ท่านปลดปลง                            แต่พูดถึง  เรื่องก๊ง  ท่านโอเค

กดกริ๊งกร๊าง  เมื่อใด  เป็นได้เรื่อง                                ยอมหมดเปลือง  แต่เรื่องฟัน  ชักหันเห

เปิดท้ายเบนซ์  มีเป็นลัง  ตั้งบานเต                             สมคะเน  เกไม่อั้น  ท่านสั่งมา

หมดเบนมอร์  จ่อเอ๊ดเวิรด์  เปิดขวดแบล๊ค                  รินจ่ายแจก  แหวกเข้าไป  ไม่กังขา

ช่างชุมไทย  เรือใครเสีย  เรียกเฮียชา                            สั่งเยียวยา  มิพาที  เดี๋ยวดีเอง

อย่าให้บอก  นอกจากฟัน  ท่านนักร้อง                        ชื่อเสียงก้อง  จ้องดวดเหล้า  เขาแหละเก่ง

สุนทราภรณ์  ย้อนยุค  ร้องทุกเพลง                             ตอนบรรเลง  อย่าไปแหย่  แกหวงไมค์

                        ชื่อปรีชา  มาถึงสอง  ต้องถวิล                         ปรีชาสิน  คนนี้  ดีไฉน

เป็นเพื่อนรัก  ของพวกเรา  แต่เยาว์วัย                         มีแรงใจ  ให้กับเกลอ  เสมอมา

ท่านเป็นผู้  เชี่ยวชาญ  การเกษตร                                ทั้งขอบเขต  นิเวศวง  เต็มกรงหมา

สืบผสาน  ได้พันธ์ดี  มีราคา                                        ท่านปรีชา  มีความสุข  ทุกวี่วัน

ยี่สิบสอง  กุมภา  ปีห้าสอง                                           เชิญพวกพ้อง  ของปรีชา  ไปหาท่าน

ฌาปณกิจ  คุณแม่  แผ่บุญทาน                                                สู่สวรร  คาลัย  ด้วยใบบุญ

                        ตำรวจใหญ่  ใกล้บ้าน  ท่านมาเดี่ยว                เคยขับเคี่ยว  เที่ยวมาหลาย  ไม่หายสูญ

ทุกคนจำ  ตำรวจนั้น  ท่านนิกูล                                  ผับใต้ถุน  เคยไปป่วน  ชวนประจำ

สุ้มเสียงดัง  ฟังถนัด  เปล่งชัดถ้อย                               เงินเดือนน้อย  แต่วิสัย  ใจท่านป้ำ

สนับสนุน  ต้นทุนให้  เอาไว้ทำ                                   งานประจำ  นำไปใช้  ให้ประธาน

วันเกิดท่าน  ผ่านไป  ในเดือนนี้                                   นับราตรี  ได้สี่วัน  ที่ผันผ่าน

คนมีใจ  สร้างใบบุญ  เสริมสุนทาน                             ใครบอกงาน  รู้ถึงท่าน  ด้นดั้นไป      

กูลเฉยเมย  ไม่เคยโศรก  โรคเบาหวาน                        เพราะดื่มทาน  อีเอ็ม  เป็นการใหญ่

จะวิสกี้  หรืออี.เอ็ม  เติมเต็มใจ                                                กินเข้าไป  ไร้โรคา  สร้างอารมณ์

ท่านไชโย  คุ้มมณี  ก็มีโชค                                          หายจากโรค  เบาหวาน  เริ่มทานขนม

เรียกได้ว่า  ปาฏิหาริย์  จากท่านพรหม                         เดินตัวกลม  อุดมสุข  บุกอี.เอ็ม

แต่เก่าก่อน  นอนสิ้นหวัง  เกือบพังพาบ                      ทุกคนทราบ  สภาพกาย  คล้ายหมุดเข็ม

หมอห้ามลิ้ม  รสหวาน  ทานรสเค็ม                             กลับคืนเต็ม  อี.เอ็มช่วย  ด้วยกรรมดี

อยากเช็คเพื่อน  การเคลื่อนไหว  คนในรุ่น                  ขอให้คุณ  โทรได้พลัน  ทุกวันวี่

ฝากข่าวไว้  ให้ไชโย  คุ้มมณี                                       ถ้าให้ดี  ทุกทีเจอ  ทิ้งเบอร์โทร

                        น่าสงสาร  ท่านอนุรักษ์  ชื่นบุปผา                   ถูกหมอผ่า  ตัดลำไส้  ให้โมโห

หาว่าปื๊ด  เป็นโรคร้าย  เรื่องใหญ่โต                            เปิดพุงโชว์  โถไม่น่า  ผ่าสองที

เขากล่อมเพลง  บรรเลงเพราะ  เสนาะเสียง                 ใช่เป็นเพียง  เสียงบัณเดาะห์  เคาะสังกะสี

สุดนักรัก  ยอดนักร้อง  เสียงก้องดี                              วงดนตรี  สุนทราภรณ์  แอบค้อนอาย

อยู่ออมสิน  ถิ่นแหล่งเงิน  ออกเดินตรวจ                     ดั่งตำรวจ  ตรวจตาม  ความเสียหาย

เกษียณอายุ  ลุล่วง  ดวงสบาย                                      ไม่วุ่นวาย  ว๊อกแว๊ก  เรื่องแจกเงิน

                        นาวาอากาศเอก  จัตุพล  คนช่างฝัน                 เพียงข้ามวัน  มิเห็นหน้า  ท่าเคอะเขิน

ท่านสุนทร  อักษรเฉียบ  เนี๊ยบเหลือเกิน                      ชมพู – น้ำเงิน  ข้นเข้ม  อยู่เต็มกาย

โทรมาได้  ไม่เคยขัด  จัดสังสรรค์                               ตามจนทัน  แม้เชื่องช้า  เพราะมาสาย

เหมือนอยู่ห่าง  ต่างแดน  อันแสนไกล                         แต่สายไหม  ขอให้บอก  ออกได้พลัน

แม้นใครพูด  พูดบ้าง  ฟังฟังตอบ                                คิดรอบคอบ  ทุกครั้ง  พลังฝัน

อี๊ดยกมือ  ขอโม้บ้าง  ยังไม่ทัน                                                สติมั่น  บางวันเพ้อ  ละเมอเพลง

จะลูกกรุง  ทุ่งนา  ข้าร้องได้                                        ทำนองไหน  ใช้จังหวะ  กะตรงเผง

จะเนื้อเก่าะ นักร้องแก่  นั้นแค่เพลง                            อี๊ดร้องเก่ง  ใกล้จะแก่  แน่นมนาน

                        ยินคนว่า  จ่าวิชัย  มิใช่ย่อย                              มีน้องต้อย  ศรีภริยา  เธอตาหวาน

เทพสรรค์สร้าง  อินทร์สั่งสม  พรหมประทาน             อยู่กับบ้าน  หลานปู่ย่า  ขรัวตายา

เขาขยัน  ขันแข็ง  มีแรงขับ                                          หมวกเงาวับ  ส.ห.  ไม่พอขาย

ฟาดอีเอ็ม  เต็มที่  ไม่มีตาย                                           เบาหวานหาย  สบายอุรา  แทนยาดี

ที่สวนมิกส์  สมพงษ์ตา  วิชัยต้อย                                ผมไปบ่อย  อร่อยชิม  จนอิ่มหมี

นอนในมุ้ง  ยุงตอมไต่  ไม่ใยดี                                     เจอดีกรี  หนีจนหมด  คงโกรธเรา

แต่วันนี้  พี่วิชัย  ใจสูงส่ง                                             พี่สมพงษ์  คงใจแน่ว  แล้วสองเขา

ทิ้งข้ากลืน  ขื่นขม  กล่อมกลมเกลา                            ทนนั่งเฝ้า  เมาโซดา  อย่าน้อยใจ

เห็นเจ้าต้อย  ห้อยน้องยา  หนีบมาเผื่อ                          ทำหนุ่มเหลือ  เมียงมองมา  น่าสงสัย

ลืมลับขวาน  ฟันจนบิ่น  เกือบดิ้นตาย                         ท่านพิชัย  ได้สังเกต  บอกเหตุมา

                        มานะหนึ่ง  ถึงมีน้อย  แค่ปอยผม                     ไม่เคยตรม  สิ้นหวัง  เรื่องกังขา

ยามใครขูด  พูดติฉิน  กล่าวนินทา                               มองปากอ้า  มานะรู้  หูไม่ฟัง

คลองรังสิต  ติดคลองหก  ยกให้ท่าน                          โชกเชี่ยวชาญ  เพื่อนบ้านดี  มีที่หวัง

ผู้กำกับ  รับผิดชอบ  รอบคอบจัง                                 คนพูดดัง  ฟังไม่ไหว  ไม่ได้ยิน

บำรุงไหน  ใครบอกมา  ข้าขอเกี่ยว                             ขอแค่เพียง  เป็นมานะ  บำรุงศิลป์

นายตำรวจ  ชั้นผู้ใหญ่  ในแดนดิน                              ไม่โกงกิน  ไม่คิดคด  หมดจดดี

มานะสอง  ครองคู่แดง  เป็นแสงส่อง                          ไปไหนสองย่อมได้  ไม่กลัวผี

สมาคม  ศิษย์ราชา  ชั่วตาปี                                          คุณความดี  ที่ทำไว้  ให้ราชา

ใครว่าแก่  แม้ว่าเก่า  เขาไม่สน                                                เกิดเป็นคน  ต้องเสี่ยง  ชอบเลี้ยงหมา

ทุกพฤหัส  บดี  เขาไม่สน                                            เกมอาชา  ซื้อฝากผม  อบรมทวน

วันอาทิตย์  ขีดกาไว้  จะไม่หนี                                                คงวิ่งดี  ดูมันเดิน  ชักเมินหวน

มองเปย์จ่าย  หลายรางวัล  มันยียวน                            จ๊อกกี้รวน  กวนบาทา  ค่าเด็กเวร

เกรงจะพลาด  ราชกรีฑา  หน้าสลอน                          มองอาทร  เก๊ายี  ทุกทีเห็น

วงโต๊ดเถื่อน  เกลื่อนสนาม  จ่ายตามเกณฑ์                 พอตกเย็น  เที่ยวสุดท้าย  สบายองค์

อดีตดัง  สร้างไปรษณีย์  มีทุนทรัพย์                            พงษ์ศักดิ์รับ  มาได้  จึงไม่หลง

เรื่องเงินทอง  ของนอกกาย  ได้ปลดปลง                    เพียงประสงค์  ความสุข  สนุกใจ

เหลืองต้อยยี  ปรี่มาถึง  จึงไต่ถาม                                เมื่อได้ความ  แล้วยิ้มย่อง  หน้าผ่องใส

พานพบหน้า  เพื่อนศิริ  ก็ดีใจ                                      ตามสไตล์  เพื่อนรัก  ที่อยากเจอ

ขอขอบใจ  นายพงษ์ศักดิ์  ที่รักเพื่อน                           พามาเยือน  ถึงบ้าน  ท่านเสนอ

โทรหาหริ  ทีไร  ไม่ได้เจอ                                           ต้องโทรเก้อ  หลายครั้ง  หมดหวังคุย

อดีตเหลือง  เฟื่องฟู  ผู้ปรารถนา                                  กาลเวลา  มาถึงนี้  ศิริฉลุย

เคยเดินเคียง  กอดคอ  พนอลุย                                     เส้นทางกรุย  กวาดเกลี้ยง  เลี้ยงครอบครัว

แม้โรคร้าย  แรงรุม  สุมความคิด                                 เราชีวิต  คิดทำดี  อย่างมีหัว

โรคจะเก่ง  นักเลงไหน  อย่าไปกลัว                           แสดงตัว  ให้โลกรู้  กูนี่คน

ปาฏิหาริย์  ยังมีจริง  เป็นสิ่งแน่                                    ไม่ยอมแพ้  แม้โรครุม  ทุกขุมขน

ไม่วิบัติ  สัจธรรม  ค้ำกมล                                           เป็นตัวตน  ทนได้  ไม่วายปราน

                        อีกหนึ่งเพื่อน  ขอเตือนไว้ ให้โลกรู้                 เห็นมนู  คู่กับเพื่อน  มาเยือนบ้าน

เรายินดี  ท่านปรีดา  หน้าชื่นบาน                                แสนสงสาร  หมอล้างไต  ให้เพื่อนเรา

ทั้งศิริ  และมนู  ต้องสู้ได้                                             เปิดหัวใจ  ยอมรับ  ไม่อับเฉา

กำลังใจ  ให้แก่กัน  ช่วยบรรเทา                                  จากเพื่อนเรา  เฝ้าห่วงใย  ให้พลัง

ท่านไพฑูรย์  ชุณหชา  พาน้องต้อย                              งามหยาดย้อย  ทุกแห่งหน  คนมีหวัง

ชวนออกรอบ  กอล์ฟด้วยกัน  มั่นจีรัง                         เขาคู่สร้าง  เธอคู่สม  น่าชมเชย

เห็นจะไป  อเมริกา  เดือนหน้านี้                                  เที่ยวทั้งที  ส่งข่าวมา  อย่าเมินเฉย

ฝากต้อยเตือน  เพื่อนไพฑูรย์  ผู้คุ้นเคย                         อย่าละเลย  เผื่อว่า  จะตามไป

                        ท่าน  ผอ.  สมบูรณ์  ท่านพูลสุข                       คุยสนุก  ยิ้มแย้ม  ครูแก้มใส

หลังเกษียณ  ไม่หยุดหย่อน  อ่อนกว่าวัย                      รวมแรงใจ  ให้มนัส  ร่วมจัดการ

มูลนิธิ  สัมนา  ชีวศิลป์                                                            ชื่อระบิล  การศึกษา  มาตรฐาน

ความเป็นครู  ผู้สถิต  วิชชาการ                                   สองวิญญาณ  ท่านมนัส  และสมบูรณ์

ถึงเวลา  ครามีงาน  ท่านรีบช่วย                                  ส่งข่าวด้วย  เวฟไซท์  ให้อุดหนุน

ให้ปรึกษา  อารีรอบ  ขอขอบคุณ                                 ใจเจือจุน  สมบูรณ์มนัส  จัดอย่างดี

แถวเตาปูน  คุณมนัส  มีพำนัก                                     ไม่ไกลมาก  กรุงเทพฯ – นนท  ซอยสิบสี่

ร้านก๋วยเตี๋ยว  หน้าปากซอย  อร่อยดี                           สั่งบะหมี่  ชิ้นไม่งอก  บอกทุกคน

                        เสี่ยสุรศักดิ์  หาญนรา  มาแนวนิ่ง                    พูดใจจริง  ถึงสิ่งดี  ศรีกุศล

เพื่ออายุ  วัฒนะ  ประชาชน                                         ท่านเวียนวน  ห่วงชนม์ชีพ  รีบแนะแนว

เดิมแซ่ห่าน  ผ่านปัญญา  สนองกิจ                              ใช้ชีวิต  ก้าวหน้า  นำพาแถว

หว่านคารม  คมคาย  อย่างพรายแพรว                         เดินอยู่แถว  ซูเลี่ยน  เซียนกาแฟ

                        เบนซ์ผู้พัน  ดำรง  ควบตรงแน่ว                      ควงน้องแอ๊ว  คนดี  คู่ซี้แหง

พอทราบพลัน  ทันใด  ไม่งอแง                                   หวีผมแปล้  แถผงาด  จากราชบุรี

ยามสุขกาย  ได้ลูกเขย  เลยใจชื่น                                 แย้มระรื่น  ชื่นฤทัย  คลายหมองศรี

แม้วลูกชาย  คนเล็ก  ก็เด็กดี                                        เรืออากาศตรี  อีกมิช้า  จะได้ชม

เจ้าอังครัวร์  ไม่กลัวไมค์  น้ำลายสอ                            กระดกคอ  ชะลอลิ้น  ปลิ้นผสม

บีบกระเดือก  เลือกกล่องทุ้ม  นุ่มระงม                       ผู้ฟังชม  ปรบมือ  เสียงฮือฮา

                        ท่านดุสิต  ปราโมจณีย์  คุณพี่ใหญ่                   ด้วยรักใคร่  และคิดถึง  จึงมาหา

ท่านทราบความ  ถามจากเติม  ชูปรีชา                                    ศิษย์วิรุษ  จรรยา  เลือดร้อนแรง

ถึงคนดี  พี่ดุสิต  คิดถามหา                                         เป็นศูนย์หน้า  เยาวชน  คนแสวง

ชุดกลางคืน  ยืนสง่า  ราคาแพง                                   ระยับแสง  แฝงระยิบ  รีบ        มาเยือน

ควงคู่สร้าง  ข้างคู่สม  หน้ากลมเกลี้ยง                                    ฟังสุ้มเสียง  เขมทัต  จัดว่าเหมือน

คือตัวจริง  เสียงแท้  อย่าแชเชือน                                 เขาบอกเพื่อน  หลายครั้ง  โปรดชั่งใจ

พบลูกน้อง  เก่าก่อน  ตอนไม่แก่                                 ยังเหลียวแล  ให้แก่กัน  วันสดใส

วันคำนึง  วันซึ้งภาพ  ประทับใจ                                 สุขภายใต้  ในคำขวัญ  วันยินดี

 

                                                                        พล.ต.วิเชียร     ชูปรีชา

                                                                        8  ก.พ.  2552  (ขึ้น  14  ค่ำ  เดือน  3)