นิราศ

เตรียมทหาร รุ่น 2

 

ตอนที่ 1

                หัดแต่งกลอน  ตอนแก่  จึงแย่หน่อย                                อยากเรียงร้อย  ถ้อยสุนทร  อักษรศรี

พอได้หน้า  กลับลืมหลัง  พลั้งพาที                                  งานกวี  ศรีศิลป์  มิกินใจ

เป็นกิจกรรม  นำมอบให้  ด้วยใจรัก                                 เพื่อขอฝาก  ศิลป์ภาษา  ที่อาศัย

หวังจรรโลง  คงคุณค่า  ภาษาไทย                                                    ถ่ายทอดไว้  ได้สืบสาน  งานร้อยกรอง

 

                ท่านประธาน  ธงชัย  ขอให้เล่า                                        เขียนกลอนข่าว  กล่าวคำนึง  ถึงรุ่นสอง

เตรียมทหาร  ชาญศึก  คึกคะนอง                                                     เลี้ยงฉลอง  รุ่นสองถึง  กึ่งร้อยปี

รวบรวมจิต  ขีดปากกา  บนหน้ากระดาษ                                        ร่ายนิราศ  กราดกราย  ในวิถี

สรุปเรียง  เผคียงถ้อย  ร้อยวจี                                                            ในความรัก  สามัคคี  มีสัมพันธ์

๐๐๐๐๐๐

 

                วันที่หนึ่ง  พฤษภา  มาพบเพื่อน                                       มิลืมเลือน  เตือนอดีต  ที่คิดฝัน

นตท.  ก่อเกิด  กำเนิดวัน                                                                    หนุ่มฉกรรจ์  ผันชีวิต  สู่มิตรครอง

ดวงดาวจักร  รักพนอ  ช่อชัยพฤกษ์                                 มั่นสำนึก  ลึกเปี่ยม  เตรียมรุ่นสอง

สี่เหล่าทัพ  รับหลอมบ่ม  สมใจปอง                                 งานปกป้อง  สนองรัฐ  กษัตริย์ไทย

ฝึกเรียนรู้  สู้บากบั่น  ขยันศึกษา                                                       ชำนาญกีฬา  จรรยางาม  ตามวิสัย

เกียรติศักดิ์  รักแผ่นดิน  ถิ่นวิไล                                                        รู้อภัย  เย็นใจกว้าง  ดังนที

ตื่นแต่เช้า  เข้านอนดึก  สู้ฝึกฝน                                                       ทุกข์ทานทน  ทั้งกายใจ  ไม่หน่ายหนี

สละชีวิต  สิ้นชีวาตม์  เป็นชาติพลี                                                   สมศักดิ์ศรี  เตรียมทหารสอง ของรุ่นเรา

เมื่อแยกย้าย  ไปศึกษา  ตามหน้าที่                                                    สามัคคี  มิย้ายแยก  ให้แตกเผ่า

ยึดใยโยง  จรรโลงป้อง  ชาติของเรา                                                มิเลือนเนา  แหล่งเรารัก  ถิ่นมัฆวาน

 

                ตึกแดงงาม  ยามสำนึก  ลงลึกฝัง                                       คือพลัง  ฝังในจิต  ศักดิ์สิทธิ์สถาน

คลองผดุง  กรุงเกษม  น้ำเต็มลาน                                                     ใสตระการ  เซาะฟุตบาท  ราชดำเนิน

ประดู่งาม  มะขามแนว  เรียงแถวดิ่ง                                                ใบไม้ติง  มินิ่งตรม  เมื่อลมเผิน

ช่อไสว  เปลี่ยนใบผลัด  มัดใจเพลิน                                                พวกเราเดิน  ใต้เงาดู่  ประตูโรงเรียน

 

 

 

                เตรียมรุ่นหนึ่ง  เราซึ้งใจ  สอนให้น้อง                           ก่อนเข้าห้อง  เปลี่ยนกาย  ไปขีดเขียน

ช่วยปรับปรุง  มุ่งวินัย  เริ่มวัยเรียน                                                   สองปีเพียร  เรียนเล่า  ก่อนก้าวไกล

อาหารเที่ยง  เรียงรอ  จ่อคอหอย                                                       รสอร่อย  นักหนา  จะหาไหน

ต้องแลกด้วย  ขี้เกลือ  ปนเหงื่อไคล                                 กว่าจะได้  ลิ้มลอง  ต้องตะลึง

พระบรม  รูปทรงม้า  สักการะ                                                           พระปิยะ  ราชา  ศรัทธาซึ้ง

ทั่วขอบเขต  ทุกเุตการณ์  ฝันตราตรึง                                            ยามนึกถึง  บังเกิดสุข  ทุกวันวาร

 

                หลายชีวิต  ผ่านพ้น  จนบัดนี้                                            หลายชีวี  เสียสละ  ละสังขาร

มีใครเล่า  ดำรงรอด  ตลอดกาล                                                         เหลือกี่วัน  ได้พบปะ  กะให้ดี

 

                หัวหน้าตอน  ธงชัย  ขอให้เขียน                                      สั่งวิเชียร  ชูปรีชา  ทำหน้าที่

สร้างผลงาน  ขันอาสา  เวลามี                                                           ประพันธ์กวี  ส่งมาเยือน  เพื่อนทุกคน

เชิงนิราศ  จัดเป็นตอน  เขียนกลอนให้                                           โปรดเก็บไว้  เรียงตับ  อย่าสับสน

อยากฟังกลอน  ตอนไหน  ได้ทุกคน                                               ช่วยดิ้นรน  ส่งไปจ่อ  ขอข้อมูล

มีมากมาย  มีหลายหลาก  มีมากเรื่อง                                 ได้ต่อเนื่อง  เรื่องนิราศ  ไม่ขาดสูญ

เข้ายามแย่  แก่ไปหน่อย  ค่อยเจือจุน                                                เป้นต้นทุน  พูนความรู้  สู่กานท์กลอน

 

                หนุ่มฉกรรจ์  ขันอาสา  มาช่วยชาติ                  พลังอำนาจ  กาจแกล้วกล้า  กลางสมร

สันติสุข  ปวงประชา  สถาพร                                                           ดับทุกข์ร้อน  ราษฎร์มหา  ประชาชน

กว่าห้าพัน  ดั้นค้นมา  หาที่สอบ                                                       ถึงสองรอบ  สามรา  พาสับสน

คณิตวิทย์  อังกฤษภาษา  น่าร้าวรน                                  หกร้อยคน  ผ่านแข่งขัน  กันอีกคราว

ตัวโตเล็ก  เด็กแกร่ง  ทุ่มแรงสู้                                                           เก็บความรู้  อู่วิชา  มาสืบสาว

โรงเรียนดัง  เด็กพร้อม  ช่วยกล่อมเกลา                                          เจอสอบเข้า  รอบแรก  แหกกระเจิง

ข้อสอบยาก  ลำบากแท้  แม้จะเก่ง                                                    ไม่ตรงเผง  เล็งไม่เลิศ  เกิดยุ่งเหยิง

บ้างหน้าซึม  นั่งเศร้า  ถูกเผาเพลิง                                                   โดดเตลิด  เปิดเปิง  กระจุยไป

อังกฤษอ่อน  หย่อนวิชา  คณิตวิทย์                                  กลับไปฟิต  กวดวิชา  มาสู้ใหม่

บ้างสอบซ้ำ  อดทน  ดิ้นรนไป                                                          สอบเท่าไร  ให้รันทด  อดเข้าเรียน

คณิตวิทย์  อังกฤษยาก  ลำบากสอบ                                  ปั่นจนหอบ  บอบหัวใจ  ใช้การเขียน

อัตนัย  ใส่ทั้งดุ้น  ลุ้นแทบเอียน                                                        สองวิเชียร  ถูกโฉลก  ผู้โชคดี

วิเชียรหนึ่ง อรัญทิมา  บ้าเพลงร้อง                                                  วิเชียรสอง  เป็นมิตร  วิสกี้

วิเชียรสาม ที่ จปร. ก็เคยมี                                                                   ผู้กองนี้  มีท่วงท่า  ทั้งบ้าเมา

 

 

                พฤษภา  ปีศูนย์-สอง  เพื่อนพ้องเริ่ม                                ถูกซ่อมเสริม  เติมระเบียบ  ไม่เงียบเหงา

สก็อตจั๊ม  ยึดพื้น  หัวมึนเมา                                                               พวกเพื่อนเรา  แทงปลาไหล  จนไส้เอียน

เปิดสะพาน  คลานคลุก  โดดลุกนั่ง                                 ตบเตะค้าง  ขาเดียวยืน  จนคลื่นเหียน

ตะโกนโก่ง  ลงรูแย้  กระแตเวียน                                                    จนจวนเจียน  เอียนโอ้ก  บักโกรกกิน

นิดเดียวสาย  เครื่องหมายหมอง  มองไม่วับ                   ถูกโขลกสับ  นับไม่ถ้วน  ชวนถวิล

อิสระ  ความเสรี  หนีโบยบิน                                                            เคยมุดกิน  ใต้โต๊ะ  โปะสำรวม

ยกเท้าเหิน  เดินเตะฉาก  ลากถลา                                                    กางเกงขา  สั้นทรง  องค์เอวหลวม

เจอะไอ้บูท  ครูดส้น  จนเท้าบวม                                                      เหงื่อกาฬท่วม  มิถอยท้อ  ขอสู้ตาย

 

                เข้าห้องเรียน  ไร้พัดลม  พรมโชยโบก                            ง่วงเงกโงก  โยกคำนับ  หลับไปหลาย

เรียกวิ่งหมอบ  รอบตึกแดง  จนแกร่งกาย                                       อยากเป็นนาย  ต้องให้รู้  ผู้อดทน

เจ้าเด็กน้อย  เริ่มหนุ่ม  ทุ่มเทแท้                                                        ใจแน่วแน่  ขวัญแน่นเหนียว  เคี่ยวเข้มข้น

ฝึกใจรัก  เตรียมตัวรบ  ไว้ครบคน                                                     รู้ผจญ  กมลซับ  รับบัญชา

เข้ามาใหม่  ไม่เคยชิน  กลิ่นไอเหงื่อ                                                ดมไม่เบื่อ  เมื่อทำใจ  คล้ายบุหงา

สอนรู้ศักดิ์  หยิ่งเกียรติศรี  พลีชีวา                                                   ศีลจรรยา  ศาสนาชาติ  กษัตริย์ไทย

ฝึกคือฝึก  คึกคะนอง  มองภาพเห็น                                 เรียนคือเรียน  เล่นคือเล่น  กฎเกณฑ์ไหน

รู้รักแท้  แพ้ชนะ  รู้อภัย                                                                      รู้จักใจ  รู้จักมิตร  รู้คิดดี

 

                เตรียมรุ่นสอง  ของพวกเรา  เข้าใจซึ้ง                             พี่รุ่นหนึ่ง  พยายาม  ทำหน้าที่

เทแรงใจ  ให้วิชา  ความปราณี                                                          เกียรติศักดิ์ศรี  เสริมองอาจ  ชาติทะนง

 

                สองเดือนพ้น  เข้มข้นกาย  ใจนิ่งแน่                               รู้ถ่องแท้  เรื่องอบรม  สมประสงค์

สวมเครื่องแบบ  ควรคุณค่า  สง่าทรง                                               เดินตัวตรง  ตั้งดิ่ง  จนหญิงมอง

ละชุดสั้น  กางเกงเสื้อ  กลัดดุมสอ                                                   แต่งชุดหล่อ  สมใจ  ใหม่เอี่ยมอ่อง

ร้านอีแอ่น  วัดตัวให้  เคยใส่ลอง                                                      สวมประคอง  พองกลีบโง้ง  ลงรถเมล์

มัดไทด์เบ่ง  กางเกงเขียว  สวมเสื้อขาว                                            สีหมวกเทา  ทรงหม้อตาล  ทหารเท่

คอมแบทฮาร์บ  ขลับดำ  ขัดจำเจ                                                       ไม่หันเห  เซทรง  มาดคงแนว

เรียงแถวรอ  ป้ายรถเมล์  งามเก๋เนี๊ยบ                                               ตามระเบียบ  เท้าแยก  ไม่แตกแถว

เซเว่นอัพ  จ๊าบจริง  หญิงสาวแซว                                                    รีบจรแจว  ราชดำเนิน  เมินเดินตรง

 

๐๐๐๐๐๐๐๐๐

 

 

ตอนที่ 2

                หน้าหมวกอาร์ม  วามแวว  แพรวไสว                              เปล่งประกาย  พรายพรรณ  มั่นประสงค์

เหนือศีรษะ  ประชา,ราช  ชาติดำรง                                                ยึดมั่นคง  จงเทิดทูน  คุณแผ่นดิน

อันว่าชาติ  ศาสนา  พระมหากษัตริย์                                                คือสมบัติ  คุณค่า  กว่าทรัพย์สิน

สวามิภักดิ์  ควรรักษา  กว่าชีวิน                                                         ให้แผ่นดิน  กลบหน้า  ข้าไหนยอม

 

                ปกคอเสื้อ  เหนือดวงใจ  ให้รำลึก                                    ปลุกสำนึก  ผนึกหัวใจ  กายหล่อหลอม

ประดับเกียรติ  ชูศักดิ์ศรี  ยูนิฟอร์ม                                  ชัยพฤกษ์ห้อม  ล้อมจักรดาว  วาวคบเพลิง

คู่คบไขว้  ประกายพุ่ง  รุ่งรังสี                                                           สาดระวี  ส่องสีแสง  แดงเถลิง

มิไหม้มอด  ตลอดกาล  ขวัญบันเทิง                                 สว่างเถกิง  ไสวสกาว  ดาวกระจาย

แฉกดาวเด่น  เป็นสง่า  บนบ่ารับ                                                      เกียรติประทับ  กับความดี  มิสลาย

เปล่งรัศมี  ฤทธีแรง  แสงประกาย                                                    โอ้ดาวใจ  อาลัยดวง  ห่วงอาวรณ์

ดาวนั้นแนบ  แอบอุ่น  เป็นดุลรัก                                                     ประทับจักร  แนบนูน  มิหมุนย้อน

เป็นอาวุธ  ยุทธนินทร์  องค์อินทร                                                    ป้องอมร  รอนราญ  ผลาญศัตรู

ปีกสมอ  พนอรัก  จักราวุธ                                                 งามพิสุทธิ์  โล่เขนพราย ลวดลายหรู

มัฆวาน  สามพรานเมือง  ดอนเฟื่องฟู                                             ทิวประดู่  คู่ปากน้ำ  งามผ่องพรรณ

 

                เตรียมแยกย้าย  ชายทะนง  ส่งเหล่าทัพ                           ทุกคนทราบ  ในความจริง  ยิ่งกว่าฝัน

เกียรติศักดิ์  พึงรักษา  กว่าชีวัน                                                         ปูทางฝัน  สรรค์ที่หมาย  มลายมเลือง

ออกงานใหญ่  ใส่ชุดบลู  ดูสมาร์ท                                                   ปลายแขนคาด  ขลิบทองเด่น  เส้นสีเหลือง

สีกรมท่า  กระดุมพราว  จักรดาวประเทือง                                      ตาชำเลือง  แว็บดู  หูตาไว

เมื่อตอนแต่ง  เครื่องแบบงาม  ห้ามหิ้วถุง                                       ห้อยพะรุง  ตุงพะรัง  ท่านสั่งไว้

กระเป๋าหนังสือ  ถืออย่างเดียว  ไม่เกี่ยวใด                                     ห้อยแขนซ้าย  ส่วนขวาโหน  บนรถเมล์

กระเป๋าหนัง  ตารางสอน  คอนมาหนัก                                          ยกลำบาก  ชูเหนือหัว  ตัวสั่นเป๋

สก๊อตจั๊ม  ทำเกินร้อย  ค่อยโมเม                                                        ใครโลเล  ใช้แทนรู  แทงปูนา

หลักสูตรเรียน  พากเพียรไป  ไม่ท้อถอย                                         มีเวลา ส่วนตัวน้อย  ค่อยใผ่หา

นอนดึกดื่น  ตื่นต้องเช้า  เฝ้าตำรา                                                    เรียนสูงกว่า  เตรียมอุดม  สมชายชาญ

 

                เกิดเป็นชาย  ได้หน้าที่  พลีเพื่อชาติ                 เชื้อทะนง  องอาจ  ชาติทหาร

อยากเป็นนาย  ต้องอบรม  บ่มให้นาน                                             เตรียมทหาร  การศึกษา  น่าใส่ใจ

ใช้เพื่อพลาง  วางไว้เต็ม  อย่างเข้มขัน                                             หลักสูตรชั้น  ขั้นอุดม  สะสมไว้

เร่งบำรุง  เร็วสูงกว่า  มหา’ ลัย                                                          สมองไหน  ไม่ไหวรับ  กลับบ้านเดิม

ต่ำหกสิบ  เปอร์เซนต์ไม่สวย  ช่วยไม่ได้                                         ไม่มีใหม่  อีกรอบ  สอบซ่อมเสริม

สอบตกแล้ว  ไม่แคล้วย้ำ  ซ้ำชั้นเดิม                                 หากตกเพิ่ม  เป็นสองที  ต้องรีไทร์

                ประพฤติผิด  ติดปัญหา  อย่าเคืองโกรธ                           จะถือโทษ  โกรธหลักสูตร  พูดไม่ได้

ผิดที่ฉี่  มีการตัด  อย่าขัดใจ                                                 ยิ่งมาสาย  เครื่องหมายหมอง  ต้องคะแนน

งีบในห้อง  ยังต้องตัด  ฟัดให้ยับ                                                      คะแนนนับ  เหลือน้อย  คอยหวงแหน

ทัณฑ์ชั้นหนึ่ง  ขาดออนเนอร์  เจอคะแนน                                    ต้องวางแผน  อยู่รอด  ให้ปลอดภัย

 

                พบศึกหนัก  หลักวิชา  ภาษาศาสตร์                                เต็มขนาด  ที่ปัญญา  จะรับไหว

จัดจับราก  ฝักเถา  จนเข้าใจ                                                               ร่ำเพียรไป  ยิ่งสนุก  ทุกวิชา

หาเหตุผล  กลเม็ด  ให้เด็ดขาด                                                          วิทยาศาสตร์  เลขคณิต  ขีดเรขา

วรรณกรรม  กฎหมาย  รายมาตรา                                                     จิตวิทยา  วิชาทหาร  และการนำ

ภูมิศาสตร์  ประวัติวรรณคดี  มีการสอน                                          ทุกบทตอน  พร่ำบ่น  จนคราคร่ำ

บทวิจัย  ใช้ความคิด  กิจกรรม                                                            วางปักย้ำ  นำรากฐาน  ขั้นอุดม

 

                มองย้อนหลัง  ครั้งเคยผ่าน  การศึกษา                             เล่าเรียนมา  แสนลำบาก  ยากสะสม

ครั้งเตรียมหนึ่ง มัฆวาน  แทบซานซม                                             ผู้นิยม  อยากเข้าเรียน  เกือบเอียนอาน

 

                ม้วนเดียวจบ  สิ้นครบเทอม  เริ่มฉากสอบ                       ทุกเทอมรอบ  สอบยก  หกสิบผ่าน

เรียนชั้นละ  กะสองปี  มีประสบการณ์                                           ถมพื้นฐาน  เรียนต่อ  ก็พอมี

อันส่วนใหญ่  สอบไล่ผ่าน  การเรียนร่ำ                                          มีบ้างย่ำ  ตามไปติด ไม่คิดหนี

ว่ายข้ามฟาก  ทะเลกว้าง  ฝั่งนที                                                        รอดวารี  ที่กรากเชี่ยว  พ้นเหยี่ยวกา

 

                พอเริ่มเรียน  ก็เริ่มรู้  ดูจากผัง                                            การจัดตั้ง  วางขั้นตอน  ก่อนศึกษา

แปดชั้นตอน  แบ่งสอนครู  ผู้บังคับบัญชา                                     ลำดับมา  หมวดกอง  คล้องสัมพันธ์

รับผิดชอบ  สอบอบรม  บ่มความรู้                                    แยกเป็นหมู่  ตอนหมวด  แบ่งกวดขัน

สอนวินัย  ใส่สำนึก  ฝึกครบครัน                                                     ปลูกวิญญาณ  ประสานรัก  หลักนิยม

จัดเป็นกลุ่ม  คุมระบอบ  กรอบระบบ                                               ไว้ครันครบ  ประจบเจาะ  อย่างเหมาะสม

สายคอมแมนด์  สายศึกษา  น่านิยม                                  ฝ่ายอบรม  เรียนระแนบ  แบบมะกัน

 

                การปฏิบัติ  จัดกำลัง  ตั้งหน่วยฝึก                                     วิ่งรอบตึก  ฝึกเป็นแถว  แนวทหาร

ตอนแถวชิด  หมวดฟิตจริง  วิ่งเจียนอาน                                        หน้ากระดาน  แถวตอน  แดดร้อนแรง

ไม่ตรงแนว  ตั้งแถวช้า  หน้าตับเหลื่อม                                           ระอาเอือม  เสื่อมแรงร้า  น่าแสลง

เรียกแถวใหม่  ว่ายวิ่งว่อน  จนอ่อนแรง                                          จวนสิ้นแสง  สุรีย์ลับ  กลับบ้านเย็น

 

 

                ฝึกบุคคล  ท่ามือเปล่า  เข้าจังหวะ                                     ถูกเฉาะฉะ  กะตรงเผง  ย่อมเล็งเห็น

ท่าตรงดี  มีสง่า  ท่าอื่นเป็น                                                                ถือจุดเด่น  เกณฑ์ฝึกปรือ  มือเปล่าดี

ทุกทิศหัน  วันทยาหัตถ์  สบัดหน้า                                                   ทำเป็นท่า  มาตรฐาน  อยู่กับที่

สั่งหน้าเดิน  วิ่งหน้าวิ่ง  หยุดนิ่งที                                                    ท่าเคลื่อนที่  ทวนทบ  ฝึกครบครัน

 

                ฝึกถอดกลน  วนถอดกลอน  สอนอาวุธ                          ก่อนยั้งหยุด  ยุทธนา  อย่าแปรผัน

ทั้งปืนครก  ปืนคอ  ฝึกพอกัน                                                            แบกปืนยาว  ยกปืนสั้น  ลั่นปืนกล

ฝึกบุคคล  ท่าอาวุธ  สุดย่ำแย่                                                              ยกปืนแช่  หน่วงหนับ  ยิ่งสับสน

เหงื่อแตกพลั่ก  หนักอานแอ้  แย่ทุกคน                                          เพราะอดทน  จึงช่วยได้  สบายอุรา

สั่งท่าแบก  ท่าคอน  ตอนเดินแถว                                                    ทำคล่องแคล่ว  ครบถ้วน  กระบวนท่า

ออนเนอร์การ์ด  จัดแสดง  แจ้งสายตา                                             สุดสง่า  เร้าอารมณ์  สมคะเน

 

                ท่าอาวุธ  มือเปล่า  เข้าแถวชิด                                            โดนฝึกฟิต  เชี่ยวชาญ  ไม่หันเห

ฝึกการรบ  เป็นบุคคล  จนจำเจ                                                          ขบวนเปล  แปรปรับ  รุกรับแนว

หนึ่งหมู่รบ  ครบตำแหน่ง  แห่งหน้าที่                                           คนละที  ภารกิจทำ  ผู้นำแถว

ตอนการเดิน  ดาวว่าว  เข้าชิดแนว                                                   เปลี่ยนแปลงแถว  หน้ากระดาน  ตั้งฐานยิง

เล็งแม่นยำ  ย่อมทำให้  ไม่เปลืองกระสุน                                       ฝึกกองหนุน  ช่วยกองหน้า  พาคลานวิ่ง

เข้าสนาม  ทราบระยะ  กระสุนจริง                                  ลองเป้านิ่ง  เป้าเคลื่อนที่  มีวินัย

 

                ชมการฝึก  ระทึกใจ  ในเหล่าทัพ                                     รบรุกรับ  ร่นถอย  พลอยหวั่นไหว

ประลองยุทธ  ประดุจภาพ  ประทับใจ                                            ทัพบกเรือ  อากาศไทย  ไปดูงาน

การเริ่มต้น  บนวิถี  แห่งชีวิต                                                             พลีอุทิศ  จิตเต็มเปี่ยม  เตรียมทหาร

ฝึกเรียนรู้  สู่อนาคต  ปรากฎการณ์                                                   นายตำรวจ  นายทหาร  มีงานรอ

 

ตอนที่ 3

 

                โอ้ชีวิต  ของนักเรียน  เตรียมทหาร                  น่าสงสาร  เป็นอย่างยิ่ง  เสียจริงหนอ

ผ่านชีวิต  ครานี้ได้  ใช่เพียงพอ                                                        ข้ามฟากต่อ  จ่อลำบาก  ยิ่งยากเย็น

ชายฉกรรจ์  หมายมั่นใจ  เตรียมไว้เพื่อ                                            สิ้นหยาดเหงื่อ  อีกเท่าใด  ใครจะเห็น

ต้องพากเพียร  เรียนให้จบ  จึงรบเป็น                                             สิ่งลับเล้น  เบื้องหลังม่าน  สถาบันชาย

เกียรติภูมิ  ลุ่มลึก  สำนึกล้ำ                                                 พฤติกรรม  งามเลิศ  บังเกิดหลาย

คนภายนอก  มิรู้ค่า  ว่าสบาย                                                              เดินกรีดกราย  ฉายโฉบ  รบไม่เป็น

 

                ผมตัดเหี้ยน  เกรียนสั้น  ยันหนังหัว                                เดินทรงตัว  อกตั้ง  ดังหุ่นเข็น

นั่นแหละเขา  จะเฝ้าชน  พ้นรำเค็ญ                                                ชาติร่มเย็น  เพราะพวกเขา  เข้าเสี่ยงภัย

ปริญญา  ท้าทาย  ที่ได้รับ                                                                    ไปรบทัพ  จับศึก  มิสงสัย

เอากำเนิด  เกิดชีวิต  ติดตัวไป                                                            ทิ้งเอาไว้  มิใยดี  ที่สมรภูมิ

ถึงยามรบ  พบต่อตี  สู้ดีเดือด                                                             แม้นหยาดเลือด  ท่วมท้น  ทุกขนขุม

โปรดจงมอง  ถ่องแท้  ทุกแง่มุม                                                        เขาคือกลุ่ม  ผู้ป้องกัน  ราชบัลลังก์

 

                มัฆวาน  มั่นศรัทธา  ให้ข้าเกิด                                           แดนประเสริฐ  เลิศยุคล  มีมนต์ขลัง

เริ่มก้าวหนึ่ง  มุ่งถึงหมาย  ให้พลัง                                                   ไม่พลาดพลั้ง  ตั้งมโน  โอ้มัฆวาน

 

                เตรียมทหาร  รุ่นสอง  ปองใจคิด                                      ผันชีวิต  กึ่งศตวรรษ  นิราศสถาน

กลับคืนเหย้า  แห่งเรารัก  มัฆวาน                                                    ก้มกราบกราน  องค์ล้นเกล้า  เจ้าปรมินทร์

ยี่สิบสาม  ตุลาคม  พระบรมรูป                                                          ถวายบังคม  พระสถูป  เป็นนิจสิน

พระปิยะ  มหาราช  นาถนรินทร์                                                      คือองค์อินทร์  ของประชา  ฟ้าประทาน

พระกรุณาธิคุณ  ศูนย์รวม  หทัยราษฎร์                                           มหากษัตริย์  ขัติยงค์  ทรงผสาน

เอกราช  ชาติบ้านเมือง  รุ่งเรืองนาน                                               ผจญเหล่ามาร  ผลาญแผ่นดิน  สิ้นไพรี

 

                พวงหรีดรัก  ประจักษ์นึก  รำลึกน้อม                              ประดับล้อม  ประกายรอบ  กรอบหลากสี

องค์สมเด็จ  พระเจ้าอยู่หัว  พระราชินี                                             สดุดี  องค์ปิยะ  มหาราชัน

หน้าพระที่  นั่งอนันต์  สันทดุสิต                                                     สถานสถิต  ด้วยหรีดรวง  แห่งสรวงสวรรค์

สวนอัมพร  เสือป่า  หน้าพระลาน                                                   มิสกวัน  วังปารุส  ดุจพรหมแมน

แหล่งชุมนุม  ประชุมพล  คนทุกรุ่น                                                หอมลมุน  ดุลเลื่อมลาย  หลากหลายแสน

ทั่วทิศไทย  ถวายภักดิ์  รักทั่วแดน                                                     คู่ควงแฟน  แน่นเอียด  เบียดฝูงชน

 

                กลุ่มนิสิต  นักศึกษา  หน้าแฉล้ม                                       ย่างยิ้มแย้ม  แจ่มใส  ใบบุญกุศล

นักเรียนรุ่น  หนุ่มสาว  พราวอุบล                                                    พบพานยล  ดลดวงใจ  ใฝ่สัมพันธ์

ตำรวจนายร้อย  นายเรือ  เรืออากาศ                                 ผู้ทะนง  องอาจ  วาดความฝัน

ขาวขจี  กระบี่แวว  วาวแพรวพรรณ                                 ประดับงาน  วันปิยะ  พระภูมินทร์

 

                น้องสุดท้อง  ต้องสง่า  กว่ารุ่นพี่                                       แต่ไม่มี  คนดีเคียง  เพียงถวิล

สงสารห่วง  ด้วยดวงใจ  ไร้มลทิน                                                    เหลือบตาผิน  สอดส่าย  ที่หมายมอง

เดือนธันวา  มาตามนัด  เจาะจัดซ้ำ                                                   ศิลปะ  หัตถกรรม  พบซ้ำสอง

นักเรียนรุ่น  ลมุนลมัย  หมายใจครอง                                              ปลายเทอมสอง  ต้องใกล้สอบ  รอปลอบใจ

 

                น้ำคลองผดุง  กรุงเกษม  นองเต็มเอ่อ                              ขอพบเธอ  เจออีกที  จะดีไหม

เพียงขอน้อง  คล้องความหวัง  กำลังใจ                                           สิ้นสอบไล่  คงได้ผ่าน  ผลงานดี

หวนคำนึง  ปีหนึ่งครอง  ปีสองผ่าน                                                เตรียมทหาร  ฝันเรือร้อย  ห้อยกระบี่

สุขใจเพลิน  เดินเคียงพรอด  ยอดนารี                                             หมายมั่นมี  ที่มุ่งหวัง  กำลังใจ

จะฝึกเพียร  เรียนวิชา  ตั้งหน้าสู้                                                       ล้างศัตรู  ลบลู่ชาติ  มิหวาดไหว

น้องในฝัน  นั้นแนวหลัง  ตั้งหทัย                                                   ส่งดวงใจ  คลายร้าวรอน  สมรภูมิ

 

                เตรียมทหาร  ต้องอ่านเขียน  เรียนหนักหน่วง               น่าเป็นห่วง  ตวงตำรา  มากองสุม

หมุนวนเวียน  งานเรียนหนัก  งานรักรุม                                        จิตควบคุม  กลุ้มรักรบ  สยบสงคราม

เรื่องเล่าเรียน  นั้นนำหน้า  ย่อมมาก่อน                                          หยุดอาวรณ์  อาทรรัก  ตัดขวากหนาม

ศึกในอก  วิตกเบื่อ  ทุกเมื่อยาม                                                          เกิดคุกคาม  ตามประชิด  คิดรังควาน

 

                เรียนแสนยาก  ฝึกตรากตรำ  แฝงความกล้า                    ทุกองศา  เร่งปลุกเร้า  เหล่าทหาร

สมองเบียด  เยียดยัด  อัดทนาน                                                         เต็มกระบาล  บวมเป่ง  ดูเก่งเกิน

ทหารบก  อกตีดิน  กลิ่นไคลเหงื่อ                                                    ทหารเรือ  ถอนสมอ  ห้อน้ำเหิน

ทหารอากาศ  ลัดนภา  กล้าเผชิญ                                                      ตำรวจเดิน  ตรวจแผ่นดิน  ทั่วถิ่นไทย

 

                กีฬากีฬา  เป็นยา วิเศษสุด                                                  ทำมนุษย์  มีชีวี  ที่แจ่มใส

สอนรู้แพ้  รู้ชนะ  รู้อภัย                                                                     อันตราย  จากโรคา  ไม่มาพาล

ชั่วโมงพละ  จะหมุนเวียน  มาเปลี่ยนสับ                                        สอนสลับ  กับการฝึก  ผนึกประสาน

ภาคบ่ายฟิต  เป็นกิจกรรม  ที่สำคัญ                                  เตรียมทหาร  เล่นกีฬา  ท่วงท่าดี

ชุดกีฬา  ขาสั้น  ยันแค่เข่า                                                                  สวมรองเท้า  นันยาง  ต่างเต็มที่

วิ่งวอร์มอัพ  จับเวลา  สิบห้านาที                                                      วิ่งไม่ดี  ต้องมีถึง  หนึ่งชั่วโมง

กายบริหาร  การกีฬา  ท่าหงายคว่ำ                                                   สิบชุดซ้ำ  ทำร่างกาย  ให้ปลอดโปร่ง

ราชนาวี  มีท่าเบื่อ  ตอนเรือโคลง                                                     หายใจโล่ง  เล่นกีฬา  น่ายินดี

 

                สอนจริงจัง  ตั้งเป็นหน่วย  พลศึกษา                               ประเภทกีฬา  ทุกชนิด  ฟิตเต็มที่

ก่อพลัง  สร้างวังชา  ท่วงท่ามี                                                            เสริมราศรี  มีสง่า  ก่อนลาเตรียม

มิเคยเป็น  เล่นกีฬา  กันมาก่อน                                                         จัดครูสอน  ฝึกฝน  จนยอดเยี่ยม

กลางแดดจ้า  หน้าคล้ำ  ผิวดำเกรียม                                 นักเรียนเตรียม  ทหาร  ชาญกีฬา

 

 

                เรียนกำหนด  กฎเล่น  เกณฑ์บังคับ                 พวกเรารับ  สิ่งครูให้  ได้ศึกษา

มรรยาท  ยุติธรรม  ย้ำกติกา                                                                สร้างปรัชญา  รู้รัก  สามัคคี

โดดสูงไกล  ว่ายน้ำ  วิ่งค้ำถ่อ                                                             เตะตะกร้อ  ฟุตบอล  บาสรักบี้

แบตปิงปอง  เทนนิส  ฟิตอย่างดี                                                      กระบองกระบี่  กรีฑา  ยิมยูโด

ซ้อมมวยไทย  สากล  จนครบถ้วน                                                    บิดกระบวน  ทีท่า  น่าโมโห

หลบไม่ทัน  โดนฟันศอก  ตอกหน้าโน                                          แสดงโชว์  มีดสั้น  ดันเข้าพุง

 

                โอ้ชีวิต  เตรียมทหาร  เมื่อผ่านพ้น                                    มันสับสน  เพราะนมนาน  จึงพาลยุ่ง

เรื่องราวมี  มิใช่น้อย  นับร้อยกระบุง                                               อยากฟังฟุ้ง  เรื่องไหน  ให้บอกมา

แต่งเป็นกลอน  วอนเพื่อนอ่าน  อย่าพาลหลับ                              โปรดสดับ  เชิงกวี  ที่ใผ่หา

คิดถึงครู  อาจารย์  ที่ผ่านมา                                                               ผู้บัญชา  และเพื่อน  เตือนฤดี

 

                อ่านมาแล้ว  สามตอน  นอนหลับง่าย                              ตื่นขึ้นใหม่  ให้อ่านกลอน  ตอนที่สี่

จะดั้นด้น  คิดค้นคว้า  ค่อยพาที                                                         ร้อยกวี  อนุสรณ์  กลอนรุ่นเรา

อย่าด่วนหมุน  หุนหัน  อาลไซเมอร์                                                อยากให้เกลอ  ทั้งหลาย  หายหงอยเหงา

ทิ้งเถิดทุกข์  เสริมสุขสันต์  ช่วยบรรเทา                                          เพราะเพื่อนเรา  เขาคือไม้  ใกล้ฝั่งคลอง

 

                เตรียมทหาร  กาลอดีต  ลิขิตแล้ว                                       ไม่คลาดแคล้ว  ประโยชน์รวม  ร่วมเจ้าของ

ใช่ขยะ  ปฏิกูล  เครื่องหนุนรอง                                                       เตรียมรุ่นสอง  นิราศอดีต  ชีวิตจริง

 

๐๐๐๐๐๐๐๐

ตอนที่ 4

                ทุกชีวิต  ศิษย์เตรียม  เปี่ยมใจกล้า                                      ได้ศึกษา  วิทยายุทธ  สุดยอดยิ่ง

ภายใต้กรอบ  ระบอบระเบียบ  ที่เฮี๊ยบจริง                                     มิมีสิ่ง  ประวิงต้าน  ประการใด

ทุกนายพร้อม  น้อมปฏิบัติ  จัดระบบ                                               นิ่งสงบ  สยบฟัง  ฝังนิสัย

ทหารย่อม  พร้อมเพรียบ  ระเบียบวินัย                                            ทำกายใจ  บริสุทธิ์  ยุติธรรม

ดื้อเพียงนิด  ผิดเพียงหน่อย  ไม่ปล่อยเฉย                                       ลงโทษเลย  ทันใด  ให้หลาบขาม

ไม่ละเว้น  เกณฑ์กฎ  อันงดงาม                                                        ปฏิบัติตาม  ปกติ  มิดื้อดึง

 

                ข้อกำหนด  กฎบางอย่าง  ตั้งไว้แปลก                              ขอแยะแยก  ยกตัวอย่าง  พออ้างถึง

เชิงกลยุทธ  สุดแยกผวน  ควรคำนึง                                 มองลึกซึ้ง  ถึงประโยชน์  ของโทษทัณฑ์

คือกิจกรรม  ทำการบ้าน  งานสุมหัว                                                ห้ามแต่งตัว  นอกเครื่องแบบ  แอบนอกบ้าน

ไม่ออกไป  ตัดใจแน่  แก้รำคาญ                                                        อยู่แต่บ้าน  อ่านตำรา  ดีกว่าทัวร์

 

                เสียเวลา  ไร้ประโยชน์  โทษใครได้                 ฝังในใจ  ทุกนาที  ความดีชั่ว

พึ่งผู้อื่น  ที่ไหน  ไม่แม้นตัว                                                               อย่าเมามัว  กลัวเวลา  ถูกฆ่าไป

 

                ถือคะแนน  ความประพฤติ  ต้องยึดติด                            ไม่ทำผิด  ตัดของเรา  เอาไม่ได้

หลักประกัน  มั่นทำดี  มีวินัย                                                             หมั่นเตือนใจ  ไม่ผิดพลาด  ทุกมาตรา

ใครทำผิด  มุ่งคิดร้าย  ในหมู่เพื่อน                                                   โดนตักเตือน  เบือนไม่เชื่อ  เบื่อหนักหนา

ศาลออนเนอร์  ซีสเต้ม  เต็มราคา                                                      นำตัวมา  พิจารณาโทษ  ไม่โกรธกัน

ลักขโมย  โทษหนัก  ไม่อยากเห็น                                                    ไม่ยกเว้น  ลดโทษ  โกรธทั้งชั้น

ให้ทุกคน  เป็นลูกขุน  หนุนโทษทัณฑ์                                           จับสาบาน  หาเลิกไม่  ไล่ออกเลย

เตรียมทหาร  การลงโทษ  โหดไหมเล่า                                           ตอบว่าเปล่า  เขาเอาจริง  ไม่นิ่งเฉย

ไม่มีการ  ปล่อยปละ  หรือละเลย                                                      เขาชมเชย  ผู้กระทำ  แต่กรรมดี

 

                โทษบางอย่าง  ระวางไว้  ใคร่หยิบยก                              ได้เป็นตก  ตกเป็นออก  นอกวิถี

ถอดทะเบียน  เตรียมทหาร  เสียทันที                                              สอบไม่ดี  ทุจริต  ไม่คิดเอง

 

                เตรียมทหาร  ผสานครบ  ระบบเกียรติ                             อัดยัดเยียด  ก่อเกียรติ์ลือ  ซื่อตรงเผง

สปิริท  มีติดตัว  ไม่กลัวเกรง                                                              ให้ตนเอง  ช่วยตน  สกลไกร

 

                สามัคคี  เกลียวกลม  อุดมศึกษา                                         สถานกีฬา  สนามศุภ  ชลาศรัย

เป็นแหล่งที่  มีแข่งขัน  นัดกันไป                                                     วัดน้ำใจ  นักกีฬา  ปัญญางาม

เตรียมอุดม  ศึกษา  วชิราวุธ                                                                แผนยื้อยุด  รักบี้  ไม่ผลีผลาม

แผงประดา  กองหน้าบัง  กองหลังตาม                                           ขอบสนาม  เส้นหลัง  ไปวางทรัย

 

                ยีเอ็มซี  จอดเรียงแถว  แนวถนน                                       ติดเครื่องยนต์  ขนทหาร  การเคลื่อนย้าย

นักเรียนเตรียม  ตื่นเต้น  เห็นเรียงราย                                             แล่นออกไป  ยังสนาม  ตามเวลา

 

                เป็นกองเชียร์  ไม่เพลียใจ  ได้ตื่นเต้น                              แต่ผู้เล่น  เห็นเขาเหนื่อย  และเมื่อยล้า

ฝ่ายกำชัย  ได้เกษม  เปรมปรีดา                                                         ผู้วางหน้า  เศร้าแท้  คนแพ้เกม

มีสาวยืน  ขึ้นโผล่หน้า  มาตรงช่อง                                  นักเรียนมอง  สิ้นทุกข์  สุขเกษม

นวลผิวผ่อง  เป็นยองใย  ใจอิ่มเอม                                                   ช่วยเติมเต็ม  ให้กีฬา  เร้าอารมณ์

พบคนงาม  ตามมาเชียร์  หายเพลียสิ้น                                            เพียงชีวิน  สดใส  ได้เห็นโฉม

เธอหายหน้า  ไม่มาเชียร์  ระเหี่ยตรม                                               ทั้งผู้ชม  นักกีฬา  ว้าเหว่ใจ

 

                มาเลเซีย  ส่งรักบี้  ไมตรีจิต                                                กระชับมิตร  เตรียมทหาร  ต้านทานไหว

ซ้ายขวาปีก  ฉีกช่อง  วิ่งวิ่งไว                                                            โดดวางทรัย  ได้สัมพันธ์  มั่นไมตรี

การกีฬา  คราก่อนนั้น  มีแนวโน้ม                                                   ที่นิยม  กันนัก  คือรักบี้

หนุ่มเครื่องแบบ  แนบคู่  ดูสวยดี                                                      รอรักบี้  สี่เหล่า  คอยเฝ้าชม

สิงห์นายเรือ  เสือนายร้อย  พบบ่อยครั้ง                                          ต่างมุ่งหวัง  จับคู่  ดูเหมาะสม

สนามศุภ  เขียวขจี  มีผู้ชม                                                                   เสียงขรม  โฉมนารี  สตรีงาม

 

                ทีมนายเรือ  เสืออากาศ  ฟัดไม่ย่อย                                   ทีมนายร้อย  ตำรวจ  ไล่กวดปล้ำ

เสื้อหลากสี  สี่เหล่าทัพ  กลับกลายดำ                                              เจอน้ำคลำ  จ้ำน้ำโคลน  ฝนโปรยปราย

การแข่งขัน  วันกีฬา  ภายในรั้ว                                                        เล่นกันนัว  สนุกสนาน  มันเหลือหลาย

ขึ้นขี่คอ  ชักเย่อ  เบลอตาลาย                                                             ฝึกแรงกาย  เกิดพลัง  ได้วังชา

 

                น้องเคารพ  โอบอ้อม  น้อมรุ่นพี่                                      ซีเนียริตี้  มีระเบียบ  เนี๊ยบนักหนา

พี่สอนน้อง  ปองใจรับ  ซับเมตตา                                                    ด้วยกรุณา  และปราณี  พี่น้องกัน

 

                เตรียมทหาร  ทยานสู้  ผู้เสียสละ                                       อุตสาหะ  จริยธรรม  นำสร้างสรรค์

เชิญคุรุ  อนุศา  สนาจารย์                                                                   เสริมพื้นฐาน  ด้านจิตใจ  ฝักใฝ่ธรรม

เรียนอบรม  บ่มนิสัย  แต่วัยรุ่น                                                          เป็นต้นทุน  คุณความดี  มิผลีผลำ

สอนให้รู้  เรื่องเลี้ยวลด  กฎแห่งกรรม                                            ขันติธรรม  นำควบคู่  ผู้คิดดี

เติบโตใหญ่  ในกองทัพ  จับอำนาจ                                 เอกราช  ชาติดำรง  คงสุขศรี

ผ่านกองทัพ  นับเวลา  ห้าสิบปี                                                         คุณความดี  ที่ครูสอน  ย้อนความจริง

 

                บรรยายกลอน  ย้อนไปหลัง  ครั้งศูนย์สอง                     การปกครอง  อธิปไตย  ยังไม่นิ่ง

ศูนย์อำนาจ  พลาดลงตัว  มัวประวิง                                 เกิดคนจริง  จากทัพบก  ขึ้นปกครอง

ท่านจอมพล  สฤษดิ์  ธนรัชต์                                                             บรรดาราษฎร์  ถูกใจ  ให้ยกย่อง

รั้งนายก  รัฐมนตรี  มีครรลอง                                                           ยึดปกครอง  อำนาจรัฐ  ปฏิวัติมา

ท่านเป็นผู้  บัญชาการ  ทหารสูงสุด                                 วีรบุรุษ  ประดุจเพชร  ใจเด็ดกล้า

อันธพาล  ซานซม  นมนานมา                                                          สิ้นแรงร้า  หลบกลัว  จนหัวซุน

 

                จอมพลถนอม  ขึ้นว่า  กลาโหม                                         หลักนิยม  กำลังพล  คนเนืองหนุน

สร้างนายทหาร  สัญญาบัตร  จัดสมดุล                                            เตรียมไว้หนุน  ผู้นำ  กำลังคน

 

                ผู้การปิยะ  สุวรรณพิมพ์  ผู้นิ่มพจน์                  มธุรส  วาจางาม  นำกุศล

ใครใจแข็ง  ต้องแรงรอน  ยอมผ่อนปรน                                        แล้วทุกคน  บริจาค  มากน้อยมี

 

                รองสุระ  โพธิรัง  สิยากร                                                   เอื้ออาทร  ห่วงใย  มิหน่ายหนี

ผู้ช่วยชัชรินทร์  พุ่มอิ่มผล  ท่านคนดี                                               สามท่านนี้  ปราณีจิต  คิดเมตตา

 

                พันโทไพบูลย์  สิรยากร  ผู้กองหนึ่ง                                รำลึกถึง  ท่านผู้นี้  เป็นนักหนา

ให้ความรัก  สอนอบรม  บ่มปัญญา                                  ตลอดเวลา  ดูแล  และห่วงใย

เรือเอกวิริยะ  นิลรังษี  ผู้กองสอง                                                     ท่านปกครอง  ใกล้เกลียวกลม  บ่มนิสัย

มีผู้หมวด  คอยกวดขัน  ให้มั่นใจ                                                      เขียนกลอนไว้  ในบันทึก  ลึกทรงจำ

หมวดอรรถยุทธ  อ่อนจำรัส  มาดหวือหวา                                     หมวดปรีชา  มุธาวงศ์  ภุชงค์นิลขำ

หมวดสอาด  แสงนาค  มักประจำ                                                     ชอบวิ่งนำ  ก่อนฝึก  คึกคะนอง

หมวดประกอบ  กาญจนจูฑะ  พ่อพระแท้                                      เฝ้าดูแล  เอาใจ  ในรุ่นสอง

หมวดปราโมทย์  ระงับภัย  ใช้ปกครอง                                           แบบพี่น้อง  เครือญาติ  ผูกมัดใจ

หมวดไพฑูรย์  ศัณหจรรย์  ขยันฝึก                                  ไม่รู้คึก  นำเรี่ยวแรง  จากแห่งไหน

หมวดสืบศักดิ์  จันทร์แป้น  ไม่แม้นใคร                                          ทุ่มแรงกาย  กำยำ  นำวิ่งทน

เสียงตะหวาด  วีดว้าย  ใบหน้ายิ้ม                                                     เดินกรุ่มกริ่ม  นวยนาด  มาดเหลือล้น

ท่านผู้หมวด  จำแลง  อุชุโกมล                                                          น้องทุกคน  รักใคร่  ไม่จืดจาง

๐๐๐๐๐๐๐๐๐

 

ตอนที่ 5

                หัวหน้ากอง  วิชาการ  พันเอกหม่อม                               ท่านเกลากล่อม  กรุยแนว  สู้แผ้วถาง

เถกิงเดช  สุทัศน์  จัดแนวทาง                                                           ผู้จัดวาง  หลักสูตร  จุดประกาย

หลักสูตรเตรียม  อุดมต่อ  จาก ม.หก                                 พันโทดิลก  พลกนิษฐ์  ฟิตเหลือหลาย

อาจารย์ทองคำ  เตระยานนท์  คนบรรยาย                                      เทแรงกาย  ให้นักเรียน  เพียรวิชา

อาจารย์ชม  มุกสิกานนท์  คนรับผิดชอบ                                         แบ่งจัดกรอบ  กวดขัน  การศึกษา

แตกแขนง  แบ่งไว้  รายวิชา                                                              นับได้ห้า  หมวดหลัก  ให้นักเรียน

หมวดคณิตวิทย์  อังกฤษไทย  ไว้เหมาะสม                                     หมวดสังคม  ครบเครื่อง  เรื่องอ่านเขียน

วิชาทหาร  ทุกฐานทัพ  จับหมุนเวียน                                              เด็กผมเกรียน  เรียนร่ำ  จนช่ำชอง

 

                คณาจารย์  ประสานเหล่า  เฝ้าพร่ำสอน                          ห่วงอาทร  สอนให้ศิษย์  ทั้งคิดท่อง

สุ่มตัวอย่าง  ด่างเกลือกรด  แล็ปทดลอง                                          ยืนส่องกล้อง  มองดาว  แสงพราวพรรณ

ร.ท.หญิงลักษณา  ศรีจันทราพันธ์  เชี่ยวชาญสอน                       แต่ละตอน  มีคุณครู  ประจำชั้น

เลขคณิต  อังกฤษเรขา  สาระพัน                                                      ทุกวี่วัน  ท่องบ่น  จนชำนาญ

                ห้าสิบปี  ที่พ้นผ่าน  อาจารย์ลับ                                         วิญญาณดับ  แดดวง  สู่สรวงสวรรค์

ครูเอื้อเฟื้อ  เหนือพระคุณ  พูนอนันต์                                             ท่านสร้างสรรค์  เพชรประดับ  กองทัพไทย

และบางท่าน  นั้นยังมี  ชีวีอยู่                                                            แต่มิรู้  ว่าท่าน  นั้นอยู่ไหน

ส่งรำลึก  นึกบุญคุณ  ทูนเหนือใด                                                    ฝังอยู่ใน  ดวงกมล  ทุกคนเรา

 

                ตอนวัยเด็ก   เล็กอยู่  มิรู้ดอก                                              ว่าครูบอก  จงพากเพียร  สู้เรียนเล่า

จวบเกษียณ  เวียนมา  ถึงคราเรา                                                        มีใครเล่า  รำลึก  นึกคุณครู

เตรียมรุ่นสอง  ก้องประกาศ  ไม่ขาดรัก                                           ฝังประจักษ์  ในศักดิ์ศรี  ที่งามหรู

ใจประณต  น้อมประนม  ก้มกราบครู                                              ให้โลกรู้  ศิษย์บูชา  เป็นอาจิณ

 

                อุดมธวัช  ทัศนีย์จินดา  อัจฉราประเสริฐ                         วรรจนะบุญเลิศ  เชิดศักดิ์ชม  สมถวิล

มยุรีศรีนวล  นิยมสุดจิตต์  อุลิตจุลินทร์                                            ฉวีวรรณประทิน  อรุณเรณู  สุปรานี

ถาวรประศรัย  วรพงษ์ชัยยนต์  โสภณประยงค์                             เชวงบรรจง  ณรงค์พงษ์นารถ  ถนอมศรี

ประสานประดิษฐ์  รุกอนันต์  ศรันย์เสนีย์                                      เจนจางค์ชลอศรี  สาวิตรีนันทา  สัญญาพิณ

เสริมสงวนรัตน์  บุญชวย  บุญช่วยเหิร                                            สอนดีเกิน  อำนวยการ  ด้านศาสตร์ศิลป์

ประสิทธิ์ประสาท  สายปัญญา  ดังวาริน                                         โปรดได้ยิน  เสียงรุ่นสอง  เพรียกพ้องบูชา

 

                ศาสตร์คณิต  คิดวิธี  ที่ยลแยบ                                            ท่านออกแบบ  ไว้แนบเนียน  เรียนศึกษา

ถอดกรนล๊อก  คอสไซน์รูท  สูตรมาตรา                                          รูปเรขา  เส้นเพลนทรง  น่างงงวย

พล๊อตจุดกราฟ  สมการ  เชิงชั้นชุด                                                  บทพิสูจน์  อ้างอิงได้  ไปอย่างสวย

กระบอกทรง  วงกลมข้าม  สามเหลี่ยมกรวย                   เขียนรูปย้วย  โย้เย้  มองเมโม

ลากแกนเอ็กซ์  เช็คแกนวาย  ได้ไซน์เคิฟ                                       โหนกนาบเนิบ  คะแนนน้อย  พลอยโมโห

คอทเส็คแทน  คะแนนตุน  เจอศูนย์โย                                            ครูเซดโน  กากบาท  ตัดคะแนน

 

                วิทยาศาสตร์  บทบาทยุ่ง  มุ่งสอนให้                               สืบสายใย  ในวิศวะ  กะตามแผน

ทุกสาขา  ผ่าแขนง  เป็นแก่งแกน                                                     ความรู้แน่น  แม่นหลัก  จักงดงาม

แรงเหวี่ยงหมุน  สมดุลเบน  โมเมนตั้ม                                           เพนดูลั่ม  โปรเจ็คไตร์  อย่าได้ถาม

อาคีเมดิส  เขาตอบได้  ใครติดตาม                                                    จะรู้ความ  จริงแท้  แค่แรงกล

 

                อีเลคโถด  แอโหนดแมกเนท  เจอเข็ดเขี้ยว                     กว่าจะเคี้ยว  เกี่ยวคะแนน  แสนสับสน

สตาร์ทมอเตอร์  เจอะเส้นฟลักซ์  ชักเวียนวน                                เหนี่ยวนำจน  สมองไหม้  ใจสั่นรัว

บวกเจอลบ  ครบวงจร  อีเลคตรอนซ่าน                                          ขดคอยส์ต้าน  ดันฉนวน  ชวนให้มั่ว

อีแลคไอ  ไฟแลคอี  มิต้องกลัว                                                          สลับขั้ว  อย่าหัวหด ให้หมดแรง

                ดูมีเดียม  หักพุ่ง  มุ่งสู่เสา                                                    สังเกตเงา  ที่เสาบัง  ยังมีแสง

สเปรคตั้ม  ม่วงครามน้ำเงินเขียว  เหลืองแสดแดง                        ปรากฎแสง  ตำแหน่งจันทร์  ตะวันรอน

 

                ปรอทเพิ่มลด  ขนดหัว  ตัวแอบแฝง                 เริ่มรุนแรง  แกล้งคุกคาม  ด้วยความร้อน

น้ำร้อนลวก  สัมประสิทธิ์  คิดร้าวรอน                                            ครูใจอ่อน  ผ่อนผัน  พลันเยือกเย็น

 

                ธาตุกรดด่าง  มังกานิส  บิสมัต                                           แปลกประหลาด  เปลี่ยนสี  มีให้เห็น

ยื่นมือจับ  บังคับสูตร  หลุดกระเด็น                                 กระซ่านเซน  สารผสม  ไม่กลมกลืน

 

                เคาะส้อมเสียง  สำเนียงฟัง  ระฆังถี่                 ฟรีเควนซี่  ที่สดับ  หลับต้องตื่น

โซน่าเขย่า  ซาวเอคโค่  โอ้กล้ำกลืน                                 ครึ่งค่อนคืน  ฝืนหงายคว่ำ  พลิกตำรา

 

                เพอสเพคทีฟ  บีบตัวตึก  นึกภาพศิลป์                             เข้าเขาดิน  สเกทชิ่ง  ยิ่งผวา

จำลองกรง  ดงแมกไม้  จนลายตา                                                     กลายเป็นหน้า  นวลระหง  มีองค์เอว

 

                ฟิตโฟไฟ  ไวยกรณ์  สอนอังกฤษ                                     โฟไฟฟิต  โนโคล่า  คว้าน้ำเหลว

แกนดิจิ  รีเบคก้า  อ่านมาเร็ว                                                              ไม่เหลวเป๋ว  แปลกใจ  ไอเลิฟยู

คอมพลีเฮน  เอกเทนซีพ  ต้องรีบอ่าน                                             น่ารำคาญ  อ่านออกเพียง  เสียงเหมือนหมู

อิทว่ามัน  ฉันว่าไอ  ใครคือ ฮู                                                            อยากใคร่รู้  ครูดอนท์โน  โกอินเตอร์

 

                อ่านภาษา  ไวยกรณ์  อักษรศรี                                           วรรณคดี  กวีนิพนธ์  ดลใจเผลอ

โอ้ลิลิต  ตะเลงพ่าย  ได้พบเธอ                                                          พระลอเจอ  อุณรุท  บุษบา

โอ้ละเวง  สุวรรณมาลี  พี่รักเจ้า                                                         อยากเที่ยวเขา  วิลิท  สมาหรา

ด้วยเพราะพี่  มีนัด  มัทนพาทา                                                          จเด็จจรกา  เจอวัสการ  จึงซานซม

ร่ายโคลงฉันท์  กลอนกาพย์  ซึมซับแน่น                                       ได้คะแนน  สงสาร  จึงสะสม

สังปะลิเหงะ  เกะกราย  ใส่อารมณ์                                                  เชิญเพื่อนชม  นิยมนิราศ  อย่าขาดตอน

 

                ซับศีลธรรม  จรรยา  รู้หน้าที่                                             พลเมืองดี  ที่ถูกตาม  คำครูสอน

รัฐธรรมนูญ  ศูนย์อำนาจ  ราษฎร                                                     ต้นอุทธรณ์  ก่อนฎีกา  เรื่องว่าความ

 

                จิตวิทยา  การนำ  ครูพร่ำบอก                                            ท่านย้ำตอก  สิ่งเร้า  เราเฝ้าถาม

พันธุกรรม  สัญชาติญาณ  อันงดงาม                                               ปฏิบัติตาม  คำครู  สู่สังคม

 

                เตรียมทหาร  กรานกราบ  กำซาบสอน                            ยังอาวรณ์  คำสอนครู  ผู้สร้างสม

ยั่งยืนยง  อยู่ยั้ง  แห่งสังคม                                                                จะชื่นตรม  ก็สมชาย  ไว้ชื่อเตรียม

กิจกรรม  ทำไว้เห็น  เป็นเยี่ยงอย่าง                                  ยึดติดฝัง  ยังครันครบ  สงบเสงี่ยม

ระลึกถึง  ตรึงแนบ  แบบธรรมเนียม                                                นักเรียนเตรียม  ทหารสอง  ต้องมั่นใจ

 

                ปีศูนย์สาม  ยามมาถึง  เลขหนึ่งสับ                   ได้ประดับ  เลขสอง  ที่ปองหมาย

รอศูนย์สี่  ขวบปีหน้า  อย่าเสียดาย                                                   ต้องจากไกล  เตรียมทหาร  อย่างซ่านซึม

                เด็กหนุ่มน้อย  ค่อยหนุ่มขึ้น  ยืนสมาร์ท                          นิ่งวางมาด  บทบาทเบ่ง  ดูเคร่งขรึม

เริ่มเคียงข้าง  นั่งเบียดสี  สตรีตรึม                                                    แต่มิลืม  หลงระบอบ  ชั่วชอบดี

๐๐๐๐๐๐

 

ตอนที่ 6

                แบกเลขหนึ่ง  เครื่องหมาย  ต้องไม่หมอง                       แบกเลขสอง  หมองมอ  เพราะเป็นพี่

รองเท้าดำ  เริ่มจะด้าน  พอผ่านปี                                                     ความเป็นพี่  ที่แก่วัด  เห็นชัดเจน

ระเบียบคลาย  เครื่องหมายหมอง  เลขสองเขลอะ                        กระเป๋าเปรอะ  เลอะเก่า  เกือบเน่าเหม็น

มีผู้หมวด  ตรวจเฝ้า  ทุกเช้าเย็น                                                         ยังมุ่งเน้น  เกียรติศักดิ์  นักเรียนเตรียม

ความฝังใจ  อยู่ในกรอบ  ระบอบทหาร                                           ที่เคยผ่าน  งานฝึกฝน  จนล้นเปี่ยม

และการเรียน  เจอหนักหนา  หาใดเทียม                                        อยู่ชั้นเตรียม  ปีที่สอง  ต้องระวัง

 

                มิทำมั่ว  รู้ตัวดี  ว่ามีน้อง                                                      ในปกครอง  น้องรุ่นสาม  ตามสอนสั่ง

เหมือนเคยมี  พี่รุ่นหนึ่ง  ซึ้งใจจัง                                                     พี่เคยสั่ง  น้องยึดพื้น  ยืนตัวตรง

 

                อิสระ  เสรีภาพ  คืนกลับแล้ว                                            คงไม่แคล้ว  ขึ้นศูนย์สี่  ที่ประสงค์

นักเรียนนายร้อย  เขาผ่านมา  เราท่าตรง                                         รุ่นพี่โค้ง  เคารพรับ  คงนับวัน

เตรียมรุ่นพี่  หนีไปอยู่  หัวหู่หด                                                        ถูกโดนกด  หมดเสรี  ที่ใฝ่ฝัน

ขึ้นปีหน้า  ถึงรุ่นเรา  เข้าไปพลัน                                                     นั่นแหละวัน  ฝันเป็นจริง  จปร.

 

                ได้น้องใหม่  มาแทนที่  ปีศูนย์สาม                                   น้องติดตาม  พี่มา  หน้าป๋อหลอ

นุ่งขาสั้น  กลัดกุม  กระดุมคอ                                                            เครื่องหมายหล่อ  เหมือนเรา  แต่เก่ากาล

โผล่ประตู  ดูขวาซ้าย  ใจเคารพ                                                        ประณตนบ  องค์สถิต  ศักดิ์สิทธิ์ศาล

นึกน้อมคำ  กำซาบ  วอนกราบกราน                                               อธิษฐาน  อย่าอานอัก  สบักสบอม

อันกงกรรม  ทำไว้  ไม่เคยเปลี่ยน                                                     เจอกงเกวียน  เวียนทับ  กลับมาซ่อม

มีใครอู้  เมื่อรู้เห็น  เป็นไม่ยอม                                                          เรียกมาซ่อม  แทนทด  ให้หมดแรง

๐๐๐๐๐๐

                จัดนักเรียน  ผู้บังคับบัญชา  ทำหน้าที่                              ลักษณะดี  มีวินัย  ใจกล้าแกร่ง

ติดเครื่องหมาย  เชิดชูยศ  ปรากฎสำแดง                                        รั้งตำแหน่ง  ผู้ปกครอง  ของนักเรียน

 

                นตท. บุญสูง  คำปลิว  ขอยกนิ้วให้                   สมควรได้  บ่ารองรับ  ประดับเหรียญ

ทะมัดทะแมง  แข็งขัน  ขยันเพียร                                                    เป็นนักเรียน  ผู้บังคับการ  ชาญช่ำชอง

                นตท. ปกครอง  นาถเสวี                                                     สอบเข้าที่  เลขหนึ่ง  ในรุ่นสอง

รั้งตำแหน่ง  นักเรียน  ผู้บังคับกอง                                                  ชื่อปกครอง  นักปกครอง  ไม่รองใคร

 

                นตท. ธงชัย  เกื้อสกุล                                                          เก่งเป็นทุน  คุณความดี  มีล้นหลาย

คุมกองสอง  สอบเข้าที่สอง  ครองหัวใจ                                         จารึกไว้  ในประวัติ  มิอาจลืม

 

                นตท. พิสิทธิ์  ปาสาณะพันธ์                                             เก่งขยัน  มิเคยคลาย  จึงได้ปลื้ม

ใจเยือกเย็น  เป็นผู้นำ  จำไม่ลืม                                                         เพื่อนปลาบปลื้ม  ไม่ลืม “เป็ด” เพชร ตท.

 

                กองที่สี่  เกษมปลื้มจิตร  ฟิตเสมอ                                     เพื่อนเสนอ  เกษมให้  ไม่วอนขอ

ลักษณะเด่น  เห็นกันชัด  สมบัติ ทบ.                                               รูปร่างหล่อ  แคล่วคล่อง  และว่องไว

 

                แต่ละกอง  รองลงมา  นักเรียนหัวหน้าหมวด                ช่วยตราตวจ  กวดขัน  กันชิดใกล้

สู่แนวทาง  สร้างเสริม  เพิ่มวินัย                                                       ไว้วางใจ  ในมวลหมู่  ผู้บังคับบัญชา

มีเก้านาย  ได้รับเกียรติ  การปฏิบัติ                                                   เกตุเสพสวัสดิ์  ภักดีกุลวินัย  คงรักษา

วีระประสพโชค  ดิลกทองอินทร์  พิบูลย์บูชา                                สมศักดิ์เฒ่ามาก  และนรา  ซึ้งถาวร

ฉลองโชติกะคาม  นามอีกคน  สุรพล  ชินะจิตร                            เชาว์แก่นหิรัญ  นั้นสนิท  คู่คิดสอน

ผิวทองพรหมนอก  ลาภบุศย์ประยูร  อุ่นอาทร                              อนุสรณ์  ของรุ่นสอง  เพื่อนน้องอุ่นใจ

 

                กล่าวถึงนาม  นักเรียนหัวหน้า  ศรัทธารัก                      หน้าที่หลัก  ช่วยอบรม  บ่มนิสัย

รับภาระ  อย่างเต็มที่  มีวินัย                                                               บันทึกไว้  ในรำลึก  นึกไม่เลือน

๐๐๐๐๐๐

 

                โรงเรียนเตรียม  ทหาร  สถานสถิต                  แหล่งศักดิ์สิทธิ์  เหนือแหล่งใด  ไหนจะเหมือน

เด่นตึกแดง  แห่งเกียรติศักดิ์  รักไม่เลือน                                        เราพร้อมเพื่อน  พ้นผ่านไกล  เสียดายจริง

รุ่นสองครบ  จบตึกแดง  สร้างแห่งใหม่                                          สั่งโยกย้าย  ไปพระรามสี่  บอกดียิ่ง

กลางปีสอง  ของรุ่นสาม  ตามอ้างอิง                                               ย้ายที่วิ่ง  ไปสิงสุม  ลุมพินี

 

                ยี่สิบเจ็ด  มกราคม  อุดมเลิศ                                                ย้อนปีเกิด  สถาปนา  สง่าศรี

รำลึกคุณ  ศูนย์กำเนิด  เกิดคนดี                                                        ชายชาตรี  พลีใจภักดิ์  รักแผ่นดิน

 

                ลุมพินี  บัดนี้ย้าย  ไปอีกครั้ง                                              เข้าที่ตั้ง  นครนายก  หัวอกถวิล

ยกเป็นย่าน  ศูนย์การค้า  คิดอาจิณ                                                    ทั้งชีวิน  ฝังรำลึก  ถึงตึกแดง

ห้องตึกแดง  กระดานดำ  คร่ำด้วยชอล์ก                                         สิ่งบ่งบอก  ว่าสร้างไว้  ได้แข็งแกร่ง

ศิลปกรรม  ล้ำค่า  ศรัทธาแรง                                                            โอ้ตึกแดง  ให้แสงสว่าง  ณ กลางใจ

ตึกแดงบัดนี้ เป็นที่สถาน  งานแห่งรัฐ                                            ใครอุบาทก์  กินชาติโกง  ไม่โปร่งใส

ฟ้าแช่งชัก  หักกระดูก  ลุกเป็นไฟ                                                   อย่ามาใกล้  ตึกแดง  แรงฤทธา

๐๐๐๐๐๐

 

                เตรียมทหาร  รุ่นที่สอง  ของสยาม                                    สวนสนาม  ยามแสงแดด  เผาแผดกล้า

หน้าพระรูป  พื้นพระลาน  ผ่านสายตา                                           ชาวประชา  ศรัทธารัก  ประจักษ์ใจ

ระเบียบแถว  แนวสูงต่ำ  งามพราวพริ้ง                                          สง่านิ่ง  ดิ่งเดินก้าว  พราวไสว

ขาวเทาเขียว  เลี้ยวกรมกอง  แถวมองไป                                         ประทับใจ  ในทรงจำ  คอยย้ำเตือน

กลุ่มกลองแท๊ก  แบกห้อยตี  เป่าปี่ปิ๊กกาโล่                                     ช่วงก้าวโชว์  นักรบกล้า  หาใครเหมือน

ก่อนลาเตรียม  เตรียมสู่เหล่า  เฝ้าย้ำเตือน                                       มิแชเชือน  การฝึกฝน  จนเชี่ยวชาญ

แถวธงทิว  ปลิวไสว  ในเบื้องหน้า                                                   ย้อมศรัทธา  นักรบไทย  ให้ใจหาญ

ถึงคราวพบ  งานรบรุก  ทุกเหตุการณ์                                              เตรียมทหาร  เตรียมพร้อม  ไม่ยอมใคร

 

                สุดหวงแหน  แหวนรุ่น  เทิดทูนเหนือ                            ยังหลงเหลือ  ลัญลักษณ์  ฝากไว้ให้

เตือนระลึก  นึกถึง  ตราตรึงใจ                                                          ฝังอยู่ใน  ใจรุ่นสอง  ของทุกคน

คู่คบเพลิง  เถกิงเดช  ทั่วเขตขันฑ์                                                    ดาวสวรรค์  จักรไสว  ใฝ่กุศล

ชัยพฤกษ์  ลึกด่ำ  ย้ำกมล                                                                     เราทุกคน  รักอาร์ม  สยามแผ่นดิน

สีพลอยแดง  แรงเลือด  ที่เดือดพล่าน                                              ทุกสถาน  พลีชีวิต  ให้นิจสิน

จะปกป้อง  ผองภัย  ให้ธานินทร์                                                      รักแผ่นดิน  แดนกษัตริย์  ราชวงศ์

๐๐๐๐๐๐

 

ตอนที่ 7

                ใกล้เวลา  จะลาจาก  ฝากอนุสรณ์                                     ยิ่งร้าวรอน  ก่อนอำลา  ศรัทธาประสงค์

ทำหนังสือ  ถือไว้  ให้มั่นคง                                                              บันทึกลง  รอยอดีต  คิดถึงกัน

เป็นกิจกรรม  งามหรู  ดูต่างหน้า                                                      เมื่อแผ่นหล้า  ไร้ชีวิน  สู่ถิ่นสวรรค์

อนุสรณ์  สัญลักษณ์  ไม่จากกัน                                                        ตั้งกรรมการ  ดูแล  ให้แน่นอน

                กลอนบอกกล่าว  เล่าเรื่องงาน  กรรมการรุ่น  ขอขอบคุณ  ข้อมูลได้  ในอนุสรณ์

พลโทอนันต์  สุโขบล  คนอ่านกลอน                                              เอื้ออาทร  ช่วยกลอนกราย  ได้สมบูรณ์

นตท. สิทธา  พิบูลย์รัตน์                                                                     ผู้เจนจัด  ปฏิบัตินักเรียน  ประธานรุ่น

นตท. บุญสูง  รองประธาน  งามเพิ่มพูน                                         เกตุเสพสวัสดิ์  ภักดีกุล  กรรมการกีฬา

เกษมปลื้มจิต  ฟิตเขียนอ่าน  กรรมการห้องสมุด                            หนังสือชุด  ทุกชนิด  คิดศึกษา

กรรมการสังคม  มอบเผด็จ  จารุจินดา                                              ผู้ใฝ่หา  การหน้าที่  ทั้งวี่วัน

บันเทิงดนตรี  มีธนู  จินดาลัทธ                                                         ช่วยขจัด  บำบัดทุกข์  ให้สุขสันต์

นตท. ทวนทอง  หอมเศรษฐี  พลีเพื่องาน                                       อุทิศการ  ปฏิคม  น่าชมเชย

 

                อีกทั้งกรรมการ  ผู้ตรากตรำ  ทำหนังสือ                         น่านับถือ  คือ นตท.  ขอเปิดแผย

  นตท. เจริญ  เบญจาทิกุล  คนคุ้นเคย                                              ไม่ลืมเลย  นตท. สุพจน์  สิริพูน

นตท. วาทิต  ติงสมบัติยุทธ                                                 ศิลป์วิสุทธิ์  ดุจจิตรกรรม  เนื่องนำหนุน

นตท.ปรีชา  ประโยชน์โยธิน  ศิลป์เพิ่มพูน                                    ร่วมอุดหนุน  ปรีชาเจริญรัตน์  ช่วยจัดทำ

๐๐๐๐๐๐

 

                เตรียมชั้นสอง  ต้องสัมผัส  การหัดฝึก                             ทะเลลึก  ฝึกเรือหนัก  ภาคสนาม

เมื่อตอนใกล้  ปลายปี  มีประจำ                                                         หัดว่ายดำ  ในน้ำเค็ม  เต็มท่วงที

หนึ่งสัปดาห์  พาไปฝึก  ไม่นึกเบื่อ                                                   ฝึกนายเรือ  ลูกเรือ  กลาสี

ก่อนผจญ  เตรียมตนพร้อม  ซ้อมมาดี                                               ทุกคนมี  การเรียนรู้  ผู้เดินเรือ

ในห้องเรียน  เวียนครบ  จบถ้วนถี่                                                   ทำหน้าที่  ทุกอย่างได้  ไม่ไขว้เฝือ

ชื่อตำแหน่ง  แห่งทั่ว  ทั้งตัวเรือ                                                        ท่องไม่เบื่อ  เรื่องเรือรบ  จำครบครัน

 

                อยากขยาย  บรรยายกลอน  ตอนฝึกภาค                          คงลำบาก  ยากเกินกว่า  จะเสกสรรค์

ทหารบก  ยกกลกลอน  อ้อนรำพัน                                  ไม่มีวัน  ชำนาญเรือ  อย่าเบื่อเลย

ห้าสิบปี  ที่เรียนเรือ  เพียงเพื่อรู้                                                        แค่ศึกสู้  สอบไม่ตก  โอ้อกเอ๋ย

เวลาผ่าน  นานนัก  หนักใจเอย                                                         ไม่อยากเอ่ย  เอาตำรา  มาแต่งกลอน

รำลึกจำ  ทำหน้าที่  ดีที่สุด                                                  พลิกสมุด  ดูชุดภาพ  อนุสรณ์

เลือกอารมณ์  สุนทรีย  ศรีสุนทร                                                       กราบวิงวอน  สุนทรภู่  ครูกวี

โปรดอำนวย  ช่วยดล  จนสำเร็จ                                                       จดหมายเหตุ  รับรางวัล  มีสันสี

ครูเชิดศักดิ์  เคยบอกเชียร  ว่าเขียนดี                                                ครั้งหนึ่งมี  พิมพ์ไว้  ในจตุรงค์

แต่คราวนี้  นานไป  ไม่เหมือนเก่า                                                    คงผิดเป้า  ผิดอารมณ์  ไม่สมประสงค์

ทหารเรือ  อ่านแล้ว  ไม่แคล้วปลง                                                    เรียนตามตรง  อย่าคาดหวัง  เพราะนั่งเทียน

๐๐๐๐๐๐

                เตรียมรุ่นสอง  สิ่งของพร้อม  ยอมหน่วงหนัก               ทึ้งดึงแบก  แถกถาก  แทบอ้ากเหียน

ถุงทะเล  หนักในราว  ข้าวค่อนเกวียน                                            จวนโอ้กเอียน  เจียนขย้อน  ก่อนเมาเรือ

ย่านบางนา  แถวท่าน้ำ  สรรพาวุธ                                                    เริ่มการยุทธ  ชุดฝึกภาค  ลำบากเหลือ

ลองเรื่องการ  ขนส่ง  ลงทางเรือ                                                       เสียงสั่นเครือ  เรือแหวกว่าย  สู่สายชล

เป็นเสี้ยวสุข  สนุกใจ  มิใช่ย่อย                                                         เมื่อเด็กน้อย  ด้อยเดียงสา  ผลากุศล

เรือพาล่อง  เจ้าพระยา  มาให้ยล                                                       เหมือนดื่มมนต์  เสน่หา  พาชื่นใจ

 

                มองดงจาก   รากไม้  เลาะชายฝั่ง                                      นกกระยาง  โฉบฝูงปลา  น่าใจหาย

เจ้าเรือน้อย  ลอยน้ำ  เร่งจ้ำพาย                                                         พบคลื่นใหญ่  หลายระลอก  ชอกช้ำฤดี

ผ่านโรงเรียน  นายเรือ  เมื่อครวญคิด                                               จวนจากมิตร  รุ่นสอง  คงหมองศรี

หนุ่มทะนง  องอาจ  ราชนาวี                                                            ยี่สิบสี่  ชีวิน  จากถิ่นจร

พระสมุทร  เจดีย์  ศรีสถาน                                                                สมุทรปราการ  ตระหง่านเด่น  เห็นอนุสรณ์

สัญลักษณ์  สลักวิสุทธิ์  พุทธันดร                                                     กลิ่นสาคร  โชยพยอม  ป้อมพระจุล

 

                พ้นน้ำเซาะ  เลาะเลียบฝั่ง  ตั้งเข็มขวา                             ปั่นพังงา  พาหัวเรือ  หางเสือหมุน

ฝ่าคลื่นใหญ่  ใจระรัว  เกรงหัวซุน                                                  เดชะบุญ  ผ่ายพ้นได้  ถึงปลายทาง

ฐานทัพเรือ  สัตหีบ  รีบต้อนรับ                                                        ทั้งข้าวกับ  หอยปู  ปลาทูย่าง

ปรุงสะอาด  ถาดหลุม  กองสุมวาง                                                   พักท่ามกลาง  บรรยากาศ  หาดเตยงาม

 

                บ่งการตาม  ความเป็นอยู่  จ่าครูฝึก                                   ใจระทึก  คึกตื่นเต้น  ไม่เป็นส่ำ

รปจ.  ไม่รอเว้น  เป็นประจำ                                                              เช้ายันค่ำ  ตามกำหนด  มีกฎเกณฑ์

ตื่นก่อนแสง  ตะวันฉาย  ใช้ระเบียบ                                               สี่ทุ่มเงียบ  หลบหน้า  ไม่มาเห็น

ทั้งวี่วัน  หมั่นฝึกฝน  กันจนเป็น                                                       จบจัดเจน  เช่นพวกเขา  คือชาวเรือ

 

                ฟิตกายบริหาร  ราชนาวี  ที่ละหลายชุด                           ฝึกรณยุทธ  มุดใต้ลวด  เจ็บปวดเหลือ

ปีนป่ายเชือก  เกลือกกลิ้ง  วิ่งลงเรือ                                 ทุกวันเหงื่อ  หยาดชะโลม  ถมหาดทราย

องค์บวร  ชุมพรเขต  อุดมศักดิ์                                                           กรมหลวง  เป็นที่รัก  เราทั้งหลาย

ขอพระองค์  ทรงคุ้มครอง  ป้องผองภัย                                           อันตราย  ให้ผ่านพ้น  อย่าแผ้วพาน

 

                ค่ายนาวิก  โยธิน  ถิ่นพำนัก                                               เรียนฝึกหนัก  ลากล้มลุก  สนุกสนาน

ลูกประดู่  ดูผาดโผน  โจนทยาน                                                       สร้างเหตุการณ์  โจมตีบก  ขึ้นยกพล

แอลวีที  สะท้านบก  สะทกน้ำ                                                          หาดเตยงาม  ที่หมาย  ขยายผล

ยามน้ำตื้น  ขึ้นเกยหาด  กราดปืนกล                                                ทั้งหมดคน  เตรียมใจกาย  ไปทะเล

                สามลำเรือ  ออกรบ  ก่อนจบฝึก                                         แหวกน้ำลึก  ตัดอ่าวไทย  ไม่หันเห

อาซิมุท  เบนเข็ม  เดินเต็มเกย์                                                            ลอยทะเล  เหว่ว้า  สุดอาวรณ์

ทำเคารพ  ท้ายเรือ  เมื่อลงขึ้น                                                            ชักธงผืน  ยืนสบัด  สลัดสลอน

ช้างไตรรงค์  ปลิวไสว  ในสาคร                                                       หะเบทถอน  สมอพัก  นักรบไป

ทะเลหลวง  ล้อมรอบ  จรดขอบฟ้า                                   เจ้าพระยา  สีชัง  และเรือไผ่

มุ่งประจวบ  คีรีขันธ์  ดั้นด้นไป                                                        ตัดคลื่นใหญ่  ไหวไกวโยน  โจนทยาน

 

                หวีดหวีหว่อ  จ่อหู  ไม่รู้เบื่อ                                               แถวท้ายเรือ  เมื่อจุมโผ้  โชว์อาหาร

คิวถาดหลุม  ไล่เรียง  เลี่ยงผู้การ                                                       เสร็จจากงาน  ขัดหินทราย  กราบซ้ายยาม

ตาส่องกล้อง  จ้องไยโล  เรือโต้คลื่น                                                เสียงครั่นครื้น  ดื่นนภา  ฟ้าสยาม

ช่องเคบิน  โชยกลิ่นร้อน  นอนรอยาม                                            ฟ้ากระหน่ำ  ฝนกระเซ็น  เย็นลมแรง

 

                ฝ่าความมืด  ยึดเข็มทิศ  กริดแผนที่                                    ลึกตื้นมี  รังสีส่อง  เมฆต้องแสง

ดำตะคุ่ม  พุ่มพฤกษา  ขาสิ้นแรง                                                       ซีดแอ้งแม้ง  แห้งท้องไส้  ให้ปลากิน

หะเรียเรือ  ลำเล็ก  ตรวจเช็คพอยต์                                                   โบ๊ตอะฮ้อย  ลอยกรรเชียง  เพียงถวิล

คีรีขันธ์  เคยฝันไฝ่  ได้ยลยิน                                                             งามประทิน  กลิ่นสวาท  มิคลาดคลาย

 

                บน.ห้า  พาฟุตบอล  มาต้อนรับ                                         ยิงหูดับ  นับถึงสาม  ศูนย์ไม่หาย

ราชนาวี  กายบริหาร  บนลานทราย                                 คิดไม่วาย  คูหาสวรรค์  ถั่นถ้ำงาม

เฝ้าหินย้อย  คอยหินงอก  เกาะนอกฝั่ง                                            ปล่องสว่าง  กลางวารี  นทีสยาม

นตท.  เงยคอแหงน  แสนแวววาม                                                    ถ่ายภาพงาม  ถ้ำคูหา  พระยานคร

ห้าสิบปี  มีทรงจำ  ธรรมชาติ                                                             องค์ปิยะ  มหาราช  อนุสรณ์

สามร้อยยอด  ทอดนภา  ฟ้าอมร                                                        ยังอาวรณ์  คีรีขันธ์  วันรื่นรมณ์

๐๐๐๐๐๐

 

                แลทติจูด  อาซิมุทมา  หาสัตหีบ                                         เรือไม่รีบ  เรียนรู้  ดูเหมาะสม

น้ำโกรกส้วม  ขัดหินทราย  กลางสายลม                                         ยืนชื่นชม  เจ้าฉลาม  ตามโลมา

 

                โยนดิ่งหยั่ง  สรั่งมา  หาต้นหน                                         มองต้นกล  ยลต้นเรือ  เพื่อเรียกหา

เคารพผู้การ  กลาสี  วันนี้ลา                                                               เจ้าพระยา  ไผ่สีชัง  ฝังผูกพัน

๐๐๐๐๐๐

 

 

ตอนที่ 8

                จบตอนเจ็ด  ใกล้เสร็จกลอน  จะย้อนกล่าว                     สรุปเล่า  เข้าตอนแปด  แวดวงขวัญ

ความรู้สึก  ลึกหยั่ง  ฝังโลกันต์                                                          สาระพัน  เก็บตก  ยกเรื่องราว

 

                กลัวสอบตก  ยกห้องติว  หิ้วหอบห่อ                               ชุดสิงหอ  ขอหมายมั่น  ไม่พรั่นหนาว

เจาะประเด็น  เฟ้นย่อหด  บทเรียนยาว                                           ทนง่วงหาว  คราวดึกดื่น  ฝืนลืมตา

สวัสดิการ  อาหารสั่ง  นั่งคอยโจ้                                                      รอจุมโผ้  ผัดรสเด็ด  เผ็ดหน่อยหนา

เหมือนโลกกลับ  หลับต้องฟื้น  ตื่นขึ้นมา                                       ท่องตำรา  เตรียมสอบไล่  ไม่อาวรณ์

คลองผดุง  กรุงเกษม  น้ำเต็มเปี่ยม                                                    บ่งบอกเตรียม  ตั้งตัวตอบ  สอบคำสอน

จัดถุงบก  ยกสะสม  เครื่องห่มนอน                                 เตรียมลาจร  ก่อนจากกัน  ไม่ผันแปร

 

                ข้อสอบสั้น  ข้อไหน  บรรยายยืด                                      เขียนหน้ามืด  หืดขึ้นคอ  รู้เบาะแส

อยากจะขอ  คะแนนสงสาร  พาลเชือนแช                                     เขียนงอแง  แปลว่ารู้  ให้ครูงง

ศิษย์ก็รู้  ครูอาจารย์  ทหารแท้                                                            ตั้งใจแน่  สอนศิษย์ให้  ได้ประสงค์

เรือลมต้าน  ธารทวนเชี่ยว  เกี่ยวหนามพง                                      แจวเรือส่ง  ข้ามถึงฝั่ง  ฝังพระคุณ

 

                ฝ่ายปกครอง  มองหาญฮึก  ฝึกให้กล้า                             มุ่งรักษา  ระเบียบวินัย  ไม่คลายสูญ

ลืมทัณฑ์โทษ  โกรธเหือดหาย  กลายเป็นทุน                 สะสมบุญ  ไว้จุนเจือ  เมื่อรบรา

รู้ศรัทธา  ข้าราชการ  ชั้นผู้น้อย                                                         ผู้เฝ้าคอย  บริการ  นานนักหนา

เสริมในกิจ  ธุรการ  ช่วยงานมา                                                        ไม่เคยช้า  ไม่เคยบ่น  จนซึ้งใจ

 

                ประชาชน  คนอื่น  หมื่นแสนล้าน                                  จะรู้เรื่อง  เตรียมทหาร  นั้นแค่ไหน

นอกเสียจาก  บุคคล  ผู้สนใจ                                                             เห็นเด็กไทย  สมองดี  เข้าพลีตน

๐๐๐๐๐๐

 

                ภายใต้เบื้อง  ยุคลบาท  องอาจกล้า                                   ล่วงเลยมา  ห้าทศวรรษ  สลัดพ้น

ข้าราชการ  วันเกษียณ  เวียนมายล                                                   สองร้อยห้า  สิบแปดคน  ย้อนยลเยือน

ราชการ  งานปิดฉาก  กลับพักบ้าน                                                  ชิดลูกหลาน  ผสานผนึก  นึกถึงเพื่อน

มนต์ความหลัง  ครั้งอดีต  สกิดเตือน                                                ชมรมเพื่อน  รุ่นสอง  ครองสัมพันธ์

 

                เพื่อนที่สอบ  มอบตัวเข้า  เรามีน้อย                  เพิ่มเป็นร้อย  มิหงอยเหงา  คราวสังสรรค์

รุ่นสิบแปด  นรต.  ก็เพื่อนกัน                                                           ราชการ  งานอดีต  เป็นมิตรดี

นับเพื่อนหล่น  คนรุ่นสอง  ต้องเก็บตก                                          เพื่อนเห็นอก  เห็นใจ  ไม่หน่ายหนี

กิตติมศักดิ์  รักเกื้อหนุน  รุ่นอย่างดี                                  รวมบัดนี้  มีสามร้อยกว่า  น่าชื่นใจ

                หนทางเดิน  เผชิญโลก  ล้วนอุปสรรค                            วิถีมรรค  ยากประดับ  ด้วยดอกไม้

มิก้าวล่วง  กฎบ่วงกรรม  สู่สัมปราย                                 หกสิบแปดหาย  ล่วงลับ  ไม่กลับมา

เพื่อนอยู่หลัง  ตั้งกองทุน  ทำบุญอุทิศ                                             รวมญาติมิตร  ใกล้ชิดใจ  อาลัยหา

มโนนึก  รำลึกแท้  แผ่เมตตา                                                              จะภพหน้า  หรือภพไหน  อย่าไกลกัน

 

                รอยประวัติ  จัดจารึก  บันทึกแท้                                        ชีวิตจะแปร  เปลี่ยนแปลก  จะแผกผัน

รุ่นสองซับ  ตราบโลกนี้  มีดวงจันทร์                                              ดวงตะวัน  ยังไม่ศูนย์  รุ่นรวมใจ

 

                แม้นนานที  มีกี่หน  ทุกคนฝัน                                          เห็นหน้ากัน  เพียงหน่อย  ค่อยแจ่มใส

ต่อไปนี้  เหลือกี่ครั้ง  ที่ตั้งใจ                                                             อาจแยกย้าย  ไปลับ  ดับลมปราณ

๐๐๐๐๐๐

 

                คบเพลิงช่อ  หล่อสนิท  ติดในเกล้า                 ฝังจักรดาว  เข้าประดับ  กับสังขาร

เมื่อสิ้นไป  ไร้เรือนร่าง  เหลืออังคาร                                               ชื่อเตรียมทหาร  รุ่นสอง  โลกต้องจำ

๐๐๐๐๐๐

 

                สุภาพบุรุษ  วุฒิภาวะ  ผู้กล้าหาญ                                     สำเร็จงาน  ของชีวิต  จิตใจฉ่ำ

เตรียมตึกแดง  แห่งก้าวย่าง  สร้างผู้นำ                                            คุณธรรม  นำชีวิต  ติดตนมา

โลกหมุนวน  คนหมุนไป  ใจไม่เปลี่ยน                                          แม้เกษียณ  ราชการ  นานนักหนา

ความจงรัก  ภักดีชาติ  กษัตรา                                                            พระศาสนา  ดำรงอยู่  คู่แหลมทอง

๐๐๐๐๐๐

 

                ทางที่สุด  จุดที่หมาย  สุดท้ายถึง                                        ไทยคำนึง  ถึงเนื้อบุญ  แห่งรุ่นสอง

เกียรติพิทักษ์  ศักดิ์ทะนง  องอาจครอง                                           เตรียมทหาร  รุ่นที่สอง  ของแผ่นดิน

๐๐๐๐๐๐

 

 

 

 

พลตรี วิเชียร     ชูปรีชา     นตท.404

                            ร้อยกรอง

                        2552