1

 

นิราศกฐิน  ถิ่นเมืองกาญจน์

 

                จดนิราศ  จัดอักษร  กลอนสลับ                       จึงขอจับ  ลำดับเรื่อง  เมืองขุนแผน

เพื่อนราชา  ศูนย์หนึ่ง  บึ่งชายแดน                              ไปถึงแคว้น  เมืองกาญจน์  ร่วมงานบุญ

จากดำริ  ของพิชัย  ได้ประสาน                                   ดำเนินการ  กิจกรรม  นำให้รุ่น

มุ่งจรรโลง  คงศาสนา  เนื้อนาบุญ                               เก็บเป็นทุน  ไว้เบื้องหน้า  ฟ้าใหม่มี

            ขอน้อมเกล้า  เจ้าดวงใจ  ถวายกุศล                 พระภูวดล  แห่งองค์  พระทรงศรี

พสกนิกร  ทั่วแผ่นดิน  ต่างยินดี                                  พระภูมี  ทรงคลาย  หายประชวร

ประเพณี  มีนมนาน  กรานต์กฐิน                                ทั่วแผ่นดิน  ถวิลไว้  ไม่เผลอผวน

เทศกาล  ออกพรรษา  มาชักชวน                                ตามสมควร  อัตภาพ  รับบุญทาน

            ยี่สิบสี่  ตุลา  ราชาซึ้ง                                       รุ่นศูนย์หนึ่ง  ไปกฐิน  ไกลถิ่นฐาน

วัดพุปลู  อยู่แควใหญ่  ใกล้เมืองกาญน์                                    ห่างประมาณ  สามสิบ  ละลิบไกล

นั่งสามคน  ขนไปหมด  รถกะบะ                               ยานพาหะ  เตรียมจัด  นัดเพื่อนไว้

คุณเกษตร  ลุมพินี  รี่มาไว                                           ไม่ทันสาย  แกรีบบึ่ง  ถึงดอนเมือง

อาหารเช้า  เข้าไปตุน  เป็นทุนก่อน                              แปดโมงจร  ร่อนเร่  เกร่  ตามเรื่อง

แฉะเฉื่อยฉ่ำ  น้ำมัน  ไม่ทันเปลือง                               ที่หมายเมือง  กาญจนบุรี  มีนัดกัน

จากสงประภา  ผ่านนวลฉวี  สามสี่ห้า                         เสวนา  ตลอดทาง  พลางผายผัน

โทรศัพท์  ไปมา  สู่หากัน                                            สามสี่คัน  กาญจนบุรี  ที่หมายเดียว

ผ่านบ้านโป่ง  ตรงท่ามะกา  ถึงท่าม่วง                                    ฝืนความง่วง  หน่วงปรู๊ดปร๊าด  ลดหวาดเสียว

ท่ามะกา  เติมกาแฟ  แน่จริงเจียว                                 ประเดี๋ยวเดียว  เลี้ยวริมทาง  รอทีมปทุม

            หมวดนิกูล  ตำรวจใหญ่  ไม่ยอมพลาด           ทหารอากาศ  จัตุพล  คนสุขุม

พิชัยขับ  รับคุณปุ๊  เป็นผู้คุม                                         พบชุมนุม  บายพาสกาญจน์  ร้านตาลี

สั่งมื้อเที่ยง  ลำเลียงมา  โอชาฉ่ำ                                  ทั้งแห้ง  น้ำ  ยำเกี๊ยว  ก๋วยเตี๋ยวหมี่

นงเยาว์ชม  นิยมซด  รสชาดดี                                     นานกินที  ปีหน  ดั้นด้นมา

พออิ่มพุง  มุ่งหน้า  พาวิลเลี่ยน                                                แยกแก่งเสี้ยน  เดี๋ยวเดียว  ก็เลี้ยวขวา

ราวยี่สิบ  กิโลเมตร  ระเห็ดมา                                     ผ่านลาดหญ้า  พล.ร.9  เข้าโรงแรม

จากสะพาน  ข้ามแคว  กาแฟขนม                               พบลันทม  ผู้ลดแลก  และแจกแถม

ขับนำหน้า  พาขบวนบึ่ง  ถึงโรงแรม                          ต่างยิ้มแย้ม  แฉล้มเฉลา  สิ้นเหงาใจ

                                                                                                                                                            2

ธรรมชาติ  จัดไว้ดี  สาดสีสลับ                                    เขาต้อนรับ  หับหอ  เตรียมรอไว้

พร้อมโต๊ะนั่ง  ตั่งเตียง  เพียงเอาใจ                              ของฝ่ายชาย  ให้หนึ่งหลัง  บังกาโล

พอเปิดม่าน  ผ่านแล  แควน้อยใส                                รี่เร็วไหล  ทะลายฝั่ง  ดั่งโมโห

ตะวันรอน  อ่อนแสง  แดงดวงโต                               เสียงสั่งโซ  ดาน้ำแข็ง  แถลงการณ์

ว่างอย่างไร  ไม่หวั่น  คืนวันนี้                                     ดูให้ดี  พี่ดำรง  คงสงสาร

ขาไก่ซุป  อุปกรณ์  บริการ                                          เขารู้งาน  รู้ขนาด  จัดหามา

เห็นเบนซ์จอด  แน่ใจ  ไม่บกพร่อง                              ต่างยิ้มย่อง  คล่องลิ้น  รินบางหนา

กล่อมกระเดือก  เลือกเมนู  ชูโอชา                              จวบเวลา  ฟ้าดำ  ชื่นฉ่ำทรวง

น้ำแข็งหมด  ไปเอามา  อย่าให้ขาด                              เปิดชีวาส  เดวา  อย่าได้หวง

ขวดลำไย  ไวน์อร่อย  ค่อยค่อยตวง                             นิกูลล่วง  หลับก่อน  นอนสบาย

ได้ฉายา  ยูเทิน  แกเพลินเป่า                                        หมั่นเขย่า  ยานัตถุ์  จนหวัดหาย

หมวดนิกูล  หุ่นกระบอก  ออกลวดลาย                      เลียนแบบ  พลาย ชุมพล  คนเป็นมอญ

เสียงโวยวาย  โหวกเหวก  เหมือนเจ๊กตื่น                    ตกดึกดื่น  ตื่นขึ้นมา  ฟังมาหอน

สงัดเงียบ  เชียบละมุน  นิกูลนอน                                หลับไปก่อน  ตอนสี่ทุ่ม  หายกลุ้มใจ

คุณลันทม  ลมติด  ฟิตผยอง                                        ดวดยาดอง  ของดำรง  ไปก๊งใหญ่

รินโซดา  ซ่ากล่อมกลม  ผสมไวน์                              ก่อนลาไป  พักผ่อน  นอนโฮเตล

เริ่มเครงโครง  ดำรงอี๊ด  เครื่องติดฉุย                          ดื่มฉลุย  คุยดึกดื่น  เรื่องตื่นเต้น

ผู้พันปื๊ด  แกนั่งเฝ้า  เหมือนเข้าเวร                               โซดาเย็น  น้ำแข็งเยือก  เลือกบรรเลง

ฝ่ายน้องหญิง  ยิงเรือ  ไม่เบื่อหน่าย                              ควักเงินจ่าย  ตามเมนู  ดูโฉงเฉง

สงสารเธอ  เจอรันทด  อดครวญเพลง                         ฟังจักจั่น  ลั่นบรรเลง  เพลงพฤกษ์ไพร

ต๋อยกับแอ๊ว  แจวไปก่อน  นอนอุตุ                              มีเจ้าปุ๊  บริหาร  จัดการให้

สุนันทา  พาหลานทัวร์  ชื่นหัวใจ                                สลบไสล  รอรุ่ง  วันพรุ่งมา

อาหารเช้า  อิ่มหนำ  สำราญชื่น                        แย้มระรื่น  ชื่นจิต  น่าอิจฉา

แหวกไทยมุง  พุงกาง  ชักพร่างตา                              แอบหลบมา  หลับตางีบ  เพียงจิ๊บเดียว

ขบวนบุญ  หุนหัน  ให้ทันพระ                                                ขับเกะกะ  จังหวะกระบวน  ชวนสุดเสียว

วัดพุปลู  อยู่ไม่ไกล  ใกล้นิดเดียว                                เร่งรถเลี้ยว  ตามลันทม  ชมวนา

            มนต์เมืองกาญจน์  ญาณศักดิ์สิทธิ์  นิมิตให้     ชมแนวไพร  ไคล้ขุนเขา  เคล้าพฤกษา

น้ำไหลกราก  หลากเลาะธาร  ตระการตา                   ฉ่ำธารา  ปลาน้อยใหญ่  ว่ายเวียนวน

สัมผัสกาญจน์  นานครั้งใด  ก็ไม่เบื่อ                           น่าเหลือเชื่อ  เมื่อมีงาน  ทานกุศล

                                                                                                                                                            3

ทอดกฐิน  ดินแดนพุทธ  สุดมงคล                              ถึงมณฑล  วิสุงคาม  งามพุปลู

ตำบลสิงห์  วิ่งไปเจอ  อำเภอไทรโยค                          สิ้นสร่างโศก  โรคมลาย  หายหดหู่

ยินเสียงไมค์  กระจายเพรียก  เรียกไปดู                       วัดพุปลู  ตั้งโรงทาน  อาหารพูน

            เต่ากับล้ำ  นำกองหน้า  มาถึงก่อน                   นั่งพักผ่อน  ชะเง้อคอ  รอกองหนุน

คุณสมยศ  สุมน  รัตนกุล                                             ศรัทธาบุญ  ลงรถเมล์  เกร่เข้ามา

ไม่พอครู่  ดูอีกที  มีอีกสาม                                          คนขับนาม  ชื่อว่าหนึ่ง  บึ่งมาหา

นำคุณพ่อ  ไปทำบุญ  กับคุณอา                                   คือปรีชา  และมานะ  เหมือนพระเณร

            เสวนา  พาให้หิว  เดินลิ่วรี่                               ต้มแกงมี  อยู่ไม่ไกล  ใครก็เห็น

ผ่านหมู่สงฆ์  ลงขัน  นั่งฉันเพล                                   ลูกศิษย์เบน  เข้าโรงทาน  ฉันด้วยคน

ค้นคดข้าว  ลาดแกง  พะแนงหมู                                 ไม่พอครู่  ก็อิ่มหมี  มีกุศล

กฐินแห่  แตรนำ  ซ้ำเวียนวน                                       กลุ่มสาธุชน  วนโบสถ์  ประณตนำ

ก่อนเวลา  ผ้าถวาย  ให้บริจาค                                     ศรัทธามาก  ควักจ่าย  ให้หนับหนำ

ร่วมวิธี  ชี้ประมูล  ช่วยหนุนนำ                                   บังเกิดธรรม  จริยา  ศรัทธาทาน

            ท่านพระครู  กาญจนา  บุญญานุรักษ์              ท่านเอ่ยปาก  อยากให้จิต  อธิษฐาน

ทอดกฐิน  ได้ยินฟัง  ตั้งใจกรานต์                               เลขลงยันต์  งวดหน้า  ถ้าอยากรวย

เจ้าคณะ  ตำบล  องค์นี้นั้น                                           ได้สร้างสรรค์  กุฎีโบสถ์  ไว้สดสวย

บ่งเลขเด่น  เห็นโฉลก  โชคอำนวย                             คนถูกหวย  ช่วยกุศล  บนใบบุญ

            บุญสำเร็จ  เสร็จกฐิน  กลับถิ่นเก่า                   บ้างเพื่อนเรา  เขาแยกทาง  ต่างผลันผลุน

อันส่วนใหญ่  ไปกรุงเทพ  เสพย์ผลบุญ                       ที่ใต้ถุน  ภัตตาคาร  บ้านพิชัย

มื้อเย็นนี้  มีอารมณ์  สมสนุก                                        หัวอกจุก  ถึงลำคอ  จนงอหาย

ตลกมานะ  นิกูล  สองวุ่นวาย                                      วาดลวดลาย  หลายชั้นเชิง  รื่นเริงรมย์

 

            จบนิราศ  เมืองกาญจน์  สถานถิ่น                   ทอดกฐิน  ดินแดนนี้  บุญดีสม

บันทึกกลอน  สุนทรไว้  ให้เพื่อนชม                           รักเกลียวกลม  สมราชา  ศรัทธาบุญ

 

 

                                                                                                                                                พล.ต.วิเชียร  ชูปรีชา