นิราศ  “เพื่อนราชา”

ในโอกาสคิดถึงเพื่อน

โดย พลตรี วิเชียร  ชูปรีชา

ราชาธิวาสรุ่น  ๐๑

 

            แต่งเป็นกลอน  ย้อนอดีต  คิดไปเรื่อย       พอหายเมื่อย  เขียนใหม่  ไว้อ่านเล่น

ปลงว่าเกิด  แก่เจ็บตาย  ไม่วายเป็น                       ไม่ซ่อนเร้น  ลึกลับ  กับความจริง

คิดรวบรวม  เรื่องเก่า  มาเล่าซ้ำ                             เรียงถ้อยคำ  นำมาร่าย  เรื่องชายหญิง

ไม่เคยเลือน  เพื่อนรัก  ร่วมพักพิง                         คำเขียนอิง  ประวัติ  เรียงจัดกลอน

ขอจับความ  ตามเรื่อง  อย่าเคืองขัด                      เชิงนิราศ  อาจได้รู้  ถึงครูสอน

นั่งรำลึก  นึกขึ้นได้  ใส่ในกลอน                           เป็นอนุสรณ์  ย้อนยุค  เพื่อทุกข์คลาย

            ชีวิตเปลี่ยน  เวียนผัน  นั้นเรื่องเล็ก                        ตอนเป็นเด็ก  เป็นเณร  ไม่เห็นสาย

ชักเริ่มท้อ  พอตอนแก่  แม้เสียดาย                                    ก็ไม่วาย  หายคิด  ถึงมิตรเดิม

วัยจำเริญ  เดินระหว่าง  ทางไม่เปลี่ยว                  ไม่โดดเดี่ยว  เดินดี  มีเพื่อนเสริม

วัยจำล่วง  ห่วงโน่นนี่  มีมาเติม                              เรื่องมาเพิ่ม  เติมจากสั้น  ผันเป็นยาว

ถึงวันนั้น  วันเดียวดาย  ตายเดี่ยวโดด                   สิ้นทั้งหมด  สิ้นจดจำ  สิ้นดำขาว

คงความจริง  ทิ้งเอาไว้  ในเรื่องราว                      จึงเขียนเล่า  อนุสรณ์  ตอนเตรียมตัว

            “วัดราชา  สถาบัน  อันบรรเจิด                  ให้กำเนิด  เกิดผลบุญ  ทูนเหนือหัว

ให้ชีวิต  ลิขิตนำ  ตามเงาตัว                                               ผูกพันพัว  เป็นตัวตน  บนเส้นทาง

เป็นโรงเรียน  มัธยม  สังคมรู้                                  สถานอยู่  คู่กับวัด  สมบัตรสล้าง

เยาชน  คนแรกรุ่น  หุ่นสำอาง                                สู่แนวทาง  บำรุงธรรม  ล้ำวิชา

เชิดชมพู  ชูน้ำเงิน  เกินศักดิ์ศรี                              คุณความดี  มีวินัย  วิสัยสง่า

แหล่งพากเพียร  นักเรียนรู้  ครูเมตตา                   สรรจรรยา  สถาวร  ก่อนลาไกล

พระคุณนี้  มิแรมร้าง  ทั้งชีวิต                                 คงสถิต  มิตรและครู  แม้อยู่ไหน

นานแสนนาน  กาลเลยล่วง  ยังห่วงใย                  ฝังดวงใจ  มั่นไมตรี  มิลืมเลือน”

            เคยอยู่วัด  พายนาวา  บิณฑบาต                 ใช่จะขาด  การศึกษา  เป็นป่าเถื่อน

รสชีวิต  สถิตใจ  ให้ใฝ่เตือน                                  แค่ดูเหมือน  เมื่อไม่นาน  ที่ผ่านมา

ธรรมชาติ  สะอาดนที  มีท้องทุ่ง                            ไม่ไกลกรุง  เทพทิพย์  ห้าสิบกว่า

กิโลเมตร  เขตสดใส  ไกลสายตา                          ท้องทุ่งนา  ถิ่นกำเนิด  แหล่งเกิดกาย

เรียนกับครู  ผู้ใจดี  มีธรรมะ                                    อยู่กับพระ  สอนสวดมนต์  จนหลากหลาย

มีพ่อแม่  ดูแลเห็น  ไม่เว้นวาย                                เป็นเด็กชาย  สบายมาก  แม้ยากจน

            เกิดปทุม  ลุ่มปากคลอง  เชียงรากน้อย     พอโตหน่อย  เป็นลูกศิษย์  คิดกุศล

ถูกขับไล่  ไปโรงเรียน  วิ่งเวียนวน                                    เรื่องซุกซน  โดนไม้เรียว  ยังเสียวใจ

อยุธยา  บางปะอิน  ถิ่นเชียงราก                             โดดข้ามฟาก  พ้นฝั่ง  ก็ยังไหว

ห้านาที  ไม่มีเหงื่อ  ให้เบื่อใจ                                 มองเห็นได้  ใกล้บ้าน  กั้นด้วยคลอง

พี่ทั้งสาม  ทำนา  หาปลาผัก                                               อยู่กับปลัก  หนักบ่า  ฝ่าบึงหนอง

ทนสู้ทน  ยามฝนแล้ง  น้ำแห้งคลอง                     หมักกับดอง  คือของดี  มีให้กิน

ไปสีข้าว  เอามาหุง  ผักบุ้งยอด                              จะผัดทอด  ก็เป็นผัก  จากท้องถิ่น

เก็บสายบัว  ถั่วฝักยาว  สาวมากิน                         คลุกเคล้ากลิ่น  คอกหมู  คู่สาบควาย

            ปีสองพัน  สี่ร้อย  เก้าสิบหก                       มีโฉลก  ยกขึ้นเล่า  เราทั้งหลาย

รำลึกเตือน  เพื่อนเก่า  เข้ากลอนกราย                  ความจำหาย  จำได้บ้าง  นั่งเขียนกลอน

เชียงรากน้อย  คล้อยมา  หาเมืองหลวง                หวังตักตวง  สิ่งรู้  ที่ครูสอน

จากเพื่อนเก่า  เข้ามาอยู่  อู่ใหม่นอน                     ยังอาวรณ์  อาราม  ธรรมนาวา

เสียงสวดมนต์  บนหอพระ  จะจางหาย               ทั้งเช้าบ่าย เย็นค่ำ  ร่ำโหยหา

โบสถ์กุฎี  หอฉัน  บรรณศาลา                               บอกหลวงตา  ลาจร  จะย้อนเยือน

            สภาพการณ์  บ้านนอก  อยากบอกเล่า      สมัยเก่า  กับเดี๋ยวนี้  ไม่มีเหมือน

ความผิดแผก  แตกต่าง  ยังฝังเตือน                      ไม่ลบเลือน  เคลื่อนคลาย  ในทรงจำ

แลเมืองกรุง  รุ่งวิไล  ในความคิด                          ญาติสนิท  มีอยู่ด้วย  ช่วยใจป้ำ

คงไม่เหงา  เศร้ารำพึง  ถึงระกำ                             ต้องฝืนทำ  ใจสู้  เป็นผู้เรียน

เสียงผู้ใหญ่  ในบ้านนอก  เขาบอกกล่าว              ส่งมันเข้า  เรียนสูง  มุ่งอ่านเขียน

เห็นวี่แวว  แพรวพราย  ให้พากเพียร                    ไปเล่าเรียน  ต่อไป  เป็นนายคน

ความเป็นเด็ก  เล็กน้อย  กระจ้อยจิ๊ด                     ไม่เคยคิด  เรื่องใด  ให้สับสน

อยากเพียงอยู่  ใกล้แม่พ่อ  ก็พอทน                       จะดิ้นรน  ไปทำไม  เพราะควายมี

            “จะโชคบุญ  หนุนนำ  หรือกรรมก่อ         จึงถูกหล่อ  หลอมมา  ถึงครานี้

จากวัยเยาว์  เข้าเกษียณ  เวียนหลายปี                   ผ่านชีวี  มามาก  อยากแต่งกลอน

จากบ้านนอก  คอกนา  ปัญญาด้อย                                   เรียนมาน้อย  ไม่ค่อยรู้  ที่ครูสอน

แม้สัมผัส  กับผู้ดี  มิอาวรณ์                                                เด็กหัวอ่อน  สอนง่าย  แถมใจงาม

จะว่าโม้  โอ่อ่า  ก็หาไม่                                           ถ้าหมั่นไส้  ตัวผู้เขียน  เวียนไปถาม

กลอนมันพา  อย่าโกรธเคือง  เอาเรื่องความ        เขียนไปตาม  ความรู้สึก  นึกเรื่องจริง

เกือบสองร้อย  น้อยไฉน  เพื่อนใหม่ฉัน               ชายทั้งนั้น  ร่วมเรียนเล่น  เว้นผู้หญิง

จากมอหนึ่ง  ถึงมอหก  ยกอ้างอิง                         เขียนบอกสิ่ง  ปรากฏการณ์  ให้อ่านกัน

ห้อง  ก.ข.  มอหนึ่ง  จะพึงเล่า                                เราสอบเข้า  โดยวัด  คัดเลือกสรร

อีกสองห้อง  ค.ง.  เล็กพอกัน                                 เด็กจัดสรร  จากกระทรวง  คุรุสภา

            ถึงตัวเรา  เข้าราชา  มาทีหลัง                     เกือบสิ้นหวัง  ทางสำนึก  เรื่องศึกษา

โชคมหาศาล  อาจารย์ขุน  วิรุฬจรรยา                  ท่านเมตตา  บอกรับ  จับเข้าเรียน

ใช่ว่าเส้น  จึงได้เข้า  เล่าสักนิด                              เคยเป็นศิษย์  สิริสาสน์  สอบได้เหรียญ

กลับถอยท้อ  ต่อท่าที  มิอยากเรียน           เกือบจวนเจียน  กลับบ้านนอก  นอนคอกควาย

สิบเอ็ดขวบ  เท่านั้น  ฉันเลยเบี้ยว                          เหตุผลเดียว  คิดถึงบ้าน  พาลใจหาย

ถูกผู้ใหญ่  ไกล่เกลี่ย  เพราะเสียดาย                      หมดลวดลาย  ยอมเรียน  ที่ราชา

ตอนเรียนใหม่  ใจคำนึง  คิดถึงบ้าน                      มักจะพาล  โยเย  เกถลา

เคยถูกจับ  กลับมาเรียน  เพียรวิชา                         ถึงสี่ครา  ห้าหน  จำนนเอง

คงโชคดี  มีเพื่อน  เตือนจึงรู้                                   ตงโชคดี  มีคุณครู  สอนให้เก่ง

เรียนก็ดี  สอบก็เด่น  เป็นกันเอง                            เรื่องจะเบ่ง  นักเลงใหญ่  ไม่เคยมี

เพราะรักเพื่อน  รักครู  อยู่เรียนต่อ                                    ปัก ร.ว.  บนอกเสื้อ  เพื่อศักดิ์ศรี

จะบอกกล่าว  เล่าความ  ที่จำมี                              นำมาตี  แผ่เผื่อ  เพื่อสุขใจ

จำได้ว่า  ฝ่าสนาม  ครูนำส่ง                                   อาจารย์หวง  จูงพา  มาส่งให้

ภูมิศาสตร์  เรียนกันอยู่  ครูอุไร                              ห้องเรียนใหม่  ไวเคยชิน  กลิ่นลำแพน

มีครูพยงค์  ครูเอ็นดู  ครูฝึกสอน                            งามแต่งอน  มาสอนด้วย  สวยงามแสน

ส่งจากสวน  สุนันทา  มาสอนแทน                       ให้คะแนน  สอบไล่  ท่านใจดี

ครูอวบป๋า  อาขยาน  อ่านอังกฤษ                          เสียงฟุดฟิด  ฟุบฟับ  จนหลับปี๋

ปล่อยวิ่งเล่น  ครึ่งชั่วโมง  คงจะดี                         ครูจะตี  ให้ก้นลาย  ใครซุกซน

มะฮอกกานี  มีก้าน  ตระหง่านเงื้อม                      กระโดดเอื้อม  เกี่ยวย้อย  เคยห้อยโหน

เมื่อต้องลม  โหมกิ่ง  วิ่งรอบโคน              สะดุดรากโจน  โดนกระโดด  กระเดกกระดอน

เตะตะกร้อ  เกลื่อนกลาด  ลูกเก่ากลิ้ง                   บอกอย่าวิ่ง  ครูยืนแหว  แลสลอน

วิ่งจับตี่  มิเบื่อ  เหงื่อเปียกปอน                              วิ่งตะลอน  ไล่ลับ  จับไม่ทัน

เห็นลูกหิน  บินปลิว  ลิ่วละโลด                            กระดอกกระโดด  เด้งกระดอน  กระดกผัน

เต้นตังเต  ไต่แตะ  ตึกไชยันต์                                 บอลล์ตะบัน  เตะตะบึง  ถึงตีนบอม

เห็นไม้เรียว  เสียวก้น  จะโดนไหม                       กางเกงใส่  สองชั้น  ให้มันหลวม

หน้าเสาธง  คงได้เห็น  เป็นส่วนรวม                    กระอักอ่วม  โอดโอย  กระอักอาน

เกาะรถเมล์  เกร่ซอย  คอยถากถาง                                   โดดรถราง  กร่างกราย  ใจอาจหาญ

ดีดกระดิ่ง  กรุ๊กกริ๊ก  บนจักรยาน                          เสือหมอบคลาน  คืบเข่า  เข้าห้องเรียน

เลขคณิต  วิทยา  ภาษาศาสตร์                                ทำปั้นวาด  สลักแกะ  แคะขีดเขียน

มีไม้เรียว  เฟี้ยวฟับ  พร้อมปราบเซียน                  เด็กพากเพียร  คุณครูพร่ำ  นำวิชา

พีชคณิต  ตรีโกณ  และบ่นท่อง                              บทขับร้อง  ทำนองเห่  และเรขา

ทั้งความร้อน  ลดเพิ่ม  เสริมปัญญา                       อีกไฟฟ้า  เสียงแสง  และแรงกล

มีไซน์คส  คอตเส็ค  มุมเล็กป้าน                            สมการ  อันโนนแก้  แม้สับสน

รามเกียรติ์  เงาะป่า  หน้าชอบกล                           คุณครูบ่น  นักเรียนท่อง  ทุกห้องเรียน

            การศึกษา  สี่ปี  ที่ประถม                            มัธยม  หกปี  ที่รับเหรียญ

เพราะสอบเก่ง  ถูกเล็งหา  ว่าเป็นเซียน                แต่ตอนเรียน  มักจะหลับ  ดูกลับกัน

ก่อนจะเข้า  มหา’ลัย  ดั่งใจสม                               ต้องเตรียมอุดม  ศึกษา  อีกสองชั้น

รุ่นศูนย์หนึ่ง  ผึ่งผาย  สลายพลัน                           ต้องแยกกัน  หาหนทาง  ต่างที่เรียน

พกความรู้  ที่ครูให้  เอาไปสอบ                             ทางที่ชอบ  ทางที่รัก  ใบสมัครเขียน

บ้างสอบสู้  สับสน  วกวนเวียน                             ทีตอนเรียน  ไม่สน  จึงจนใจ

            อยากจะเล่า  กล่าวกลอน  ถึงตอนนั้น       สุดจะสรรค์  สิ่งรู้  เพื่อนอยู่ไหน

เพียงบางคน  เคยชิด  สนิทใน                                เพราะอยู่ใกล้  กลมเกลียว  เกี่ยวข้องกัน

คงจะเล่า  กล่าวถึง  ศูนย์หนึ่งรุ่น                           เมื่อหากคุณ  อยากรู้ใคร  ให้บอกฉัน

จะนำเขียน  ลงในกลอน  ร่อนสู่กัน                       อ่านให้มัน  เขียนให้มัน  ผันเป็นกลอน

            เรียกว่ารุ่น  ศูนย์หนึ่ง  คิดถึงเหตุ                จุดสังเกต  ปีการ  ศึกษาสอน

ห้าร้อยหนึ่ง  ปีสุดท้าย  ใจอาวรณ์                          เพื่อนจากจร  สลอนสลาย  อาลัยลา

นับหกปี  ที่อยู่กัน  นั้นไม่มาก                                 เมื่อตอนจาก  อยากจะเพรียก  ร้องเรียกหา

บ้างโยงเหย้า  เฝ้าสมบัติ  วัดราชา                          บ้างฟันฝ่า  มุ่งหน้าสู้  ตามลู่ทาง

ดังวิหค  นกกา  เคยอาศัย                                        สุขอยู่ใน  ชมพูน้ำเงิน  ไม่เมินหมาง

จบมอหก  ตกราศี  ที่แยกทาง                                 ไปเคว้งคว้าง  หลบหลีก  ด้วยปีกบิน

ศิษย์ท่านขุน  วิรุฬจรรยา  มีมารยาท                      ไม่เคยขาด  ศาสตรา  ภาษาศิลป์

มีลู่ทาง  นำพา  หาเลี้ยงกิน                                      ไม่ทุศีล  มุสา  ปัญญางาม

ตราบจวบจน  ด้นดั้น  ฟาดฟันสู้                            ชาวโลกรู้  ผู้ฟันฝ่า  ถึง๕-๓

ยังเกาะแน่น  เหนียวหนับ  กับความงาม              ยังติดตาม  ถามถึง  ศูนย์หนึ่งเรา

ถึงเฉลี่ย  เกลี่ยอายุ  สู่วันแย่                                     เรื่องความแก่  ไม่มาเกี่ยว  ให้เหี่ยวเฉา

เจ็ดสิบปี  ที่ผ่าน  ไม่นานเนา                                   เพื่อนของเรา  ยังกร่าง  ดังราชา

            ต่อจากนี้  ที่จะเล่า  และกล่าวถึง                รุ่นศูนย์หนึ่ง  ซึ่งเพื่อนรัก  กันหนักหนา

ร่วมก่อตั้ง  สร้างรุ่น  ศูนย์หนึ่งมา                                      จึงติดตา  ติดใจ  ในวัยเรียน

เขาหนุ่มใหญ่  ใครก็รัก  นักต่อสู้                           เพื่อนต้องรู้  จักสุวิทย์  สถิตเสถียร

อยู่งานเขต  หลากหลาย  ได้วนเวียน                     เคยเยี่ยมเยียน  หาสู่  เพื่อนคู่ใจ

เรียกเพื่อนมา  ปรึกษาด้วย  ช่วยวางแผน              รวมกันแน่น  เหนียวสนิท  จิตแจ่มใส

เลี้ยงสังสรรค์  ผันแหล่ง  หลายแห่งไป                ได้น้ำใจ  ไมตรี  มีเพื่อนมา

ก่อนเกษียณ  เวียนครบ  จบชีวิต                            ไปสถิต  ภพใหม่  ในเบื้องหน้า

มีผลงาน  จารจารึก  นึกขึ้นมา                                ปรารถนา  รักเพื่อน  เตือนทรงจำ

มีลูกหลาน  หลงเหลือ  อยู่หลากหลาย                 เคยเยี่ยมกราย  ไปมา  จนคราคร่ำ

ต่างอยู่ดี  มีหลักฐาน  ทั้งงานทำ                             ความทรงจำ  เดิมเหมือน  ไม่เลือนลืม

            นับสิบปี  ที่ศูนย์หนึ่ง  ถึงเกษียณ                ยังวนเวียน  เพียรสัมพันธ์  กันปลาบปลื้ม

กิจกรรม  สม่ำเสมอ  ไม่เผลอลืม                           ทั้งกินดื่ม  ยังได้  ไม่เปลี่ยนแปลง

ไปพบปะ  สังสรรค์  กันเสมอ                                นัดไปเจอ  เพื่อนรัก  เป็นหลักแหล่ง

มีประสาน  ของรุ่น  หัวรุนแรง                               คนเสื้อแดง  ชิดซ้าย  ท่านไม่ยอม

            ภัตตาคาร  แห่งนี้  ไม่มีทุกข์                        มีแต่สุข  สมจินต์  ของกินพร้อม

สามหมื่นเพลง  บรรเลงก้อง  ร้องจากคอม          นักร้องออม  ถนอมเสียง  ถึงเกี่ยงกัน

สุราแรง  น้ำแข็งเย็น  เห็นฟองฝอย                                   แขกทยอย  คอยต้อนรับ  ประทับขวัญ

มีกับแกล้ม  แหนมรส  ซดกับมัน                           ลำโพงลั่น  สนั่นจอ  คลอเสียงไมค์

ประหยัดทรัพย์  รับความสุข  ทุกคนยิ้ม                ท้องก็อิ่ม  รสก็ดี  หาที่ไหน

มาภัตตาคาร  ที่ใต้ถุน  อบอุ่นใจ                             อยู่ไม่ไกล  ไปทุกครั้ง  นั่งร้องเพลง

กดทันที  ไม่มีรอ  ขอให้สั่ง                                     จะร้องดัง  ร้องก้อง  หรือร้องเก่ง

ร้องไม่ดี  คีย์ไม่ลง  หลงเนื้อเพลง                         เชิญบรรเลง  ตามสบาย  ไม่ว่าเลย

ใครอยากทำ  รำเต้น  เล่นจำอวด                            อยากจะดวด  ส่งเสียงดัง  หรือนั่งเฉย

ถ้าสนใจ  ให้รีบโทร  โผล่ไปเลย                            ไปลงเอย  กันที่บ้าน  ประธานพิชัย

มีเรือนชาน  บ้านใหญ่  ใต้ถุนสูง                            ริมท้องทุ่ง  รวงทอง  มองสดใส

คลื่นยอดข้าว  กระเส่าโรย  ลมโชยใบ                  เยียวยาใจ  ไคล้คลุก  สุขฤดี

มวลพฤกษา  หญ้างาม  ตามขอบสระ                   มีแม่พระ  เรียกว่า  “หวง”  คงสุขศรี

ฟังเพื่อนลูก  ร้องรำ  ทำดนตรี                                สวดคัมภีร์  ก่อนนอน  ให้พรมนต์

วันพระใหญ่  ไปทำบุญ  หนุนชีวิต                                    พบญาติมิตร  ปฏิบัติ  วัดต้นสน

ลูกหญิงชาย  ในปกครอง  เพียงสองคน               มาเยี่ยมยล  อยู่เสมอ  เจอดีใจ

คือเจ้าแก๊ป  ฝึกกัปตัน  ใกล้วันจบ                         คงได้พบ  อนาคต  ที่สดใส

ส่วนเจ้ากานต์  มีงานทำ  ชื่นฉ่ำใจ                         เป็นครอบครัว  ที่สบาย  เมื่อปลายมือ

ท่านพิชัย  ในหน้าที่  ประธานรุ่น                           นับว่าบุญ  ชาวราชา  น่านับถือ

เริ่มบ่นท้อ  บ้อท่า  อยากรามือ                                พวกเรายื้อ  เอาไว้ก่อน  อย่าผ่อนปรน

แกซื่อสัตย์  สุจริต  ติดงานใหญ่                             ด้วยน้ำใจ  บริสุทธิ์  ดุจกุศล

มีกฤษณา  ร่วมใจ  ไร้กังวล                                     เราทุกคน  อยากให้รั้ง  นั่งประธาน

ได้วิเชียร  กับปรีชา  ปรึกษาให้                              ทำอะไร  ให้ข้อคิด  จิตประสาน

ทุกอาทิตย์  ไปปรึกษา  น่ารำคาญ                          ใต้ถุนบ้าน  อาหารแกล้ม  แถมดนตรี

แฟนฟันแท้  ฟันปลอม  ไม่ยอมหยุด                     กับแกล้มบูด  ไม่กลับบ้าน  เพิ่มสันสี

จัตุพล  ซอยสิบสอง  ร้องเพลงดี                           กล่อมราตรี  ให้หายซึม  ลืมทุกข์ภัย

หมวดพิกุล  ลงทุนแหลก  แจกให้รุ่น                    ไม่รู้ทุน  อันมีมาก  มาจากไหน

ก็ที่แท้  แพ้ไม่เป็น  จะเล่นอะไร                             คงเป็นไพ่  เอี่ยวเกือก  เลือกตัวเก็ง

อัธยาศัย  ไมตรี  แกมีพร้อม                                     รู้ถนอม  น้ำใจ  เพื่อนได้เก่ง

เดี๋ยวนี้กลาย  เป็นนักร้อง  ท่องบรรเลง                 ลีลาเจ๋ง  เต้นส่าย  พลายชุมพล

นานนานที  มีสมพงษ์  มาชงเหล้า                         แล้วนั่งเฝ้า  บางหนา  อย่าเข้มข้น

แกเลิกดื่ม  ไปหลายปี  เพราะหนีจน                     กลายเป็นคน  ถือธรรมะ  พระธัมโม

เกษตรที่เหลือ  เบื่อบ่อนไก่  ออกไปทั่ว               ไม่ชอบมั่ว  ชุมนุม  กลุ่มจิ๊กโก๋

มหาธาตุ  ท่าพระจันทร์  วันไหนโซ                      พบอาโก  กินก่อน  ทั้งร้อนเย็น

เช่าเรือข้าม  น้ำพระยา  หาหลวงพ่อ                     นกปลาขอ  ส่วนบุญสุข  พ้นทุกข์เข็ญ

มาใต้ถุน  ทุกครั้ง  ทั้งเช้าเย็น                                  เมินปลาเป็น  เน้นปลาตาย  ใช้ยำแกง

อู๊ดมานะ  กะวัน  หลานไม่ยุ่ง                                 จิตใจมุ่ง  ถือถุงหมู  ดูเข้มแข็ง

สูตรสวีเดน  เอ็นหนัง  สั่งนางแดง                                    ราคาแพง  ร่วมด้วย  ช่วยร้องเพลง

ค่าน้ำนม  แม่นั้น  มันใหญ่หลวง                            เป็นผลพวง  แห่งสีสัน  ให้มันเจ๋ง

เสียงดนตรี  ไม่ต้อง  ข้าร้องเอง                              กล่อมบรรเลง  เพลงคำรณ  คนชื่นบาน

แอ๊วดำรงค์  ตงพักผ่อน  เพราะนอนป่วย             รอโชคช่วย  ด้วยเวลา  น่าสงสาร

พวกเราสร้าง  ทางกุศล  กราบบนบาน                 หลวงพ่อแก่นจันทร์  บันดาลดล  พ้นโรคภัย

ฟังเจื้อยแจ้ว  มาแล้วเขา  เขย่าขรม                                    พรภิรมย์  ลันทมนันท์  นั้นเสียงใส

หอบแกล้มกับ  นับสิบ  รีบมาไว                            สั่งลาไทร  ส่ายบัวบาน  ซ่านบัวตูม

เสียงอ่างทอง  ก้องชัด  ไม่ขัดหู                             ร้องเพลงคู่  ร้องเดี่ยวได้  มีหลายขุม

เด็ดดอกบาน  หันไปหา  คว้าดอกตูม                   ระวังปทุม  บัวน้องช้ำ  ไม่หนำทรวง

อาจารย์พลรบ  ยิ้มงาม  จำกันได้                            เคยรับใช้  ในราชา  มาใหญ่หลวง

เป็นผู้ช่วย  อำนวยการ  สรรผลพวง                      กาลเลยล่วง  ช่วงเกษียณ  ท่านเวียนมา

เราดีใจ  ที่ได้พบ  พลรบยิ้ม                                     ใจเปี่ยมปริ่ม  ด้วยความรัก  เป็นหนักหนา

สมัยนายก  ร่วมงานอยู่  อู่ราชา                               คลองท่าวา  สุกรี  ที่คำนึง

คนรู้ใจ  ใกล้ชิด  สนิทสนม                                     หัวท้ายจม  ล่มกับรุ่น  ของศูนย์หนึ่ง

มาร่วมร้อง  ทำนองนำ  เพ้อรำพึง                          ชวนคิดถึง  ซาบซึ้งใจ  ในเสียงเพลง

นักร้องหลัก  กระชากไมค์  ใช่ใครอื่น                  มาดาษดื่น  ยืนร้อง  จ้องเขม็ง

คุณปรีชา  เมื่อคว้าไมค์  ได้ทุกเพลง                      กล่อมบรรเลง  สุนทราภรณ์  ย้อนอารมณ์

คุณบวร  ปทุมมาลย์  ท่านก็ชอบ                            นานนานลอบ  เลี้ยวรถ  ปรากฏโฉม

เสียงนวลนิ่ม  โน้มน้าว  เร้าอารมณ์                       ทุกคนชม  เสียงร้อง  ของเพื่อนเรา

เหมือนจตุพล  คนเก่ง  เพลงสุเทพ                                    เขามือเก็บ  ซุกใส่  ในกระเป๋า

กางเกงตุง  รุงรัง  ไม่สร่างเซา                                เสียงกระเส่า  เฝ้าบรรเลง  เพลงชรินทร์

หนุ่มเมืองกรุง  ทุ่งรวงทอง  สองชายฝั่ง               เสียงร้องสั่ง  ยังเรือนแพ  กระแสสินธุ์

ถนัดศรี  หยาดนภา  และธานินทร์                         ไม่ได้กิน  จัตุพล  คนตาซึม

ซอยสิบสอง  สายไหม  ใครอยากสน                    เชิญทุกคน  จับไมค์  แล้วได้ปลื้ม

เคยไปแล้ว  หลายครั้ง  ยังไม่ลืม                            ร้องกันตรึม  ลืมทุกข์  สุขทั้งคืน

ชวนมานะ  บำรุงศิลป์  แกหินหัน                          ไม่ตรงวัน  ท่านว่าง  ยังขัดขืน

แกตอบรับ  เราเมื่อใด  ได้ฮาครืน                           ให้ตัวยืน  กลืนได้  ไมค์ทั้งอัน

ปื๊ดกับปุ๊  รู้ใจ  เรียกใฝ่หา                                        ชวนให้มา  ร่วมด้วย  ช่วยสีสัน

ปทุมธานี  มีชีวิต  จิตชีวัน                                        นับเนิ่นนาน  ผ่านสนุก  แสนสุขใจ

ต่างคุยเคล้า  กระเซ้าแหย่  แค่โมโห                      ร้องเพลงโชว์  ใส่กัน  สนั่นไหว

ให้เหลือบหมา  ปลาปู  งูลิ้นไร                               มันตกใจ  แอบมาฟัง  เกือบทั้งคืน

วิชัยต้อย  คอยวันว่าง  ตั้งใจจ่อ                              ทุกวันรอ  ให้จัด  ไม่ขัดขืน

ถึงเวลา  มาบอกได้  เป็นไฟฟืน                             จะค่อนคืน  ข้ามวัน  ฉันไม่กลัว

มีเพื่อนสาว  คราวน้อง  มาร้องด้วย                       เป็นสาวสวย  สดใส  เมื่อไฟสลัว

ไม่หยุดร้อง  จ้องยึดไมค์  สายพันตัว                     เป็นนายหัว  จากใต้  น้ำใจดี

เป็นความสุข  ทุกข์คลาย  ในวัยดึก                        อย่าไปนึก  หู่ใจ  หรือหน่ายหนี

ได้คุยกัน  สมานจิต  มิตรไมตรี                               ปทุมธานี  ท่านพิชัย  ไม่ไกลเลย

            ผมร่ายกลอน  กล่าวมา  ถ้าซ้ำซาก             อ่านลำบาก  ยังดีกว่า  อย่านิ่งเฉย

เขียนเรื่อยเปื่อย  เมื่อยก็พัก  ไม่หนักเลย               คนคุ้นเคย  เลยมาเขียน  พูดเวียนวน

คิดถึงใคร  เอามาเขียน  เวียนให้จบ                       เพื่อนเคยคบ  เมื่อพบเห็น  เป็นกุศล

อันเกิดแก่  เจ็บตาย  นั้นว่ายวน                              หนีไม่พ้น  แตกต่าง  ทางเดียวกัน

            ใกล้สิบเจ็ด  ตุลา  วันอาทิตย์                      บรรดามิตร  คิดร่วมแรง  อย่างแข็งขัน

มุ่งอ่างทอง  ทอดผ้าป่า  หาบุญบรรพ์                   หากว่าฉัน  ได้ไป  จะร่ายกลอน

นำเรื่องร่าย  จ่ายแยก  แจกเพื่อนอ่าน                    ทำบุญทาน  เอาไว้  ในอนุสรณ์

เชิงบทบาท  ปราชญ์กวี  ศรีสุนทร                         อนุสรณ์  รุ่นศูนย์หนึ่ง  ได้พึงยล

คราวครบรอบ  วันราชา  ปีหน้านี้                          ร้อยแปดปี  พบเพื่อนรัก  อีกสักหน

กลับไปดู  อู่เคยเรียน  เคยเซียนซน                                    เราทุกคน  เป็นเจ้าของ  ควรต้องไป

รุ่นเรามี  สี่กรรมการ  ร่วมงานจัด                           ปฏิบัติ  งานมี  ที่มอบให้

สมาคม  ศิษย์เก่า  เราใส่ใจ                                      ผมพิชัย  มนัสมานะ  จะรอคอย

คุณมนัส  ศรีเพ็ญ  เห็นแกยุ่ง                                   รับงานมุ่ง  สร้างพระ  ไม่ละถอย

องค์ไสยา  ศรัทธาสถิต  ประดิดประดอย             แกะร่องรอย  โรงหล่อ  ขอต่อรอง

เตรียมพิธี  นิมนต์สงฆ์  ลงคาถา                             ลูกราชา  ควรทุกคน  เป็นเจ้าของ

รอกำหนด  จดราคา  ราชาจอง                               หลายคนจ้อง  ปองใจ  ไว้บูชา

คุณมนัส  ดอทคอม  เรายอมท่าน                           งานสื่อสาร  เว็บไซต์  ใช่หนักหนา

เปิดไปดู  จะรู้ได้  ในสัมมา                                     ชีวศิลป์  อย่าช้า  รู้เรื่องเรา

ที่ในนั้น  ท่านมีไฟล์  ให้กับรุ่น                               ต้องขอบคุณ  แทนเพื่อน  ไปเยือนเขา

มีความรู้  ความลับ  จับเรื่องราว                             จะรู้ข่าว  พวกเราได้  เข้าไปดู

จะเป็นใคร  ไปเยือน  เพื่อนถึงที่                            ซอยสิบสี่   ที่เตาปูน  รอคุณอยู่

มองตรงไป  ไม่ซ้อนเร้น  เห็นประตู                      มีความรู้  รอเพียบ  แกเรียบเรียง

โจสุบรรณ  เปลมปลื้ม  ใครลืมบ้าง                       อยู่ลำปาง  สุขสบาย  ได้ส่งเสียง

นั่งรถยนต์  ปนรถไฟ  เรือนไกลเคียง                    โปรดส่งเสียง  มาบ้าง  อย่าหมางเมิน

ไม่เฉื่อยแฉะ  แวะเยือน  เพื่อนๆบ่อย                    เดี๋ยวนี้น้อย  เจือจาง  แลห่างเหิน

มิได้เจอ  พบพาน  จะนานเกิน                               อย่ามัวเพลิน  เมืองเหนือ  จนเบื่อกรุง

แกบอกว่า  พาร์กินสัน  มันเรื่องเล็ก                      โรคเด็กๆ  เล็กน้อย  ไม่ค่อยยุ่ง

แกมียา  ดีใช้  ได้พยุง                                                ถ้าเข้ากรุง  บอกพวกเรา  กินข้าวกัน

วันที่สาม  พฤศจิกา  พฤกษาสิบสาม                    เป็นฤกษ์ยาม  วันดี  มีสังสรรค์

คุณปรีชา  จงรักษ์  รวีวรรณ                                                วันเกิดนั้น  ท่านใดรู้  ไปดูใจ

เรื่องสุรา  ยาดอง  ไม่ต้องห่วง                                งานใหญ่หลวง  อย่างนี้  มีเตรียมให้

ขอให้หอบ  สังขาร  หรือคลานไป                                    จะส่งให้  กลับบ้าน  ท่านทุกคน

มีซ้อเล็ก  จัดการ  เรื่องบ้านใหม่                            อยู่ใกล้ๆ  งดงาม  ข้ามถนน

แกเปิดร้าน  ค้าขาย  เลยหายจน                              แกคิดค้น  อาหาร  รายการชิม

คุณจัตุพล  โชติกุล  แรงหนุนเฉื่อย                                    ตีหน้าเมื่อย  และสุขุม  ทำหงุมหงิม

ถ้าขาดอี๊ด  ไปสักคน  บ่นทั้งทีม                             ลีลานิ่ม  นวยนาด  มาดละมุน

เป็นนักกลอน  อักษรสาสน์  ผลงานเด่น              พอตกเย็น  ใจดี  ไม่มีฉุน

บางวันเผลอ  ชักจะเพลิน  เดินหัวซุน                  นัดนิกูล  คู่ขา  มาปทุม

หากวันใด  ไฟเขียว  แล้วเลี้ยวรถ                          มานั่งซด  ยาดอง  ที่ซ่องสุม

มาส่งเสียง  สังสรรค์  วันชุมนุม                             ร่วมประชุม  รุมไมค์  ใส่อารมณ์

เสียงนกเขา  คูรัก  ชักหนักจิต                                เจ้าคงคิด  เอาอย่างฉัน  ให้มันสม

เมื่อจากน้อง  ครั้งใด  ดวงใจตรม                          เมื่อสายลม  หนาวมา  ข้าเปลี่ยวใจ

ถึงฟ้าร้อง  ร้องด้วย  ช่วยฝนตก                             หิ้วห่อหมก  ปลามัน  จากสายไหม

ล้วงกระเป๋า  กระเส่าคอ  ปากจ่อไมค์                   หริ่งเรไร  เริ่มร้อง  ก้องระฆัง

อยากได้ยิน  นักร้อง  และน้องรัก                          คือสมศักดิ์  วรเลิศ  เกิดมนต์ขลัง

เสียงน้องกิ้งว  สาวนาเกลือ  เหลือกำลัง              สมศักดิ์หวัง  ทั้งนาข้าว เข้านาเกลือ

เฝ้ารอคอย  คอยหา  มาเมื่อไหร่                             จะดีใจ  ท่วมท้น  จนล้นเหลือ

อยากเห็นหนุ่ม  กาฬสินธุ์  ไปกินเกลือ                 ยังไม่เบื่อ  สวยที่สุด  สมุทรสาคร

แต่บัดนี้  คู่นั้น  เขาหายหน้า                                    อยากให้มา  สังสรรค์  กันดังก่อน

สมศักดิ์กิ้ง  อยู่ไหน  ใจร้าวรอน                            ขอวิงวอน  ดังดัง  อยากฟังเพลง

แกพำนัก  แหล่งเมืองนนท์  วนนั่งเกล้า                สองคนเขา  มีกิจการ  ทำงานเก่ง

แอบไปซุ่ม  ซักซ้อม  กล่อมบรรเลง                      มาร้องเพลง  ด้วยกัน  มันมันดี

ส่วนสมยศ  อยู่เมืองกาญจน์  ท่านไม่ว่าง             ไม่ปลดวาง  เรื่องงาน  การหน้าที่

บรรยากาศ  จัดรีสอร์ท  อย่างยอดดี                       ซีแอนด์ซี  ขุมทรัพย์  รับรายวัน

มีแควน้อย  แควใหญ่  และไทรโยก                       แหล่งที่โลก  เรียกกันว่า  อุษาสวรรค์

ธรรมชาติ  จัดไว้  ได้ครบครัน                                มีหลากหลั่น  ลดเลี้ยว  เขียวขจี

ท้องทุ่งนา  ป่าพง  ดงสวาท                                                น้ำเนินลาด  สุมทุม  พุ่มส่าหรี

งามโขดเขิน  เนินไศล  ไพรพงพี                           น้ำตกมี  แควสาย  ไทรร่มเย็น

หากเข้ากรุง  มุ่งมา  หาเพื่อนบ้าง                          ถ้าเองว่าง  โปรดโทรมา  ให้ข้าเห็น

ค้างสักคืน  ดีไหม  ให้ใจเย็น                                  อย่าหลีกเร้น  หลบแช่  แต่เมืองกาญจน์

เส้นสายทาง  เมืองกาญจน์  ผ่านบ้านโป่ง                        แม้นขับตรง  ราชบุรี  นิวาสถาน

คิดถึงล้ำ  และดำรง  คงอีกนาน                             จะพบพาน  แต่ละหน  ด้นดั้นมา

ล้ำเหล็กเพชร  และคุณเต่า  เขาวิเวก                     ถืออุเบก  ขาจาร  ดั้นไปหา

หลบไปอยู่  ราชบุรี  หนีเรามา                                อยากไปหา  เขาสักหน  ยังจนใจ

คุณพงษ์ศักดิ์  จารุครุฑ  เคยรุดเยี่ยม                      เห็นว่าเปี่ยม  ด้วยสุรา  อัชฌาสัย

อย่างเป็นสุข  สนุกสนาน  สำราญใจ                     กลั้วกลิ่นไอ  ธรรมชาติ  ราชบุรี

คุณพงษ์ศักดิ์  นักร้อง  ก้องเสียงหวาน                 แกสร้างบ้าน  ยังไม่แล้ว  แถวหลักสี่

ชักห่างเหิน  หายหน้า  อยากพาที                          แม้ฤกษ์ดี  คงจะได้  ไปเจอกัน

ช่วยไปบอก  มาหยอกล้อ  จ้อกันหน่อย               เวลาน้อย  ที่เหลืออยู่  คูว่าสั้น

มาร่วมวง  สรวลเส  เฮฮากัน                                  ทำให้บั้น  ปลายลิขิต  ชีวิตคง

ยังถวิล  นายกลิ่นเฟื่อง  เรื่องเจ็บป่วย                   ส่งใจช่วย  ขอให้  อย่าไหลหลง

ต้องบำบัด  กายใจ  ให้มั่นคง                                  คุณดำรง  คงได้กลับ  สภาพเดิม

แนะคุณแอ๊ว  ควรแจ้วเพลง  คาราโอเกะ             ให้เพลงเตะ  เข้าไปอัด  ประสาทเสริม

ให้นวดนาบ  กลับวังชา  มาอย่างเดิม                    ให้ริเริ่ม  หัดร้อง  ทำนองรำ

ห่วงศิริ  วิเชียรโหตุ  ดูใจแกร่ง                               รวมเรี่ยวแรง  เดินทางไกล  ด้วยใจป้ำ

เจ้ามะเร็ง  โรคร้าย  ช่างใจดำ                                 มันมาทำ  ให้เขาเพลีย  และเสียเงิน

เกิดมาใน  โลกมนุษย์  ก็สุดเศร้า                            อยู่กับโรค  รุมเร้า  ไม่ห่างเหิน

ทำชีวิต  มีชีวา  พาเพลิดเพลิน                                ทุกคนเดิน  สู่ที่หมาย  อยู่ปลายทาง

เพื่อนของเรา  ต้องสลาย  ไปจากโลก                   อย่าเศร้าโศก  ดวงใจ  ให้หมองหมาง

อนิจจัง  อนัตตา  ว่าไปพลาง                                  อยู่เบื้องหลัง  คือลูกหลาน  ศูนย์หนึ่งเรา

ไปทำบุญ  ทำทาน  กันไว้เถิด                                 หากว่าเกิด  มาใหม่  ใจไม่เศร้า

อันชาติหน้า  มีไหม  ไม่อยากเดา                           มาพวกเรา  สังสรรค์  ในบั้นปลาย

            เมื่อพูดถึง  โรคร้าย  ใจจะฝ่อ                      แต่ ร.ว.  ศูนย์หนึ่ง  ยังผึ่งผาย

ไม่เคยนึก  หวาดหวั่น  พลั่นใจกาย                                   ไม่กลัวตาย  เพราะโลกนี้  เรามียา

ยกตัวอย่าง  ให้ดู  อายุยืด                                         คือนายปื๊ด  อนุรักษ์  ชื่นบุบผา

ปล่อยให้หมอ  ตัดไส้  ไปเป็นวา                            ผลออกมา  ไม่เห็น  จะเป็นไร

ก็กินขี้  ปี้นอน  ไม่ผ่อนพัก                                      ฟาดหน่วงหนัก  ไปหน่อย  พลอยสงสัย

ไปหาหมอ  ปัจจุบัน  เลยหั่นไป                             น่าเสียดาย  ไส้หด  ลดเป็นกอง

มาบัดนี้  ได้ข่าว  เข้าธรรมะ                                                ไปเล่นพระ  เล่นเจ้า  เป็นเจ้าของ

เราไม่รู้  อยู่แผงไหน  ใคร่ไปจอง                           ขอไปลอง  สักสององค์  คงจะดัง

คุณบวร  คุณอนุรักษ์  จากออมสิน                         ทั่วทุกถิ่น  ผ่านไป  ในความหลัง

เคยดื่มเหล้า  ร้องเพลง  บรรเลงฟัง                                   บัดนี้ยัง  เจอเพื่อน  ก็เหมือนเดิม

บุญฤทธิ์  จัดประจง  ไปหลงไหน                          แกอยู่ไกล  กลับไม่ดึก  ไม่ฮึกเหิม

แต่ก่อนเก่า  เอาด้วย  ช่วยเพิ่มเติม                         ไม่เหมือนเดิม  หรือไร  ไม่ค่อยเจอ

นักขุดเจาะ  บ่อบาดาล  ขยันแท้                             อย่ายอมแก่  คลาคล่ำ  จะป้ำเป๋อ

บางปะกง  ไกลปืน  ยืนละเมอ                               อยู่กับเธอ  สมปอง  น้องคนงาม

คงรักลูก  ห่วงหลาน  จึงพาลหาย                         แสนเสียดาย  เข้าพรรษา  พาวาบหวาม

ทำวัตรเช้า  จนค่ำ  ย่ำโมงยาม                                 พวกเพื่อนตาม  ถามหา  ถังปลาเค็ม

เหมือนมานะ  สุพรรณเสตถ์  ด้วยเหตุผล             ปีละหน  เข้าพรรษา  ศรัทธาเข้ม

เห็นแกบอก  ออกพรรษา  ว่าเต็มเต็ม                    รินให้เอม  เปรมโอชา  โซดาฟอง

มีคุณแดง  คู่หู  อยู่เป็นเพื่อน                                   คอยตักเตือน  คอยบอก  เอาศอกถอง

ฉันพูดน้อย  ต่อยหนัก  อู๊ดอยากลอง                    จะต้องกอง  จ้ำเบ้า  กรงเต้าทึง

ชื่อเตาทึง  นี้หนอ  หล่อที่ขน                                  ลูกเจ้าซน  หมาฉัน  มันใจถึง

พันธุ์บางแก้ว  เจี๊ยวจ๊าว  เห่าตะบึง                                    รุ่นศูนย์หนึ่ง  รู้จัก  และรักมัน

แถวบางพลัด  จัดครอบครัว  ในรั้วใหญ่              ไม่ไปไหน  ใครบอกบุญ  คุณถวัลย์

ขอเพียงรับ  ทราบรู้  จู่มาพลัน                                คุณถวัลย์  สมิตโยธิน  ถิ่นราชา

คงไปมา  หาสู่  อยู่เป็นนิจ                                       หรือใครคิด  ชวนเพลิน  เชิญเลยหนา

โทรศัพท์  แกร๊กเดียว  เดี๋ยวแกมา                          เลือดราชา  เคี่ยวข้น  แกคนจริง

นายพรรษา  สุวรรณเทพ  เก็บตัวเงียบ                  ดูราบเรียบ  ไม่เหยิงยุ่ง  หรือสุงสิง

ไม่ค่อยทราบ  ข่าวเพื่อน  เคลื่อนไหวติง              บอกจริงๆ  ว่าพวกเรา  เฝ้าติดตาม

เมื่อโทรไป  ให้รีบมา  อย่าขัดขืน                           นั่งทนฝืน  ฟังเรื่องเด็ด  อย่าขัดขาม

ออกจากบ้าน  เถิดเจ้า  เลิกเฝ้ายาม                                    อันชื่อนาม  นั้นเจียนดับ  จะลับลา

คุณสุรัตน์  ระเบียบ  ก็เงียบฉี่                                  ยังอยู่ดี  หรือไฉน  กระไรหนา

ท่านพิชัย  ประธาน  ท่านสั่งมา                               ให้ตามหา  ท่านสุรัตน์  จัดตั้งวง

ไอ้เพื่อนยาก  จากกันไป  รีบไต่ถาม                      ให้ติดตาม  ธรรมนูญ  พึ่งประสงค์

อย่างส่งเพียง  เสียงมา  จะพางง                            บอกตามตรง  จงรีบมา  หาสู่กัน

            เริ่มจะเอียง  เรียงร่าย  ส่ายอักษร                นั่งเขียนกลอน  ตอนฝนตก  หัวอกสั่น

คำว่าเพื่อน  เตือนใจ  ไม่เว้นวัน                             จะรำพัน  รำพึง  ศูนย์หนึ่งทุกคน

อยากจะส่ง  มาให้  ปีใหม่นี้                                    ถ้าเสร็จดี  สมใจ  คงได้ผล

มันเริ่มเมื่อย  เหนื่อยนัก  ชักชอบวน                     กระอักกระอน  โอ๊กอ๊าก  อยากโซดา

โทรศัพท์  มือถือ  คืออาวุธ                                     ยาวที่สุด  รีบโทร  โผล่ไปหา

ทำอะไร  อยู่เล่า  เจ้าปรีชา                                       ขับรถมา  ผ่าฝน  ถ้าสนใจ

เสียงตอบมา  บอกว่าดี  ไม่ปฏิเสธ                         รีบเสด็จ  ด่วนจี๋  จะมีไหน

ได้ยาดอง  หนึ่งดวด  หายปวดกาย                                    เสียงเข้าไมค์  กระชุ่ม  ออกนุ่มนวล

หันไปเขียน  กลอนนิราศ  วัดละมุด                      เกิดสะดุด  เรื่องนี้  เห็นที่หวน

หยิบขึ้นมา  ตั้งหน้าอ่าน  ทบทานทวน                  เริ่มกระบวน  ลีลา  ว่าต่อไป

เขียนถึงวัลลภ  สงฆ์ประชา  มหาโชค                  ชวนเพื่อนยก  ทีมทัพ  เที่ยวเชียงใหม่

เตรียมต้อนรับ  ขับสู้  เพื่อนรู้ใจ                             กินอะไร  ขอให้สั่ง  ตั้งใจคอย

อยากกินเนื้อ  เพราะเบื่อหมู  หรือปูไข่                 จะกินไก่  กินเก้ง  หรือกุ้งหอย

เสี่ยวัลลภ  ถังหลง  ส่งขึ้นดอย                               ลภยังคอย  เพื่อนยาก  ใครอยากเชิญ

คุณวัลลภ  ครบเครื่อง  เรื่องเศรษฐทรัพย์             คณานับ  จับเรื่องใด  ใจก็เขิน

มันไหลหลั่ง  ดั่งธารา  จนพาเพลิน                                   ทั้งทองเงิน  เพชรนิล  ล้วนจินดา

อีกหนึ่งท่าน  งานหนัก  และรักเพื่อน                   มาเยี่ยมเยือน  หลายครั้ง  ชักกังขา

แกหายใจ  ได้เพลิน  หอบเงินตรา                         สำเร็จมา  เป็นท่านเซอร์  เยอรมัน

ขอไฮเนเก้น  สักสามลัง  ใส่หลังเบนซ์                 ขับตระเวน  ต่างจัดหวัด  จัดให้ฉัน

แบล็คสักลิตร  ได้ไหม  ไวยทยวรรณ                    มาพบกัน  บ้านปื๊ด  อย่าจืดใจ

แกงานหนัก  รักวิชา  ศึกษาชาติ                            แกมุ่งมาด  จัดหลักสูตร  ศึกษาให้

เป็นเจ้าของ  อุดมศึกษา  มหา’ลัย                          ตระเวนไป  หลายแห่ง  มีแหล่งลง

เสี่ยบุญมี  สุขประพฤติ  ยึดก่อสร้าง                      สำเร็จดัง  มหาเศรษฐี  ที่ประสงค์

แค่พันล้าน  เด็กเล่น  เห็นแล้วปลง                                    ถ้าน้อยลง  กว่านี้  ไม่มีประมูล

เพราะหนุ่มใหญ่  ใจถึง  จึงไปรอด                                    แกเป็นยอด  เศรษฐีใหญ่  ของในรุ่น

ขาดติดต่อ  ไปนานหนอ  นะพ่อคุณ                      เพื่อนในรุ่น  บ่นรำพึง  ถึงเสี่ยมี

ใครวันว่าง  ตั้งใจ  ไปหาเพื่อน                               ถึงเหย้าเยือน  เตือนไว้  ให้มานี่

ท่านประธาน  รวมกลุ่ม  ปทุมธานี                         คลอดนตรี  ร้องไพเราะ  เสนาะทรวง

คุณมนู  ดีปานวงษ์  ส่งใจให้                                   หมั่นล้างไต  อยู่เสมอ  เกลอเป็นห่วง

เอาใจช่วย  ตลอดเวลา  อย่าร้าวทรวง                   เวลาล่วง  เลยมา  ห่วงอาทร

เราศูนย์หนึ่ง  ซึ้งใจ  ในตัวท่าน                              ปรึกษากัน  เรื่อยมา  คราเดือดร้อน

เคยไปมา  หาสู่  ถึงอู่นอน                                       พอถึงตอน  แก่ตัว  กลัวห่างกัน

แม้อยู่ห่าง  ต่างคิดถึง  คะนึงหา                             โอกาสมา  พบกัน  วันสังสรรค์

เอาใจช่วย  ให้ป่วยหาย  ไปโดยพลัน                    คิดถึงวัน  เคยหนุ่ม  กระชุ่มกระชวย

หมู่บ้านใหญ่  ไทรน้อย  ไม่ค่อยเห็น                      แอบซ่อน  ในสวน  ประมวลสังข์ช่วย

พอคิดถึง  ทีไร  ใจระทวย                                       จงหายป่วย  ทันใด  ใจส่งมา

ให้ประธาน  โทรไป  ไม่ค่อยรับ                             โทรศัพท์  เบอร์บ้าน  ท่านใดหนา

จงบอกเบอร์  ให้ด้วย  ช่วยหน่อยนา                     จะโทรมา  ถามไถ่  ไม่รอรี

สมาคม  ศิษย์เก่า  เขากล่าวขวัญ                            ถามถึงท่าน  กันทั้งรุ่น  นะคุณพี่

เอาใจช่วย  ให้ป่วยหาย  ด้วยไมตรี                                    ประมวลมี  สังข์คอยช่วย  หายป่วยพลัน

คุณวิเศษ  ศรวิเศษ  ระเห็จไหน                              ไม่เห็นไป  รวมหมู่  ดูสังสรรค์

อบายมุข  ไม่เคยมี  สักวี่วัน                                     บวชนายอั๋น  ลูกชาย  ในพฤศจิกา

บางนางเกรง  ปากน้ำ  เมืองสมุทร                                    บวรพุทธ  สุทธาวาส  พระศาสนา

ชายผ้าเหลือง  เรืองอุไร  ในสัมมา                         พฤศจิกา  วันที่เจ็ด  เข้าเขตนิพพาน

รุ่นศูนย์หนึ่ง  อนุโมทนา  อโหสิ                            ตั้งสติ  เตรียมใจ  ไปบวชหลาน

ถึงจะไกล  ไปสุด  สมุทรปราการ                          หอบสังขาร  เวียนโบสถ์  เพื่อผลบุญ

คนอยู่ใกล้  เขาไปแน่  แค่ข้ามฟาก                                    ไม่ลำบาก  จากพระประแดง  มีแรงหนุน

คือไชโย  คุ้มมณี  คนมีบุญ                                      เกือบถึงศูนย์  บุญช่วย  ด้วยยาดี

แกป่วยไข้  ไปหาหมอ  รอวันดับ                           แต่คืนกลับ  เร็วพลัน  มีสันสี

ไปถามไถ่  พี่ไชโย  คุ้มมณี                                      เรื่องยาดี  กินหาย  ไม่วายปราน

มีเรื่องใด  บอกไชโย  โทรหาเพื่อน                       แกย้ำเตือน  เพื่อนซ้ำ  นำเล่าขาน

อารีอารอบ  ชอบรับใช้  ใครไหว้วาน                   แกชอบทาน  เบียร์สิงห์  กระทิงแดง

แสนสงสาร  เบาหวานไต  ไข้ก็ขึ้น                                    แกทนฝืน  กลืนยาเยียว  หนังเหนียวแข็ง

แต่ตอนนี้  ถ้าอดเบียร์  ละเหี่ยแรง                         อาจลงแดง  จนได้  สงสัยจัง

       เขียนกลอนยาว สาวถึงเพื่อน เตือนความคิด            แฉจริต  ชีวิตตาม  ในความหลัง

บันทึกนาม  ไว้ในนี้  ให้จีรัง                                    เด็กรุ่นหลัง  ลูกหลาน  ฝึกอ่านกลอน

คิดถึงท่าน  นภา  รายะนาค                                     ผลงานมาก  จากความรู้  อนุสรณ์

แหล่งความรู้  ของประเทศ  เกษตรกร                  เขียนเป็นตอน  ร่อนระบือ  หนังสือพิมพ์

ทอมแม่โจ้  โชว์ผลงาน  การเกษตร                      ทุกประเภท  การเลี้ยงเพาะ  เสนาะนิ่ม

เดลินิวส์  บันทึกไว้  ในแท่นพิมพ์                          คนอ่านปริ่ม  เปรมรู้  จากครูทอม

ทั้งนักประมง  ทั้งลงมือ  ถือเสียมจอบ                  อารีอารอบ  จากหัวใจ  ใฝ่ถนอม

เจ้าเบาหวาน  พาลพะโล  แม่โจ้งอม                     แต่ว่าทอม  ไม่ยอมมัน  ขวัญยังมี

คุณอาทร  ตานะสุต  พูดถึงบ่อย                             เจอกันหน่อย  เถิดหนา  นะเพื่อนซี้

คนใจเย็น  ไม่เห็นเศร้า  ท่านเก้ายี                          งานเขามี  อดิเรก  วิเวกวง

เป็นเชื้อชาติ  อาชาไนย  คนใจถึง                          รุ่นศูนย์หนึ่ง  รู้ได้  ในประสงค์

มีเวลา  มาบ้าง  นั่งร่วมวง                                       เจตจำนง  อยากจะใคร่  เพื่อนได้เจอ

คุณสุมน  ธนะมั่น  ท่านผู้นี้                                      อารมณ์ดี  จะพบได้  ถ้าใครเผลอ

แกเซอร์ไพรส์  ไม่เคยเลือน  ให้เพื่อนเจอ                        อยู่เสมอ  เจอเมื่อใด  ได้ฮาเฮ

จะงานเลี้ยง  งานบุญ  ให้รุ่นบอก                           ท่ายกจอก  กระทอกกระทั้น  ไม่หันเห

แม้ติดลม  ในบางที  ไม่มีเซ                                     นั่งยิ้มเผล่  เฮฮา  ช่างพาที

ส่วนโชคชัย  พฤตปภพ  ท่านครบสูตร                 ทั้งเรื่องพูด  เรื่องเพลง  เก่งเต็มที่

เกษียณไป  จากไฟฟ้า  ว่าคดี                                  และตอนนี้  มีที่ทาง  อยู่บางแค

บอกเพื่อนยา  อย่าสงสัย  ไปเลยนัก                      เป็นที่พัก  อาศัย  มิใช่แก่

ศรีภรรยา  เป็นคู่  ช่วยดูแล                                      ไม่คุมแจ  พอแถได้  ให้บอกมา

หากไผมี  คดีความ  ไปถามไถ่                               เล่าเรื่องให้  ลุ่มลึก  เชิงปรึกษา

จะโทษเบา  โทษแรง  แพ่งอาญา                           พิพากษา  จั๋มหนับ  ทั้งปรับจำ

ไหนจะเทียม  ท่านแสวง  ที่แฉ่งชื่น                       ยังระรื่น  ชื่นอุรา  คราพลบค่ำ

เที่ยวเถล  เถไถ  ไม่ประจำ                                      มีงานทำ  มิใช่มั่ว  ตัวเป็นเกลียว

ในอดีต  ฤทธิ์ศูนย์หน้า  และตะกร้อ                      คนรูปหล่อ  อย่างนี้  สิหวาดเสียว

นกกระจอก  บอกไม่ทัน  มันทีเดียว                      ไม่เคยเกี่ยว  ข้องแวะ  เตาะแตะสตรี

เมียมาคุม  ต้องคุม  ไม่รุ่มร้อน                                เงินเป็นฟ่อน  ตะลอนไป  ได้ทุกที่

เห็นอำเภอ  เจอตำบล  มีดนตรี                               ร้องเพลงดี  ดิ้นดีด  กรีดเต้นรำ

ยิ่งนายพล  ฮวบสกุล  บุญแกมาก                           เล่นไม่ยาก  ลำบากหน่อย  ไม่ค่อยขำ

อยู่ไม่สุข  ลุกลนลาน  หางานทำ                            แกชอบข้าม  น้ำทะเล  เห่รัญจวน

แกใจกว้าง  ดังนภา  มหาสมุทร                             บริสุทธิ์  ทั้งกายใจ  ไม่เคยหวน

แกเดินหน้า  ลูกเดียว  ไม่เหลียวทวน                    แค่ยียวน  กวนบาทา  ถ้าถึงเมา

นี่คือพล  คนจริง  ไม่ทิ้งรุ่น                                     เรื่องเฉียวฉุน  หุนหัน  นั้นใช่เขา

อยากให้มา  หาสู่  ในหมู่เรา                                                คุยเรื่องเหล้า  ยาดอง  อย่างมองเมิน

            คุณวิเชียร  ขุนหมื่นวงษ์  หลงที่ไหน         อยู่ไม่ไกล  ดูไม่ว่าง  ชักห่างเหิน

หรือว่าหลง  อยู่กับใคร  ปล่อยใจเพลิน                หรือมัวเดิน  ตั้งฮั่วเส็ง  เพ่งหม้อดิน

ร้อยแปดปี  ที่ราชา  แกมาแน่                                  ดูไม่แก่  เพราะแกเล็ง  เพ่งกษิล

เรื่องเหล้ายา  ปลาป่น  คนมีกิน                              โซดาริน  ส่งมา  อย่าช้าที

อยากขอถาม  ข่าวคราว  ถึงดาวข่าง                     พบเขาบ้าง  หรือเปล่า  เขาอยู่นี่

ก็บุญแสง  ตั้งจิต  เพิ่มความดี                                 แต่ก่อนมี  บทบาท  องอาจทะนง

แต่บัดนั้น  จนวันนี้  ไม่มีเห็น                                  แอบซุกเร้น  ลี้ลับ  หรือใหลหลง

ว่าบุญแสง  แซ่ตั้ง  ยังมั่นคง                                                อยู่แวดวง  วชิระ  อยากจะเจอ

อยากจะส่ง  นักเลงเก่า  มาเดินเกร่                                    เปี๊ยกแซ่เบ๊  รู้ไหม  อย่าไพล่เผลอ

เขียนจดหมาย  ไม่ลำบาก  เพื่อนอยากเจอ                       ไปรวมเกลอ  แก๊งค์เก่า  เอาไหมเอย

ตอนเป็นเปี๊ยก  อาปาเช่  เท่สะบั้น                          ไอติมปั่น  ส่งไปทั่ว  ไม่มัวเฉย

พอกินเหล้า  เมากับฉัน  มันหมดเลย                     ทั้งนมเนย  กองเหมะ  เละละลาย

สันหวุธ  ไทยวัฒน์  พัดมาเพียบ                             เดี๋ยวนี้เรียบ  ร้อยดี  ไม่มีสาย

แกเลิกดื่ม  เลิกดูด  สุดสบาย                                  คอยถามไถ่  อยู่เสมอ  อยากเจอเรา

ซอยสายลม  ลมโชย  ไม่โหยไห้                            ใครโทรไป  ไม่ผิดหวัง  ยังมีเขา

แกอยู่บ้าน  เป็นประจำ  มิทำเนา                            ต้องอยู่เฝ้า  เหย้าโยง  ยักแย่ยัน

แล้วร่ายกลอน  กล่าวเติม  เฉลิมชาติ                   ที่ประวิภาต  หนุ่มสำอาง  บางยี่ขัน

มีความสุข  ทุกข์ไม่มี  สักวี่วัน                                ถนนจรัญ  สนิทวงศ์  คงเหมือนเดิม

โทรไปหา  วาจาเพราะ  เสนาะหู                           อยากจะรู้  กินอะไร  กายจึงเหิม

ไม่ยอมแก่  เลยเพื่อนเก่า  เห็นเท่าเดิม                   มาเสิร์ฟเสริม  สังสรรค์  กันบ้างนาย

ท่านปัญญารัตน์  ปานทอง  ท่านมองลึก               เสร็จจากศึก  มหาดไทย  ยังไม่สาย

เป็นด็อกเตอร์  เจอแต่งาน  มั่นใจกาย                   ฝากลวดลาย  รอบรู้  สู่หมู่ชน

นครสวรรค์  ใช่ไกล  ใครอยากหา                         ให้ศึกษา  แก่นิสิต  จิตกุศล

ประสบการณ์  ผ่านมาหมด  ด้วยอดทน                ทำกุศล  ตอนแก่  ไม่แพ้ภัย

ยืนผงาด  มหาดไทย  อีกหนึ่งท่าน                         พ่อพรสวรรค์  ศรีวโร  โธ่อยู่ไหน

เขาติดตาม  ถามหาตัว  ทั่วพงไพร                                    ถ้าโทรไป  ขอให้รับ  โทรกลับที

หรือลงกอล์ฟ  ออกรอบบ่อย  ไม่ค่อยพบ                        ไปออกรบ  อยู่ที่ไหน  ก็ใช่ที่

ประธานพิชัย  ให้บอกกล่าว  เล่าวจี                      ให้คุณพี่  พรสวรรค์  ท่านมาเจอ

แล้วตุ้มทอง  ของจรินทร์  ได้ยินเจ้า                      ขายบ้านเก่า  บอกที่ใหม่  ไม่ได้เหรอ

โทรเข้าศูนย์  ท่านพิชัย  ได้ไหมเออ                      อย่ามัวเหม่อ  หลงใหล  ใจจะราน

อันคารม  คมคาย  ได้แต้มต่อ                                  แถมรูปหล่อ  ละม่อมละมัย  และใจหาญ

ขาดจรินทร์  จะกินเหล้า  ก็ร้าวราน                       กินจนคลาน  ยังเฉย  ไม่เคยเมา

กินกาแฟ  ซูเหลียน  ไม่เลี่ยนรส                             พอสาดซด  เข้าไป  จะหายเศร้า

โสมเซาะแซะ  เสาะไส้  หายซึมเซา                      พอเบ่งเบา  เขย่าบอล์ล  ไม่เบ่งบวม

คุณสุรศักดิ์  หาญนรา  นำมาขาย                            เข็มขัดสาย  หัวซุก  เมื่อใส่สวม

เกิดเข้มแข็ง  แรงเรี่ยว  เข้ารวบรวม                       คาดแค่หลวม  รวมพลัง  ดังช้างงา

ยุทธนา  ริ้วเหลือง  การเมืองเข้ม                            ไปเติมเต็ม  ประชาธิปัตย์  เคยจัดหา

ลงสมัคร  เลือกตั้ง  รั้งสภา                                      ท่านหายหน้า  เงียบเหงา  เราติดตาม

หัวหน้าเขต  บางขุนเทียน  เคยเวียนหา                ยุทธนา  เคยต้อนรับ  ดังกับหาม

เพื่อนคิดถึง  เจ้าอยู่  ทุกครู่ยาม                               ทุกคนถาม  ถึงเพื่อน  จึงเตือนมา

เมื่อรวมรุ่น  ศูนย์หนึ่ง  พึงไปพบ                           ให้ครันครบ  เพื่อนพ้อง  ครองหรรษา

อยากเชิญชวน  ไปสรวลเส  ร่วมเฮฮา                   ตามประสา  เพื่อนเก่า  ที่เราเคย

คุณปรีชา  สินอาภา  มามาดใหม่                            ยิ่งรวยใหญ่  รวยจริง  ไม่นิ่งเฉย

ได้มรดก  ตกทอด  ยอดไปเลย                               อยู่เฉยเฉย  เฝ้าสวน  ชวนไปชม

เตรียมต้อนรับ  ขับสู้  อยู่ที่ซุ้ม                                 แถวดอนตูม  บางเลน  ก็เห็นโฉม

เคยเลี้ยงหมา  หาสุข  ไม่ทุกข์ตรม                         เพื่อนชื่นชม  สมใจ  นายปรีชา

อย่าแชเชือน  เพื่อนเกลอ  เจอกันบ้าง                   ถึงยามว่าง  ควรโทร  หรือโผล่หา

อย่าลับเร้น  เห็นมี  แต่ปรีชา                                   ที่จะมา  คือจงรักษ์  รวีวรรณ

ชื่อปรีชา  น่าชอบกล  คนชอบชื่อ                          ความหมายคือ  เก่งทุกอย่าง  ทางสร้างสรรค์

เหรียญประยูร  กระแสฉาย  มากมายครัน             เคยพบกัน  เหรียญประยูร  ใกล้คุณบวร

ท่านนิติ  นาถวรทัต  ไม่ขัดข้อง                              เคยร่วมห้อง  เรียนกัน  วันครูสอน

หัวหน้านักเรียน  รุ่นเรา  เฝ้าอาทร                         พำนักนคร  ชัยศรี  มีน้ำใจ

คุณมนัส  ศรีเพ็ญ  เผ่นไปหา                                   เจรจา  เรื่องงาน  การแก้ไข

หล่อไสยาสน์  ร้อยแปดปี  ท่านดีใจ                      จึงรับใช้  ให้โรงเรียน  วัดราชา

นิติบ่น  ไม่ทนเดิน  เหินไปไหน                             ยิ่งทางไกล  ใครคิดถึง  พึงมาหา

นางอำเภอ  คนดี  ศรีภรรยา                                                คู่ชีวา  ร่วมชีวี  สุดนิยม

คุณไพฑูรย์  ชุณหชา  พาคู่เที่ยว                             แกบินเทียว  อเมริกา  อย่างสาสม

ไปย่ามเยี่ยม  คุณลูก  ปลูกนิยม                               สู่สังคม  อมฟุตฟิต  พ่นโฟไฟ

บอกว่ามา  มาแน่  แกมาร่วม                                   ดื่มได้น่วม  เนียนนวล  ชวนสงสัย

คอทองแดง  แกร่งกรอก  อย่าบอกใคร                ดื่มเท่าไร  ไม่สะดุ้ง  ไม่พุงโล

ท่านอุดม  จิตะวีระ  ลูกตาหยด                              เดี๋ยวนี้งด  เรื่องสุรา  อย่าโมโห

กับมงคล  กรรณสูตร  มักพูด  “โน”                            ขอให้โผล่  มาบ้าง  ข้านั่งคอย

คุณจำเนียร  และสุริยน  คนบ่นถึง                               รุ่นศูนย์หนึ่ง  คอยท่า  จะใช้สอย

ปลีกวิเวก  ไปนัก  เดี๋ยวหลักลอย                                พวกเราคอย  อย่าน้อยใจ  ไปพบกัน

วิบูลย์ศักดิ์  อุปรมัย  อยู่ไหนเล่า                                   พวกเพื่อนเขา  กล่าวถึง  คำนึงผัน

หรือหลงกอล์ฟ  หลุมไหน  ไปทุกวัน                          มาสังสรรค์  เพื่อนเดิม  เสริมพลัง

แอ๊ดอย่าเมิน  หมองหมาง  คลางเคืองขัด                     บอกวรัตน์  ให้เขามา  หาฉันบ้าง

อย่าไปมัว  ใหลหลง  จงระวัง                                      เดี๋ยวสตางค์  หมดตัว  ปวดหัวตาย

เราซึ้งใจ  นายดำริห์  จงกลรัตน์                                   ท่านถนัด  ทางโรงงาน  มานานหลาย

เรื่องขับรถ  แกไม่รู้  หูตาลาย                                       แต่ไม่วาย  มาสังสรรค์  วานลูกเมีย

ศรีราชา  แหล่งพำนัก  รักสงบ                                     ใครอยากพบ  รีบไป  มีได้เสีย

ไปถามทาง  ที่พิชัย  จะได้เคลียร์                                 เรื่องเหล้าเบียร์  เรื่องย่อย  ค่อยว่ากัน

ธวัชชัย  เตชะหงส์  คงความเก่ง                                  คือกิมเช็ง  ของเรา  เขาใฝ่ฝัน

เป็น  ส.ว.  ไม่ได้  ไม่ว่ากัน                                          ทุกวี่วัน  ดิโอลด์สยาม  ถามถึงเพลง

ส่วนสมบัติ  พูลทองคำ  เพื่อนพร่ำเพรียก                    โทรไปเรียก  ไม่มาพบ  แกหลบเก่ง

ถามเจ้าอี๊ด  จัตุพล  คนกันเอง                                      ช่วยร้องเพลบง  เสน่หา  ข้าอยากฟัง

สมัยหนึ่ง  ช่อน้ำ  ชัยวุฒิโชติ                                       เมื่อคราวโสด  ชิดเชื้อ  เหมือนเนื้อหนัง

เกือบจะแย่  แต่ก่อนเก่า  อยากเล่าให้ฟัง                      ถึงตอนครั้ง  ช่วยขอคู่  มาอยู่เคียง

ใครรู้แหล่ง  ช่อน้ำ  ตามให้ด้วย                                   รู้แล้วช่วย  โทรหน่อย  คอยฟังเสียง

ฟังเรื่องเก่า  เล่าใหม่  แล้วร่ายเรียง                               ขอแค่เพียง  ส่งเสียงมา  จะดีใจ

คุณอนันต์  ภู่หิรัญ  ถ้าวันนี้                                          ตายังดี  ยังเห็น  เช่นเก่าไหม

เพราะพวกเรา  สงสัยว่า  ตาของใคร                            ส่งข่าวไป  อย่าได้กลัว  ผัวหรือเมีย

คุณศักดิ์ชัย  หรือสุรินทร์  เฉลยกิจ                               เพื่อนสนิท  หายไป  อยู่ไหนเสี่ย

ถามวิเชียร  ขุนหมื่นวงษ์  คงได้เคลียร์                                    รู้ว่าเสี่ย  ศักดิ์ชัย  อยู่ไหนกัน

หมอศักดิ์ชัย  ลิ้มทองกุล  พ่อคุณเอ๋ย                            แม้ไม่เคย  โดยตรง  วงสังสรรค์

ท่านใจดี  มีทุนให้  ใช้จ่ายกัน                                                  ขอบคุณท่าน  ล่วงหน้า  ขออภัย

คุณหมอมี  โรงพยาบาล  ย่านรังสิต                             ใครไม่ฟิต  ไปหา  มียาให้

หากไม่เชื่อ  ไปดูหมอ  หล่อกว่าใคร                            ว่างเมื่อใด  โทรไปหา  จะมาคุย

คุณกิมชวง  ก็ล่วงเลย  ไม่เคยเห็น                               แกมุ่งเน้น  การทำมา  ค้าขายฉลุย

สมัยหนุ่ม  เนื้อแน่น  แสนจะลุย                                   ไม่ค่อยคุย  แกชอบฟัง  ดังพระปูน

ท่านดุษฎี  มิลินทรางกูล  คุณหายหน้า                                    ส่งข่าวมา  ให้เพื่อนทราบ  อย่าสาบสูญ

อย่าเกรงกริ่ง  นิ่งเฉย  เลยพ่อคุณ                                  มารวมรุ่น  ราชา  อย่าหนีไกล

ท่านสนอง  เกิดสมบุญ  คุณก็หนี                                 เจอกันที  ดีกว่า  จะเอาไหม

อยู่เฝ้าเรือน  ปล่อยเพื่อนคอย  จะน้อยใจ                      นัดเมื่อใด  บอกมา  อย่าช้าที

คุณวิชิต  เบี้ยวไม  แกใจถึง                                         รุ่นศูนย์หนึ่ง  เคยไป  ไม่หน่ายหนี

กินเหล้าเป็น  หรือเปล่า  ส่งข่าวที                                ถึงวันดี  ก็จะพา  มาร่วมวง

            แต่งกลอนกราย  บรรยายยืด  ชักมืดหน้า         อย่าต่อว่า  ข้าเพลิน  เกินประสงค์

อยากขอกล่าว  เล่าความ  ไปตามตรง                          หลายคนคง  จำไม่ได้  ใครเป็นใคร

นึกหน้าวัลลภ  รักวานิช  คิดอึดอัด                              คุณจำรัส  แสงตะวัน  ฉันจำได้

คุณยงยุทธ  รักธรรม  จำขึ้นใจ                                     ครั้งสมัย  ชื่อชุลี  ตีบอล์ลบิน

ชวงเป็นชวน  มานิยม  ฉันข่มคิด                                 กับคนชื่อ  พิศิษฐ์  จรัสชูสิน

หากจะเห็น  เต็มหน้า  ท่าจะชิน                                   ยิ่งไพบูลย์  เจริญสิน  เคยยินนาม

นายประกอบ  ตลับทอง  ต้องรู้จัก                               คนนี้เป็น  น้องรัก  ชักอยากถาม

ขอส่งรูป  แนะนำคน  ให้พ้นความ                              เพื่อจะตาม  มาสังสรรค์  วันราชา

ท่านสมบูรณ์  ฉ่ำทรัพย์  นับเป็นเลิศ                            ท่านไปเกิด  ในบวร  พุทธศาสนา

ไกลสุดกู่  ผู้อำนวยการ  บรรพชา                                จำพรรษา  วัดกำแพง  เคล้าแสงธรรม

มอบใจกาย  ใต้เบื้องผ้า  กาสาวพัสตร์                          ปฏิบัติ  เป็นปัจเจก  แห่งเนกขัม

บริกรรม  ฉ่ำชุ่ม  สมบูรณ์ธรรม                                   พ้นห่วงกรรม  ข้ามกิเลส  เขตอาบาย

เป็นหนึ่งเนื้อ  นาบุญ  พระคุณเจ้า                                จะได้เฝ้า  พระพุทธองค์  ไม่สงสัย

ปฏิบัติ  ปริยัติ  เยียวยาใจ                                             อยู่ในวัย  ใยห่วง  เป็นหลวงตา

มิได้กล่าว  นามไว้  ในหมู่เพื่อน                                  ไม่ลืมเลือน  พวกเขา  เราค้นหา

หากใครพบ  บอกต่อ  ขอให้มา                                    กลับราชา  วาสุกรี  มีเพื่อนรอ

มีเวลา  จะแต่งกลอน  วิงวอนท่าน                              เพื่อนรังสรรค์  งานกวี  มีอ่านต่อ

ไว้รำลึก  นึกคำนึง  ถึง ร.ว.                                         บัดนี้ขอ  ปิดกลอน  ด้วยพรชัย

อนิจจัง  สังขารา  อย่าประมาท                                                จงแคล้วคลาด  ภัยพาล  วันปีใหม่

จงพรั่งพร้อม  ด้วยจตุพิธ  พรชัย                                  มีเงินใช้  ไร้โรคา  ราชารุ่งเรือง

๒๑  ตุลาคม  ๒๕๕๓