นิราศแม่ฮ่องสอน

               

                (พอตั้งหลัก หยิบปากกา ว่าจะเขียน)                                   @แล้วความเพียร ก็กลายกลับ เป็นสับสน

                เพราะเสียงอวล มวลมหา ประชาชน                                   ออกเคลื่อนพล บนถนน แน่นเนืองนอง

                ราชดำเนิน เดินพล่าน เหมือนน่านไหล                                               บลูสกาย ถ่ายภาพ รับสนอง

                ร่วมต่อต้าน ยิ่งลักษณ์ นักปกครอง                                     ผิดครรลอง ครองธรรม นำชาติพัง

                อันการเมือง เรื่องใกล้ตัว กลัวตกข่าว                                 เสียงลือเล่า ยุบสภา มาเลือกตั้ง

                ใช้เวลา เฝ้าหน้าจอ รอรับฟัง                                                 เกือบลืมครั้ง ปางมะผ้า ปรารถนาบุญ

                กปปส. ล่อกับรัฐ ฟัดกันยับ                                                 ผลดีรับ ต่อแผ่นดิน หรือสิ้นสูญ

                ดูเหตุการณ์ ชักบานปลาย กลุ่มนายทุน                               ชาวบ้านหนุน ทุนคับคั่ง ให้ขับดัน

                 @    ทางโทรศัพท์ รับปากผดุง มุ่งทัวร์ใหม่                      คราวนี้ไป ท่องกระบี่ มีสีสัน

                ธรรมชาติ สาดสด งดงามครัน                                              บอกโดยพลัน ไม่เฃย์โน ตอบโอเค

                แม่ฮ่องสอน กลอนเก่า เรายังค้าง                                          ตามที่อ้าง รอไว้นั้น พลันหันเห

                ทวนความจำ คงทำพลาด อาจโมเม                                      จะทุ่มเท ไม่เปลเปลี่ยน เขียนเป็นกลอน

                สองรถตู้ คู่ชีวิต มุ่งจิตมั่น                                                     สามสี่วัน ไปกันแน่ แม่ฮ่องสอน

                จากสามพราน  ผ่านเมืองนนท์ บนทางจร                            ใช้การนั่ง แทนการนอน ตอนเดินทาง

                พฤหัสสิบสอง มองมืดค่ำ ปั๊มคาลเท็กซ์                                               ถามเด็กเด็ก ของฝากไหม อะไรบ้าง

                ส่งตายาย ไปกุศล เริ่มต้นทาง                                               ไปท่ามกลาง อากาศหนาว เคล้าความเย็น

                 @    จากปากเกร็ด เสร็จสรรพ จับทางด่วน                       ทั้งแซงสวน แสงสาด ไม่อาจเห็น

                อุตุเตือน  ว่ามีฝน จนเช้าเย็น                                                 คงอดเห็น ทัศน์ทิว ละลิ่วไกล

                แม้นเดินทาง ระหว่างมืด ไม่จืดจิต                                       วงศ์ญาติ มิตรคุยกัน สนั่นไหว

                ไปสิ้นทุกข์ สนุกสนาน เบิกบานใจ                                     เดินทางไกล ใฝ่หาผล กุศลทาน

                ของกินดื่ม ไม่ลืมพก ยกแจกจ่าย                                         อิ่มสบาย อร่อยลิ้น กลิ่นหอมหวาน

                ป้าอี่จัด มัดข้าวต้ม กินนมนาน                                             ใครได้ทาน ซาบซ่านรส สดชื่นพุง

                 @      สุดทางด่วน ลงบางไทร ไปทางขวา                         ตู้สองคัน ขับกันมา มาดหมายมุ่ง

                เป็นไปตาม คำสั่งไว้ ของนายผดุง                                        ถึงย่ำรุ่ง ได้แน่ ที่แม่แตง

                บนทางเส้น สายเอเชีย เคลียร์ถนน                                       ได้ยินยล แต่เพียง เสียงกับแสง                            

                เสียงเครื่องยนต์ พ่นขยับ ขับไม่แรง                                    เลาะเลียบแซง สวนแสงไฟ ปลอดภัยดี

                นั่งมานาน  เส้นพาลยึด อึดอัดท้อง                                       อาศัยห้อง สุขา หาที่ฉี่

                ปตท.  ไม่รอประวิง สิงห์บุรี                                                                เรียบร้อยดี ก็ล้างหน้า ด้วยกาแฟ

                แรงกระปรี้ มีกระเปร่า เข้านั่งรถ                                         กาแฟสด รสชื่น ชวนตื่นแน่

                สองข้างทาง มืดสนิท มิดตาแล                                             ถึงเก่าแก่ แต่ใจสู้ รู้ทางไป

                อยากจะเห็น เส้นทาง ระหว่างผ่าน                                       มองอยู่นาน ว่าแห่งหน ตำบลไหน

                เพื่อไปลง ในนิราศ วาดในใจ                                                               มันยากไร้ ได้แต่เฉย ทางเคยชิน

                @      จากสามพราน ผ่านนนท์ จนเมืองหลวง                    เดินทางล่วง ปทุมธานี เมืองศรีศิลป์

                เด่นดอกบัว ทั่วแหล่งหล้า คร่ำวาริน                                 ผ่านแผ่นดิน อยุธยา มาอ่างทอง

                อยุธยา เคยรุ่งเรือง กระเดื่องรัฐ                                            สิ้นอำนาจ เพราะพม่า พาเศร้าหมอง

                ผืนดินสะพรั่ง ทั้งแม่น้ำ และลำคลอง                                  ขากลับมา ว่าจะมอง เต็มสองตา

                แสงเรืองรอง อ่างทองงาม ยามคืนค่ำ                                   ประกายน้ำ ลุ่มนที ศรีสง่า

                สำราญสุข ทุกเรือนเหย้า เจ้าพระยา                                      ดื่นวัดวา อาราม งามประเทือง

                เกศไชโย พระโตใหญ่ ในพระอุโบสถ                                               ทองงามงด ศรีสยาม อร่ามเหลิอง

องค์ศักดิ์สิทธิ์ สถิตคุ้มครอง อ่างทองเมือง                          งามจรุง รุ่งเรือง ของเมืองไทย           

จากอ่างทอง ล่องเมืองพรหม ชมทางข้าง                            ผ่านปากบาง สิงห์บุรี วารีใส

เห็นขวดแม่ลา ปลาเผา ก็เข้าใจ                                             อีกไม่ไกล จะเข้าถิ่น อินทร์บุรี

ข้ามเขตสิงห์ ดิ่งชัยนาท มโนรมย์                                        เคยไปชม เมืองอุทัย ใจสุขศรี

บายพาสอ้อม นครสวรรค์ จอดทันที                                   ถนนแห่งนี้ เราอยู่บน พหลโยธิน

เชิญชวนอิ่ม ชิมกาแฟ หวังแก้ง่วง                                        เวลาล่วง เลยผ่าน ต่างย่านถิ่น

นั่งหลับหลับ ขยับตื่นตื่น ฝืนได้ยิน                                     รถตู้บิน ทะลุบึ่ง ถึงกำแพง

น่าเสียดาย เพราะว่าดึก นึกไม่ออก                                      และภายนอก ทุ่งเศรษฐี ไม่มีแสง

พระเขย่ง เก่งกรุดัง ฝังกำแพง                                               เคยเที่ยวแหล่ง เยือนแห่งย่าน ธารแม่ปิง

 @      รถเขย่า  เข่าขยับ จนหลับม่อย                                  เสียงคลายค่อย เริ่มน้อยลง คงหลับนิ่ง

มารู้ตน ตอนดึกยาม ข้ามลำปิง                                             รถยังวิ่ง  เหยาะย่าง ห่างตากไป

ยังเสียดาย ไม่สัมผัส ทิวทัศน์ข้าง                                          บนเส้นทาง  ระว่างเขาเขิน เนินไศล

ถึงบ้านตาก อยากจะพัก เพราะหนักใน                               จอดพักใหญ่ มีอาหาร เลือกทานเลย

ท่องท่ามกลาง เมืองเหนือ ฤดูหนาว                                     ฝนหล่นพราว เคล้าชื่นฉ่ำ  ลงมาเฉย

ความเหน็บหนาว  มันหลบหนี  ไม่มีเลย                             ถึงห้างฉัตร  ยังอุ่นเฉย  เพราะฝนพรำ

เลยขุนตาล  ผ่านแม่ทา ตาฉันหลับ                                       เจ้าคนขับ เขาลืมตา แต่หัวค่ำ

ผู้โดยสาร นั่งส่ายตัว หัวคะมำ                                              จนถึงปั๊ม นำคณะ  มาแม่แตง

เป็นเวลา  ย่ำรุ่ง  ตามมุ่งหมาย                                                กำหนดแผน  ที่วางไว้  ต้องใกล้แจ้ง

ร่วมหารือ มื้อเช้าใหม่ ให้เปลี่ยนแปลง                                ยังมีแรง จะนั่งบึ่ง ให้ถึงปาย

นภาสลัว ทัวร์สองคัน กระชั้นกระชับ                                ตั้งใจขับ ตามกัน รีบผันผาย

ทิวทัศน์ไกล เห็นไม่เคลียร์ น่าเสียดาย                                เตรียมกล้องไว้ ไม่ได้ส่อง จึงต้องเมิน

ขมความงาม ต่ำสูง ทุ่งไศล                                                    พฤกษ์พันธ์ไม้ แมกมวล ควนโขดเขิน

ทำดวงจิต คิดพ้นทุกข์ สุขใจเพลิน                                      โกยส่วนเกิน แห่งชีวา มาชมวิว

มวลม่านหมอก ขมุกขมัว สลัวสลับ                                    ตาต้องจับ วับประกาย สยายสยิว

พงพนา แนวป่าเขา เห็นเงาทิว                                               รถแล่นลิ่ว ดิ่วดั้น ยันเมืองปาย

@     รอยฝนเปียก อากาศโปร่ง ลงรถตู้                              เบิ่งตาดู รอบตน คันหาป้าย

อิ่มมื้อเช้า เข้าท้องตุน อุ่นสบาย                                            ตาสอดส่าย ร้านทางขวา ดูน่ากิน

เป็นมื้อใหม่ ในเมืองเหนือ เหลือตื่นเต้น                             แล้วอยากเห็น  ตลาดปาย ใกล้ท้องถิ่น

แต่หลายปี ดีดัก มักได้ยิน                                                     ปายเป็นถิ่น  รุ่งเรือง เจริญไว

สั่งรถโอบ โฉบเฉี่ยว เลี้ยวถนน                                           มากผู้คน ด้นเดิน ตามเนินไศล

รถขึ้นลง โปร่งปลอด ทอดหายใจ                                      แล่นต่อไป ปางมะผ้า อำลาปาย

โชเฟอร์ขับ ขยับเคลื่อน เหมือนจรวด                                รีบเร็วรวด เร่งเวลา เกรงจะสาย

อาหารเพล เห็นชาวบ้าน  จานเรียงราย                                 ทั้งหญิงชาย ถวายพระ  สรณะทาน

@     หมู่ที่สาม บ้านสบป่อง ปางมะผ้า                                สร้างศรัทธา มาวัดศูนย์ บุญสถาน

ร่วมกันสร้าง  ศาลาธรรม นำผลงาน                                     ชาวสามพราน  ถวายพระพุทธ กิตติชัย

ตามประวัติ วัดศูนย์ ปางมะผ้า                                              มีที่มา กว่าสี่สิบปี ศรีสมัย

พวกชาวบ้าน มาบุกเบิก จนเกริกไกร                                  ที่บ้านไร่ ไถทุ่งนา หาเลี้ยงตน

แหล่งลำเนา เข้าค้นหา มาแผ้วถาง                                         เจอะน้ำลาง พอหล่อเลี้ยง เพียงกุศล

พัฒนา เป็นตัวอย่าง สร้างชุมชน                                           ผลิตผล ยุคลบาท จำเริญรอย

ปางมะผ้า ท้องฟ้าหม่น ฝนพรมพร่าง                                   ชาวบ้านนั่ง  รอท่า  มิท้อถอย

คนสามพราน ก็รีบไป ไม่ให้คอย                                        ได้พบรอย  ยิ้มชื่น  รื่นอารมณ์

ร่วมรับศีล บิณฑถวาย พระสรณะ                                       รับพรพระ ประสบชัย ได้บุญสม

มื้อกลางวัน อาหารถิ่น ให้ลิ้นรมย์                                       ชิดชื่นชม ดมกลิ่นรส สดชื่นใจ

รับศีลบุญ เป็นทุนชีพ แล้วรีบกลับ                                      มิไปลับ ปางมะผ้า จะมาใหม่

ผู้บริหาร แห่งชุมชน ล้นน้ำใจ                                              ชาวบ้านไร่ แม้อยู่พง ดินดงดอน

อาหารเที่ยง เรียงตรง ลงกระเพาะ                                        เวลาเหมาะ ขอเอ่ยคำ อำลาก่อน

แบกบุญกลับ รับครองธรรม คำอวยพร                              ผ่านสิงขร พงพฤกษ์ไพร ห้วยสายธาร

ทำบุญไว้ ได้นิมิต จิตสงบ                                                    หวังพึ่งพบ ประสบสุข ทุกสถาน

พิมานดาวดึงส์ ถึงนรดี แห่งศรีอารย์                                    พ้นบ่วงมาร ผ่านโพยภัย ในโลกา       

 @      สองรถตู้ ดูเบิกบาน เริ่มงานเที่ยว                             ตีโค้งเลี้ยว เดี๋ยวเดียวห่าง  ปางมะผ้า

เข้าเขตเมือง  แม่ฮ่องสอน นอนหลับมา                               ถึงอุทยาน ถ้ำปลา ผาเสื่องาม

แล่นละลิ่ว  ทิวธงชัย เลาะไหล่เขา                                       แม่น้ำเงา  เคล้าชีวิต  สถิตสยาม

แม่น้ำตก ยกระดับ  วับแวววาม                                            เป็นแหล่งงาม  ธรรมขาติ  จัดสรรมา

แม่ฮ่องสอน อมรสวรรค์ พันธุ์ไม้ดอก                                นามเมืองหมอก สามฤดู แห่งภูผา

พลวงหรือมุง ว่ายฝูงใหญ่ วิสัยปลา                                      วนธารา  แหวกวารี  มียาวนาน

หนาววันนี้ ยังมีฝน หล่นพรำพร่าง                                       แจกร่มกาง เดินไปชม ภิรมย์สถาน

บางบริเวณ เต็นท์ให้มี บริการ                                              ชมอุทยาน จนหรรษา แล้วลาจร

 @     ตอนหลังฝน เห็นบนฟ้า เวหาโปร่ง                           หายใจโล่ง โปร่งปอดแปล้ แม่ฮ่องสอน

รถขับเลี้ยว ท่องเที่ยวไป ไร้อาวรณ์                                    คืนนี้นอน บ่อนไหน ไม่กังวล

ดอยกองมู โพ้นภูเขิน เนินไศล                                            ขึ้นกราบไหว้ สองเจดีย์ ศรีกุศล

ก้าวรอบเวียน จุดเทียนธูป ลูบน้ำมนต์                                สายตายล  โพ้นทิวทัศน์ จัดผังเมือง

พระเจดีย์ ศรีคู่บ้าน ตระการเด่น                                          มองแลเห็น  สีทองคำ อร่ามเหลือง

ธาตุโมคัลลา ในเจดีย์ ศรีคู่เมือง                                            นามกระเดื่อง แห่งธรรม อันลำยอง

จองต่องสู่ คือผู้สร้าง  สืบศาสนา                                           สิงหราช  ราชา สร้างองค์สอง

ทั้งคู่เด่น  เป็นมิ่งเมือง อันเรืองรอง                                      ศิลปะของ  ดอยกองมู คือปูชนี

@      ลงจากดอย ค่อยค่อยคลาน ย่านตลาด                       ดิ่งเข้าวัด จองคำ นำวิถี

เดินตามรอย สรณะ ประเพณี                                               เสริมชีวี ด้วยศิลปะ วัฒนธรรม

มีความแปลก แตกต่าง ในทางศิลป์                                      งามประทิน ถิ่นแดนเหนือ อย่างเหลือล้ำ

โบสถ์หลังคา แบบปราสาท วิลาศงาม                                 เปลวทองคำ ประดับเสา สุดฝีมือ

นมัสการ หลวงพ่อโต นะโมตั้ง                                           เสริมพลัง พุทธบูชา น่าเชื่อถือ

หลวงพ่อโต เลอล้ำ สมคำลือ                                                ด้วยฝีมือ คนไทยใหญ่ ได้สรรค์มา

   “วัดจองคำ อำเภอเมือง แม่ฮ่องสอน                                 สืบบวร บริสุทธิ์ พุทธศาสนา

ติดกับวัด จองกลาง สร้างขึ้นมา                                           ด้วยศรัทธา แรงทรัพย์ กับแรงใจ

สองพันสาม ร้อยเจ็ดสิบ สำเร็จสร้าง                                    โดยนายช่าง ฝีมือ ชนไทยใหญ่

ส่วนหลังคา ปราสาทสล้าง อย่างวิไล                                   ตั้งอยู่ใกล้ สาธารณะหนอง สวนจองคำ

สล่าโพโต่ง นายช่าง ชาวพม่า                                               ได้เข้ามา สร้างพระพุทธ สุดงามล้ำ

หลวงพ่อโต องค์ศักดิ์สิทธิ์ สถิตธรรม                                 วัดจองคำ ในวิหาร แทนฐานเจดีย์

เจดีย์เก่า แก่ชำรุด สุดบูรณะ                                                  อู่หน้าก๊ะ พระภิกษุ สร้างบายศรี

ตั้งบวงสรวง สร้างวิหาร บนฐานเจดีย์                                 ใช้เป็นที่ ประทับของ  หลวงพ่อโต

นายจองคำ ส่วยฝั่น อุตตมะ                                                  ทรัพย์สละ  บริจาค  จนอักโข

เพื่ออุทิศ  จิตถวาย  ให้พ่อโต                                                ตั้งมโน  สักการะ  พระพุทธองค์

เริ่มก่อสร้าง ระหว่างปี  สองสี่หกเก้า                                   ได้พุทธเจ้า พระองค์ใหญ่ ในประสงค์

สี่จุดแปดคูณ  ห้าจุดหกเมตร  ดังเจตจง                               งามระหง  องค์พ่อโต  วัดจองคำ”

 @     วัดจองกลาง ข้างจองคำงดงามยิ่ง                               พุทธสิหิงค์  องค์จำลอง ทองเลิศล้ำ

พระไม้สาน งานประดิษฐ์ ประณีตนำ                                  ฝีมืองาม  งานสลัก  ตุ๊กตาจำลอง

ภาพประวัติ เวชสันดร ตอนสิทธัตถะ                                 ชี้ธรรมะ  สอนใจ  ชาวไทยผอง

เสริมอารมณ์ ชมอาราม  งามละออง                                     วัดทั้งสอง ส่องสว่าง ทางชีวัน

 @     หนองจองคำ ธรรมชาติ จัดไว้ให้                              นอนพักใกล้ ในเกฃเฮ้าส์ ราวสวรรค์

เดินตลาด คนเดิน เพลินตามกัน                                           ซื้อสิ่งสรรค์  อย่างสุขศรี ฝีมือไทย

เดินชมของ มองสินค้า ร้านอาหาร                                       เดินอยู่นาน  มองร้านนั้น อยู่ตรงไหน

พอเห็นแล้ว นั่นชื่อร้าน เบิกบานใจ                                     ชื่นฉ่ำใด กว่าได้ดื่ม  ลืมเมื่อยกาย

สั่งอาหาร จานโปรด รสจัดจ้าน                                            เขียดแลวทาน  หมดจานเกลี้ยง เสียงเงียบหาย

หนุบหนับอิ่ม ชิมหลากรส  ซดสบาย                                  ขวดเรียงราย สบายอุรา โซดาเย็น

  @     กลับที่พัก หนักวันนี้ มีวันพรุ่ง                                 ตื่นย่ำรุ่ง มุ่งท่องไป เพื่อได้เห็น

ไม่ลืมพระ ถวายบาตร กำจัดเวร                                          ที่หลบเร้น เป็นเจ้ากรรม  ตามทำนอง

ตุนมื้อเช้า เข้าในร้าน อาหารเก่า                                            เลือดหมูข้าว เอามาลิ้ม จนอิ่มท้อง

ลุงบุญรอด  แลไปเห็น  เป็นทำนอง                                     แต่งคล้องจอง  จดเอามา  ดูน่าฟัง

ประพันธ์ให้ แม่ฮ่องสอน กลอนสามบาท                           ป่าวประกาศ กาพย์ยานี   มีมนต์ขลัง

นิราศนี้  ขอนำมา ว่าให้ฟัง                                                    เพื่อสรรค์สร้าง ทางกวี ที่ส่งมา

                          “อำเภอเมือง   ถามหารัก                             ใครอกหัก   ปายรักษา

                           สบเมย           เคยสบตา                              ปางมะผ้า   พาห่วงใย

                           แม่ลาน้อย      คอยคู่เคียง                           แม่สะเรียง   เคียงคู่ใจ

                           ขุนยวม           เคยอาลัย                              เก็บรักไว้      แม่ฮ่องสอน

 จัดระเบียบ กันเรียบร้อย พอคล้อยสาย                              อิ่มสบาย  คลายทุกข์  สุขสโมสร

คุณผดุง มุ่งเดินหน้า  พาเราจร                                               ไปขอพร  วอนไหว้  วัดหัวเวียง

อารามหลวง  ของปวงสยาม  นามกระเดื่อง                        วัดกลางเมือง  เลื่องลือ  ด้วยชื่อเสียง

พระกฤษฎา  อภินิหาร  อันไกรเกรียง                                 เรารายเรียง  ก้มเกล้า  เข้าไปชม

นมัสการ  พระละแข่ง  ขอแรงฤทธิ์                                     โปรดพิชิต  พาลภัย  ให้ได้สม

จิตระลึก  นึกอะไร  ก็ได้ชม                                                 น้อมพนม  ก้มกราบ  กำซาบธรรม

“”พระเจ้าพารา  ละแข่ง  พระทรงเครื่อง                             หล่อทองเรือง  เหลืองอร่าม  งามคมขำ              

ส่วนพระพักตร์  องค์บรม  ผสมทองคำ                               เก้าเก้าเก้า  กิโลกรัม  น้ำหนักองค์

บรมสารี  ริกธาตุ  ฉัตรเกศยอด                                            สามารถถอด  เป็นเก้าส่วน  ตามประสงค์

ศิลปกรรม  ชาวไทยใหญ่  ได้สร้างองค์                              เป็นทรวดทรง  แบบพม่า  มัณฑเลย์

วัดหัวเวียง  แม่ฮ่องสอน  บวรพุทธ                                      งามวิสุทธิ์  ผุดผ่องศรี  มีเสน่ห์

จำลองมา  มหามุนี  มัณฑเลย์                                                เหนือคะเน  ศักดิ์สิทธ์องค์  พระทรงชัย

ชาวพม่า  ยึดมั่น  เชื่อกันว่า                                                   พระสัมมา  พระราชทาน  ลมหายใจให้

พระเจ้าพารา  ละแข่ง  แรงฤทธิ์ไกร                                     ชนชาวไทย  ศรัทธาถือ  เลื่องลือนาม   

ถอดเก้าชิ้น  บรรทุกเรือ  ลงล่องน้ำ                                     ใช้เก้าลำ  ตามสาละวิน ขึ้นถิ่นสยาม

ฝูงผึ้งใหญ่  ไต่บินดอม  ตอมติดตาม                                    มิได้ทำ  อันตราย   ผู้ใดเลย

ถึงกลางเดือน  สิบเอ็ด  และสิบสอง                                     เมื่อแสงส่อง  จันทร์เพ็ญ  เด่นเสวย

เปล่งรัศมี  สว่างวิหาร  ให้ชมเชย                                          ทั้งไม่เคย  รับแสงไฟ  จากไหนมา

แม้นภายนอก  ลมหยุดนิ่ง  ติงสงัด                                       มีลมพัด  ในวิหาร  อัศจรรย์ยิ่งหนา

องค์พระเจ้า  พาราละแข่ง  แรงศรัทธา                                 พระปฏิมา  แม่ฮ่องสอน  กำจรไกล””

 @     ออกจากวัด  ลัดทาง  ไปถึงท่า                                   ปรารถนา  ท่าเดื่อ  เรืออาศัย

ก่อนท่าเดื่อ  เมื่อเห็นท่า  ก็คลาไคล                                     แวะเข้าไป  เจรจา  หาเรือลง

ท่าป่าแดง  หรือชื่อใด  ก็ไม่ทราบ                                        เขาต้อนรับ  ตกปากคำ  ตามประสงค์

คิดราคา  ยุติธรรม  ตามตกลง                                               เรือไม่โคลง  ลงลำใหญ่  ใช้หางยาว

สวมชูชีพ  สีสดแสด  แดดสลัว                                             เปลี่ยนจากมัว  เป็นกระจ่าง  สว่างขาว

ดวงอาทิตย์  ดั้นท้องฟ้า  มาครั้งคราว                                  ไล่ความหนาว  ราวเสกสรร  วันล่องปาย

น้ำเพียงดิน  ถิ่นที่หมาย  ไปให้ถึง                                        ฝันคำนึง  นึกต้องการ  มานานหลาย

ต้องการแล้ว  ต้องการอีก  สุดปลีกกาย                               เช้านี้ได้  ไปถึงแน่  น้ำเพียงดิน

 @     แล้วจัดแจง  แต่งกาย  ไม่เร่งรีบ                                 ใส่ชูชีพ  ก้าวลงหาด  เหยียบบนหิน

มือวักน้ำ  อธิษฐาน  ธารวาริน                                               กระแสสินธุ  กรากเชี่ยว  เป็นเกลียวฟอง

บนริมฝั่ง  สะพรั่งเขา  ลำเนาป่า                                            เรือมุ่งหน้า  น้ำเพียงดิน  วารินล่อง

เนินเกาะแก่ง  แสงสะท้อน  หินก้อนกอง                            ปายเนืองนอง  ล่องลึกตื้น  ชื่นวิญญู

เก็บภาพงาม  น้ำกระเพื่อม  เลื่อมไอศวรรย์                         ดังใครฝัน  ใครร่ำร้อง  ใครก้องกู่

เลื้อยพันธุ์ไม้  ใหญ่น้อย  หอยปลาปู                                   สรรพสิ่งอยู่  ร่วมอู่เขต  นิเวศน์วัง

มองพฤกษา  วนารี  เกือบลืมหลง                                        เรือจอดส่ง  ยังที่หมาย  ดังใจหวัง

สงบงำ  ธรรมชาติ  ทัศน์เวียงวัง                                            ด้วยมนต์ขลัง  เสกสาบไว้  ให้ทรงจำ

ซื้ออุดหนุน  ทุนแม่ค้า  แล้วลาจาก                                       ทวนเชี่ยวกราก  ธาราใส  ด้วยใจฉ่ำ

ห้วยปูแกง  แหล่งกระเหรี่ยง  ชื่อเสียงนาม                          สมความงาม  สัมผัสพะนอ  สาวคอยาว

เสวนา  ร่วมวาที  วิถีชีวิต                                                      ได้ความคิด  เชิงวัฒนธรรม  นำสืบสาว

เธอสวมคอ  นั่งทอผ้า  หลายผืนยาว                                     พอกแป้งขาว  เขย่าเปล  เห่แกว่งไกว

สัมผัสพงศ์  วงกระเหรี่ยง เพียงพักหนึ่ง                               นั่งเรือบึ่ง  กลับถึงท่า  ฟ้าแจ่มใส

คุ้งเคี้ยวโค้ง  คดวน  ถนนธงชัย                                           ขุนยวมใกล้  บ่ายเที่ยง  เดินเรียงคิว

เตรียมเขมือบ  เหลือบไปเห็น   หายห่อเหี่ยว                      สั่งก๊วยเตี๋ยว  พุ้ยใส่ท้อง  รองแก้หิว

เร่งไปต่อ  แม่ลาน้อย  แล่นลอยปลิว                                   ผ่านแวดวิว  วาดสวรรค์  ฝันระรวย

@      แม่ลาน้อย  พลอยสดชื่น  ตื่นจากฝัน                         ปีนเขาชัน  เหงื่อชุ่มฉ่ำ  ชมถ้ำสวย

สีแคลไซด์  จับเป็นปื้น  ระรื่นรวย                                       เสกสุดสวย  พะเพริดแพร้ว  แก้วโกมล

สูงสลับ  เสียด ซับซ้อน  ชะง่อนผา                                       ดูเพลินพิศ  ติดตรา  คุณค่าล้น

พระราชินี พระราชทานนาม  ยามเยี่ยมยล                          แก้วโกมล  สถลถ้ำ  ที่งามครัน

ร้อยกว่าเมตร เกล็ดผลึก ลึกดิ่งด่ำ                                        เพดานถ้ำ  ผนังเพิง ห้าเชิงชั้น

รูปปะการัง ดังดอกแก้ว เกล็ดแพรวพรรณ                         หลากสีสัน  บริสุทธิ์  สะดุดตา

พระทัยธาร    วิมานเมฆ  เฉกหิมพานต์                                ม่านผาแก้ว  เพริดแพร้ว  มณีบุบผา

ตั้งชื่อโถง  องค์ราชินี  มีเมตตา                                             ถ้ำล้ำค่า  แหล่งที่สอง  ของเอเชีย

 @     น้ำเพียงดิน  ถ้ำหินสวย  ระรวยรื่น                            สุดสดชื่น  มาทั้งวัน  พลันละเหี่ย

เดินทางกลับ  เลยหลับใหล  ผ่อนหายเพลีย                        ตื่นงัวเงีย  ถึงเสียแล้ว  แม่สะเรียง

แก็สรถยนต์  คนกาแฟ  แลห้องน้ำ                                       เกรงจะค่ำ  แล่นร่ำไป  ไม่ฟังเสียง

พักที่นี่   คงไกลแน่  แม่สะเรียง                                            ขับสุ่มเสี่ยง  ไปดาบหน้า  หาบ่อนนอน

พอถึงฮอด  จอดเข้าหา  ร้านอาหาร                                      ตามสบาย  ใครใคร่ทาน  ใครใคร่ถอน

ได้โซดา  อาหารครบ  จบแล้วจร                                         รีสอร์ทนอน   หาพบแล้ว  แถวจอมทอง

@      หลับไม่ฝัน  จันทร์สว่าง  กลางเวหน                         นอนเชิงดอย  อินทนนท์  ไม่หม่นหมอง

ทัวร์ของเรา  ตามสบาย  ไม่ได้จอง                                      วันเที่ยวท่อง  ของพรุ่งนี้  ที่ลำพูน

ตามตกลง  หกโมงเช้า  เราไปต่อ                                         ไม่ย่อท้อ  ทันใจ  ดังวัยรุ่น

คาเฟอีน  กินแต่เช้า  เข้าไปตุน                                              ล่องลำพูน  ตลาดสด  ให้รถคอย

ในมื้อเช้า คดข้าวร้อน  ตักแกงราด                                      เดินตลาด  ชมของป่า  ปูปลาหอย

พวกชาวเขา  เอาของฝาก  จากดงดอย                                  เราทยอย  บวงสรวงเจ้า  จามเทวี

เจ้าผู้ครอง  หริภุญไชย   ในอดีต                                          แผ่แผลงฤทธิ์  อิทธิพล  ท้นเกียรติศรี

ผู้เรืองเดช  เขตครองรัฐ  กษัตรี                                            องค์พระนาง  จามเทวี  ศรีลำพูน

 @    พอคนครบ  นพบูชา  ลาเจ้าแม่                                    หันเหลือบแล  ยอดพระธาตุ  สาดไอศูนย์

สัญลักษณ์  ประจักษ์ธรรม  เมืองลำพูน                               ขอพึ่งบุญ  บริสุทธิ์  พุทธบูชา

ด้วยมือสอง    ทองธูปเทียน  เหนือเศียรเกล้า                      องค์พุทธเจ้า  ทรงส่องทาง  สว่างหล้า

ขอคุ้มครอง  ป้องปกใจ  ในศรัทธา                                     โอกาสมา  จนถึงวัด  นมัสการ

     “”ในวิหาร  ตระการพิสุทธิ์  พุทธองค์ใหญ่                    หริภุญไชย  ปิดทอง  ประดิษฐาน

ศิลปกรรม  เชียงแสน  แท่นประธาน                                   พระบริวาร  อีกสององค์  ทรงขนาดกลาง

มีสองเมตร  เจ็ดสิบเซ็นต์  เป็นส่วนสูง                                 งามจรุง  สองเมตรครึ่ง  ขึงตักกว้าง

พระคู่เมือง  เรืองไกร  วิชัยปาง                                            ผู้สรรค์สร้าง  คือเจ้าครอง  นครลำพูน

พันสี่ร้อย  สี่สิบ  พุทธศก                                                      มรดก  ทอดไทย  ไม่คลายสูญ

อาทิตย์ราช  ที่สามสิบ  แห่งหริภุญ                                       ทดแทนคุณ  บุญพุท  ธสัมมา

มีมณฑป  จัตุรมุข  งามสุกปลั่ง                                             เป็นที่ตั้ง  โกศทองคำ  งามสง่า

บรรจุพระ  บรมธาตุ องค์ศาสดา                                          สูงสามวา  ครอบพระโกศ  โสฬสทรง

และพระนาง  พระนคร  ปทุมวดี                                         มเหสี  ทรงเลื่อมใส  ใคร่ประสงค์

พระเจดีย์  สี่เหลี่ยมปรางค์ สล้างทรง                                   ใต้ฐานองค์  ได้บรรจุ  กรุพระเปิม

สร้างกุฎี  อุโบสถ  มิลดละ                                                    สร้างหอพระ  สร้างวิหาร  อาคารเสริม

สถาปัตยกรรม  เก่าแก่  แต่ดั้งเดิม                                         สร้างแต่งเติม  ยอดพระฉัตร  หริภุญไชย

เพิ่มยอดฉัตร  เป็นเจ็ดชั้น  ดั้นแก้วบุษย์                              งามวิสุทธิ์  แพรวพร่าง  สว่างไสว

พระประธาน  วัดพระธาตุ  หริภุญไชย                                คือดวงใจ  ชาวลำพูน  ทูนศรัทธา””

@       คณะเที่ยว  เลี้ยวถนน  วนบนเขา                              มุ่งหน้าเข้า  ข้ามขุนตาล  ด่านข้างหน้า

กาดทุ่งเกวียน  ก่อนห้างฉัตร  ลัดเข้ามา                               ต่างซื้อหา  ของป่าแปลก  แบกรุงรัง

ไส้อั่วแหนม  แถมเก้งกวาง  วางเกลื่อนรถ                          ของแห้งสด จ่ายกันแหลก  แบกเป็นถัง

ซื้อของได้  ก็หายเพลีย  ยอมเสียตังค์                                   ขึ้นรถนั่ง  ถอนหายใจ  สบายทรวง

จากห้างฉัตร  ลัดเกาะคา  ระยะใกล้                                     จุดตั้งใจ  ไหว้พระธาตุ  วัดลำปางหลวง

ก้มกราบไหว้  ไล่เคราะห์  สะเดาะดวง                                บุญตักตวง  เต็มล้น  พ้นราคี

      “””วัดพระธาตุ  ลำปางหลวง  พุทธสถาน                     วัดคู่บ้าน  สถานคู่เมือง  รุ่งเรืองศรี

เมืองลำปาง  เขลางนคร  บวรบุรี                                          ปูชนีย   สถาน   บุราณไกล

งามเลิศเลอ  อำเภอเกาะคา  สง่าสม                                       องค์บรม  ธาตุเจดีย์  ศรีไสว

ศิลปกรรม  อันล้ำค่า  น่าภูมิใจ                                             ทั่วชาวไทย  ชาวลำปาง  ต่างชื่นชม

วิหารหลวง  ตะวันออก  องค์พระธาตุ                                 สถาปัตย์  โบราณ  ตระการสม

ทำเป็นโถง  โล่งเปิด  เทิดบรม                                             สง่าสม  ซุ้มปราสาท  ศิลาแลง

กว้างแปดครึ่ง  ยาวสิบแปดวา  มหาดิลก                             สี่สิบหก  ยกต้นเสา  ที่ยาวแกร่ง

ห้าร้อยปีกว่า  ศรัทธาพุทธ  สุดสำแดง                                  เป็นศูนย์แหล่ง  รวมใจ  ชาวไทยครอง

เจ้าหารศรี  ธัตถะมหา  สุรมนตรี                                          เจ้าบุรี  แห่งเขลาง  สร้างสนอง

พระพุทธรูป  สุดตระการ  พระเจ้าล้านทอง                        งามเรืองรอง  องค์สำริด  ศิลป์ล้านนา

เกือบหนึ่งวา  กว้างหน้าตัก ลงลักไว้                                   มารวิชัย  ทองทาบ  จับแน่นหนา

วัดพระธาตุ  ลำปางหลวง  ของปวงประชา                         เรืองฤทธา  บารมี  ศรีลำปาง”””

                @        ชมภาพเงา  ที่เกิดจาก  ใช้ฉากรับ                             เป็นภาพจริง  หัวกลับ  เห็นภาพกว้าง

เกิดจากแสง  สาดส่อง  เข้าช่องทาง                                      บังเอิญวาง  รับเลนส์  เห็นพอดี

จากเกาะคา  มุ่งหน้าเถิน  เจริญอาหาร                                  คนละจาน  สองจาน  ขมันขมี

เถินริมทาง  ถูกทัวร์รุม  ชุ่มฤดี                                             แล้วจรลี  รีบพลัน  ออกทันใด

เลี้ยวข้ามปิง  วิ่งลัดเลาะ  เจาะหาวัด                                     จิตมุ่งมาด  ที่องค์พุทธ  วิสุทธิ์ใส

ขนานพระนาม  นั้นหนอ  หลวงพ่อทันใจ                          ขออาศัย  พึ่งบารมี  ที่อัศจรรย์

พระศักดิ์สิทธิ์  นิมิตใด  ได้ดังจิต                                         ตั้งสถิต  วัดชล  ประทานรังสรรค์

พระทันใจ  มีสามองค์  คงกะพัน                                         ขนาดต่างกัน  เล็กกลางใหญ่  ให้พุทธคุณ

แบบเชียงแสน  ทรงสิงห์  ยิ่งอิทธิฤทธิ์                                                พระศักดิ์สิทธิ์   เรียกฝนได้  ทั่วไอศูนย์

กราบขอพร  พระทันใจ  ท่านให้บุญ                                   พระพุทธคุณ  แด่ปวงชน  คนสามเงา

@      จากอำเภอ  สามเงา  ไปเข้าตาก                                   เลาะขวาฟาก  ฝั่งแม่ปิง  วิ่งชมเขา

แล่นข้ามธาร  ละหานห้วย  สวยไม่เบา                                                ทัวร์ของเรา  สดชื่น  ตื่นภวังค์

ได้เวลา  ขากลับบ้าน  สามพรานแล้ว                                   เสียงยังแจ้ว  เรื่องจำ  เป็นความหลัง

ตะวันเคลื่อน  บ่ายคล้อย  ด้อยพลัง                                     ตั้งความหวัง  คราวหน้าไว้  ไปไหนดี

ผ่านกำแพง  นครสวรรค์  ผันหน้ากลับ                                                พลขับ  สองรถตู้  สู้เต็มที่

ว่างกระเพาะ  เหมาะตรงไหน  เอาไงดี                                                พอได้ที่  เจอที่หยุด  อยุธยา

สวนอาหาร  ทานสบาย  ไฟสว่าง                                         มีทุกอย่าง  สั่งได้  ไม่กังขา

พอเต็มอิ่ม  จวนอึดอัด  ก็ยาตรา                                           ได้กลับมา  พร้อมบุญ  อุ่นอิ่มใจ

 @    จบนิราศ  แม่ฮ่องสอน  กลอนคนแก่                          ตั้งจิตแน่  คราวหน้า  จะมาใหม่ 

สอบสมอง  ว่ายังมี  ก็ดีใจ                                                     ประพันธ์ไว้  เป็นประวัติ  สมบัติงาม

 

                                                                                                  พลตรี วิเชียร  ชูปรีชา