ใครผิด ใครถูก ?

เขียนและเรียบเรียงโดย นายมนัส ศรีเพ็ญ

เอกสารอ้างอิง เรื่อง จิตวิทยาพัฒนา คุณภาพชีวิต เรียบเรียงโดย มนูญ ตนะวัฒนา


ใครทำให้เด็ก เก่ง ดี มีสุข

“มนุษย์เป็นสัตว์ประเสริฐ” เชาวน์ปัญญาต่อการเรียนรู้ของเด็ก เริ่มมาจากศักยภาพทางกรรมพันธุ์ เปรียบกับอุปกรณ์เครื่องคอมพิวเตอร์ที่มีส่วนประกอบกล่องบรรจุความจำที่มีพื้นที่มาก ( Computer Hardware ) ย่อมมีความสามารถสูงในการทำงาน ผลสืบเนื่องจากกรรมพันธุ์ และอาหารที่ได้อย่างเหมาะสม มนุษย์มีมันสมองใหญ่กว่าสัตว์อื่นทั่วไป ดังนั้นเด็กที่มีมันสมองใหญ่ (น้ำหนักมาก) ย่อมได้เปรียบกว่าเด็กที่มีมันสมองเล็ก และแน่นอน หากมีสมองใหญ่โตแต่สิ่งที่บรรจุให้จดจำนั้นๆ ( Data source program หรือ Software ) ไม่มีคุณภาพย่อมไม่มีความหมาย เปรียบกับอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ที่บรรจุโปรแกรมที่เป็นเท็จ หรือขาดคุณภาพ ล้าสมัย ก็ไม่เกิดประโยชน์ เชาวน์ปัญญาต่อการเรียนรู้ของเด็ก เกิดจากผลรวมของสมรรถภาพสมอง และผลสัมฤทธิ์แห่งการเรียนรู้ สิ่งแวดล้อม สภาพทางอารมณ์และสุขภาพทางร่างกาย ( IQ, EQ และ MQ ) ได้มีโอกาส สำรวจ ทดลอง มีส่วนร่วมในกิจกรรมสร้างประสบการณ์ แรงจูงใจ ความอบอุ่น ระเบียบวินัย ตลอดจนบทบาททางครอบครัว มีอิทธิพลต่ออัตราการพัฒนาการ และนั่นเป็นตัวกำหนดแบบแผนสำหรับการเรียนรู้ของเด็กแต่ละคน ซึ่งอาจไม่เหมือนกัน ฉนั้นการวางแผนทางการศึกษา ต้องสามารถยืดหยุ่นและปรับปรุงให้เข้ากับสมรรถภาพของเด็กแต่ละคนได้ เด็กที่ครอบครัวมีปัญหา บ้านที่มีวัฒนธรรมความเป็นอยู่ที่ยากจนค้นแค้น อาจจะขาดประสบการณ์ และแรงจูงใจในการตอบสนองกิจกรรมการเรียนรู้ต่างๆ ความอดอยากหิวโหย โรคภัยไข้เจ็บ ปัญหาทางสายตา สุขภาพฟันและการพักผ่อนหลับนอนไม่ดี นับเป็นสาเหตุที่ทำให้เด็กไม่ฉลาด กลายเป็นคนโง่ เพราะไรความสนใจใยดีต่อการพัฒนาสังคมและชีวิต

โรงเรียนและครู จึงเป็นทางเลือกใหม่ด้วยยุทธศาสตร์เพื่อช่วยส่งเสริมให้เกิดความคิดสร้างสรรค์ให้กับเด็ก เพื่อปลุกความสนใจต่อตนเอง ( ปลุกพลังจิต ) ดังนั้นการกดดันให้การศึกษาทางวิชาการ หรือการจัดหาอุปกรณ์สื่อเทคโนโลยีทางการศึกษามากๆไม่ได้ชี้ให้เห็นอย่างเด่นชัดว่าทำให้เด็กที่มีปัญหาดังกล่าวจะมีเชาวน์ปัญญาสูง หรือไม่ทำให้เกิดพลังจิตในความคิดสร้างสรรค์ได้ แต่การสนับสนุนส่งเสริมให้ความมั่นใจ ในพฤติกรรมของการสร้างสรรค์ อย่างใดอย่างหนึ่งของเด็ก ครูอาจจะช่วยพัฒนาความมานะบากบั่น พัฒนาความรู้สึกนึกถึงค่าของตนเองทางการเล่นกิฬา ศิลปะ การแสดง กิจกรรมสร้างสรรค์ทางสังคม ซึ่งเป็นการพัฒนาเซลสมองซีกซ้าย ซีกขวา อย่างสัมพันธ์กัน ทำให้เกิดความพอใจ ดีใจ ถูกใจ มีความสุขคือเป้าหมายอันดับแรก จะนำไปสู่ความคิดสร้างสรรค์เบ่งบาน หรือโชติช่วงชัชวาลช่วยผลักดันให้มีความกระตือรือร้น มีศรัทธาแรงกล้าต่อครูที่ตนรักและมีพลังแรงบันดาลใจ พฤติกรรมเหล่านี้จะช่วยเสริมให้มีแรงจูงใจอื่นๆ ตามมาด้วยและจะทำให้การเรียนรู้ทางวิชาการได้ผลดี จากพฤติกรรมในการกระทำอะไรได้สำเร็จครั้งนั้น

ลักษณะของครูที่ช่วยส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์ของเด็ก ครูมีอิทธิพลในการสกัดกั้น ยับยั้ง ขัดขวาง หรือสนับสนุน ส่งเสริมนักเรียนให้เป็นคนมีความคิดสร้างสรรค์ ครูที่ดีที่ประสบความสำเร็จจะมีคุณสมบัติดังต่อไปนี้
1. ใจกว้าง ยอมรับฟังความคิดเห็นของนักเรียน มีความอดทน ยอมรับความเห็นที่แตกต่างหรือขัดแย้งกับตน
2. รู้จักการจูงใจ มีการให้รางวัล เช่น การชมเชย การให้คะแนน ฯลฯ แก่นักเรียนที่มีความคิดริเริ่ม มีความเป็นตัวของตัวเอง และมีความคิดสร้างสรรค์
3. ให้ความสนใจเป็นพิเศษในการกระตุ้นและสนับสนุนให้นักเรียนมีความต้องการค้นคว้าหาความรู้ด้วยตนเอง ด้วยวิธีการต่างๆ เพื่อให้นักเรียนมีความอิสระในการเรียน
4. ให้ความรัก ตั้งใจสอนและช่วยให้นักเรียนมีความเข้าใจหลักการทั่วๆไป รู้จักนำหลักการ หรือกฎเกณฑ์ ไปใช้มากกว่าการท่องจำแบบนกแก้วนกขุนทอง ( มีความรู้ตอบได้แต่ไม่เข้าใจเพราะไม่เคยเรียนรู้และปฏิบัติด้วยตนเอง ) หรือมุ่งจำรายละเอียดปลีกย่อยที่ไม่มีความสำคัญอันใด ย่อมเป็นที่แน่ชัดว่า ครูเป็นกุญแจสำคัญ ควบคู่กับครอบครัวและสังคมแวดล้อม ต่อการพัฒนาการเชาวน์ปัญญาของนักเรียน จะต้องให้เป็นผู้ตื่นตัวต่อภาวะสร้างสรรค์ที่มีอยู่ในตัวนักเรียนของตน จะต้องเป็นผู้รับรู้ศักยภาพต่างๆ เฉพาะตัว และจะต้องเป็นนักต่อสู้ไม่วางเฉย เพื่อพัฒนา บรรยากาศของการสร้างสรรค์อย่างไม่หยุดยั้งและมีความสุข

ใครคือครู ครูคือใครในวันนี้

ใช่อยู่ที่เรียกว่า ครู อาจารย์

ครูคือผู้ชี้นำทางความคิด

ให้รู้ทุกข์ รู้ยาก รู้พากเพียร

ครูคือผู้ยกระดับวิญญาณมนุษย์

ครูคือผู้สั่งสมอุดมการณ์

ครูจึงเป็นนักสร้างผู้ยิ่งใหญ่

สร้างคนให้เป็นตัวของตัวเอง

 

ใช่อยู่ที่ปริญญามหาศาล

ใช่อยู่นานสอนนานในโรงเรียน

ให้รู้ถูกรู้ผิดคิดอ่านเขียน

ให้รู้เปลี่ยนแปลงรู้สร้างงาน

ให้สูงสุดกว่าสัตว์เดรัจฉาน

มีดวงมานเพื่อมวลชนใช่ตนเอง

สร้างคนจริงสร้างคนกล้าสร้างคนเก่ง

ขอมอบเพลงนี้มาบูชาครู

ประพันธ์โดย เนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย

จรรยาบรรณครู พ.ศ. ๒๕๓๙


1. ครูต้องรักและเมตตาศิษย์โ
ดยให้ความเอาใจใส่ช่วยเหลือส่งเสริมให้กำลังใจในการศึกษาเล่าเรียนแก่ศิษย์ โดยเสมอหน้า
2. ครูต้องอบรม สั่งสอน ฝึกฝน สร้างเสริมความรู้ ทักษะและนิสัย ที่ถูกต้องดีงามให้เกิดแก่ศิษย์อย่างเต็มความสามารถด้วยความบริสุทธิ์ใจ
3. ครูต้องประพฤติ ปฏิบัติตนเป็นแบบอย่างที่ดีแก่ศิษย์ทั้งทางกาย วาจา และจิตใจ
4. ครูต้องไม่กระทำตนเป็นปฏิปักษ์ต่อความเจริญทางกาย สติปัญญา จิตใจ อารมณ์และสังคมของศิษย์
5. ครูต้องไม่แสวงหาประโยชน์อันเป็นอามิสสินจ้างจากศิษย์ ในการปฏิบัติหน้าที่ตามปกติ และไม่ใช้ให้ศิษย์ และกระทำการใด ๆ อันเป็นการหาผลประโยชน์ ให้แก่ตนโดยมิชอบ
6. ครูย่อมพัฒนาตนเองทั้งทางด้านวิชาชีพ ด้านบุคลิกภาพและวิสัยทัศน์ให้ทันต่อการพัฒนาทาง วิทยาการ เศรษฐกิจสังคม และการเมืองอยู่เสมอ
7. ครูย่อมรักและศรัทธาในวิชาชีพครูและเป็นสมาชิกที่ดีต่อองค์กรวิชาชีพครู
8. ครูพึงช่วยเหลือเกื้อกูลครูและชุมชนในทางสร้างสรรค์
9. ครูพึงประพฤติ ปฏิบัติตน เป็นผู้นำในการอนุรักษ์ และพัฒนาภูมิปัญญา และวัฒนธรรมไทย

อะไรที่เป็นแรงจูงใจให้เด็กเป็นคนมีความคิดสร้างสรรค์

แรงจูงใจในด้านความเก่ง หรือความสำเร็จมีหลายด้านด้วยกัน เช่น ทางเชาวน์ปัญญา ทักษะทางกายภาพ ทักษะทางสังคม มนุษยสัมพันธ์ การเห็นประโยชน์ของส่วนรวม การมีจิตเมตตา มีศาสนาในใจ
เด็กที่มีอิสระและความเชื่อมั่นในตนเอง จะเป็นผู้มีแรงจูงใจใฝ่สัมฤทธิ์สูง ควรให้การสนับสนุนชมเชยให้รางวัลตามผลวิจัยจริตของแต่ละคนว่าควรให้รางวัลอะไร เช่นการชมเชย การกอดจูบ การยิ้มแย้ม ปรบมือให้ เด็กจะมีความมั่นใจในตัวเอง ทั้งๆที่เป็นเรื่องง่ายๆ และน่าทำได้ดีกว่านั้นในความรู้สึกของผู้ใหญ่ ตรงกันข้ามถ้าใช้วิธีห้ามปรามจำกัด เพราะความกลัวเสียเวลา กลัวอันตราย กลัวเสียหาย มักใช้วิธีเผด็จการด้วยการใช้อำนาจอย่างเฉียบขาดไม่ยืดหยุ่น ปฎิเสธไม่ยอมรับ ทอดทิ้ง เข้มงวดกวดขัน หรือแม้แต่การเข้าช่วยเหลือจัดการเสียเองเลย ก็จะทำให้เด็กเป็นผู้อ่อนแอ ไม่มั่นใจตัวเอง มีพฤติกรรมผิดปกติไม่เจริญเติบโตเป็นคนที่สมบูรณ์ พ่อแม่ และครูเป็นบุคลสำคัญที่อยู่ใกลชิดกับเด็กมากที่สุด จะต้องช่วยเสริมสร้างความสัมพันธ์ทางอารมณ์อันอบอุ่น ในการผึกให้เด็กเป็นคนเก่งและมีอิสระ
พ่อแม่ หรือครู ที่มีความต้องการใฝ่สัมฤทธิ์สูง มักจะมีความมุ่งหวังความสำเร็จในเด็กสูงด้วยนั้นกลับไม่ใช้อำนาจเผด็จการ และมีความยืดหยุ่นมากกว่า พ่อแม่ ครู เอาความต้องการของตนเป็นหลัก จะไม่สนใจเรียนรู้จริตหรือความสำเร็จในเด็กมากนัก ล

จึงสรุปได้ว่า ครูหรือผู้ที่ปกครองเด็กด้วยอำนาจเผด็จการมักจะเป็นผู้ไม่สนใจใยดีกับเด็กนัก ! ! ! ? บุคคลตัวอย่างที่ได้รับแรงจูงใจจนกลายเป็นผู้มีความคิดสร้างรรค์
อับราฮัม ลินคอส์น ประธานาธิบดีคนที่ 16 ของสหรัฐอเมริกา ได้ชื่อว่าเป็นวีรบุรุษผู้ยิ่งใหญ่ เกิดจากครอบครัวที่บิดาเป็นช่างไม้ที่ยากจน ในกระท่อมไม้ซุง มารดาได้ถึงแก่กรรมตั้งแต่เขาอายุเพียง 9 ขวบ จึงทำให้เขาเป็นลูกกำพร้า ต่อมาบิดาได้ย้ายจากรัฐเคนทัคคีไปอยู่ที่รัฐอินเดียนา สร้างกระท่อมใหม่ เขาต้องหาบน้ำห่างจากกระท่อมถึง 1 ไมล์ และได้เข้าเรียนในโรงเรียนของหมู่บ้าน ต่อมาก็อยู่ในความดูแลจากแม่เลี้ยง ซึ่งได้เอาใจใส่เลี้ยงดูเขาอย่างดีที่สุดเหมือนลูกในใส้ ให้ความรัก ความอบอุ่น และส่งเสริมให้ลินคอส์น ได้เรียนต่อ ทั้งๆที่บิดาของเขาไม่อยากให้เรียน เพื่อให้มาช่วยตัดไม้ ลินคอส์นได้ไปเรียนเต็มๆ เพียง 4 เดือน นอกนั้นต้องออกมาช่วยบิดารับจ้างทำงาน ตั้งแต่อายุ 11 ขวบ จนถึงอายุ 17 ขวบ ( จากการที่เขาได้รับแรงจูงใจจากแม่เลี้ยง ให้เขามีกำลังใจต่อสู่ชีวิต ) ลินคอส์น์ ได้หันมามีอาชีพรับจ้างถ่อเรือของพ่อค้าไปขายที่เมืองนิวออร์ลีนส์ เขาได้เห็นคนในเมืองนั้นนำมนุษย์มาขาย บรรดาทาสที่ถูกล่ามโซ่ และถูกทารุณทุบตีเป็นภาพบาดใจ เขาอยู่ตลอดเวลา เขากล่าวว่า “ฉันดูไม่ได้จริงๆ อะไรมันช่างเลวร้ายเช่นนี้ “ เขาจึงมีความขยันหมั่นเพียรอ่านหนังสื่อต่างๆ เขาขวนขวายหาหนังสือมาอ่านอย่างมากมาย เขาเคยเดินทางด้วยเท้าไปขอยืมหนังสือเพื่อนที่อยู่ห่างไกลนับสิบๆ กิโลเมตร และเขาได้อ่านเรื่องของนายพลแอนดรู แจคสัน เป็นชาวนาอยากจนได้รับเลือกเป็นประธานาธิบดีได้ ลินคอสน์ ได้เกิดความคิดว่าชาติตระกูลคนนั้นไม่สำคัญหรอก หากเป็นคนที่มีความรู้และความสามารถ มีความมานะพยายาม เขาเป็นผู้มีศีลธรรมปราถนาให้ผู้อื่นมีความสุข มีแรงจูงใจว่าหากเขามีความรู้มากกว่านี้ ก็คงสามารถเป็นประธานาธิบดีได้ และงานชิ้นแรกของเขาก็คือปลดปล่อยทาส และเขาก็ประสบความสำเร็จในความคิดสร้างสรรค์ของเขา .

*********************************

 

 

อินเตอร์เน็ตเว็บไซต์เพื่อส่งเสริมคุณภาพการศึกษาของไทย

ศีลธรรม

แวดวงพระไทย
สำนักเลขาธิการมหาเถรสมาคม
ลานธรรมศึกษาพระไตรปิฎก
มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย

มูลนิธิมหามกุฏราชวิทยาลัย ในพระบรมราชูปถัมภ์
พุทธทาสศึกษาศึกษาเพื่อสืบสานปณิธานพุทธทาส
สำนักงานพระพุทธศาสนา
รวมข่าวพระพุทธศาสนาและวัฒนธรรม
ปัญญานันทะอมตะธรรม
พุทธศาสนิกสัมพันธ์แห่งโลก
พุทธศาสนาสำหรับคนรุ่มใหม่
ยุวสงฆ์ไทยและแวดวงพระพุทธศาสนา
ศาลาธรรม - ธรรมะแจกเป็นธรรมทาน

 

 

 

 

 

 

 

ปัญญา

กระทรวงศึกษาธิการ
เครือข่ายกาญจนาภิเษก
สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาเอกชน
สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาแห่งชาติ
สำนักงานรับรองมาตรฐาน
และประเมินคุณภาพการศึกษา

หอมรดกไทย
อนุรักษ์การแสดงและคนตรีไทย
การศึกษาทางไกลผ่านดาวเทียมวังไกลกังวล
แวดวงการศึกษาสำหรับโรงเรียน
ผู้ปกครองกับไอที และศูนย์การเรียนรู้
เครือข่ายเพื่อโรงเรียนไทย

 

 

 

 

 

 

 


อาชีพ

ทำเนียบรัฐบาล
ข้อมูลส่วนราชการไทย
ข้อมูลการทองเที่ยว 76 จังหวัด
ข้อมูลจังหวัด,อำเภอ,ตำบล
ตำบลของไทย : ThaiTambon.Com
รวมใจสร้างสังคมไทย
ข่าวสังคมและเศรษฐกิจ
คณะกรรมการรัฐสภา
ถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน
แผนที่ทั่วประเทศไทย

ค้นหาเว็บไซต์และบริการ
http://www.mthai.com/
http://www.sanook.com/
http://www.thaiwebhunter.com
http://hunsa.com/
http://www.thaimisc.com

 

 

 

 

 

 

กลับหน้าแรก