นิราศอเมริกา
วันแม่พ่อ ขอพระราชทาน เป็นถ่านเถ้า เรื่องใดเศร้า เท่านี้ จะมีหรือ
แม่พ่อดู ชูประคอง ทั้งสองมือ สำคัญคือ ความทรงจำ ด่ำกมล
ในวันนั้น ผันชีวิต คิดทางเลือก ถอนใจเฮือก สุดท้าย ไปทุกหน
รัชนี ผู้ชี้ช่อง ให้สองคน สู่สากล สมัครให้ ไปอเมริกา
สิบสี่ปี ที่วันนั้น ถึงวันนี้ รับวีซ่า ถาวร นอนผวา
ทูตสัมภาษณ์ จัดคิวเตือน เดือนมกรา ยี่สิบห้า ตีตราให้ ได้โอเค
เป็นกรีนการ์ด บัตรวีซ่า ผู้อาศัย ที่ว่าไว้ เพียงสิบปี มีหันเห
อเมริกา ตะวันออกกลาง ต่างซวนเซ เกิดลังเล
รีรอ ขอเลื่อนมา
เวลาเคลื่อน เชือนคอยรอ ต่ออายุ จึงล้างลุ เสียให้ทัน ซึ่งปัญหา
เคลียร์ให้สิ้น ก่อนบินไป อเมริกา เรื่องค้างคา ถ้ายังมี ให้คลี่คลาย
ความมุ่งหวัง อยู่ต่างแดน แสนมืดมิด ยากสัมฤทธิ์ สิ่งงดงาม ตามคาดหมาย
อายุมาก อยากศึกษา สิ่งท้าทาย ตอนบั้นปลาย ก่อนชีพลับ ดับชีวัน
มองเห็นการณ์ อันภายหน้า อนาคต คงไม่สด ใสสุด ดุจดังฝัน
ถิ่นเคยอยู่ อู่เคยนอน จรจากพลัน ดงมะกัน หรือรุ่งเรือง กว่าเมืองไทย
ใช่อนาถ วาสนา ชะตาตก จึงต้องยก ครอบครัวจาก เหมือนผลักไส
กรรมบันดล คนบันดาล การณ์เป็นไป หรือตั้งใจ ในอดีต ลิขิตเอง
ไม่สุขแสน ยินดี เมื่อมีโชค ไม่ทุกข์โศก เมื่อโชคร้าย ใครข่มเหง
รู้แตกดับ รู้กลับกลาย เปลี่ยนไปเอง ความโง่เก่ง ดีชั่ว มีทั่วไป
หลบไปอยู่ เมืองนอก ยิ่งชอกช้ำ จะหนีกฎ แห่งกรรม นั่นไฉน
ถ้าความดี มีติดตัว กลัวอะไร เยียวยาใจ หายหม่นหมอง ต้องอยู่ดี
ไม่มีใคร อยากไกลบ้าน ถิ่นฐานเกิด ใจเตลิด ระเหิดหาย ผ่านไพรสีห์
ห้วงอากาศ เวิ้งว้าง กว้างนที ห่างคนดี ที่คิดถึง ตรึงติดตรา
เคยสมเสพ เจ็บปวด รวดร้าวจิต ซ่านจริต ลวงเล่ห์ เสน่หา
ทั้งสับปลับ ทั้งจริงใจ ไร้มารยา ดีต่อหน้า ด่าลับหลัง ทั้งเห็นใจ
อันมนุษย์ สุดกำหนด กฎเกณฑ์แน่ สูตรเที่ยงแท้ ไม่แน่นอน และอ่อนไหว
สันดานดิบ ดื้อด้าน ระรานไป ไม่ให้ใคร เกินหน้า เด่นกว่าตัว
หลังวีซ่า ห้าเดือน เหมือนติดปีก เวลากระดิก เร็วรวด ชักปวดหัว
ใช้เวลา สะสาง อย่างเนียนัว ด้านสังคม ด้านส่วนตัว ครอบครัวเรา
มีการงาน การเงิน เผชิญหน้า ยังค้างคา อยู่เป็นทุน ดังขุนเขา
ทิ้งหมักหมม จมปรัก ทั้งหนักเบา ทั้งกิจเก่า กรรมใหม่ คลี่ให้คลาย
วันที่สิบ พฤษภา แรกนาขวัญ เตรียมจัดงาน เลี้ยงส่ง จำนงหมาย
หวังให้เรา ออกเดินทาง เยี่ยมย่างกราย บินท่องไป โพ้นทะเล อเมริกา
หัวเรือใหญ่ ใครอีกเล่า ก็เขาล่ะ อยากพบปะ สังสรรค์ ให้หรรษา
สกุลจงรัก ระวีวรรณ ท่านปรีชา เรียกปรึกษา สีห้าท่าน จัดการเตรียม
ที่เรือนปทุม ธรรมศาสตร์ นัดไว้แล้ว ขออย่าแคล้ว ขาดใคร อย่าอายเหนียม
ร้องบรรเลง เพลงสวรรค์ ขวัญกับเรียม เพื่อตระเตรียม หลากหลาย จ่ายแผนงาน
มีท่าน เหลือ เป็นหัวแรง แดงมานะ ช่วยเกณฑ์กะ เหล้ายา ภักษาหาร
พงษ์ ปื้ด ปุ๊ ยุไม่จัด ภัตตาคาร สั่งอาหารให้ เหมาะสม กรมพลาฯ
คาราโอเกะ กะงาน ไว้ครันครบ เรื่องจัดงบ นั้นไซร้ ใช่หนักหนา
จะมุ่งย้ำ จำเตือน เพื่อนราชา ศูนย์หนึ่งมา สามัคคี อย่ามีคลาย
คิดถึงบุญ คุณสุวิทย์ สถิตเสถียร ใช้ความเพียร รวมรุ่น ไม่สูญหาย
รวบรวมนัก เรียนวัด กระจัดกระจาย ด้วยมาดหมาย ร่วมรัก สามัคคี
เขาเหลือใจ ไว้เบื้องหลัง เป็นปางก่อน เขาพักผ่อน หลับสบาย กายหลีกหนี
อยู่บนชั้น สวรรค์หล้า สุขาวดี เกิดให้มี รุ่นศูนย์หนึ่ง ซาบซึ้งใจ
อันเกิดแก่ เจ็บตาย ใครหลีกพ้น เราทุกคน ได้พักผ่อน อย่าอ่อนไหว
หมั่นสรรค์สร้าง ทางกุศล ทุกคนไป ตระเตรียมใจ เตรียมกายา เวลารอ
ครั้งเก่าก่อน ย้อนอดีต คิดถึงเด็ก ตัวยังเล็ก ไร้พลัง สตังค์ขอ
ขุนวิรุฬ จรรยา สง่า ร.ว. หน้าป๋อหลอ จ๋อจ๋อง เข้าห้องเรียน
หกสิบกว่า โอ้อายุ บรรลุแล้ว ฟันฝ่าแนว เต็มกำลัง หลังเกษียณ
รอยโคลาก ยากจะมี หนีกงเกวียน วกวนเวียน กลับราชา พบปะกัน
ชมพูน้ำเงิน ราชาธิวาส ยอดปรารถนา ข้ามรั้วฝ่า เตรียมทหาร ขวาซ้ายหัน
พระคุณครู ผู้การุณ คุณอนันต์ ไม่มีวัน ทดแทน ได้เท่าเทียม
กาจแกร่งกาย ในรั้วแดง กำแพงเหลือง เด่นกระเดื่อง ประเทืองยุทธ์ สุดยอดเยี่ยม
มากมวลมิตร กิจกรรม แบบธรรมเนียม ถึงคราวเรียม ร้างแรมรา จะมาเยือน
ยี่สิบหก พฤษภา ฟ้าสว่าง แดดสะพรั่ง ทั้งบางใหญ่ ไปบ้านเพื่อน
คุณลันทม พุทธเทศก์ เขตเคยเยือน แต่ดูเหมือน ว่าจำได้ คล้ายคลับคลา
ออกจากบ้าน พาลจะสาย นอนไม่อิ่ม แต่เปรมปริ่ม ด้วยเพื่อนรัก เป็นหนักหนา
ร่วมทำบุญ สุญทาน งานศรัทธา เบิกเนตรพระ ตุ๊กตาจีน จากถิ่นไกล
เข้าบางใหญ่ ใจมั่น ลองดั้นด้น ขอกุศล ผลบุญ หนุนนำให้
บ้านสุนันทา ลันทม ผมเคยไป และจนได้ ใช้โทร. จึงถูกทาง
ทันพรพระ กะเวลา ภัตตาหาร เจ้าของบ้าน ดีเหลือเกิน ไม่เมินหมาง
จากเสน่ห์ ปลายจวัก ตักกินพลาง แม่กวนอิม ทรงเข้าร่าง ต่างนั่งรอ
พระโพธิสัตว์ ประทับทรง อนงค์ร่าง ในรูปปาง บริสุทธิ์ มนุษย์ขอ
เป็นที่พึ่ง ทางใจ ได้เพียงพอ จึงได้ขอ ให้เดินทาง อย่างปลอดภัย
เห็นร่างทรง แช่มช้อย ส่งรอยยิ้ม แม่กวนอิม ใจดี ทวงหนี้ให้
แม้หนี้เก่า ก่อนกาล นานเท่าใด สวดส่งใจ จะได้สม อารมณ์ปอง
เห็นรูปถ่าย ติดแจกัน ที่ผันผิน เป็นรูปศิลป ทำตาโต โอ้สยอง
วาดส่วนโค้ง ส่วนเว้า เข้าทำนอง จึงร้อยกรอง ที่ได้เห็น ไว้เป็นทุน
ระอ่อนองค์ อนงค์เนื้อ เมื่ออิงแอบ นวลพุ่มแนบ เนียนตา ดังปุยนุ่น
สองปรางค์ชม ผมสลวย ชวนละมุน อกทรวงอุ่น หนุนเขนย เชยเต่งตึง
สองขุนเขา เต้าตูม ปทุมเนื้อ ชมพูเรื่อ เจือแสงรอน อาวรณ์ถึง
พฤกษาหลั่น ล่วงหล่นใบ ใจคำนึง สุดซาบซึ้ง คิดถึงพง คงเลี่ยนลาน
แลห้วงหุบ หลุมหลบเหว เปลวสวาท งามพิลาศ ยวนย้วย ห้วยละหาน
ควงคณโท โอ้ใจหาย แทบวายปราณ ถือให้มั่น อย่าทำลาย เหมือนใจกวี
วันอาทิตย์ ยี่สิบเจ็ด เดินเหน็ดเหนื่อย หลังปวดเมื่อย อ่อนล้า หน้าถอดสี
หวังซื้อของ ฝากให้ กับไอ้นี นั่งรถปรี่ จอดลาดพร้าว เข้าใต้ดิน
นั่งรถไฟ ไปสยาม พาราก้อน เดินขาอ่อน ชมซีเวิลด์ เพลินกระสินธุ์
ปลาน้อยใหญ่ ว่ายแหวก แทรกวาริน เทียวหากิน เป็นฝอยฟอง เจ้าของรวย
สกายวอร์ค ออกเดิน เพลินผาดผัน นารายณ์ภัณฑ์ เย็นยาบ ดูภาพสวย
หาได้พบ ภาพงาม ที่อำนวย ใช้ตัวช่วย คือแท็กซี่ รี่กลับลำ
ถึงที่หมาย จตุจักร ตั้งหลักหน่อย เดินเอื่อยอ่อย ค่อย ๆ เบียด เสียดกันหนำ
ร่างอาบเหงื่อ ท่วมตัว กลัวหัวคมำ ก่อนฝนพรำ กระหน่ำพื้น ขึ้นรถไฟ
รอฝนซา สร่างเม็ด ระเห็ดกลับ เห็นจั๋งหนับ รถเจ็ดคัน มันถากไถ
ถนนลื่น ยังขืนแข่ง แย่งกันไป จูบบั้นท้าย เรียงแถว เป็นแนวยาว
ก่อนจะเข้า เห็นเจ้าซน มันซ่าซ่าน พอถึงบ้าน ชงกาแฟ กินแก้หนาว
คิดใคร่ครวญ หวนคำนึง ถึงเรื่องราว เมื่อตอนเช้า ผ่านมา ปรีชาตาม
ให้ไปพบ บ้านพฤกษา อย่าคิดมาก ไปไม่ยาก จากรังสิต ถึงคลองสาม
ชวนคนเก่า เจ้าเดิม เสริมพองาม พยายาม ตั้งสติ มิเศร้าซึม
ยี่สิบเก้า วันอังคาร ใกล้ผ่านผัน ดวงตะวัน ลับฟ้า เวหาครึ้ม
บรรยากาศ สวาทวาย หายอึมครึม ไม่อาจลืม ดูดดื่มรส สุคนธา
ไกลสุดไกล ใกล้จากจร อาวรณ์เจ้า คงคอยเฝ้า เหงาหงอย เศร้าสร้อยหา
โอ้รอยฝัง หยั่งซึ้ง ตรึงติดตรา อีกกี่เดือน จะเคลื่อนคลา มาพบกัน
เหลือสิบเอ็ด ระเห็จเหิน เดินอากาศ จำนิราศ วาดลิขิต นิมิตฝัน
ไปสู่หวัง ทั้งมิอยาก จะจากกัน เกลียวสัมพันธ์ มั่นคง มิเสื่อมคลาย
นับถอยหลัง ตั้งเวลา หาพรุ่งนี้ อาจจะมี วิกฤต ไม่คิดหมาย
เพราะการเมือง ส่อเค้า เอากันตาย เกรงเกิดร้าย ใช้กำลัง ตั้งทะมึน
สื่อตระโบม ประโคมคุ กุข่าวเข้ม ทุกจอเต็ม ตามเจาะ เกาะกลางกึ๋น
นับนาที ถอยหลัง กันทั้งคืน มองจุดยืน ทางการเมือง เรื่องคดี
สองพรรคใหญ่ สามพรรคย่อย คอยขึ้นเขียง เป็นอย่างเยี่ยง เสี่ยงระยำ ทำบัดสี
เพราะกลั่นแกล้ง แย่งสภา ประชาชี เบ่งบารมี แย่งอำนาจ แย่งชาติไทย
เก้าตุลาการ รัฐธรรมนูญ ศูนย์อำนาจ จะชี้ขาด ให้เที่ยงแท้ แน่ไฉน
คนต้านลุ้น คนหนุนเชียร์ ชักเพลียใจ กรรมของใคร กรรมของมัน ทำกันเอง
ถึงสามสิบ พฤษภา ชะตาพุธ เป็นที่สุด แห่งคดี ที่โฉงเฉง
อนาคต ของชาติ อาจวังเวง เหล่านักเลง วงการเมือง ต้องเคืองตา
สายวันนี้ มีนัด จัดเตรียมไว้ ประกันภัย ของเพื่อนโป้ โทรมาหา
ไปตรวจโรค เอาประกัน โรงพยาบาลวิภา ปรารถนา อยากตรวจซ้ำ โรคความดัน
ในตอนค่ำ ยังมีนัด จัดเป็นกลุ่ม เรือนปทุม ห้องดนตรี มีสังสรรค์
พรรคใดยุบ พรรคไหนอยู่ คงรู้กัน ใช่พวกฉัน อย่าไปยุ่ง ให้รุงรัง
ไม่คิดถึง การเมือง เปลืองประวัติ ใครชอบกัด ฟัดให้ยับ จับมันขัง
คนยิ่งรวย จนล้นฟ้า จะพาพัง คุกตะราง ขังสุนัข ไม่พักรอ
เลี้ยงแทงกิ้ว ปาร์ตี้ มีเพลงร้อง เชียงรากคลอง เรือนปทุม เชิญหนุ่มหล่อ
ร้องบรรเลง เพลงสนุก คุยถูกคอ เพื่อน
ร.ว. ขออีกที พรุ่งนี้เจอ
เขาว่าเมา เมารัก มักหนักหัว เมาลืมตัว มัวตา จะพาเซ่อ
อันเมาเหล้า มึนมัว หัวจะเบลอ อย่าเมาเผลอ ทั้งเหล้ารัก จะอักอาน
สามสิบเอ็ด ระเห็ดเหิน ออกเดินสาย สู่ที่หมาย ลาญาติ นิวาสถาน
นั่งนิสสัน ของลูกเหมียว เลี้ยวสามพราน กับสองหลาน วิชัยหนึ่ง ถึงคลองจินดา
เยี่ยมนงลักษณ์ ป้าอี่ ยังที่บ้าน เยี่ยมสามพราน นานครั้ง ตั้งใจหา
เพื่อบอกข่าว เล่าความ จำนรรจา ไปสั่งลา หาสู่ ผู้มีคุณ
โอ้ว่างาม สามพราน ปานเสกสรร นิมิตปั้น แต่งไว้ มิคลายสูญ
โอ้ทรามเชย เคยอาศัย ใต้ใบบุญ คอยเจือจุน ยามขุ่นเคือง ทุกเรื่องคลาย
สวนรื่นรมย์ พืชสมบูรณ์ พูลสุขศรี ทุกอย่างมี สีสัน ดังจันทร์ฉาย
จากท่าจีน ถิ่นงาม สามพรานไป อยู่ข้างหลัง จงตั้งใจ ให้มั่นคง
กลับดอนเมือง เมียงมอง ห้องล้างรถ จ่อใจจด จิตจ้อง ต้องประสงค์
พบพลตรี จีระ จะเจตน์จง ด้วยประสงค์ ให้เครือญาติ ไม่คลาดคลา
พอตกเย็น เป็นการนัด จัดตั้งโต๊ะ จะลุโล๊ะ สุดท้าย คลายปัญหา
เก็บของเก่า เหล้าที่เหลือ เจือโซดา รสโอชา ปลาผัดแกง น้ำแข็งเย็น
รูป เร้นลับ เลือนลาง เคยฝังจิต สิ่งศักดิ์สิทธิ์ นิมิตแฝง แกล้งให้เห็น
เพียงเลี้ยววูบ รูปเลือน เหมือนเคยเป็น เมื่อใดเห็น เมื่อนั้นโชค โฉลกดี
ปื้ดกับปุ๊ ยุให้ ไปแทงหวย อาจเคราะห์หาม ยามรวย เป็นเศรษฐี
ครั้นรุ่งวัน ที่หนึ่ง ถึงพอดี จนคุณพี่ ปรีชาโทร. ก้อนโตเงิน
มิถุนา ย่างมาเยือน เดือนสุดท้าย จะเคลื่อนย้าย ห่างถิ่น บินเหาะเหิร
อเมริกา ฟ้าใหม่ ให้ส่วนเกิน อาจเพลิดเพลิน หรือฟูมฟก โอ้อกเรา
สักการะ องค์ ร.5 ปิยะราช ขออนุญาต ถวายบังคมลา พระผ่านเผ้า
พ้นภัยพาล ประทานชัย ให้พวกเรา พบกรมข่าวฯ
เข้ารายงาน การเดินทาง
ต้องไปแน่ แม้ไม่อยาก จะจากถิ่น ผืนแผ่นดิน เคยอยู่ แผ้วปูถาง
แม้สังคม ทุกข์เข็ญ ไม่เว้นวาง อยู่ท่ามกลาง มวลม็อบ ยังชอบใจ
โอ้เมืองไทย ในอดีต มีผิดถูก ล้มยังลุก คลุกคลี มีเถือกไถ
ธรรมชาติ ป่าเขา ลำเนาไพร ทั้งหาดทราย สดสวย ด้วยทะเล
พัทยา เคยมาเยือน ยังเตือนจิต เทพนิมิต มนต์แฝง ใช่แสร้งเส
เที่ยวพักผ่อน หย่อนใจ ได้ฮาเฮ ต้องหันเห ห่างหา ด้วยอาลัย
เหม่อมองน้ำ ค้ำฟ้า มหาสมุทร นิราศนุช ไกลยิ่งกว่า จะหาไหน
ใกล้วันลา สั่งนาง จะห่างไกล ดังหาดทราย ยามคลื่นซัด สุดทัดทาน
หาดทรายขาว เจ้าคะนึง ถึงพี่บ้าง ปล่อยให้ว้าง เหลือคณา น่าสงสาร
พยายาม ตามหาฝั่ง เสียตั้งนาน พบนงคราญ ข้าต้องครวญ จวนจากลา
ปลอบประโลม โฉมเฉลา เฝ้าถนอม เด็ดดมดอม หอมประทิน กลิ่นบุหงา
คงคิดถึง คะนึงนุช สุดบูชา อเมริกา ไกลสวาท นิราศครวญ
วันที่ห้า พาลูกสาว เข้าสัมภาษณ์ เสียโอกาส ที่พลาดไป ไม่กำสรวล
ชาติฝรั่ง ตาน้ำข้าว เขาเรรวน จะทบทวน ก็จวนตัว มันกลัวไทย
โอกาสทอง ของมนุษย์ สุดจะหวัง ในบางครั้ง มีปัญญา ยังหาไม่
เมืองฝรั่ง ปล่อยชั่งหัว กลัวทำไม ไม่ได้ไป ไปไม่ได้ เป็นไรมี
วางแผนใหม่ ปลอบใจเหมียว อย่าเหี่ยวห่อ ความเป็นพ่อ
ขอให้ทำ ตามหน้าที่
บอกทางเลือก แนะนำ จำให้ดี หยิ่งศักดิ์ศรี มีเงินเก็บ ไม่เจ็บใจ
วันนี้พลาด อาจรื้อฟื้น คืนอีกครั้ง ใช่สิ้นหวัง แต่ยังมี พรุ่งนี้ใหม่
จะเกินขาด พลาดซ้ำ ทำเรื่อยไป ผิดแก้ไข ให้แน่วแน่ แพ้ไม่เป็น
ทำสิ่งดี ที่ถูกต้อง กลั่นกรองแล้ว คงไม่แคล้ว คุณความดี มีคนเห็น
สิ่งที่หวัง ยังไม่สาย ถึงบ่ายเย็น
อะไรเป็น อะไรเกิด ชั่งเถิดมัน
วันที่เก้า ฟ้ากระจ่าง สว่างแล้ว ไม่มีเสียง เจื้อยแจ้ว ของไก่ขัน
ยินเหล่านก วิหคซ้อง ร้องเรียกกัน ส่งสัญญาณ วันไกล ไปหลายเดือน
มาร้องปลุก ลุกขึ้นเถิด ให้เฉิดฉันท์ อีกไม่นาน การเดินทาง ต้องห่างเพื่อน
แอ๊วดำรง สมพงษ์มา หาถึงเรือน จะส่งเพื่อน ถึงเรือนชาน การสั่งลา
บรรจุของ จำต้องใช้ ใส่กระเป๋า ส่วนนงเยาว์ กับเจ้าเหมียว เหลียวซ้ายขวา
ทั้งของฝาก ของใช้ ในอเมริกา มีเสื้อผ้า ยาประจำ ที่จำเป็น
ไม่มีลืม นำตำรา ภาษาฝรั่ง แม้กระทั่ง กาพย์กลอน นอนอ่านเล่น
แล้วสำรวจ ตรวจใหม่ อย่างใจเย็น มิตื่นเต้น เร้าใจ ใจเย็นชา
ศูนย์แปดหนึ่ง หกสี่หนึ่ง ศูนย์ห้าสามสอง ส่งเสียงก้อง ร่ำไป ใครโทร. หา
ยินสำเนียง เสียงอวยพร ก่อนจากลา เป็นสัญญา ว่ารัก ฝากดวงมาลย์
ไม่ลืมลา โทร. หาเกื้อ ประธานรุ่น จุดรวมศูนย์ ของรุ่นสอง เตรียมทหาร
ขอให้เหงะ เลขา ท่านประธาน รีบกลับบ้าน ทำงานรุ่น ศูนย์รวมใจ
เมื่อวันวาน ไปกรานกราบ รับพรขอ แม่กับพ่อ ลูกบูชา ศรัทธาไหว้
ลาพี่สุข ลาพี่เติม พี่สมใจ เมื่ออยู่ไกล ใจรำลึก นึกถึงกัน
อิ๊ด ปุ้ย ปุ๊ก ปุ๊ ปื้ดเหลือ มาเจือเสริม เชิญลุงเติม บ้านกลางกรุง มุ่งสังสรรค์
ด้วยศรัทธา ภารกิจ ที่สำคัญ ไหว้กราบกราน รัตนไตร ไท้ธรณี
อาราธนา พาของขลัง แล้วสั่งบ้าน คิดอยู่นาน เราต้องไกล ใช่ไหมนี่
คิดถึงวัน เลี้ยงสั่งลา เหมือนห้าปี แต่ครั้งนี้ สี่ห้าเดือน เพื่อนกลับมา
มีมุ่งหมาย หลายอย่าง ไปครั้งนี้ อยู่สุขี ที่บ้านเรา จะดีกว่า
ขอค้นพบ ประสบการณ์ เพียงผ่านตา ไปศึกษา โดยสัมผัส วัฒนธรรม
ไปหาลู่ ปูถากถาง ทางสร้างเสริม มาเพิ่มเติม ทางใจ ให้อิ่มหนำ
ไปทดลอง ของใหม่ ไม่เคยทำ เป็นบุญนำ หรือกรรมซัด จะวัดใจ
เกิดมาแล้ว ต้องอดทน บนพิภพ จะการรบ การรัก การผลักไส
จะเศรษฐี จะทุกข์สุข คลุกคละไป ขอเพียงใจ ไม่ระย่อ ทระนง
อีกครึ่งวัน จะผันจร เที่ยวร่อนเร่
ชีวิตนี้ มีที่ไหน ไม่เคยปลง ยืนยังยง เผ่าพงศ์พร้อม ย่อมก้าวไป
เมืองเจริญ รุ่งเรือง ก็เมืองเขา แต่เมืองเรา นั้นดีกว่า จะหาไหน
ขอกอบโกย ประสบการณ์ ที่บ้านไกล เมื่อตอนปลาย วัยชีวิต จะปลิดปลง
ด้วยการเรียน เพียรศึกษา หาสิ่งรู้ เป็นทางปู เดินไป ใช่ลุ่มหลง
หากมิพลาด โอกาสเหมาะ ที่เจาะจง ปักหลักลง แต่งติดตั้ง หลังตามมา
แม้จากไป ไกลเพื่อน ก็เหมือนชิด รู้ว่ามิตร มุ่งมาด ปรารถนา
เคยทุกข์สุข คลุกเคล้า กับเรามา จะตั้งหน้า ฝ่าฟ้าเหิร เดินก้าวไป
จำวันที่ ยี่สิบสี่ งานที่บ้าน จัดสังสรรค์ ชาวราชา มากลุ่มใหญ่
บรรเลงสุข สนุกสนาน ชื่นบานใจ ผูกเยื่อใย ให้ราชา พบปะกัน
คิดถึงวัน เมื่อวานซืน คืนหรรษา ไปอำลา เพื่อสนิท มิตรสังสรรค์
เคยร่วมก๊วน หวดลูกกอล์ฟ ออกรอบกัน ทุกเดือนนั้น แบ่งกันใช้ ได้เงินแชร์
หมุนตามกรรม นำมาถึง ซึ่งชีวิต ไม่ต้องคิด ถึงอะไร ตายแหงแก๋
เสี้ยวเวลา เหลือเพียงใด ไม่แคยแคร์ ก่อนจะแก่ ไปกว่านั้น ฉันต้องมี
ขอท่องเที่ยว แก้เปลี่ยวใจ ให้หายซ่า อเมริกา ห้าหกเดือน ใช่เบือนหนี
คนบ้านบึง ซึ้งดวงใจ ห่วงใยมี ไปคราวนี้ มีวันกลับ ใช่ลับตา
โอ้บ้านบึง ถึงห่างไกล ใจใกล้ชิด มีชีวิต ที่ผูกพัน กันแน่นหนา
เจ้าอย่าลืม คำมั่น เคยสัญญา จะกลับมา อีกไม่นาน รอบ้านบึง
คืนนิทรา อำลาเจ้า อย่าเศร้ารัก เป็นกรรมนัก ต้องจากไป ใจคิดถึง
มิลาลับ ประทับใจ ไว้ตราตรึง รักสุดซึ้ง ด้วยเมตตา และการุณ
บ้านดอนเมือง เมืองใหม่ ใช่ยิ่งหย่อน ตั้งต้นผ่อน แต่สี่หนึ่ง ถึงสี่ศูนย์
โดนดอกเบี้ย เพลียตัว หัวซุกซุน เงินจะหมุน มีไม่พอ เหมือนท่อตัน
เว้นบางปี ไปลดหย่อน ขอผ่อนน้อย ต้นทยอย ดอกทะยาน พาลหุนหัน
มิเคยโวย โดยง่ายดาย จ่ายตะบัน ธนาคาร ของคนเคราะห์ ช่างเหมาะดี
สงเคราะห์ฉัน แต่มันรวย ช่วยไม่ได้ เพราะไว้ใจ บริการ จากมารผี
สูบดวงดอก บอกว่าคุณ บุญบารมี พวกสิ้นดี ใกล้นรก ตกบาดาล
ออกกฎบัตร มัดมือบีบ หนีบลูกค้า ใครเสียท่า ขัดขืน ต้องขึ้นศาล
พวกลูกค้า หน้าหงอ ดังขอทาน ธนาคาร ทอดตลาด ฟัดกันเพลิน
ยิ่งผ่อนช้า ข้ามวัน มันฟันดอก ดังทิ่มหอก ถูกอก ระหกระเหิน
อันตราย นายแบงค์ พวกแย่งเงิน แย่เหลือเกิน เศรษฐกิจ มืดมิดมัว
นำหลักทรัพย์ บังคับคดี ที่แบงค์อื่น ยังหน้ารื่น อมพะนำ ระยำฮั้ว
เราลูกค้า หน้าไม่ด้าน พาลหมองมัว เลวชาติชั่ว มั่วสิ้นดี เจ้าหนี้ไทย
โฆษณา หนังสือ คือพ่อพระ เลี่ยงธรรมะ น่านิยม ชมเลื่อมใส
หาประโยชน์ โคตรเดน เวรตะลัย ทำเป็นนาย แต่ให้ทุกข์ บุคลากร
ทำงานแบงค์ แต่งนิสัย ให้ใจหาญ สร้างหลักการ ปานเปรียบ เทียบสิงขร
เป็นพ่อมด ซดน้ำเงิน เดินขั้นตอน ใครเดือดร้อน อย่าสนใจ ขอได้เงิน
เศรษฐกิจ ทุนนิยม สังคมโลก น่าวิตก ยกคนรวย ไม่ขวยเขิน
เกิดเป็นไทย ถ้าใครจน คนหมางเมิน แม้นมีเงิน เดินชูคอ จ้อสภา
ธนาคาร ผลาญสังคม จมเลอะเทอะ ละเลงเปรอะ เฟอะฟะ กักขระหนา
อันดีชั่ว มัวเมาเพลิน ด้วยเงินตรา ด้านหน้าหนา ด่าเท่าไร ไม่กระเทือน
ให้เจ้าปุ๋ม ขนกระเป๋า เข้าท้ายรถ ของทั้งหมด ไม่มีใคร แพ็คได้เหมือน
ดูอย่างดี วีซ่า อย่าลืมเลือน แล้วลาเพื่อน อู๊ดแอ๊วพงษ์ ที่ส่งเรา
เจ้าหมาซน ยลมา ตาละห้อย มันเศร้าสร้อย ละห้อยหา เหมือนหมาเหงา
อายุแค่ เจ็ดเดือน เหมือนหมาเยาว์ รู้จักเศร้า กับเขาบ้าง สั่งอาลัย
นับแต่นี้ คงอีกนาน จะพานพบ ให้กัดขบ เขี้ยวกราม ตามนิสัย
หมากับเหมียว อีกเดี๋ยวเดียว คงเปลี่ยวใจ พ่อแม่ไป ต่างเมือง อย่าเคืองตา
เหลือครึ่งวัน จะผันผาย ไปหาช้าง ไปพบกวาง วิชัยหนึ่ง ถึงเคหา
มื้อกลางวัน อาหารเหนือ เหลือเวลา พักกายา เวลารอ พ่อแม่ไกล
คิดถึงปลา ตัวน้อย ในอ่างน้ำ คงชอกช้ำ ระกำเหงือก เถือกไถล
แม่ส่งก้อน ป้อนอาหาร ทุกวันไป น้ำเย็นใส ว่ายวน ยลฝอยฟอง
ห่วงพืชไม้ หลายชนิด ใกล้ชิดเจ้า แม่คอยเฝ้า
ฟูมฟก มิบกพร่อง
เจ้าหมั่นออก ดอกผล ให้ยลมอง เจ้าจำต้อง อยู่เหย้า เฝ้าดอนเมือง
นอนหยอกเย้า เจ้าหลานน้อย ด้อยเดียงสา สองยายตา เหลือกำลัง แทบคางเหลือง
เด็กหญิงกวาง เด็กช้างชาย มิคายเคือง ของเล่นเปลือง ค้นหา มาเล่นกัน
ขนมไทย หลายอย่าง กินสั่งเสีย ถึงแม้เพลีย ไม่พักผ่อน ให้นอนฝัน
ขึ้นนิปปอน แอร์ไลน์ เมื่อใดพลัน จะหลับฝัน ถึงหลานลูก ทุกเวลา
มองดูดาว ราวทุ่มครึ่ง ขึ้นยานเคลื่อน นั่งล้อเลื่อน อย่างสุโข โตโยต้า
หักใจข่ม ผ่านร่มเกล้า ชักแถวมา ส่งพร้อมหน้า ลูกหลาน สุวรรณภูมิ
ผู้โดยสาร ขาออก ป้ายบอกบ่ง เลี้ยวคดโค้ง ข่มใจ ที่ไฟสุม
ร้อนกำเริบ เสิบสาน เข้าผลาญรุม คิดควบคุม อารมณ์ ข่มกังวล
แสงไฟฟ้า แพรวพราว ราวแมนสรวง ประกายดวง ส่องสว่าง ทางถนน
อบไออ้าว ฟางฟอน ระร้อนรน เหลือทานทน ท้นทั่ว ที่หัวใจ
จูงกระเป๋า เข้าห้องแอร์ แลเป็นโถง มาหยุดลง ตรงแถวแอล แสนหวั่นไหว
แบบธรรมเนียม เตรียมเช็คอิน ก่อนบินไป ของภายใน
สามกระเป๋า เข้าเอ็กซเรย์
ระหว่างรอ ขอตั๋วบิน ยืนหินหัน แลสองหลาน ช้างกวาง ต่างโต๋เต๋
วิ่งเตาะแตะ กระแซะยาย ส่ายโซเซ ไม่โยเย ชอบหยอกเย้า เจ้าเด็กซน
ถามตนเอง ไม่เกรงใจ ไปจริงหรือ ควานมือถือ โทร. หา โกลาหล
มีโทร. เข้า โทร. ออก บอกทุกคน ได้กุศล มงคลชัย ก่อนไปบิน
เหลือปื๊ดปุ๊ อุตส่าห์ถ่อ ขอไปส่ง ลืมไม่ลง ที่ส่งให้ ใจถวิล
รินอี-เอ็ม เต็มจอก กรอกให้กิน ก่อนขึ้นบิน ยินเสียงสั่ง ระวังกาย
ได้เช็คอิน เรียบร้อย จะคอยเครื่อง ต้องสิ้นเปลือง
มันสมอง มองเครื่องหมาย
กราดซ้ายขวา หาเกทดี เดินรี่กราย เลี้ยวขวาซ้าย ลากกระเป๋า นงเยาว์ตาม
ทำเป็นรู้ ดูเรื่อยเรื่อย เมื่อยก็จอด ตรวจที่บอร์ด รอดแว่นตา ไม่กล้าถาม
อ่านเอาเอง เกรงกริ่งใจ เจ้าคนตาม จงเชื่อยาม คับขัน ฉันคนเดียว
เดินลากยาว เข้าช่องดี ไม่ลี้ลับ ต่างระดับ หากชักช้า จะพาเสียว
ตกเครื่องบิน เที่ยวนี้ คงดีเชียว จะลากเลี้ยว กลับหาลูก ใจผูกพัน
เกือบสองยาม ตามนา ฬิกาชี้ เก็บให้ดี พาสปอร์ต กอดไว้มั่น
เคลื่อนกระเป๋า เดินเรียงคิว ริ้วตามกัน สุดจะหัน แลหา เห็นหน้าใคร
ลาดลงเนิน เดินพ้นงวง ล้องทิคเก็ต แอร์โฮสเตส มองดูเบอร์ เธอยิ้มให้
ยืนต้อนรับ ขับสู้ ผู้จะไกล ที่นั่งใจ อยู่ใดเล่า เจ้าบอกที
พุทโธ พุท
โธ พุทโธ โอ้สติ คืนมาซิ อย่าไปไกล ให้มานี่
โธพุทโธ โอ้ดวงใจ ฝักใฝ่ดี ขออย่ามี ความกังวล หนทางยาว
ลืมเรื่องร้าย คลายความคิด ที่มิดมืด ไม่ติดยึด มืดดำ ทำให้ขาว
มองฟ้าใหม่ ให้กระจ่าง สว่างดาว ตัวของเรา จะดีชั่ว ก็ตัวเอง
จัดที่นั่ง วางเก็บของ จ้องหน้าต่าง พราวสว่าง พร่างไสว ใจโหวงเหวง
อีกไม่ช้า พาล่องลอย ห้อยโตงเตง คล้อยโคลงเคลง ผ่านโผน โจนทะยาน
ดึงเข็มขัด รัดที่นั่ง ระวังเบาะ จัดจนเหมาะ เจาะจนเหม็ง เล็งมาตรฐาน
ก่อนบินไต่ ไล่ส่วนสูง มุ่งเพดาน ไกลจากบ้าน ทะยานเหาะ เพราะบาปบุญ
บินทวนเข็ม นาฬิกา ย้อนหาแดด ส่งเสียงแผด พ่นไอ ไม่เห็นฝุ่น
เอนเก้าอี้ เอียงหมอน อ่อนละมุน แวะญี่ปุ่น นาริตะ จะเปลี่ยนตัว
นอนกลางวัน ฝันกลางคืน ตื่นแล้วหลับ เขยิบขยับ กลับทิศทาง หาหางหัว
บนเครื่องบิน กินทุกมื้อ ไม่ถือตัว ก่อนนึกกลัว ขออิ่มเอม เปรมปรีดา
ตอนยามตื่น สะอื้นจิต ไม่คิดกลับ ตอนยามหลับ กลับฝันถึง คะนึงหา
ทั้งตื่นหลับ สับสน ด้นเมฆา อเมริกา คือที่หมาย สุดปลายทาง
เอเอ็นเอ ดังเปลญวน ทวนความมืด เสียงคลาดครืด มุ่งหน้า สู่ฟ้าสาง
เริ่มเห็นแสง สุริยา ฟ้ารุ่งลาง มองหน้าต่าง สว่างจ้า ฟ้าอำไพ
นั่งอยู่ชิด ติดห้องน้ำ ยามอัดอั้น มิต้องกลั้น กายกลืน ฝืนท้องไส้
สิ่งคายเคือง ทิ้งเบื้องหลัง ค้างคาใจ หมักหมกไว้ มิให้ตรม ทับถมทรวง
นกนิปปอน ร่อนลงต่ำ นาริตะ เมืองโซบะ วาซาบิ ที่เมืองหลวง
จะต้องรอ ก่อนเหาะเหิร เดินขึ้นงวง สองคู่ควง ยอดดวงแด แม่นงเยาว์
เดินเลาะทาง ระวังป้าย ตรงไหนแน่ ซ้ายขวาแล ก้าวรีบ หนีบกระเป๋า
ไม่ต้องการ ใครชี้บอก นอกจากเรา เกาะเป็นเงา สองคน ไม่จนใจ
เช็คกระเป๋า ไปเฝ้าเกท เนตรส่ายสอด มองเครื่องจอด จินตนาการ นานไฉน
นึกความหลัง ครั้งเคยมา จากฟ้าไทย นั่งรถไป ในโตเกียว เสี้ยวชีวิน
ภาคเอเชียน เคยเวียนมา เสนาทหาร ได้ดูงาน การศึกษา และศาสตร์ศิลป์
ทั้งสิงคโปร์ เกาหลี ฟิลิปปินส์ โดยเครื่องบิน กองทัพ อากาศไทย
แหล่งอาวุธ ยุทธภัณฑ์ ฐานกองทัพ เตรียมรุกรับ เคลื่อนคุกคาม ตามพิสัย
พร้อมพลัง พันธมิตร คิดการณ์ไกล ทหารไทย ใช้วิชา เสนาธิการ
ดูเวลา ห้าโมงเช้า เดินเข้าเกท ส่งทิคเก็ต เด็ดตอนปลาย ไว้โดยสาร
บินเที่ยวใหม่ ใช้เวลา คงช้านาน เริ่มกลางวัน ผันเป็นคืน ขึ้นฮาวาย
รอรุ่งสาง ครั้งที่สอง ช่องหน้าต่าง ไฟสว่าง ส่องไสว ในตอนสาย
จับจอภาพ ทราบทิศทาง อยู่ข้างกาย ดูง่ายดาย ในแผนที่ ชี้ทางบิน
ข้ามคงคา มหาสมุทร ไม่สุดโศก คนละโลก ยังมิครึ่ง คะนึงถวิล
คนไปมา หาสู่ คู่อาจิณ เคยได้ยิน ทุกข์สุข ผูกสัมพันธ์
หลายร้อยไมล์ ใช้ความเร็ว ไม่ลดละ เอาชนะ ระยะทาง ห่างเขตขันฑ์
แปซิฟิค หลีกจนพ้น โจนทะยาน เข้าเขตขันฑ์ พื้นดินแผ่น แคนาดา
บินวกลง ตรงเร็วรี่ เมืองดีทรอยส์ อีกเล็กน้อย คล้อยหัวต่ำ ข้ามภูผา
บินข้ามฟาก ภาคพื้น อเมริกา มุ่งบ่ายหน้า หาดีซี ที่ต้องการ
วอชิงตัน ดีซี เป็นที่หมาย ขั้นสุดท้าย ที่จะต้อง เจอน้องหลาน
เพรียบพร้อมหน้า เตรียมมารับ ขับรถนาน โดยประมาณ สองชั่วโมง คงรอคอย
เจ้านิปปอน เที่ยว 02 ประคองเคลื่อน ใช้ล้อเลื่อน เคลื่อนเข้าหา เดินหน้าถอย
หยุดสงบนิ่ง เลิกติงไหว ให้สำออย ตรงจงอย ปลายงวง จะล่วงลา
ก้าวผ่าน แอร์โฮสเตส เซ่ดแทงกิ้ว เดินตัวปลิว หิ้วแฮนด์แบ็ค แพ็คแน่นหนา
พาสปอร์ต สอดดีแคร์ แผ่ออกมา นำข้างหน้า นงเยาว์ เหยียบเข้าแดน
เดินเป็นแนว แถวเรียงคิว ดิ่วเข้าช่อง ตะโกนก้อง เจ้าหน้าที่ อิมมี่แกรนท์
พานงเยาว์ เข้าไปด้วย ช่วยดูแทน อิมมี่แกรนท์ ตรวจหนังสือ ที่ถือไป
เหมือนแหม่มแก่ แต่อายุ ดูไม่มาก เคยไปพัก รู้จักเรื่อง เมืองเชียงใหม่
สิบนาที ที่ยืนรอ จนพอใจ เธอถามไถ่ คุยด้วย ช่วยผ่อนปรน
อเมริกา มาทำไม แหม่มไต่ถาม จึงบอกความ ออกไป ไม่สับสน
ก็ฉันชอบ อเมริกา สิหน้ามล ขอดั้นด้น เข้ามา จะว่าไร
ตอบคำถาม ที่สอง ต้องใจเขา ถามว่าเรา เป็นทหาร นั้นใช่ไหม
ซีโฟร์นั้น ท่านคงรู้ อยู่แก่ใจ ตอบเขาไป ว่ารู้ดี เรื่องซีโฟร์
เธอตอกตรา รับรอง ทั้งสองให้ ยิ้มแจ่มใส ให้ใบเบิก เลิกโมโห
รับกระเป๋า ครบใบ ใจพองโต เดินตามโผ โชว์โต๊ะสอง ต้องนั่งรอ
จับพิมพ์มือ ลงสมุด จุดบันทึก ความรู้สึก กังวลใจ หายสิ้นหนอ
ควบเข็นรถ ตาจดจ้อง มองคนรอ หน้าป๋อหลอ รอสลอน พาจรไป
สามคนยื้อ ถือกระเป๋า กล่าวทายทัก ถึงจะหนัก เราเดินตาม เขาหามไหว
หากว่าแม้น เราแน่นหนุ่ม ไม่กลุ้มใจ ไม่ง้อใคร จะได้หิ้ว ให้ปลิวว่อน
รถจอดไกล เพราะไม่มี ที่จะจอด พาร์คกิ่งล๊อต จอดเป็นแถว แนวสลอน
จากสนามบิน ปีนรถบัส จัดไว้จร เลี้ยวยอกย้อน เวียนวน จนถูกทาง
เจ้าชาตรี มีน้ำใจ เขาไปรับ เลี้ยวแคว๊บควั๊บ จับทิศ ผิดหัวหาง
สวนทางซ้าย ใช้ทางขวา มาพราวพราง สองข้างทาง พฤกษ์ไสว ไพรพนา
ฝนพร่างพรม ชมพฤกษา พนาเวศ เข้าประเทศ เขตงามนัก รักษ์สวนป่า
มนุษย์สัตว์พืช มิจืดจาง ห่างสายตา รู้รักษา ป่าพงไพร ไว้ยืนยง
อยู่กันได้ ไม่เบียดเบียน เป็นเพื่อนบ้าน รื่นสำราญ รมย์มณี ที่สูงส่ง
มนุษย์รักน้ำ น้ำรักป่า พามั่นคง มองเห็นธง อเมริกา สง่างาม
แสนคิดถึง ไตรรงค์ ธงสะบัด ความเป็นชาติ ดำรงอยู่ คู่สยาม
สีน้ำเงิน ขาวแดง แกร่งสงคราม ทุกโมงยาม รั้วของชาติ มิคลาดคลา
เจ้าชาตรี มีสมญา เรียกว่าแป๊ะ ตอนเป็นเด็ก เจ๊าะแจ๊ะ เสียหนักหนา
เมื่อเด็กอ่อน ก่อนเติบโต อยู่กับตา เลี้ยงดูมา คู่กับยาย ไม่คายเคือง
รัชนี มีกิจกรรม ทำก่อสร้าง เที่ยวรับจ้าง ข้างถนน จนคางเหลือง
มีลูกสอง ท้องอีกหนึ่ง จึงสิ้นเปลือง กล่าวเพียงเรื่อง นำมาเล่า เจ้าชาตรี
ส่วนหนุงหนิง ผู้พี่สาว ไว้คราวหน้า เจ้ารินนา คนหลัง ยังเบบี้
ลูกสามคน คือสมบัติ รัชนี ซึ่งสามี อยู่บ้านหมอ ขอกล่าวนำ
อันสืบเนื่อง เรื่องประวัติ จัดเรียงร่าย คงไม่ง่าย ดังทำโจ๊ก ตลกขำ
เรื่องเท็จจริง อิงเรื่องเล่า กล่าวลำนำ เป็นถ้อยคำ ย้ำเตือน เหมือนนิยาย
ชื่อเจ้าแป๊ะ มีที่มา หน้าเหมือนตี๋ ถึงบัดนี้ เกือบบรรลุ สู่จุดหมาย
สิบห้าปี ย้อนหลัง ดังเรือพาย เวียนวนว่าย ในทะเล อเมริกา
รู้เจียมตัว ทั้งหัวหก ดกก้นขวิด สู้ชีวิต ด้วยตนเอง เก่งหนักหนา
ด้วยความรู้ ฟูเฟื่อง ประเทืองปัญญา รู้รักษา ตนรอด ได้ยอดดี
เป็นสิบเอก พลาธิการ ผ่านมาแล้ว คงไม่แคล้ว หยิ่งทะนง คงศักดิ์ศรี
บชร. 3 พิษณุโลก หกเจ็ดปี ไม่เคยมี สิ่งด่างพร้อย ด้อยวินัย
ลุงเห็นทาง สว่างแจ้ง แห่งอนาคต คงเหี่ยวหด หมดหนทาง สว่างไสว
บอกรัชนี แม่ของเขา จงเอาไป ชีวิตใหม่ ดั้นด้น โพ้นทะเล
ที่เบาะกลาง นางนงเยาว์ กับเจ้าติ๋ม นั่งแย้มยิ้ม บานแฉ่ง แย่งสรวลเส
นายชาณุ อยู่เบาะหลัง นั่งเอ้เต้ บนไฮเวย์ เก้าสิบห้า ฝ่าฝนพรำ
บ่ายรถเบน เกลนเอเลน เป็นจุดหมาย แหล่งสุดท้าย อาศัยนอน ตอนยามค่ำ
9505 ทิมเบอร์พาส จัดประจำ สามมื้อหม่ำ ประจำที่ เวอจิเนียร์
ถึงห้องหับ ปรับเวียน เปลี่ยนเสื้อผ้า ยี่สิบห้า กว่าชั่วโมง คงอ่อนเปลี้ย
อิ๋วชาตรี พัลวัน ช่วยกันเคลียร์ เริ่มงัวเงีย เพลียหาว อยากเข้านอน
แต่บังเอิญ เดินเล่น ตื่นเต้นบ้าน เป็นสถาน ต้องพำนัก ใช้พักผ่อน
อยู่กับหลาน นานเท่าใด ไม่อาทร เมื่อครั้งก่อน เคยเลี้ยงดู อุ้มชูมา
ให้อยู่เหย้า เฝ้าเรือน ตักเตือนสอน ห่วงอาทร อ่อนเยาว์ เข้าศึกษา
เรียนช่างกล จนสำเร็จ เสร็จออกมา ไทยสุริยะ พิษณุโลก โชคยังดี
เป็นยุคสมัย การงาน นั้นหายาก ครั้นจะฝาก ลำบากใจ ก็ใช่ที่
อายุยัง อ่อนเยาว์ ไม่เข้าที ส่งชาตรี เรียนนายสิบ อย่างรีบไว
ให้เข้าเรียน เหล่าพลาธิการ ทหารบก พ้นวิตก ลุงป้า หน้าแจ่มใส
ไปคอยเฝ้า เล่าเรียน เป็นอย่างไร ระเบียบวินัย ให้เคร่งครัด ดัดสันดาน
เรียนได้ปี ชาตรีจบ ครบกำหนด ใหม่สดสด ยศสิบตรี มีหลักฐาน
พิษณุโลก หวนกลับ รับราชการ อยู่ที่บ้าน พิษณุโลก หมดกังวล
ได้เงินเดือน เงินดาว กับเขาแล้ว ยังไม่แคล้ว วัยคะนอง ต้องสับสน
ลูกน้องลุง มีมากมาย เห็นหลายคน ต่างยากจน ทนเงินน้อย ไม่ค่อยพอ
ปูแนวทาง นางรัชนี บินจากนอก มิได้หลอก บอกทำได้ จงให้ขอ
เอาไปเรียน รู้ภาษา มาให้พอ ไม่ต้องรอ อย่าชักช้า จงพาไป
หนิงรินนา ชาตรี มีเป้แม๊ก เป็นครั้งแรก จึงต้องจาก เหมือนผลักไส
ให้จากเรือน เหมือนอำลา จากฟ้าไทย มาสุดไกล ครึ่งโลก หนีโศกตรม
แต่หนึ่งเก้า เก้าหนึ่ง ถึงศูนย์เจ็ด มิใช่เพชร ที่จมปรัก ถูกหมักหมม
ถ้าเป็นมีด คงเป็นมีด ที่กรีดคม ขอชื่นชม ว่าชาตรี นี้รอดตัว
โอ้ชีวิต ที่อเมริกา ของข้าพเจ้า จะโศกเศร้า หรือสุขบ้าง ก็ชั่งหัว
ที่รู้ว่า ของแน่ คื่อแก่ตัว จะไปมัว คิดมาก อยู่ทำไม
อะไรเกิด อะไรเป็น ก็เช่นนั้น ไปห้ามมัน มิให้เกิด ก็ไม่ได้
ถ้าคิดดี ทำดี ก็ดีไป ถ้าคิดร้าย ทำร้าย ไม่ได้ดี
แต่ละวัน ผันอักษร กลอนนิราศ มิให้ขาด บทกลอน อักษรศรี
นักกลอนเด็ก เล็กน้อย ค่อยพาที สดุดี กราบก้ม ประณมกร
ไม่เคยเลือน เดือนมิถุนา มาครบรอบ คนชื่นชอบ เชิงกวี ศรีอักษร
วันรำลึก ท่านภู่ ครูสุนทร ยอดนักกลอน ของโลก ดิลกชัย
ข้าพเจ้า เป็นลูกศิษย์ จิตเคารพ กราบน้อมนบ จริยา พึ่งอาศัย
ขอฟูเฟื่อง ประเทืองปัญญา พลานามัย แต่งกลอนไว้ ประดับแผ่นดิน ศิลป์กวี
เป็นนิราศ เชิงเล่า เกลาประวัติ มิเจนจัด เชิงกลอน อักษรศรี
รำลึกถึง พึ่งบุญญา บารมี นิราศนี้ ให้สำเร็จ ดั่งเจตน์จง
เข้าที่พัก สำนักนอน ในตอนบ่าย ส่องสอดส่าย บรรยายความ ตามประสงค์
ธรรมชาติ อากาศพฤกษ์ รู้สึกงง เขาดำรง เหลือไว้ ให้ดูกัน
เป๋อกับติ๋ม คงอิ่มใจ ได้พบพี่ มาเกือบปี ที่ทำงาน อยู่ไทสัน
อพาร์ทเมนท์ เช่าไว้ มิไกลกัน อยู่แถวย่าน สปริงฟิลด์ ถิ่นแขก-ดำ
ห้าสิบปี มีเรี่ยวแรง แข่งอายุ เธอบรรลุ ยังไม่แก่ แม้ถลำ
น้องคนเล็ก มีลูกสอง งานต้องทำ เพื่อจะนำ เงินใช้จ่าย ในครอบครัว
พารถฟอร์ด จอดรอไว้ ใกล้บ้านอิ๋ว แล่นขับลิ่ว รอบวน ดูจนทั่ว
หาทางกลับ ขับเลนขวา ดูน่ากลัว มองเหมือนมั่ว กลัวมันเสย ไม่เคยชิน
เริ่มกลอนเขียน เปลี่ยนฟูกหมอน เลยนอนช้า อเมริกา มาวันแรก จึงแปลกถิ่น
สร้างภาระ เรื่องบ้าน เรื่องการกิน จะผันผิน บินกลับ ก็อับอาย
ไม่ต้องนวด สวดมนต์ บนหมอนฟูก คิดถึงลูก นอนไม่หลับ กระสับกระส่าย
คุมสติ มิกังวล ฝนพรมพราย หลับสบาย ไม่วายฝัน คืนวันไกล
ยามม่อยพับ หลับใหล ในยามค่ำ ใครเพ้อพร่ำ ถึงเราบ้าง ยังสงสัย
ห่วงญาติมิตร คิดถึงหมู่ อยู่เมืองไทย แล้วเมื่อไร จะได้เห็น กันเช่นเดิม
คิดพากเพียร เรียนรู้ อยู่เมืองนอก ไม่จนตรอก ดอกหนา ตั้งหน้าเสริม
ประสบการณ์ ผ่านพ้น ยังคนเดิม หาเพิ่มเติม สิ่งแปลกใหม่ ใช่ลืมเลือน
วันกับคืน ผืนแผ่นดิน ถิ่นเสตท สิ่งบอกเหตุ แห่งภายใน ใครจะเหมือน
รอยประทับ กับดวงใจ จำใฝ่เตือน ไม่ลบเลือน เตือนเป็นภาพ ประทับใจ
โทรศัพท์ รับตอนเย็น เทนเนสซี่ รัชนี ส่งสำเนียง พูดเสียงใส
เทนเนสซี่ สิบชั่วโมง สุดโต่งไกล เตรียมตัวไป ได้โอกาส อาจต้องรอ
ถ้าจะโทร เป็นทางไกล ไม่สับสน ควรหยิบค้น หาให้เจอ เบอร์ติดต่อ
ใช้พินการ์ด จัดเอาไว้ ให้เพียงพอ หมุนแล้วรอ ฟังเสียง สำเนียงเธอ
สามสิบหก กดอย่างน้อย คอยคำตอบ ต้องรอบคอบ อย่าพลั้งพลาด กดไพล่เผลอ
โทรเข้าบ้าน ควานมือถือ หรือมือเธอ อาจคอยเก้อ เธอไม่รับ ก็อับจน
โทรเมืองไทย ไกลฟากฟ้า ราคาถูก คุยกับลูก ยิ่งถูกใหญ่ ไม่ฉงน
คอมพิวเตอร์ เจอสไค้ป์ หายกังวล เห็นหน้าคน เจรจา เห็นท่าที
คุณมนัส ศรีเพ็ญ เป็นคนเก่ง ยอดนักเลง คอมพิวเตอร์ เกลอฉันนี่
สอนทางไกล โดยใช้คอม ยอมสดุดี มนัสนี้ มีวิญญาณ การเป็นครู
ตอบคำถาม การเมือง เรื่องต่างต่าง ยังไม่สร่าง ต่างก็ฟิต ขวาชิดหู
จะลงดาบ จะปราบฟัน จะพันตู ได้แต่ขู่ ทุกหมู่เหล่า จะเอาตาย
สรพิษ ฤทธิ์กระเดื่อง เลื้อยเชื่องช้า มิเงื้อง่า ถ้าจะกัด สัตว์ทั้งหลาย
อันสุนัข มักเห่าหอน นั้นวอนตาย ถึงยังไง ก็คือสัตว์ กัดไม่เป็น
ข่าวสังคม โลมโลก มีโศกสุข ต่างสนุก คอมพิวเตอร์ เปิดเจอเห็น
คิดว่าไทย สมัยนี้ คงมีเวร นี่แหละเป็น เหตุน่าเบื่อ เหลือคณา
ถิ่นขวานทอง ของข้าอยู่ จนโตใหญ่ อยู่แสนไกล ก็ไทยแลนด์ แดนเกิดข้าฯ
อยู่ใต้เบื้อง ยุคลบาท กษัตรา ช่วยรักษา ถิ่นประเทศ เขตแดนดิน
มันทะเลาะ กันไปใย ไฉนนี่ สามัคคี มีบ้างไหม ให้เขาหมิ่น
ช่วยกันมัด ขจัดให้โล่ง พวกโกงกิน ปราบให้สิ้น ดินจะสูง พยุงไทย
ยิ่งการเมือง เรื่องบัดสี ขายขี้หน้า ชาวประชา หม่นหมอง ไม่ผ่องใส
แย่งอำนาจ บริหาร กันเข้าไป พวกจัญไร คิดโง่เขลา เฉาปัญญา
จึงวกเวียน เขียนนิราศ ในชาติอื่น ที่ราบรื่น สามัคคี ยังดีกว่า
สัตว์พืชนก ปรกป่าเขา เนาพนา ชมธารา น่าภิรมย์ ชมพฤกษ์ไพร
แต่งนิราศ ญาติทางใจ ให้สุขสันต์ ยังได้มัน กว่าการเมือง เรื่องไหนไหน
อเมริกา ไปปาร์ตี้ มีคนไทย ติชมใคร คนการเมือง เคืองทันที
เคยเยี่ยมยล เห็นคนไทย ต่างประเทศ เมื่อสังเกต ได้ประจักษ์ รักศักดิ์ศรี
ความเป็นเจ้า ของประเทศ เมื่อเหตุมี ถามเซ้าซี้ ชี้ทางให้ แทบไม่ทัน
แม้ฝรั่ง มังค่า ยังกล้าถาม อยากรู้ความ เมืองไทย อะไรนั่น
จึงแกล้งไก๋ ให้เขารู้ หมูกัดกัน แย่งหัวมัน เศษเผือก เปลือกแตงโม
สัปดาห์แรก แปลกเวลา สถานที่ กลางวันง่วง ทุกที มีโมโห
ตกกลางคืน ฝืนให้หลับ กลับตาโต เลยเลโล ตามเวลา สิบห้าวัน
ปรับเวลา มื้ออาหาร นั้นยิ่งยาก เป็นที่ปาก อยากท้องไส้ ไม่แผกผัน
หิวเมื่อใด ใส่ทันที ให้พีมัน สองสามวัน ก็เข้าที่ ได้คลี่คลาย
กลับพะวง ห่วงใย ในภาวะ สรีระ ที่ระงับ เรื่องขับถ่าย
งานปากท้อง ต้องต่อสู้ ดูวุ่นวาย เหน็ดเหนื่อยหน่าย ทุกข์ตรม พอสมควร
แม้ต้องปรับ ปรุงแต่ง แหล่งแวดล้อม จะจำยอม ปรับเปลี่ยน หมุนเวียนหวน
ยากปรับใจ ไม่คิดถึง คะนึงครวญ แม่นางนวล นั้นอิงแอบ อยู่แนบใจ
คิดถึงเพื่อน เตือนความหลัง ครั้งก่อนจาก มีเพื่อนมาก
ยามจากพลัน ให้หวั่นไหว
ณ บัดนี้ มีทะเล ว้าเหว่ใจ กั้นเราไว้ ให้ไกลกัน แต่มั่นคง
เหลือปุ๊ปื้ด มิจืดจาง ตามสั่งเสีย แม้อ่อนเพลีย ยังใจงาม ตามมาส่ง
แดงมานะ จะทำใจ ให้ปลดปลง ปรีชาแจ๋ว แอ๊วดำรง ส่งพรมา
ข้ามเขาป่า พนาวัลย์ มหรรพ์ลึก ยังรู้สึก ลึกซึ้ง คำนึงหา
สัญญารัก ฝากสุริยัน ดวงจันทรา ยิ่งชวนพา ให้คิดถึง ซาบซึ้งทรวง
หาน้ำใจ ที่ไหนมี ดีเท่าเพื่อน หาใครเหมือน มวลมิตร คิดห่วงหวง
มิตรตักเตือน คือเพื่อนรัก ใช่เพื่อนลวง อยู่ในช่วง ห่างไกล ใจผูกพัน
ปทุมธานี มีสมพงษ์ กับตา, ต่าย คงสบาย กันดี มีสุขศานต์
เคยช่วยเหลือ ทุกเมื่อยาม ตามไหว้วาน ได้ฝากบ้าน ดูแลไว้ ให้สมพงษ์
จัดระบอบ ครบรอบวัน เป็นกิจวัตร แต่ติดขัด จัดไม่ดี ที่ประสงค์
กิจกรรม ทำคลาดเคลื่อน เลื่อนขึ้นลง เวลาตรง แต่ว่าตัว นั้นงัวเงีย
ข้าพเจ้า เข้ามาอยู่ ในหมู่ญาติ ไม่วางมาด ให้ดีดี มีได้เสีย
อยู่ด้วยกัน มีหลานน้อง ต้องให้เคลียร์ เวอร์จิเนียร์ จะเป็นแดน แสนภิรมย์
เรื่องรังเกียจ เดียดฉันท์ นั้นควรไม่ หนีห่างไกล การเอาเปรียบ เหยียบทับถม
หยุดหลงโลภ โกรธแค้น แน่นอารมณ์ อย่าซานซม แข่งขัน กันมั่งมี
แม่เฉยทุม พ่อชูปรีชา สง่าศักดิ์ แห่งความรัก ชาติตระกูล พูนเกียรติศรี
ผู้นำทาง ตั้งดวงใจ คิดไว้ดี คือรัชนี เชปเปิร์ด เฉิดไฉไล
สัปดาห์แรก เป็นแขกเชิญ เพลินหรรษา บ้านรินนา ปาร์ตี้ ที่ริมไร่
นั่งรถเพลิน เดินทาง ไม่ห่างไกล เป็นสะใภ้ ชาวลาว เจ้าศรีพวน
สร้างหลักแหล่ง แปงเรือน เหมือนนิเวศ หนีประเทศ ถิ่นฐาน ไม่หันหวน
รัฐบาล พาลคุกคาม ตามก่อกวน เขาชักชวน ไปสัมผัส ที่วัดลาว
อันสามี เจ้ารินนา ท่ารอบรู้ ชื่อว่า
พู อยู่เฮือน รอเยือนเหย้า
เตรียมอาหาร ข้าวปลา รอท่าเรา เบียร์ไวน์เหล้า สิ่งสรรพ รับแขกไทย
หนิงกับทอม พร้อมหน้า นำมาเสริม ติ๋มเพิ่มเติม อาหาร จานเปลใหญ่
ทอด, ลาบ, ผัด ทั้งผักสด รสละไม มีหอยไก่ พรั่งพร้อม แล้วล้อมวง
ฝรั่งลาว ชาวไทย ไม่เลือกเชื้อ ได้ทุกเมื่อ เชื่อกันได้ ไม่ไหลหลง
ถ้าสัตย์ซื่อ ถือมั่น อันซื่อตรง จะยืนยง คงหมู่ อยู่กันดี
ตอนขาไป ใช้รถฟอร์ด มองลอดช่อง เหม่อตาจ้อง ท้องไร่นา ฝ่าไพรสีห์
ตอนขากลับ โตโยต้า ของชาตรี งานปาร์ตี้ มีความสุข สิ้นทุกข์คลาย
สองสัปดาห์ ฝ่าตระเวน เกลนเอเลน ไม่เคยเว้น โทรศัพท์ และรับสาย
ออกห้องนอน เข้าห้องน้ำ ตามสบาย เล่นหลานชาย ตัวยังเยาว์ ชื่อเจ้าดีน
แป๊ะชาตรี มีครอบครัว ใช่ตัวเปล่า ตื่นแต่เช้า ทำช่างฟิต เป็นนิจสิน
เรียนรู้เติม เสริมต่อ พอหากิน ได้เจ้าดีน เป็นทายาท ไม่ขาดวงศ์
อิ๋วดวงรัตน์ จัดเครื่องแกง แต่งอาหาร เธอตั้งครรภ์ คนที่สอง ต้องประสงค์
คิดว่าหญิง กลับกลาย ชายทะนง สองหนุ่มคง วิ่งซ่าน อานระอา
สกุลวงศ์ ลงเหล่า แต่เก่าก่อน จะเล่าย้อน ตอนเจ้าแป๊ะ นี่แหละหนา
นามสกุล ที่ใช้อยู่ ชูปรีชา เพราะว่าตา ทำชาตรี ที่บุญธรรม
ราวสามสิบ เดือนสิงหา ข้างหน้านี้ อิ๋วชาตรี มีเจ้าชอน มานอนคว่ำ
เรียกแม่ยาย มาช่วยคิด กิจกรรม วิ่งไล่ตาม เจ้าดีนชอน ป้อนหนมปัง
จะแม่ย่า แม่ยาย ไม่วายหลง ห่วงพวง หลงหลานลูก ที่ปลูกฝัง
สายโลหิต คนละครึ่ง หนึ่งพลัง เปรียบได้ดัง ต้นไม้ ให้ร่มเงา
เจ้าดีนค่อน จะอ่อนเยาว์ กว่าเจ้าช้าง ส่วนเจ้ากวาง นางอนงค์ คือพงศ์เผ่า
ให้ทั้งสาม มาอยู่รวม น่วมแน่เรา คอยวิ่งเฝ้า เขาทั้งสาม ตามไม่ทัน
เห็นกวางช้าง ไม่ห่างยาย ก่อนไปเครื่อง คงรู้เรื่อง ขึ้นมากแล้ว หลานแก้วขวัญ
อยู่กับดีน กินนอนมา สิบห้าวัน พัฒนาการ ก้าวไป ไกลกว่าเดิม
ตอนยังเล็ก เป็นเด็กอ่อน สอนกันง่าย พอโตใหญ่ ได้แวดล้อม มาซ่อมเสริม
เพศตรงข้าม ทีวีคอม มาย้อมเติม เป็นตัวเริ่ม เลวจริต ซ้ำติดเกม
การเลี้ยงดู ลูกดี ที่พ่อแม่ ต้องดูแล แกมั่วสุม ควรคุมเข้ม
พ่อแม่ดี มีลูกดี ก็ปรีเปรม สุขเกษม เริงรื่น ชื่นชีวัน
ยิ่งวัยรุ่น ที่ฉุนเฉียว พูดเจี๊ยวจ๊าว แรงก้าวร้าว เพราะเสพยา พาหุนหัน
พ่อกับแม่ สอนเท่าไร ไม่สำคัญ เด็กคนนั้น สวรรค์ปิด ด้วยติดยา
ญี่ปุ่นจีน อินโด นิโกรขาว มาเลย์ลาว ไทยฝรั่ง แขกมังค่า
หากพลาดพลั้ง หลงผิด เสพติดยา เมื่อรักษา ไม่หาย ตายทั้งเป็น
ถึงสุดท้าย ในที่สุด จุดไฟเผา เป็นถ่านเถ้า หมกดินฝัง ไม้กางเขน
มีชีวิต แสนน่าเบื่อ คนเหลือเดน โทษกรรมเวร ไปทำไม ใครคนทำ
เขียนนิราศ คาดหวัง จะสั่งสอน เด็กวัยอ่อน ตอนภายหน้า อย่าถลำ
พ่อแม่ตัก เตือนไว้ ใคร่ครวญจำ อย่าขืนทำ ให้แม่พ่อ คลอน้ำตา
ขอพักใจ คลายคิดถึง คำนึงหวน ไปย้อนทวน หวนอดีต เรื่องมิจฉา
อยู่เมืองเรา เราชาชิน การนินทา เมื่อจากมา หากลุ่มน้อย ค่อยหายกลัว
เป็นชาวไทย น้ำใจดี อยู่ไม่ได้ คนใจร้าย กลายเป็นดี ทั้งที่ชั่ว
แม้พี่น้อง ปองเคียดเข่น เห็นแก่ตัว ไม่รู้ชั่ว รู้ดี ผีทั้งยวง
อนาคต มีเพียงใกล้ ไม่อยากคิด มองอดีต ก็กรีดใจ ยิ่งใหญ่หลวง
กฎแห่งกรรม ใครทำเวร เป็นผลพวง เขาตามทวง ในชาติหน้า ถ้าจะมี
เพราะฉะนั้น วรรณนิราศ พาดพิงไว้ เรื่องอันใด ได้ผ่านมา น่าบัดสี
ขอเปรยเปรียบ เทียบทาม กับความดี ถ้อยวจี จารึก บันทึกจำ
เมื่อเป็นน้อง ต้องน้อมนพ เคารพพี่ ถ้าเป็นพี่ ดีต่อน้อง ต้องใจป้ำ
รักช่วยเหลือ เจือฉุด ยุติธรรม รักษาน้ำ ใจกัน
หมั่นเหลียวแล
เกลียวผูกพัน ฉันท์พี่น้อง คล้องคลานคล้อย ตัวยังน้อย ห้อยขี่คอ ทั้งพ่อแม่
ท่านดับดิ้น สุดสิ้นลม ตรมดวงแด พ่อร่วมแม่ แท้คือพี่ นีคลานตาม
นิราศหลัง ย้อนรอย น้อยใจข่ม เหนือตรอมตรม ที่รับไว้ ไม่ทวงถาม
ปล่อยให้กรรม ซ้ำบุก มันลุกลาม สิ่งงดงาม อยู่แห่งไหน ใครบอกที
อเมริกา มาเสียไกล หนีไหนพ้น เพิ่มทานทน
บนหัวใจ ไว้ศักดิ์ศรี
พบน้องข้า จ้าจำรัส รัชนี ถ้อยพาที ปรับทุกข์ สุขกมล
หลบอดีต ชีวิตเรา เคยเศร้าสุข หลบเรื่องทุกข์ วุ่นวาย หายสับสน
รอศักดิ์สิทธิ์ นิมิตหมาย เข้าไปดล ทำให้คน ที่คิดร้าย กลับกลายดี
พยายามเสริม เติมภาษา หาความรู้ ก็ได้ครู ผู้ขยัน ขมันขมี
สองชั่วโมง กับอีกค่อน สอนให้ฟรี ทุกวันมี นีน้องสาว เขาปลอบใจ
มิเว้นวัน โทรกันบ่อย เจื้อยจ๋อยแจ๋ว ว่าไปแล้ว เกินสิบปี นี่ไฉน
ไม่เคยพบ ประสบกัน นั่นประไร เทนเนสซี่ อยู่ใกล้ เครื่องบินมี
เวอร์จิเนีย ไม่เพลียใจ อาศัยหลาน นอนในบ้าน
อาหารท้อง ต้องอิ่มหมี
ผลหมาก รากไม้ มากมายมี คอมทีวี อบอุ่น พูนพลัง
ระวังตัว กลัวเจ็บไข้ ไปหาหมอ ไม่เหลือหลอ รักษาไข้ ใช้เงินถัง
ต้องรู้จัก วิ่งจ๊อก ออกกำลัง ช่วยประทัง ร่างกาย ให้แข็งแรง
อันสติ ปัญญา สมาธิ จะเกิดมี เมื่อร่างกาย นั้นแข็งแกร่ง
บุหรี่เหล้า เข้าทำลาย ให้โรยแรง ควรใจแข็ง พิศพิเคราะห์ แค่เหมาะเพียง
วิ่งอากาศ สะบัดแขน แข้งขาปั่น จักรยาน ยืดตัว คอหัวเหวี่ยง
สะโพกบิด ซิทอัพ กับตั่งเตียง ไม่สุ่มเสี่ยง เซ้าซี้ แค่เหงื่อซึม
รัชนี อายุน้อย ไปว่ายน้ำ ปัญญาล้ำ เลิศนารี ไม่มีหงึม
มิสเตอร์แกรม ไตรกีฬา สิงหาตรึม คงเป็นปลื้ม กายา ได้ฮาเฮ
ต๋อยนงเยาว์ เช้าตื่น ขึ้นจากตั่ง ออกกำลัง ทุกวัน ไม่หันเห
ทั้งวันวี่ ไม่มีงาน จะพาลเก เลยโมเม เกร่ถอนหญ้า บ้านชาตรี
สนามหญ้า หน้าหลังบ้าน เป็นลานเขียว บ้านหลังเดียว กะทัดรัด สาดสดสี
ล้อมด้วยดง พงป่า วนาลี ชวนกวี ชมแมกไม้ นานาพันธุ์
โต๊ะเหล็กนั่ง ร่มบังแดด สีแสดสด ปากกาจด กลอนนิราศ แล้ววาดฝัน
เวอร์จิเนีย เที่ยวทริปนี้ มีรางวัล ชีวิตผัน แผกใหม่ ให้ลิ้มลอง
ทุกวันมี สี่กระรอก วิ่งเลาะรัว ผงกหัว ไม่กลัวใคร เป็นเจ้าของ
ยอดสนสูง เสียดฟ้า ดูน่ามอง แสงเรืองรอง ยามเช้า เข้าภวังค์
เกาะต้นโอ๊ค นกสีสวย ไม่สิ้นเสียง ดังนางพร่ำ ร่ำเรียง ส่งเสียงสังข์
กระตุ้นตื่น ฟื้นกาย ให้พลัง อย่าสิ้นหวัง ยังมีเธอ ชะเง้อคอย
เสียงกาก้อง ร้องกู่ เหมือนรู้จัก ส่งเสียงทัก
ทายมา อย่าเศร้าสร้อย
กระจิบจอก บอกข่าว ว่าเขาคอย อย่าเลื่อนลอย เลอะเลือน ลืมเพื่อนเรา
ดอกลิลลี่ ผลิแดง แข่งกุหลาบ งามเทียบทาบ รัศมี ไม่มีเฉา
รับฝอยฝน หล่นพร่าง มิสร่างเซา อย่ามัวเมา เข้ารวนลาม หนามเขาคม
ดูยอดสน ต้นเฟิร์น น่าเพลินพิศ ชวนให้คิด ใครคนหนึ่ง ซึ่งขื่นขม
เหมือนเพลงพร่ำ คำคน สนต้องลม ฝากตรอมตรม ติดตามอยู่ มิรู้วาย
ติ๋มชาตรี มีน้ำใจ พาไปเที่ยว ขับรถเลี้ยว ถนนขวา มาทางซ้าย
แหล่งชอปปิ้ง วิ่งวน จนตาลาย อธิบาย ซ้ำซาก ไม่ยักจำ
หกโมงเย็น ยังเห็นแสง สุรีสีห์ พื้นปฐพี สีสว่าง ยังไม่ค่ำ
ต้องสามทุ่ม คลุมม่านมิด สนิทดำ ฝนไม่พรำ คืนจรัส รัชนี
ดึกจันทร์เรือง อยู่เมืองไทย จำได้ว่า คืนสิบห้า ค่ำนั้น จันทร์สาดสี
ฉายสว่าง ต้องปรางค์นวล เย้ายวนยี ค่ำคืนนี้ มีเพียงไม้ ไสวปลิว
รัชนี มีความหมาย ชื่อใครนั้น ดังสวรรค์ วิมานทิพย์ สูงลิบลิ่ว
แจ่มเจิดจ้า เมฆาคล้อย ย้อยเป็นทิว ไม่กล้าปลิว ผ่านบัง เหมือนตั้งใจ
เด่นเดือนฉาย พระพายโชย โบยสะบัด เงียบสงัด เสงี่ยมนิ่ง หยุดติงไหว
สิ้นสุดเสียง หริ่งหรีด กรีดเรไร สงบใน สรวงนิทรา ฟ้าสีคราม
ยะเยือกเย็น ยวบยาบ แสงวาบวับ โรจน์เร้นลับ เรืองไฉไล ให้วาบหวาม
ทั่วโลกหล้า โลมโสฬส สุดงดงาม เหลืองอร่าม วามแวววาว ผ่องพราวพรรณ
คงนางฟ้า มาจุติ ที่สยาม วิษณุกรรม บรรจงแต่ง แข่งสวรรค์
ต่อให้ดื่น หมื่นกวี กี่โลกันต์ มิอาจสรรค์ งามได้กึ่ง ครึ่งรัชนี
ล่วงเข้ายาม สามอาทิตย์ นิมิตฝัน นับคืนวัน มากออกไป ให้สุขี
เขียนนิราศ รื่นรมย์ สมฤดี สร้างกวี หลงไว้ เผื่อใครชม
น้องและหลาน ทำงานหมด ไม่อดอยาก ได้เลี้ยงปาก เลี้ยงท้อง ต้องใจผม
อเมริกา ถ้าตกงาน ก็พาลตรม เดินเตะลม ใส่ปาก ยังยากเย็น
อันตัวลุง จูงป้า มาอยู่นี่ บำนาญมี ยังลำบาก แสนยากเข็ญ
แม้นยังอยู่ เมืองไทย ใช่ลำเค็ญ แต่อยากเห็น แดนดิน ถิ่นวิไล
พบส่วนดี มีระเบียบ ดูเรียบร้อย สตางค์น้อย ย่อมพึ่งพา อยู่อาศัย
สามสิบห้า ดอลล่าร์เดียว แห้งเหี่ยวใจ มีก็จ่าย ไม่ก็ออม ยอมอดตาย
อาจเป็นบุญ ช่วยหนุนนำ กรรมดีก่อ บุญแม่พ่อ ส่งเสริม ไม่ขาดสาย
ท่านถึงแดน สุขาวดี ที่สัมปราย ส่งบุญให้ แด่ลูกหลาน สำราญรมย์
มิแต่งเติม เสริมยอ พ่อกับแม่ ท่านมีแต่
คุณธรรม ที่งามสม
ตลอดคลอง เชียงรากน้อย ด้อยสังคม กล่าวนิยม ชมแม่สิน พ่อสิงห์โต
ข้าพเจ้า หกสิบห้า คืออายุ ล่วงบรรลุ แก่กาล มานานโข
ขอนานที มีบ้าง นั่งคุยโว ไม่คุยโม้ ลูกพ่อสิงห์ นั้นจริงใจ
รู้เสงี่ยม เจียมตน คนบ้านนอก ไม่กลับกลอก หลอกให้หลง อย่าสงสัย
ที่หลังพระ จะสระสวย ด้วยมือใคร สละให้ ทั้งชีวิต ยอมปิดเอง
ทั้งพงศ์เผ่า เหล่ากอ ของพ่อแม่ ไม่เคยแม้ คดโกง แต่ตรงเผง
บรรดาญาติ พวกพ้อง ต้องกริ่งเกรง พ่อคนเก่ง แม่คนกล้า ปัญญางาม
ไม่เห็นพ่อ มีศัตรู อยู่ที่ไหน เป็นลูกใคร วะไอ้หนู มีผู้ถาม
ตอบสิงห์โต แม่สิน ก็สิ้นความ คนที่ถาม ลูบหัวเล่น ด้วยเอ็นดู
ภาคภูมิใจ ได้เกิดแต่ แม่กับพ่อ จปร.
หล่อหลอมไว้ ไม่อดสู
พ่อกับแม่ มอบแบบอย่าง เส้นทางปู สอนลูกรู้ เพื่อเอาเยี่ยง เพียงชีวิน
เวอร์จิเนียร์ มาพบน้อง ต้องสอนสั่ง จงตามอย่าง พ่อสิงห์โต และแม่สิน
เอื้ออาทร สั่งสอนมา เป็นอาจิณ รักแผ่นดิน รักกษัตริย์ ขัตติยา
ผ่านมาแล้ว สามวันเสาร์ เช้าวันนี้ คล้ายปาร์ตี้ มีเบรกฟัสต์ ห้องจัดหา
อพาร์ทเมนต์ ของเป๋อติ๋ม อิ่มโอชา ฝรั่งจ๋า ฮอทด็อก ทอดไข่ดาว
ขนมปัง เนยแยม แฮมเบค่อน หั่นเป็นท่อน ก้อนกลม นมสดขาว
ออเรนจู๊ด ฟอร์ริดา ฆ่ากลิ่นคาว กินแทนข้าว ด้วยแพนเค้ก ไม่เช็คบิล
ผ่านอีกมื้อ คือสบาย พอหายอยาก มิลำบาก เท่าเข็นครก หรือยกหิน
บางคนเชื่อ กินเพื่ออยู่ อยู่เพื่อกิน อันศาสตร์ศิลป์ กินกับอยู่ ของคู่กัน
ป่านฉะนี้ ที่บ้านเรา วันเสาร์ค่ำ คงจะหม่ำ มื้อเย็น พร้อมเช่นฉัน
เป็นตอนค่ำ ของเขา เรากลางวัน เขานอนฝัน ฉันจะไป แถวชานเมือง
ฟอร์ดคันขาว เข้านั่ง ประจำที่ คนครบสี่ คาดเข็มขัด จัดติดเครื่อง
แก๊สครึ่งถัง ยังแหลืออยู่ ไม่สู้เปลือง ออกชานเมือง ตะวันออก ยอกย้อนทาง
ไก่ไทสัน ผ่านถนน บนทางสวน ขับรถทวน มองไร่ทุ่ง ดูยุ้งฉาง
พันธุ์พืชไร่ ปกคลุมดิน ทุกถิ่นบาง สองข้างทาง บ้านเรือน เหมือนโบราณ
ทุกหย่อมย่าน บ้านช่อง มองแบบผัง บ้านใหม่สร้าง หลังโต ระโหฐาน
เขียวขจี สีสนาม งามตระการ สะอาดสอ้าน ผ่านมาไกล ไร้มลทิน
ถนนสายเล็ก แยกสู่ไร่ ซ้ายและขวา สลับป่า นาข้าวโพด เนินโขดหิน
อุปกรณ์ เครื่องจักร ไถตักดิน ทั่วท้องถิ่น ชนบท ดูงดงาม
แวะจอดพัก เชอรี่แพล้นท์ แอนด์ฟลาวเวอร์ เห็นมิสเตอร์ ยืนขายของ จึงร้องถาม
เฮาแมนนี่ กี่ดอลล่าร์ ถ้าซื้อพลัม แคนตาลูป ลูกงาม ถามกี่ดอลล์
ดอกหลากสี เย้ายียล ผลไม้ มองสอดส่าย ถ่ายรูปเล่น เป็นอนุสรณ์
เร้าอารมณ์ สมจินต์ สิ้นอาวรณ์ ก่อนจะจร เหลียวหลัง สั่งบ๊ายบาย
ขับรถพลาง นั่งเพลิดเพลิน เนินไพรสนธ์ แนวถนน ราบเรียบ ตลอดสาย
ธรรมชาติ สะอาดชื่น ดื่นเรียงราย แวะผ่อนคลาย ศูนย์การค้า แอสแลนด์
แอสแลนด์ แฮนโนเวอร์ เจอไดลาร์ด ติ๋มเลี้ยวปร๊าด จอดรถนิ่ง ล็อคไว้แน่น
เดินวนรอบ ชอปปิ้งมอลล์ ป้อดูแทน ความหวงแหน รัดเข็มขัด ประหยัดเงิน
แม้อยากได้ สิ่งของ ต้องประสงค์ ตัดใจปลง ให้จงได้ แม้ใจเขิน
แค่พอเพียง เมียงมอง จ้องเพลิดเพลิน พากันเดิน ออกจากมอลล์ ขอเพียงชม
ไปหารถ ที่จอดรอ ก็ใจหาย ติ๋มโวยวาย ส่ายสอดมอง ร้องขรม
รถไปไหน หาไม่เห็น จะเป็นลม หน้าซีดซม บีบรีโมท รถไม่คลาง
ต๋อยนงเยาว์ เขาเดินพล่าน ซมซานหา ทำเหลอหลา ตาลาย ใจเต้นผาง
เป๋อชาณุ ดูทิศ เห็นผิดทาง เดินเก้งก้าง อย่างเร็วรี่ ว่านี่ไง
ข้าพเจ้า เฝ้าจ้องดู อยากรู้ทิศ ยืนเพ่งพิศ พินิจทาง อยู่ข้างไหน
เจ้ารถฟอร์ด จอดสงบ แกหลบใคร โถเจ้าไม่ บอกข้านิด ผิดประตู
สร้างไม่สูง ศูนย์การค้า สง่ากว้าง ของขายวาง สะพรั่งพราว แวววาวหรู
ติดราคา แต่ภาษี ไม่มีดู มีเงินสู้ ซื้อได้ เอาไปเลย
ติ๋มควบเก๋ง เล็งเป้า เข้าอพาร์ทเมนต์ เปิดตู้เย็น ดูอีกที มิทำเฉย
ขนมปัง ทาแยม แกล้มนมเนย ไม่เฉยเมย เจ๊นง ชงกาแฟ
ก่อนถึงบ้าน ผ่านคอสโก้ อยู่ใกล้ ๆ แวะลงไป อาหารหา นำมาแช่
ออกคอสโก้ แวะโคเกอร์ เจอเป็นแพ ไม่ยอมแพ้ หวยรูด ขูดเสี่ยงดวง
แทงปิคโฟร์ ปิคทรี วินฟอร์ไล้ฟ์ หวยเสี่ยงทาย มีรางวัล อันใหญ่หลวง
ต้องหน้านิ่ว คิ้วขมวด ชวดร้าวทรวง สุ่มเสี่ยงดวง หวยบนดิน หลอกกินดอลล์
เดือนจูไล ขึ้นวันแรก แปลกสักนิด วันอาทิตย์
คิดวางแผน แพลนไว้ก่อน
เช้ารีบตื่น คืนวันเสาร์ เร่งเข้านอน ต้องพักผ่อน นอนเผื่อแรง แข่งเวลา
โคโลเนียลดาวน์ ดอทคอม เวิลด์ไวร์เว็บ เหมือนกรุงเทพ ราชติณามัย มีแข่งม้า
นัดกันไว้ ใคร่อยากชม สมราคา อเมริกา มาทั้งที มีติดมือ
ดูแข่งม้า ว่าวอดวาย อบายมุข เกมสนุก สังคมไทย ไม่เชื่อถือ
เป็นความคิด ผิดหรือเปล่า ดังเล่าลือ แท้จริงคือ บำรุงม้า อาชาไนย
มิควรนำ ทำเป็นเรื่อง ขุ่นเคืองขัด ธรรมชาติ ของสัตว์ โลกจัดไว้
เป็นเกมมิ่ง ชิงแข่ง แย่งความไว ควรเข้าใจ ในการเล่น เป็นพนัน
เพียงความสุข สนุกสนาน ในการเสี่ยง คิดเป็นเพียง เสี่ยงดวง อย่าห่วงหัน
อัศวะ สัตว์น่ารัก มีมากพันธ์ มาแข่งขัน กรีฑา พระราชา
สายหกสี่ ชาตรีขับ ไม่กลับย้อน ผ่านริชมอนด์ ค่อนโค้ง ชั่วโมงกว่า
ทั้งโทรไป โทรรับ กับคุณนา พอมาถึง สนามม้า พบหน้าเธอ
ผ่านคลับเฮาส์ เข้าไปแจม โปรแกรมตั๋ว ไปเกาะรั้ว หาสิ่งรู้ อยู่เสมอ
อ่านโปรแกรม แถมทีวี ยังมีเบลอ เปิดไปเจอ หลุยส์กาเซีย หายเพลียแรง
จะเลือกเล่น ตัวใด ก็ใช่ที่ เจอจ็อกกี้ มีทักษะ ขี่ม้าแข่ง
ใจสมัคร ควักดอลลาร์ ออกมาแทง ไม่เสียแรง นายคนนี้ ขี่ดีจริง
เริ่มสตาร์ท จัดม้านิ่ง วิ่งวนซ้าย นอกเป็นทราย ในเป็นหญ้า ลู่ม้าวิ่ง
ไม่มีหน่วง ถ่วงเวลา ช้าประวิง ไลน์ฟินนิส ฟิตไม่จริง วิ่งกันเอียน
ตำแหน่งหนึ่ง ถึงที่สาม เป็นโชว์จ่าย ตั้งแต่สี่ สิ้นสลาย อดได้เหรียญ
เข้าที่หนึ่ง ถึงเส้นชัย ใช่แล้วเซียน คลายบังเหียน เลิกลงแซ่ แบรับวิน
หนึ่งหรือสอง รั้งตำแหน่ง ต้องแทงเพลซ มีม้าเทศ หลากหลาย ในท้องถิ่น
เจ้าของคอก เลี้ยงหญ้า ให้ม้ากิน ถางพื้นดิน พื้นป่า มาตั้งฟาร์ม
ในหนึ่งปี มีซัมเมอร์ เจอม้าแข่ง เข้าหน้าแล้ง ตกแต่งลู่ ปูสนาม
หนึ่งสัปดาห์ ห้าหกนัด งัดจากฟาร์ม คนติดตาม ดูหน้าแล้ง แข่งตอนเย็น
ในวันนี้ มีเก้าเที่ยว เดี๋ยวเดียวจบ อยู่จนครบ เก้าเที่ยว ไม่เคี่ยวเข็ญ
เด็กดูได้ ผู้ใหญ่จูง มุ่งให้เป็น ไม่เกี่ยวเกณฑ์ กับกฎไทย ที่ร้ายแรง
จูไลทรี มีนัดใหม่ ดูไฟร์เวิคส์ ตอนสามทุ่ม ม้าเลิก พอสิ้นแสง
ห้าโมงเย็น เกณฑ์ม้าเริ่ม ประเดิมแทง ซัมเมอร์แล้ง แข่งขัน วันธรรมดา
จูไลโฟร์ วันพุธ วันหยุดเขา ทุกคนเฝ้า รอวัน กระสันหา
วันหยุดงาน ได้เงิน เพลินอุรา อเมริกา วันชาติ มีจัดงาน
มาเกือบเดือน ได้จังหวะ สหรัฐ เห็นธงชาติ อเมริกา ติดหน้าบ้าน
คืนวันที่สี่ จูไลโฟร์ คงโอฬาร งามตระการ สถานที่ พลุสีไฟ
วันที่สาม กรกฎา ฟ้าสวยศิลป์ วิศิรินทร์ เป็นวันเกิด เฉิดสดใส
เคยเคลียคลอ พ่อกับแม่ แม้อยู่ไกล ฝากดวงใจ ทั้งสอง คล้องอวยพร
เหมียวคือลูก ผูกพะนอ พ่อแม่รัก หนูตระหนัก รักความดี ที่พร่ำสอน
ใจจดจ่อ พ่อห่วงหา แม่อาทร ขอวิงวอน พรเกื้อหนุน บุญนำพา
ให้ลูกพ่อ ลูกแม่ มีแต่สุข ใจสนุก ใจสุขสันต์ ใจหรรษา
ให้ลูกสวย รวยสินทรัพย์ นับปัญญา ไร้โรคา ปรารถนาใด ได้สมจินต์
ไม่มีใคร ไหนอื่น พันหมื่นแสน มาเหมือนแม้น แม่พ่อรัก ฝากถวิล
ต่อสุดฟ้า มหาสมุทร สุดธานินทร์ วิศิรินทร์ ลูกแม่พ่อ ขออวยพร
อวยพรเหมียว เกี่ยวมาหนึ่ง ถึงกวางช้าง คงจะนั่ง คอยยายตา หน้าสลอน
ขอเอ็มครอม พร้อมวิชัย ได้ดังพร พิศศิธร พรจะช่วย ด้วยเช่นกัน
ดูเจ้าซน คนขยัน ทำบ้านรก ดูปลานก ไม้ดอก บอกเจ้าอั๋น
ข้าคิดถึง เจ้าทุกคน บ่นทุกวัน รักผูกพัน จากพ่อแม่ แม้ห่างไกล
อันตัวข้า ถ้าจะเล่า กล่าวถึงบ้าน ชีวิตผ่าน ย่านอยู่ อู่อาศัย
เกิดบ้านนอก คอกนา บ้านตายาย ถูกโยกย้าย ไปเมืองกรุง ทิ้งทุ่งนา
โลกสับสน อลหม่าน เหตุการณ์เกิด ต้องเตลิด ร่อนเร่ สู่เคหา
ผลสงคราม เอเชีย บูรพา โตขึ้นมา อาศัยวัด เป็นเวียงวัง
ย้อนหาพี่ ที่บางกระบือ และศรีย่าน ย้ายเข้าบ้าน บรรทัดทอง ถึงสามหลัง
ก่อนจะขึ้น นายร้อย ค่อยประทัง สู่ที่หวัง วิสุทธิ์กษัตริย์ จัดหอนอน
จปร.
หอเปลี่ยนไป ไม่คงที่ จบห้าปี มีอาศัย ไม่ถ่ายถอน
อยู่ห้องแถว เรือนหับ พอหลับนอน ก่อนเร่ร่อน นอนสนามรบ อยู่เมืองลาว
ค่ายที่อยู่ อู่ปากเซ หักเหกลับ เปลี่ยนห้องหับ กระทุ่มแบน แสนเงียบเหงา
กลับห้องแถว ลุมพินี อีกทีคราว โยกลำเนา เข้าสู่ถิ่น ปราจีนบุรี
ด้วยเพราะบุญ วาสนา พาพบโชค พิษณุโลก นเรศวร ควรศักดิ์ศรี
ทั้งในค่าย นอกค่าย ย้ายอีกที แค่ยังมี ที่พะเยา เช่าบ้านนอน
ขอกรุงเทพฯ
อีกสักหลัง มิยั้งหยุด แหล่งหลังสุด นั่นก็คือ ซื้อเงินผ่อน
เฝ้าดอนเมือง ไม่เคืองคาย หายอาวรณ์ ก็จากจร มาเจอ เวอร์จิเนียร์
อีกหลายรัฐ อเมริกา ข้าจะฝัน ให้มีบ้าน อีกหลังหนึ่ง ถึงได้เสีย
จะขอถูก เมกกะมิลเลี่ยน คงเจียนเพลีย มาช่วยเชียร์ ให้ได้บ้าน สราญรมย์
อันคับที่ อยู่ได้ คับใจยาก จะอดอยาก เพียงใด ไม่ขื่นขม
น้องกับหลาน มีบ้านช่อง ห้องหอชม สมอารมณ์ อยู่ได้ ไม่คายคืน
ใจกับร่าง ต่างอาศัย ไม่มีแยก เมื่อใจแตก แยกสลาย กายสุดฝืน
ร่างร่วงโรย โชยช้ำ เหลือกล้ำกลืน ร่างจะยืน ยงได้ ใจต้องดี
ตัวของใคร ใจของเขา เราไม่เห็น ซุกซ่อนเร้น หลบอยู่ใน ใจเขานี่
แม้ใจกล้า กายก็กล้า เมื่อราวี ถ้าใจหนี ร่างเหนื่อยหน่าย วอดวายปราณ
เป็นดังนั้น วันยังมี สรีระ ตั้งตะบะ ธรรมส่อง สองสถาน
กายกับใจ ให้คงอยู่ คู่กันนาน ใจสมาน กายเสมอ เอ็กเซอร์ไซส์
อเมริกา ครานี้ มีความคิด กายกับใจ ต้องใกล้ชิด กันให้ได้
ออกกำลัง ตั้งสติ นี่ยังไง นำมาใช้ ให้ชีวิต สถิตนาม
ดูตัวอย่าง ที่ดี รัชนีน้อง ใจจะต้อง พากาย ไปว่ายน้ำ
กายร้องขอ ให้ใจ เร่งไปทำ แล้วพานำ พี่ยา มาเลี้ยงดู
แกรมแชปเปิร์ด เลิศคน บนลิขิต นำรัชนี มีชีวิต การต่อสู้
เปลี่ยนต้นร้าย ปลายประเสริฐ ขอเชิดชู โลกย่อมรู้ ผู้บากบั่น และมั่นใจ
รุ่งวันชาติ อเมริกา กรกฎาสี่ เช้าวันนี้ ฟ้าสว่าง กระจ่างใส
ตะวันส่อง สายลมซ่าน สะท้านไกว มวลแมกไม้ เสียดสี เสียงซู่ซอน
ยะยาบเย็น เห็นธงปลิว ลิ่วไสว อยู่ชาติไหน รักชาตินั้น โบราณสอน
จะเมืองไทย อเมริกา ก็อาทร ประณมกร ก้มทาบ กราบแผ่นดิน
เมื่อคิดถึง แผ่นดินไทย ใจเกิดคึก เคยสู้ศึก อยู่ร่ำไป ไม่รู้สิ้น
กษัตริย์ศาสน์ หยาดโลหิต อุทิศแผ่นดิน แม้นชีวิน จะสิ้นปลง ไตรรงค์งาม
เหยียบพื้นดิน ถิ่นสเตท ด้วยเหตุผล จิตแห่งตน นั้นคนไทย ใจสยาม
พรหมลิขิต ขีดเช่นไร จะไปตาม ทุกเมื่อยาม มุมชีวิต ลิขิตเอง
สองร้อยสาม สิบเอ็ดปี มีเอกราช ชูธงชาติ ชักขึ้น แล้วยืนเบ่ง
ชาติอื่นเขา กล่าวหา ว่านักเลง เที่ยวไปเฉ่ง วางกล้าม ข้ามะกัน
ความยอดเยี่ยม เตรียมอาวุธ ยุทธศาสตร์ เพื่อครองชาติ ทั่วโลก ไม่โศกศัลย์
จุดประสงค์ จำนงหมาย ไม่โรมรัน แต่ฟาดฟัน กลุ่มอักษะ ให้สิ้นไป
เป็นวันชาติ ของเขา เราให้เกียรติ ไม่เบียนเบียด เดียดฉันท์ ให้หวั่นไหว
ชาติของเขา เขาก็รัก ปักดวงใจ ชาติของเรา เราไซร้ ให้รักกัน
ไทยของเรา เราควรรัก ฝากชีวิต เลิกจริต อามิศสิน คิดสร้างสรรค์
เลิกแบ่งพรรค ฝักใฝ่ เป็นหลายพันธุ์ หยุดฟาดฟัน กลั่นแกล้ง แย่งกันกิน
ข้าวในนา ปลาในน้ำ ตามธรรมชาติ ระดื่นดาด สมบัติมาก หลากทรัพย์สิน
อย่าชิงดี ชิงโด่ง คดโกงกิน ให้ชาติอื่น ติฉิน หมิ่นดูแคลน
คำนึงคิด อดีตกาล บรรพบุรุษ ได้หลั่งเลือด บริสุทธิ์ เรือนล้านแสน
สู้รักษา ทรัพย์สิน และดินแดน มัวเคืองแค้น ฆ่ากัน อยู่ทำไม
นเรศวร ตากสิน มหาราช ทรงกู้ชาติ กู้แผ่นดิน ให้อยู่ได้
พวกป่วนปั่น นั้นก็รู้ มันผู้ใด เข้าทำลาย ไทยกันเอง มิเกรงกลัว
แปลงสัญชาติ เชื้อเผ่า จากเหล่าไหน เราเป็นไทย ต้องให้รู้ ผู้ร้ายชั่ว
กำสองมือ ขึ้นชื่อไทย อย่าไปกลัว มารวมตัว รู้รัก สามัคคี
บรอ. สตร. คมส. อักษรย่อ ก็มากมาย ไฉนนี่
เป็นคนไทย เสียเปล่า ไม่เข้าที ทั้งอวดดี อวดรู้ หดหู่ใจ
เขียนนิราศ กราดกริ้ว เพียงผิวเผิน อาจล่วงเกิน บังเอิญคัน อย่าหวั่นไหว
อันดีชั่ว ตัวเรารู้ อยู่แก่ไจ อยากเห็นไทย ไกลกว่านี้ ทุกวี่วัน
ต้นจูไลน์ ยังไม่ค่อน จะร้อนนัก แต่ความรัก ทำให้ร้อน อาวรณ์ฝัน
ธรรมชาติ ย่อมหมุนเวียน เปลี่ยนตามวัน อันตัวฉัน หันเวียนวุ่น หมุนเป็นเกลียว
ผืนแผ่นดิน สิ้นน้ำ ปาล์มยังขึ้น ผืนแผ่นดิน ชุ่มชื้น หญ้าขึ้นเขียว
หัวใจแห้ง แล้งโลหิต ซูบซีดเซียว ห่มห่อเหี่ยว ซึมซับ คราบน้ำตา
จิตของคน ล้นลึกลับ จับไม่ได้ ซุกซ่อนใน ไขวจี วางสีหน้า
แสร้งเกลื่อนกลบ หลบถ้อยคำ จำนรรจา ลวงมารยา ถาไถ ได้ทุกกาล
ค่ำวันนั้น วัฒนา ชวนชาณุ เฝ้าดูพลุ ทางทีวี อยู่ที่บ้าน
อิ๋วชาตรี ชวนลุงป้า หาประสบการณ์ แหวกยวดยาน ขับเคี่ยน โคโลเนียลดาวน์
รถหลายพัน ผ่านประตู ดูม้าวิ่ง เห็นพลุจริง ยิงสลุต ผุดกลางหาว
มีม้าแข่ง แทงวินเพลซ เสร็จทุกคราว ไม่เหมือนเก่า เดาไม่เจอ เสมอตัว
ควบหนึ่งสอง หนึ่งสองสาม ยังตามจ่าย หนึ่งถึงสี่ ก็แทงได้ ให้เวียนหัว
บุญโฉลก เกิดโชคดี ถูกสี่ตัว รับเงินชัวร์ ไม่วอดวาย สบายอุรา
สามทุ่มกว่า แข่งม้าจบ ครบเก้าเที่ยว เสียงจ้าวเจี้ยว ปนดนตรี ออร์เชสตร้า
ปลุกบรรเลง เพลงแห่งชาติ อเมริกา อีกไม่ช้า ฟ้าที่ดำ งามด้วยไฟ
แสงพลุสี ส่องสว่าง ท่ามกลางเมฆ สวรรค์เสก ให้ท้องฟ้า แจ่มจ้าใส
สิบห้านาที ที่เพลิดเพลิน จำเริญใจ ก้าวย่างไป รอที่รถ หมดชั่วโมง
นั่งรับลม ชมยวดยาน นับพันเคลื่อน ค่อยเขยื้อน เลื่อนขยับ กลับหมดโขลง
ใกล้จะเตียน โคโลเนียลดาวน์ อยู่เฝ้าโยง เหลือลานโล่ง คงได้เยือน เพื่อนอีกคราว
ก่อนมาเยือน เพื่อนวันนี้ รี่ไปซื้อ ของติดมือ คือกล้องถ่าย ไว้แก้เหงา
ซื้อแคนนอน เมื่อตอนเซลล์ เป็นเรื่องราว เตรียมไว้เข้า อินเตอร์เน็ต ดังเจตน์จง
หวังจะเก็บ ประสบการณ์ ผันเป็นภาพ มาประดับ กับประวัติ แล้วอัดส่ง
ประทับใจ มอบคำ ที่จำนง ไม่ลุ่มหลง ปลงเสมอ สิ่งเจอมา
ได้ประเดิม เริ่มแรก เพื่อบุกเบิก ปฐมฤกษ์ ของสมบัติ จัดซื้อหา
จับประจง ภาพธงชาติ อเมริกา เป็นสัญญา ว่าอาศัย ให้ร่มเย็น
อีกสามวัน จะผ่านพบ ครบเดือนแล้ว ยังผ่องแผ้ว ที่พำนัก เกลนเอเลน
แต่และวัน กิจวัตร จัดเข้าเกณฑ์ เช้าถึงเย็น เป็นยามตื่น ชื่นฤทัย
ตรงเวลา ที่บ้านเรา เข้ายามค่ำ เลิกกิจกรรม พักผ่อน นอนหลับใหล
ตอนกลางวัน ของเธอ ที่เมืองไทย ฝันว่าใกล้ ดื่มด่ำ ยามค่ำคืน
อันเวลา กลับผัน ตรงกันข้าม ไม่ได้ห้าม ดวงใจ ให้หยุดฝืน
เป็นมนุษย์ สุดที่ใจ ในจุดยืน จะหลับตื่น ทุกคืนวัน ฝันละเมอ
ไปเยี่ยมย่าน ร้านขายของ มองสินค้า จะซื้อฝาก แก้วตา ก็พาเก้อ
อีกหลายเดือน จึงเคลื่อนครา ได้มาเจอ หวังว่าเธอ คงรอคอย อย่าน้อยใจ
จากช๊อตปั๊ม ดิ๊กสปอร์ต จอดไคลัดส์ เข้าวอลมาร์ท โครเคอร์ เจอของขาย
ไปคอสโก้ โลว์, ทาเก๊ต, แวะเบสต์บาย ช๊อปตาลาย ไม่ได้ของ มองอย่างเดียว
เพราะอยากรู้ ดูจนทั่ว กลัวเงินหมด พอจับจด ลดวาง อย่างห่อเหี่ยว
คลำกระเป๋า เฝ้าดอลล่าร์ ไว้ยาเยียว รอวันเหมียว ลูกได้มา ซื้อหาเอง
เตรียมตัวเสร็จ เจ็ดกรกฎา ตีห้าพร้อม จะแก่หง่อม ไม่ยอมพลาด ชาติคนเก่ง
ติ๋มกับเป๋อ เหลอหลา ข้าชักเซ็ง ยืนก้างเก้ง มองซ้ายขวา จ้องตาดู
บอกเมื่อวาน จะไปวัด นัดไปเที่ยว ตะโก้เกี๊ยว สาคุอัด ยัดใส้หมู
หอบติดมือ ถือไปขาย ให้คนดู อยากจะรู้ ดูให้เห็น เป็นเช่นไร
จันทร์ครึ่งดวง ยังลอยเด่น เห็นแจ่มจ้า ตอนตีห้า ฟ้าผ่องขาว พราวไสว
กำลังจะเปลี่ยน เป็นสีทอง ลำยองใย ติ๋มรับไป สู่วัดลาว พุทธวงค์
งามฉลอง ของชาวลาว รีพฟูจี้ ประจำปี ดนตรีบรรเลง กันเฉงโฉง
งานกุศล บนเวที มีหลายวง บ่ายสามโมง โปงลางสะออน จะจรมา
รอโปงลาง จะสะออน แดดร้อนจัด ลมหลังวัด พัดมาที ดีนักหนา
ฟังนักร้อง เสียงสวรรค์ สุกันยา เธออุตส่าห์ บินจากลาว เข้าร่วมงาน
คุณศรีพวน พาผ่าน เข้างานนี้ ให้ตั๋วฟรี กับพี่น้อง และลูกหลาน
รวมคนลาว และชาวไทย ใจชื่นบาน เหมือนไปงาน บุญขอนแก่น มีแคนฟัง
เห็นคนไทย หลายหลาก จากหลายรัฐ มุ่งสู่วัด ปรารถนา หาสิ่งหวัง
ที่พึ่งใจ ไกลโพ้นแดน แสนลำพัง ต่างคนต่าง จิตใจ ไร้ความจริง
ดูน้องมิว ลูกรินนา หลานตาเต้น ขึ้นรำเล่น อรชร ช้อนสวิง
สร้างบันเทิง เริงร่าย ส่ายสวิง ช่างเก่งจริง นะลูกลาว เจ้าหลานยาย
ได้ยินเพลง คิดถึงพี่หน่อย นะกลอยใจเจ้า พี่ตรมพี่เหงา เพราะคิดถึงเจ้า เชื่อไหม
อกระวิง สวิงร่อน ช้อนเท่าไร ไม่เจอใจ หายไปแล้ว นะแก้วตา
แสดงสด วงโคตรตะบูน ลุ้นจบแล้ว ส่งเสียงแจ้ว วงโปงลาง ดังแล้วหนา
เต้นระเร่า เขย่าส่าย โยกไปมา เรียกเสียงฮา ออดอ้อน สะออนสะออย
ร้องบรรเลง เพลงไทยลาว เว้ากันโลด กระดอนโดด โลดเต้น เห็นเหยาะหยอย
เจ้าจอนนี่ เป่าแคน แสนสำออย ขึ้นไปฝอย ทยอยเพลง บรรเลงแคน
ชั่วโมงครึ่ง ถึงเวลา โปงลางพัก เล่นหน่วงหนัก หยุดพักร้อง เพราะท้องแขวน
จะมีใคร ถ่ายภาพ กับแฟนแฟน เชิญตัวแทน มารอ ขอสิบดอลล์
งัดซีดี มีเยอะแยะ แวะจ่ายแจก แค่ขอแลก ค่าเครื่องบิน ค่ากินก่อน
อเมริกา มาสิบวัน จะพลันจร หยุดสะออน โปงลาง จะสั่งลา
มอบศิลป วัฒนธรรม ประจำถิ่น ศิลปิน ของชาติ ปรารถนา
ให้ประทับ กับลาวไทย ในอเมริกา เพื่อติดตรา ธาราโขง โปงลางสะออน
ตลาดนัด หลังวัดลาว ชาวไทยเทศ จดหมายเหตุ สังเกตดู เป็นอนุสรณ์
เพื่อรำลึก บันทึกไว้ ในบทกลอน ยามแรมจร เรือนร้าง ห่างเมืองไทย
วันอาทิตย์ ที่แปด แสงแดดจ้า อเมริกา ซัมเมอร์ร้อน นอนตื่นสาย
ข้ามต้มกุ๊ย พุ้ยใส่ท้อง คล่องสบาย เตรียมตอนบ่าย มีหมายนัด รีบจัดแจง
ลูกชิ้นทอด สอดไส้หมู สาคูต้ม รอแดดร่ม ลมโชย ระโรยแสง
วางตอนท้าย ย้ายจัด ทะมัดทะแมง ขับไม่แซง แข่งชิง วิ่งตามกัน
พอถึงที่ ปลายทาง ต่างก็จอด เดินเล็ดลอด ผ่านดง พงไพรสันธ์
เห็นหินแก่ง กลางน้ำ งามตระการ แก่งสวรรค์ วิมานงาม แม่น้ำเจมส์
สองฟากฝั่ง ปลั่งเปล่งสี ขจีเขียว ธารหลากเชี่ยว ไหลลง ดังหงส์เหม
คลื่นระลอก กระฉอกชล จนอิ่มเอม ปริ่มปรีเปรม เป็นโฟมฝอย ลอยให้ชม
ข้าวักน้ำ ลูบล้างหน้า พาชุ่มชื่น เย็นระรื่น ชื่นอุรา จนสาสม
หวังว่าเจมส์ คงต้อนรับ ข้ากลับชม ฝากระทม ชะโลมใจ ไปกับเจมส์
ยามหน้าแล้ง เห็นแก่งเกาะ เหมาะลงเล่น แม่น้ำเป็น เส้นชีวา รักษาเข้ม
น้ำข้าใช้ ข้าได้ดื่ม ไม่ลืมเจมส์ ข้าปรีเปรม เจมส์ช่วยข้า รักษาใจ
หลานธิชา ทอมมี่ พี่กับน้อง ทายาทของ คุณแม็ก-นก โชคไฉน
ไทยไดน์เนอร์ กิจการ อาหารไทย ลงแหวกว่าย กระแสเจมส์ เอมปรีดา
นิโคลัส เด็กชาย ลงว่ายน้ำ เด็กทั้งสาม แสนสนุก สุขหรรษา
ลูกของตุ่ย เกิดวันนี้ มิได้มา ให้คุณนา พาพักผ่อน หย่อนกมล
เห็นเจ้าดีน ดิ้นเร่าเร่า ชักเอาเรื่อง ไม่รู้เคือง เรื่องอันใด ให้ฉงน
ส่วนแม่อิ๋ว หิ้วไม่ไหว ให้ชอบกล ลงสายชล ดีนไม่ขึ้น ต้องฝืนใจ
ให้แดดดี้ ชาตรีอุ้ม ไปทุ่มน้ำ อยากเย็นฉ่ำ นำขวดนม ลงไปว่าย
กับลุงแม็ก แหวกสายชล จนอิ่มใจ สุขฤทัย ได้จากเจมส์ เปรมฤดี
เจ้าพระยา ข้าฝากใจ ไปคืนถิ่น โอ้ท่าจีน เคยอาศัย ได้สุขศรี
บางปะกง ข้าแสนรัก ฝากชีวี แม่กลองมี ความหลัง ครั้งเก่ากาล
ปิงยมวัง สร้างอดีต ฝังจิตอยู่ เคยคลอคู่ อยู่แนบข้าง ริมฝั่งน่าน
พรากแควใหญ่ ไกลแควน้อย มาแสนนาน แม่น้ำปราณ โปรดคอยข้า กลับมาเชย
ครบหนึ่งเดือน เหมือนหนึ่งปี พี่จรจาก ส่งใจฝาก เพ้อพร่ำ คำเฉลย
สุดใดเปรียบ เทียบเท่า ที่เราเคย ล่องแก่งเมย เคยชมป่า พนาวัลย์
เยือกเย็นยล บนแพพ่วง ดวงใจชื่น ฝ่าลมคลื่น รื่นรมย์ สมสุขสันต์
เสียงซ่านซู่ น้ำเซาะไทร เย็นสายธาร ถิ่นเมืองกาญจน์ สวรรค์สวาท นิราศมา
เพชรบุรี พี่เคยพร่ำ คำเฉลย แม่คะเมย เคยไปอยู่ คงกู่หา
แก่งกระจาน สันเขื่อน เตือนสัญญา บอกแก้วตา ว่าข้าคอย อย่าน้อยใจ
โอ้แม่อิง นวลละออ พี่รอเจ้า กว๊านพะเยา เจ้าอยู่ดี เป็นไฉน
แม่ตาปี ศรีสุราษฎร์ อย่าตัดใย ข้าส่งใจ คิดถึง คะนึงครวญ
วาสนา ชะตากรรม ตามยถา นิราศลา มาเสียไกล ใจยังหวน
ตามติดเตือน เหมือนอยู่ชิด สนิทนวล ยุงอย่าไต่ ไรอย่ากวน คนอยู่ไกล
โลกหมุนวน คนหมุนใจ ใช่ไหมเล่า แต่ใจเรา หาได้เป็น เช่นนั้นไม่
โลกหมุนเวียน เปลี่ยนสัตว์โลก สุขโศกใจ ฉันทำไม ไม่คลายโศก โลกคงลืม
สุขหรือโศก โลกผ่านไป ฉันไม่สน เกิดเป็นคน ทนทำใจ ให้เป็นปลื้ม
มองดวงดาว ยังแจ่มใส ในค่ำคืน ยังอาจฟื้น ยืนอยู่ยง คงกระพัน
อยากพบเห็น สิ่งเร้นลับ อยากจับต้อง อยากเที่ยวท่อง ทุกสารทิศ นิมิตฝัน
ชีพที่หลง เหลือนี้ อีกกี่วัน เร่งสืบสรร สวรรค์สรวง ให้ดวงใจ
ตอนกลางวัน บ้านเรือนเคียง เสียงสงัด ทิมเบอร์พาส แสนสงบ สลบไสล
จักจั่น นานหรีดร้อง ก้องเรไร กระรอกไพร วิ่งไต่รั้ว ตัวแดงเทา
กระจิบโลด กระโดดวิ่ง เปลี่ยนกิ่งโอ๊ค ไม่รู้โศก ไม่รู้ร้อน ไม่รู้หนาว
เหยี่ยวถลา มาให้เห็น เป็นครั้งคราว รู้หรือเปล่า ข้าเหงาใจ ทำไงดี
เพื่อนคืนนี้ มีเพียงดาว ไม่กี่ดวง เจ้าลับล่วง ลืมท้องฟ้า เบือนหน้าหนี
เหลือความมืด เป็นเพื่อนข้า ยามราตรี กลางวันมี ความเงียบสงัด มาผลัดเวร
นำความมืด เงียบสงัด จัดมาให้ ขอขอบใจ ที่ให้ข้า ได้มาเห็น
สิ่งข้าพบ สงบอารมณ์ และร่มเย็น ไม่อยากเห็น ความฟู่ฟ่า ข้าอิดเอียน
ชาตรีอิ๋ว หิ้วเจ้าดีน กินปิซซ่า หอบลุงป้า ไปกินด้วย ช่วยกันเจี๋ยน
ชิ้นเบ้อเลิ่ม เติมด้วยโค้ก แก้โอกเอียน ฟัดกันเตียน เปลี่ยนอาหาร ทานมื้อเย็น
ตุนกับข้าว เข้าตู้เย็น เป็นอาทิตย์ ช่วยกันคิด จับจ่าย ใส่รถเข็น
ล้วนแต่ของ ใช้ชำ ที่จำเป็น ดันรถเข็น ขนถ่าย ใส่ครัวเรือน
ทั้งไทยลาว ขาวดำ เวียดนามแขก ผิวผิดแผก แตกต่าง ก็ยังเหมือน
ทุกวันคู้ อยู่กับเหย้า เฝ้ากับเรือน พอสิ้นเดือน สิ้นสัปดาห์ พาเที่ยวไกล
บ้างแบกเรือ ลงทะเล บ้างเกร่ช๊อป บ้างออกรอบ กอล์ฟกีฬา ถ้ายังไหว
บ้างบุกเข้า ป่าดง พงพฤกษ์ไพร บ้างก็ไป คริสตจักร พักสวดมนต์
บ้างก็ชอบ บันเทิง เริงปาร์ตี้ ต่างก็มี งานทำ ยามขัดสน
บ้างก็เฝ้า ดูทีวี หนีความจน แต่ละคน มีกิจกรรม ต้องทำงาน
อันตัวลุง ตัวป้า เช่นกาฝาก สร้างลำบาก ทางใจ ให้ลูกหลาน
แต่ทำใจ ไม่คิดมาก กลัวยากนาน เห็นลูกหลาน มั่งมี ก็ดีใจ
คนผู้เฒ่า รีไทร์ ก็ใกล้วัด รอกรีนการ์ด อเมริกา ส่งมาให้
แต่วันนี้ ยังไม่รู้ ขอดูใจ ไม่เป็นไร ไม่ดิ้นรน คนเหมือนกัน
อยากลองของ ต้องรอดู หมู่หรือจ่า ใครคนกล้า ใครคนแกร่ง เมื่อแข่งขัน
ชัยชนะ กับพ่ายแพ้ นั้นแค่กัน ขอเพียงฉัน ยังอยู่ ดูโลกา
ได้มาเจอ เวอร์จิเนียร์ ริชมอนด์ สิ่งซับซ้อน ยั่วยวน ชวนศึกษา
ใคร่วิเคราะห์ แค่เหมาะความ ตามปัญญา ชาวประชา อารยชน เป็นหนใด
ไม่มองผ่าน การสังเกต คนเขตนี้ ข้อมูลมี เท่าที่เห็น เป็นไฉน
เพียงสัมผัส ทางสายตา ว่ากันไป ถูกหรือไม่ อย่าติเตียน เขียนคาดการณ์
ประชาชน พลเมือง เรื่องฐานะ สมถะ ณ ที่อยู่ หมู่สถาน
จากซอมซ่อ ถึงใหญ่โต มโหฬาร เห็นอาคาร บ้านช่อง มองทุกมุม
อันคนจร หมอนหมิ่น ไร้ถิ่นฐาน รัฐบาล จัดที่อยู่ เป็นหมู่กลุ่ม
พวกติดยา จับได้ ไว้ควบคุม ห่างชุมนุม ชนชั้น ขั้นมีกิน
กลุ่มผู้ใช้ แรงงาน นั้นมีมาก ดูได้จาก สินค้า บรรดาสิ้น
การบริการ บ้านช่อง ของใช้กิน สายการบิน รถถนน และหนทาง
คนตกงาน เพราะเลย์ออฟ รอบไหน ๆ หาได้ง่าย งานดี ยังมีจ้าง
ความเดือดร้อน แร้นแค้น แสนเบาบาง ชนชั้นกลาง ใช่ล้าหลัง ของสังคม
มาพิเคราะห์ เจาะให้ดี มิใช่มั่ว ความลงตัว นั้นมีอยู่ ดูเหมาะสม
ค่าแรงงาน ขั้นต่ำ ไม่ซ้ำตรม พอชื่นชม ของใช้จ่าย ได้เหมือนกัน
คนประหยัด เงินทอง มองโอกาส ใครประหยัด ยิ่งเหลือใช้ ไม่โศกศัลย์
เพิ่มฐานะ ครอบครัว ได้ทั่วกัน เรื่องแบ่งชั้น กั้นวรรณะ จะไม่มี
คนเก่าก่อน ค่อนมีมาก จากสังเกต เจ้าประเทศ มีเขตขันธฑ์ ขั้นเศรษฐี
อยู่อาศัย ในคฤหาสน์ จัดอย่างดี บนพื้นที่ หลายเอเคอร์ อลังการ
ความมั่งมี อาจชี้บ่ง ไม่ตรงเป้า ดูจากเขา มีเหย้าเยือน นิวาสสถาน
การหมุนเวียน เปลี่ยนสินค้า และบริการ มองดูคน ตกงาน ก็มั่นใจ
เวอร์จิเนียร์ นั้นเป็นรัฐ ประวัติศาสตร์ เริ่มเป็นชาติ อเมริกา ขึ้นมาได้
บุกลำน้ำ ป่าเขา ลำเนาไพร อนุรักษ์ไว้ ความสุขสันต์ นั้นตามมา
ย้อนอดีต คริสโตเฟอร์ โคลัมบัส สหรัฐ มณฑล ถูกค้นหา
จนกระทั่ง ตั้งสหรัฐ อเมริกา ใช้เวลา กว่าอย่างน้อย สี่ร้อยปี
ทุกตำบล คนต่างชาติ มองกลาดเกลื่อน ดูเป็นเหมือน แหล่งขุดทอง ของเศรษฐี
คนอินเดีย มากกว่า ภาษาดี กิจการมี มากมาย หลายอย่างคุม
แบกทุนรอน ป้อนกิจกรรม ทำการค้า เดินไปมา เห็นแต่แขก ไม่แตกกลุ่ม
งานไฟฟ้า คอมพิวเตอร์ เจอทุกมุม แขกเข้าคุม แทบทุกปั๊ม ขายน้ำมัน
เขาว่าแขก กับงู ดูน่าแปลก ต้องตีแขก ก่อนงู ดูน่าขัน
ไม่ว่าแขก ไม่ว่างู ของคู่กัน ถ้าเจอมัน ฟันให้แหลก ทั้งแขกงู
พบจนชิน มันบิ่นบ้า กว่างูแขก ที่ว่าแปลก มันแหกตา น่าอดสู
ก็คนไทย ไร้ศึกษา แหละน่าดู แม้พวกหมู่ เดียวกัน ก็นั่นแล
เดรัจฉาน กักขระ อมนุษย์ เป็นอาวุธ หอกหลาววาง อยุ่ข้างแคร่
หลงไว้เนื้อ เชื่อใจ ไม่งอแง แต่ที่แท้ ทรยศ หมดอาลัย
หากว่าเป็น คนอื่น สักหมื่นแสน ยังไม่แค้น เท่าพี่น้อง ร่วมท้องไส้
คิดว่าปล่อย ความอัปรีย์ สีจังไร เวรที่ได้ ไปตกอยู่ ผู้ที่ทำ
เกิดมาแล้ว ก้าวต่อไป ให้ที่สุด สุภาพบุรุษ ต้องทุกท่า อย่าถลำ
หันไปตรวจ ดูใหม่ ที่ได้ทำ นั่นแหละกรรม ต้องชดใช้ ใช่ลอยนวล
มืดสว่าง ต่างหมุนเวียน แปรเปลี่ยนผ่าน ทีละวัน ผันชีวิต ให้คิดหวน
นำตำรา ขึ้นมาอ่าน ทบทานทวน ตามกระบวน หนังสือ สื่อสัมพันธ์
จะโอภา ปราศรัย ในต่างชาติ หมดโอกาส พลาดสนุก สิ้นสุขสันต์
ภาษาฝรั่ง ฟังอย่างมั่ว สั่นหัวยัน พูดอะไรกัน ฉันก็ฟัง แล้วนั่งงง
นึกเสียดาย สายเสียหน่อย ไม่ค่อยฝึก เพราะเคยนึก ถึงคำเตือน จึงเลือนหลง
สอนอย่าสน ภาษาอื่น ให้ฝืนปลง พูดตรงตรง ว่าสอนผิด คิดเสียดาย
เมื่อนึกได้ อย่าไปฝืน ตื่นจากฝัน คิดสร้างสรรค์ เริ่มวันนี้ ไม่มีสาย
ความเร้นลับ ในโลกา ยังท้าทาย ต้องขวนขวาย เสาะแสวง แข่งเวลา
ฟังจากเสียง เพียงพอรู้ ดูที่ปาก จะลำบาก เสียสักหน่อย ค่อยศึกษา
จะดูหนัง ฟังทีวี มีตำรา ฝึกภาษา มาทั้งที ดีเหมือนกัน
ต้องเปิดแล้ว เปิดอีก ดิกชันนารี่ เปิดหลายที่ ใครไม่รู้ ดูขยัน
สมองฝ่อ หรืออย่างไร ไม่จำมัน ช่างน่าขัน ศัพท์ง่ายดาย ไม่วายลืม
เรียนภาษา อังกฤษ ผิดแต่เริ่ม จะเรียนเสริม สักเท่าใด ก็ไม่ปลื้ม
เห็นเขาจ้อ ก็นึกอยาก ทำปากพึม จำต้องลืม ของเก่า เข้ากรุไป
เอบีซี ดีอีเอฟ เก็บเป็นฐาน มานั่งอ่าน เขียนฟัง ตั้งใจใหม่
แค่ฟังเสียง เพียงรู้บ้าง ช่างปะไร ได้แค่ไหน ไม่เคยแคร์ แก่เกินแกง
หากไปอยู่ เทนเนสซี่ อาจดีขึ้น จะไปยืน สนทนา ให้กล้าแข็ง
ภาษาอังกฤษ ฟิตโฟไฟ ได้สำแดง เพราะเป็นแหล่ง ความรู้ ครูรัชนี
เมื่อพูดถึง รัชนี มีทักษะ เธอมานะ มีมุ่งหมาย ไม่หน่ายหนี
อเมริกา กว่าสาม สิบกว่าปี ข้ายินดี ให้น้องข้า เป็นอาจารย์
ถึงเวลา กลับเมืองไทย ไม่อายเขา เพราะตัวเรา ใกล้จะแพ้ แก่สังขาร
ภาษาอังกฤษ น่าอิดหนา ระอาอาน ประสบการณ์ ได้เพียงพอ ก็โอเค
เป็นเวลา สามวัน ผ่านมาแล้ว เสียงแจ๋ว
ๆ หายไป ชักใจเขว
เจ้าชาณุ วัฒนา เคยฮาเฮ คงซวนเซ เป๋เปื่อย เหน็ดเหนื่อยงาน
แปดชั่วโมง ต่อวัน งานหนักหนา ยืนเมื่อยขา ชำแหละไก่ ที่ไทสัน
ทุกพฤหัส บดี
มีรางวัล คนไทสัน ได้ตัวเลข รับเช็คมา
ทำสองคน บ่นไปใย ได้เจ็ดร้อย อย่าดูถูก เงินน้อย เลยหน่อยหนา
หนึ่งเดือนเขมือบ เกือบสามพัน นั่นเงินตรา อเมริกา เป็นอย่างนี้ เดี๋ยวดีเอง
รอคุ้นเคย ค่าครองชีพ อย่ารีบกลับ เหนื่อยก็นับ ดอลล่าร์ อย่าโฉงเฉง
อยู่บ้านเรา อะไรเหลือ เบื่อไปเอง มีนักเลง เก่งกล้า คอยราวี
รับเงินทอง ของประจำ ทำไปเถิด อย่าเตลิด เปิดเปิง กระเจิงหนี
อเมริกา ยุติธรรม ซ้ำเสรี เสียภาษี ยังดีกว่า ให้กากิน
สู้จนสุด ต่อไป วัยสังขาร ทนทำงาน เก็บหอม ออมทรัพย์สิน
ไก่ไทสัน มันไม่ฝ่อ คงพอกิน หากไก่บิน หนีกลับ คงอับจน
ว่าที่จริง เมืองไทย ไม่ลำบาก แต่ตอนยาก ลำบากจัด ถึงขัดสน
จะมีใคร เหลียวแล แม้แต่คน ต้องดิ้นรน ขายผ้า หน้ารอดไป
อันเพื่อนพ้อง พี่น้องญาติ อาจใกล้ชิด อย่าได้คิด พึ่งพา หวังอาศัย
เห็นแก่ตัว ครอบครัวเขา ไม่เอาใคร คงเยื่อใย เพียงคิดถึง พึงเพียงพอ
เป็นเวลา มาเก็บหอม สู้รอมริบ อย่าเพิ่งรีบ กลับไทย ไปเลยหนอ
จงรวบรวม สวมใจสิงห์ นิ่งทนรอ เงินมากพอ ชูคอได้ กลับไทยเรา
อย่าให้คน นินทา ว่าเสียดสี เราทำดี ยังมาด่า ว่าโง่เขลา
ไม่ควรทิ้ง งานหลัก แม้หนักเบา จำว่าเรา ลูกแม่สิน พ่อสิงห์โต
กลับไปหวัง สร้างบุญ เพื่อสูญบาป ต้องไปกราบ กรานหลาน พาลโมโห
หลงคำยอ เชื่อปอปั้น ชยันโต จะอดโซ ไปอีกนาน สังขารโรย
อันตัวพี่ ดีแต่กรีด ขีดอักษร ขึ้นเป็นกลอน อาวรณ์ไว้ ให้หวนโหย
แม้นมิแก่ เกินแกง มีแรงโกย จะไม่โอย ออดอ้อน ก่อนสิ้นแรง
พุทธภาษิต นานาจิตตัง ให้ยั้งคิด ต่างชีวิต ต่างชีวา กล้ากำแหง
คิดของใคร ใจของมัน รั้นตะแบง เกิดสำแดง ปมด้อยเด่น เห็นรำไร
เพียงแยกแยะ แนะนำ ไปตามเรื่อง คนขุ่นเคือง เรื่องจนรวย ช่วยไม่ได้
มองวงนอก บอกว่าเห็น เป็นทำนาย อยู่วงใน เห็นดีกว่า ตามอารมณ์
ศุกร์สิบสาม ตามตำรา ว่าลักกี้ จูไลนี้ ศูนย์เจ็ด ได้เสร็จสม
อเมริกา มาสุดไกล ส่งใจชม ทำอารมณ์ ให้เบิกบาน สำราญเริง
ตัดสินใจ ไม่ฟังข่าว เขาก็บอก ว่าบ้านนอก และเมืองกรุง ยังยุ่งเหยิง
เพราะคนไทย ใจระอุ คุเป็นเพลิง เล่นเถิดเทิง เซิ้งกันมา เจ็ดสิบห้าปี
วีรบุรุษ ผุดมากมาย คล้ายดอกเห็ด คนใจเพชร เกล็ดประกาย คล้ายลูกหยี
เปรียบเป็นปลา สำลักน้ำ กล้ำฤดี หินอัคคีย์ ลอยน้ำได้ ลางร้ายเยือน
ปิดความชั่ว ตัวระยำ ทำเป็นชี้ ยกความดี อภิปราย ใจเชือดเฉือน
ละครลิง เรื่องนี้ มีบิดเบือน ระวังเตือน เป็นแมงเม่า เข้ากองฟอน
เมื่อวานซืน ตื่นใจ ไปท่องเที่ยว หายเปล่าเปลี่ยว
เลี้ยวขวาซ้าย ไปพักผ่อน
กูชแลนด์ แดนสงบ ครบวงจร ตีรถย้อน ดูจนทั่ว ตัวกูชแลนด์
เจ้าชาตรี ชี้ให้ดู อู่แคมปัส เขาถูกจัด ให้ศึกษา มาตามแผน
เรียนเครื่องยนต์ สอบผ่าน ทำงานแทน อยู่ในแบรนด์ รถฟอร์ด อเมริกา
กูชแลนด์ แดนเหลื่อมล้ำ ที่ต่ำสูง กว้างท้องทุ่ง สูงแนวเนิน เพลินชมป่า
มองพุ่มไม้ แหวกเถาวัลย์ พันธุ์วนา พ้นทึบป่า เห็นทุ่งโล่ง โปร่งฤทัย
ฟาร์มโคนม ผสมพันธุ์ม้า ทุ่งหญ้ากว้าง ตามเส้นทาง มีลำธาร ตระการใส
ทรงสโลป ลดหลั่น ขั้นบันได ผ่านพฤกษ์ไพร พงพนา ธาราริน
วางแผนไว้ บ่ายพรุ่งนี้ ชาตรีกำหนด จะขับรถ โตโยต้า พาผายผิน
เลยกูชแลนด์ มุ่งหน้า ชาล็อตวิลล์ อดีตถิ่น ประธานา ธิบดี
ได้เวลา ห้าโมงเย็น วีคเอนด์เริ่ม แต่งเพิ่มเติม เสริมคำกลอน ตอนแฮปปี้
เกี่ยวชีวิต ผิดเปลี่ยนไป ในทางดี แนวโน้มมี ที่ชาณุ วัฒนา
เคยยินฟัง ทั้งสองคน บ่นกลับบ้าน อยากทิ้งงาน ไทสัน กันหนักหนา
ยกเหตุโวย โดยข้ออ้าง ต่าง ๆ นานา อเมริกา ใช่ที่หวัง ทั้งชีวัน
เย็นวันศุกร์ ที่สิบสาม ตามนักขัติ ติ๋มเป๋อจัด ไดน์เนอร์ เจอกับฉัน
สนทนา ภาษาใจ ให้แก่กัน ความคิดฝัน พลันปรับใหม่ จึงได้ฟัง
ว่าความสุข ต่อไป ภายภาคหน้า อเมริกา ถ้าอยู่ดี มีความหวัง
อนาคต หมดเรื่องยุ่ง สตุ้งสตังค์ ที่ค้างคั่ง คาผลึก มาตรึกตรอง
คงอยู่ดี มีสุข สนุกสนาน ขืนกลับบ้าน เมืองไทย ไม่วายหมอง
ได้คิดใหม่ ทำใหม่ สมใจปอง คนทั้งสอง ต้องแฮปปี้ พี่ดีใจ
อันความคิด ความตั้งใจ ใช่ที่สุด จิตมนุษย์ มีเคลื่อนคลอน และอ่อนไหว
เรื่องกิเลส โลภโกรธหลง มิปลงใจ คือมารร้าย ใครสะดุด หยุดคิดดี
คิดอย่างเดิม เสริมเก่า ความเศร้าโศก ไม่มองโลก สวยสง่า สิ้นราศรี
กลับเวียนว่าย วัฏจักร ในอัคคีย์ สิ่งไหนดี มีสมอง ต้องคิดเอา
ครั้นรุ่งแจ้ง แสงทอง ส่องเจิดจ้า จับท้องฟ้า สดใส ในวันเสาร์
สปริงฟิลด์ อพาร์ทเมนต์ เช่นทุกคราว อาหารเช้า ข้าวต้มหมู คู่กาแฟ
หายงุ่นง่าน อาหารเช้า เข้าตามหมาย ก่อนถึงบ่าย หงายแผนที่ รู้ดีแน่
ผู้โดยสาร เต็มพิกัด พออัดแอ อิ๋วท้องแก่ นั่งแหย่เย้า กับเจ้าดีน
เป๋อติ๋มต๋อย จ๋อยแจ๋ว อยู่แถวหลัง ส่งเสียงดัง ซังแซ่ แห่กฐิน
ส่วนแถวกลาง นั่งโหวกเหวก พระเอกดีน ชาล็อตฮิลล์ กินเวลา ห้าสิบนาที
ชาล็อตฮิลล์ บริเวณ มอนติเซลโล อาคารโชว์ เส้นทาง สถานที่
พิพิธภัณฑ์ ภาพประธานา ธิบดี เพื่อบอกชี้ ชักชวน คนขึ้นชม
รถขับคลาน ผ่านประตู ดูหุบเหว ด้วยความเร็ว สิบห้าไมล์ ทิวไม้ร่ม
สิบห้าเหรียญ ต่อผู้ใหญ่ ขึ้นไปชม คนนิยม หลั่งใหล ขึ้นไปดู
อยากสัมผัส สมบัติกรุ อนุรักษ์ไว้ ยุโรปสไตล์ อิตาลี ที่งามหรู
ร้อยกว่าปี ที่เหลือไว้ ให้คนดู ให้ความรู้ คนรุ่นหลัง เป็นอย่างดี
เราเจ็ดคน ขึ้นรถบัส รอนัดหมาย เขาจัดไกด์ พาเข้าชม สถานที่
อธิบาย แจ่มชัด ประวัติมี เธอเชิญชี้ ของหลากหลาย ได้ครบครัน
เป็นประธานา ธิบดี คนที่สาม สัมญานาม โทมัส เจฟเฟอร์สัน
เวอร์จิเนียร์ บ้านเกิดเมืองนอน มาก่อนกาล เจมส์เมดิสัน
ผู้ลูกเขย ก็เคยเป็น
ประธานา ธิบดีของ สหรัฐ ตามประวัติ ภาพถ่าย ไว้ให้เห็น
ลานสวนผัก บนยอดภู ดูร่มเย็น เพรสซิเดนท์ หลุมฝังศพ ครบญาติกา
ลงจากภู ดูตัวเมือง ชาล็อตวิลล์ พบวูดกลิ้ล บัฟเฟ่ต์ เกร่เข้าหา
นั่งรอคิว ดิวโต๊ะใหญ่ ใช้เวลา ประมาณว่า สิบนาที มีโต๊ะกลม
คนไม่ขาด จัดคิวตัก ผักหมูเนื้อ ไก่สดเถือ ใส่พูนจาน ทานให้สม
สเต็กฝรั่ง นั่งจุกท้อง ต้องอารมณ์ น้ำขนม ผลไม้ จ่ายต่อคน
ประมาณสิบ ทิ๊ปต่างหาก เดินจากร้าน อร่อยสำราญ หลานชาตรี มีกุศล
เจ้ามือใหญ่ พาขึ้นเขา ให้เรายล วันนี้พ้น จนเมื่อใด จะได้เจอ
พรุ่งนี้ลั้นซ์ วันอาทิตย์ คิดกันไว้ ทำผัดไทย รสฝรั่ง สั่งติ๋มเป๋อ
ธาราไทย ผัดทั้งวัน จนขวัญเบลอ ฝีมือเป๋อ เจอริชมอนด์ ก่อนทำงาน
เกลนเอเลน เป็นชุมชน บนบรอดสตรีท แหล่งธุรกิจ มีร้านไทย ขายอาหาร
ยังมิเคย ลองลิ้ม ชิมสักจาน เพียงแค่ผ่าน อ่านชื่อ คือรสชิม
อาชีพไทย ในอเมริกา ขายอาหาร ข้าเปิดร้าน อาจได้เกลอ เป๋อกับตี๋ม
หน้าที่กุ๊ก คลุกเคล้า ให้เราชิม ฝรั่งลิ้ม ลองซด รสชื่นใจ
มองหาทาง ลงทุน ดุลการค้า มองเงินตรา ช้าไว้ก่อน ยังอ่อนไหว
มองทำเล เฉเฉื่อย อยู่เรื่อยไป มองว่าใคร เขาอุดหนุน ให้ทุนรอน
อเมริกา มาคราวนี้ ยังมีเป้า เผื่อแก้เหงา เปล่าเปลี่ยว เที่ยวไปก่อน
โลกยังกว้าง ทางยังไกล ใช่ร้าวรอน ริชมอนด์ ชาล็อตวิลล์ ให้ชินชา
ยังเมืองใหญ่ อีกหลายแห่ง แหล่งน่าเที่ยว ประเดี๋ยวเดียว เฉี่ยวรถไป ไม่หนักหนา
ไม่มีรถ หมดโอกาส จะยาตรา คอยเวลา พาไปกัน วันวีคเอนด์
ค่ำวันนี้ มีของแถม แฮมเบอเกอร์ ก้อนเบ่อเร่อ ซื้อฝากลุง ลองกินเล่น
เลียนฝรั่ง มะริกัน ฉันมื้อเย็น ก่อนโงนเงน ง่วงเหงา ไปเข้านอน
เดือนจูไล ไกลจากบ้าน ยังฝันถึง ฝากใจซึ้ง ถึงพุ่มพวง ดวงสมร
ไกลกรุงเทพ เก็บน้ำตา ห่วงอาวรณ์ ก่อนจากจร พรที่ให้ อาลัยเธอ
โอ้กรุงเทพ เมืองสวรรค์ วิมานทิพย์ ห่างไกลลิบ สิบพันไมล์ ชวนใจเผลอ
ยามนิมิต พิศวาส ไม่ขาดเธอ ตื่นฝันเพ้อ เก้อว่างเปล่า เศร้าอาดูร
รุ่งวันจันทร์ ลุงกับป้า ไม่ว้าเหว่ ไปบัฟเฟ่ต์ ร้านไชน่า พาอบอุ่น
ก้ามปู้ม้า รินนาชอบ หอบจานพูน พวกเราหมุน สองสามรอบ ชอบใจจริง
มิวแม็ก ภู อยู่ใกล้ร้าน มาทานบ่อย รสอร่อย กลมกล่อม ชวนทอมหนิง
รับดูแล ลุงป้า น่ารักจริง เป้ลูกหนิง พร้อมคู่หมั้น ครบครันมา
อิ๋วชาตรี รอที่บ้าน เพราะงานยุ่ง หนิงพาลุง และส่งกลับ ไปกับป้า
นำของฝาก จากแม่นี มอบรินนา เจรจา ทุกข์สุข สนุกใจ
โทรน้าเป๋อ น้าติ๋ม ชวนชิมด้วย จะได้ช่วย เจรจา โอภาศรัย
แต่สองน้า ท่าจะเปลี้ย อ่อนเพลียกาย บอกขอบาย ไว้คราวหน้า จะมากิน
ทอมกับหนิง บินกลับจาก เทนเนสซี่ ซื้อของดี มาฝาก จากแนสวีลส์
รถมารับ ไปทาน อาหารจีน บุฟเฟ่ต์กิน อร่อยดี อิ่มปรีเปรม
กินนอนเที่ยว เดี๋ยวหมดวัน ผ่านเร็วเหลือ ไม่น่าเชื่อ จะลืมทุกข์ สุขเกษม
ฝังก้นบึ้ง ซึ้งซึมลึก รู้สึกเต็ม ไปด้วยเกม แห่งชีวิต จิตบรรจง
กินอาหาร ผ่านลำคอ ก็ชีวิต ใจต้องคิด อยู่เสมอ ไม่เผลอหลง
น้ำอาบ, ดื่ม ปลื้มฤทัย ใช้ดำรง ชีพยืนยง คงอยู่ อู่พักพิง
เงาร่มไม้ ชายคา อยู่อาศัย ของกินใช้ สมบูรณ์ พูนทุกสิ่ง
จากธาตุแท้ แรงกาย และใจจริง แน่วแน่นิ่ง ยิ่งศรัทธา ของชาตรี
ข้าชื่นชม สมดังใจ ไม่อดสู กตัญญู รู้คุณ บุญราศรี
ช่วยพูนเพิ่ม เสริมสง่า บารมี ชายชาตรี ชาติเชื้อ ชูปรีชา
ความเคลื่อนไหว ในหมู่พง วงลูกหลาน ทอมหางาน ที่เหมาะ เที่ยวเสาะหา
เข้าสัมภาษณ์ ตำแหน่ง หลายแห่งมา สมอุรา หาได้ ในเวอร์จิเนียร์
แนสวิลล์ บินสมัคร ไม่อยากย้าย สมดังใจ ไม่ได้ผล เพราะโดนเขี่ย
กลับโชคดี มีงานรับ กลับเวอร์จิเนียร์ ลูกกับเมีย เป้กับหนิง ยิ่งยินดี
หลานรินนา ตั้งครรภ์ ต้องขวัญเสีย คงระเหี่ย หัวใจ ให้หมองศรี
หมออุลตร้า ซาวด์มาดู จึงรู้ดี ไม่รอรี่ ขอร้อง ท้องแท้งไป
เจ้าชาณุ วัฒนา เดินหน้าสู้ เขาทั้งคู่ ดูขยัน ไม่หวั่นไหว
ตลอดอาทิตย์ คิดอยากเจอ โอเวอร์ไทม์ มุ่งหมายใจ ใฝ่ปอง ซื้อของดี
ส่วนเจ้าอิ๋ว และชาตรี มีงานบ้าน กลับจากงาน เหนื่อยมา ยังทาสี
ผนังฝา ทาทับ ให้กลับดี เห็นคู่นี้ มีวิญญาณ รักบ้านเรือน
เจ้าเด็กดีน ชอบปีนฝา เรียกย่าต๋อย ถึงตัวน้อย แต่ปัญญา หาใครเหมือน
ตั้งแต่พบ ประสพหน้า เพียงกว่าเดือน ดูว่าเหมือน ดีนโตมา กว่าหนึ่งปี
รัชนี หมั่นโทรมา ท่าจะเหงา เพราะว่าเขา อยู่ไกลถึง เทนเนสซี่
ต้องไกลลูก ไกลหลาน นานนับปี รัชนี ให้พี่ไป จ่ายค่าบิน
ด้วยวางแผน แปลนไว้ จะไปวัด ชาตรีนัด เข้าพรรษา พาถือศีล
ไปเที่ยวท่อง มองป่า ชมวาริน พาอิ๋วดีน ไปผ่อนคลาย ชายทะเล
ขึ้นออกัส จัดไว้ จะไปหา ไปสนทนา
พาจร เที่ยวร่อนเร่
อย่าขุ่นข้อง หมองใจ ได้ฮาเฮ เอฟเวอรี่เดย์ เซย์ฝรั่ง มั่งเป็นไร
อันคับที่ อยู่ได้ คับใจยาก เคยลำบาก ยากจน มาหนไหน
ไม่เคยบ่น ก่นกู้ ว่าผู้ใด บ้านเล็กใหญ่ ไม่สำคัญ ฉันยินดี
ด้วยสนใจ ในกรีนการ์ด ไม่จัดส่ง จึงตกลง ไปตรวจเช็ค เซคเคียวริตี้
ถูกปฏิเสธ การทำ ซ้ำอีกที เขาบอกพี่ ใจเย็น มิเป็นไร
รออีกหน่อย คอยฟังข่าว อย่าเซ้าซี้ ตั้งหนึ่งปี อายุความ เขาทำให้
แต่อย่าออก นอกเขต ประเทศไป จะอดได้ กรีนการ์ด บัตรเซคเคียว
บัตรโซเชียล เซคเคียว ริตี้นั้น ความสำคัญ กิจกรรม ที่ข้องเกี่ยว
ธุรกิจ การใด ๆ ใช้บัตรเดียว เพราะคาบเกี่ยว การภาษี และสังคม
วันที่ผ่าน นานเพียงใด ยิ่งไกลห่าง คืนวันว่าง ห่างมิ่งมิตร สนิทสนม
เคยร่วมสุข ทุกอย่าง ต่างรื่นรมย์ เคยร่วมตรม ทุกครั้ง ต่างเศร้าซึม
จากมาไกล มิได้เยือน หนึ่งเดือนกว่า ทำแม้นว่า ตีหน้าใส ภายในขรึม
ทุกเหตุการณ์ ที่ผ่านมา ข้าไม่ลืม ทั้งร่วมดื่ม เล่นกีฬา สนทนากัน
องค์สัมมา พุทธศาสน์ ตรัสวางไว้ พึงทำใจ ให้สงบ พบสุขสันต์
ทุกข์สมุทัย นิโรธมรรค รู้จักพลัน ดับทุกข์ขันธ์ นั้นแหละดี มิกังวล
พึงศรัทธา พยายาม นำคำสอน สร้างคำกลอน อักษรศรี หนีสับสน
สลายกิเลส เล่ห์ลวงพราง ห่างกมล ข่มใจตน ค้นอุบาย อาศัยธรรม
วันศุกร์เย็น วีคเอนด์มา พากันช๊อป เดินวกรอบ เวียนวน เสียจนค่ำ
กางเกงด๊อกเกอร์ ลดราคา คว้าลูบคลำ ใช้ประจำ ควักกระเป๋า เอาสองตัว
ที่ห้างโคห์ โตใหญ่ ไปเดินย่อย สลัดอร่อย ผักหลากหลาย แถมไก่คั่ว
โอเร้นส์จู๊ด ดูดแทนเหล้า มิเมามัว จึงเบาตัว หัวแล่น ขาดแอลกอฮอล์
เทนเนสซี่ น้องนีโทร วางโผไว้ เดินทางได้ กลางเดือนหน้า จะบินปร๋อ
ศุกร์สิบเจ็ด สิงหา อย่ารีรอ ไปเที่ยวต่อ อีกรัฐ จัดตั๋วเตรียม
ประมาณว่า แนชวิลล์ ถิ่นมิวสิค แหล่งปิคนิค แห่งใหม่ ใจเต็มเปี่ยม
เวอร์จิเนียร์ เมืองเก่า ไม่เท่าเทียม ไปยลเยี่ยม แมงโก้ รัชนีแกรม
พูดถึงแกรม แถมไว้นิด จิตใจกว้าง ได้ก่อร่าง สร้างตัว หัวหลักแหลม
เจ้าน้องเขย ของข้า มารอนแรม แคปทั่นแกรม ยุเอสอาร์มี่ อเมริกัน
รู้เคารพ นบนอบ ว่าเป็นน้อง คนทั้งสอง ครองชีวิต ลิขิตฝัน
อยู่แห่งไหน ไปด้วย เขาช่วยกัน โดยมุ่งมั่น สรรค์สร้าง วางหลักชัย
เวลานี้ นีกับแกรม และแมงโก้ สองร่มโพธิ์ ของลูกหลาน เปลี่ยนงานใหม่
สิบชั่วโมง โค้งคด ขับรถไป หกร้อยไมล์ ไกลห่าง เส้นทางงาม
แม้ร่มเย็น เทนเนสซี่ นียังห่วง ใช่ลับล่วง ลืมเหล่า เฝ้าโทรถาม
ทั้งหลานลูก สุขหรือเปล่า เขาติดตาม น้ำใจงาม ความเป็นแม่ และย่ายาย
ความผูกพัน บรรพบุรุษ สุดลึกล้น ชีวิตคน คุณความดี มีความหมาย
เมื่อปีกแข็ง มีแรงบิน ย่อมดิ้นไป ผูกจิตใจ สายโลหิต ใกล้ชิดกัน
เสาร์จูไล ทเวนตี้เฟิสท์ บรรเจิดจ้า แจ่มท้องฟ้า บรรยากาศ ชวนวาดฝัน
อยากท่องเที่ยว ให้ไกลแสน แดนมะกัน เปลี่ยนจากฝัน มาเป็นใกล้ ในความจริง
ชวนเจ้าติ๋ม อิ่มข้าวแล้ว แจวไปเรื่อย หาที่เมื่อย โคโรเนียลดาวน์ ดูม้าวิ่ง
แข่งเดอบี้ มีหนึ่งล้าน รางวัลชิง สนุกยิ่ง ชมเดอบี้ ที่แดนไกล
ถ้วยเดอบี้ ที่สูงสุด การแข่งขัน พร้อมรางวัล เกียรติยศ อันยิ่งใหญ่
ม้าวินนิ่ง ถ้วยคิงส์คัพ ของเมืองไทย อาชาไนย แห่งปี ยอดกีฬา
เดอบี้ควีนส์ ราชติณามัย มิใช่หยอก เจ้าของคอก ม้ามีบุญ วาสนา
จึงได้ครอง ถ้วยรางวัล ขวัญอาชา เป็นยอดม้า มีฝีเท้า เจ้าความเร็ว
ดูแข่งเรือ แข่งแพ แลครึกครื้น คนที่ขืน แข่งวาสนา พาล้มเหลว
ชมแข่งม้า อาชาไนย ใช่ว่าเลว จะลงเหว เพราะมีบาป อย่าแข่งบุญ
วันอาทิตย์ ยังวีคเอนด์ เป็นวันว่าง แผนที่กาง
วางดูพลัน แล้วหันหุน
ชักชวนน้อง ท่องเที่ยวไกล ไว้เป็นทุน เพื่อตักตุน พูนสุข ประสบการณ์
อ้อมริชมอนด์ ย้อนโฮปเวลล์ เบนออกขวา ชมพนา
ฝ่านิเวศน์ เขตสถาน
ไปโผล่เจอ ปีเตอร์สเบิร์ก เมืองโบราณ ขากลับผ่าน รับรินนา มาแอทลี
ขับวงรอบ ขอบใจ ได้เที่ยวท่อง เป๋อติ๋มน้อง นั่งตอนหน้า สารถี
ต๋อยกับข้า อยู่เบาะหลัง นั่งทุกที กางแผนที่ ชี้เส้นทาง ต่างพูดคุย
ให้คุ้มค่า มาทั้งที ที่เมืองนอก ใครเขาบอก ขยอกปาก อยากขากถุย
ยอมอดใจ ทนนั่ง ฟังเขาคุย เที่ยวฉลุย ลุยวันนี้ ดีใจจัง
ติ๋มกับเป๋อ โอเวอร์ไทม์ ได้งานเพิ่ม ว่าจะเริ่ม สัปดาห์นี้ คงมีหวัง
โอกาสเหมาะ เมคมันนี่ มีสตังค์ ยอมเหนื่อยมั่ง แม้นตั้งใจ ได้เที่ยวเพลิน
แนวชีวิต ลิขิตให้ ไปต่างถิ่น การอยู่กิน อย่าวิตก ระหกระเหิน
ประสบการณ์ ที่ผ่านเห็น เป็นส่วนเกิน หากหยุดเดิน พบจุดดับ อับปราชัย
ขึ้นวันจันทร์ งานมีรอ จ่อน้องหลาน ส่วนตัวฉัน นั้นชินเฉย เลยตื่นสาย
เขาทำงาน ตัวฉันนอน เขียนกลอนกราย ตกภาคบ่าย ไปเดินมอล์ รอสิ้นวัน
พบเจ้านา พาแจสซี่ เดินรี่ลิ่ว ส่วนเจ้าอิ๋ว หิ้วน้องดีน ดิ้นสนั่น
สองครอบครัว เขาใกล้ชิด สนิทกัน ก่อนกลับบ้าน ชวนลุงป้า ไปเชสเตอร์ฟิลล์
อิ๋วชาตรี ปรี่หาหมอ ขอถามไถ่ เพราะสงสัย ทำไมชอน นอนไม่ดิ้น
หมออุลตร้า ตรวจดูท้อง น้องเจ้าดีน ไม่ค่อยดิ้น เพราะกลับหัว ตัวสบาย
หมอแนะนำ ธรรมดา ของทารก อย่าวิตก ยกปัญหา มาสงสัย
ให้เจ้าชอน นอนในท้อง ต้องสบาย กินอะไร กินด้วย ช่วยชีวี
อีกหนึ่งเดือน จะเคลื่อนคลาย จากในท้อง ให้สอดคล้อง ต้องตาม งามราศรี
พี่บดินทร์ น้องพิชา สง่าดี อิ๋วชาตรี มีลูกสอง ต้องตำรา
ต๋อยนงเยาว์ เขามานะ มิเหนื่อยหน่าย ทั้งเช้าบ่าย หายง่วงนอน ลงถอนหญ้า
ดีไม่หยอก ออกกำลัง ได้วังชา ตลอดเวลา ถ้าสิ้นงาน จะพาลรวน
เขาเป็นคน ทนงานหนัก รักต้นไม้ เพราะเติบใหญ่ ในสามพราน บ้านเป็นสวน
เห็นดอกผล พืชผัก ตักดินพรวน เธอจะง่วน อยู่กับพืช และไม้พันธุ์
วัชพืชหมด รดน้ำ สนามหญ้า ฝีมือป้า นงเยาว์ คนขยัน
อ่านหนังสือ แต่งกลอน นอนทั้งวัน เรื่องทำงาน ไม่เคยยุ่ง คือลุงเชียร
ภาษาอังกฤษ ฟิตเท่าไร ไม่กระดิก นั่งหัดคลิก คอมพิวเตอร์ เจอกลอนเขียน
พอเห็นแดด แผดร้อน เหมือนก้อนเทียน เดินวนเวียน เขียนนิราศ ฟาดกาแฟ
อยากสำเร็จ เสร็จกลอน อาวรณ์หวัง มีพลัง ภวังค์เกิด เปิดใจแฉ
เฝ้าสังเกต เหตุการณ์ ที่ผันแปร ใช่เหวี่ยงแห เพ่งแลเทียน มาเขียนกลอน
ทุกค่ำเช้า เข้าภวังค์ นั่งสังเกต ลำดับเหตุ ยกขึ้นมา อุทาหรณ์
เจอบทเรียน เขียนไว้ ในบทกลอน เรียงอักษร สังวรณ์นึก บันทึกจำ
หัวใจแปลบ แวบหนึ่ง คิดถึงบ้าน ทิ้งลูกหลาน นงราม พ่องามขำ
เคยอยู่ใกล้ ได้เห็น เป็นประจำ ด้วยเคราะห์กรรม จำพราก ต้องจากไกล
เจ้าอยู่เย็น เป็นสุข หรือทุกข์เศร้า ทุกเย็นเช้า เจ้าอยู่ดี หรือไฉน
ข้าแสนห่วง หวงหา เฝ้าอาลัย ตัดข่มใจ ไม่ให้คิด จิตกังวล
เป็นมนุษย์ สุดยากแค้น แสนสาหัส ทุกข์สนัด สุขสบาย ตายเพียงหน
ที่พึ่งหนึ่ง พึ่งได้ เพียงใจตน เกิดเป็นคน แล้วไซร้ ใจต้องดี
ขืนปล่อยใจ ใฝ่ความชั่ว ตัวกิเลส อันเป็นเหตุ ทำให้ ใจหมองศรี
มั่วสนุก คลุกเคล้า เจ้าอัปรีย์ จะเสียที ที่กำเนิด ประเสริฐคน
ดีกับชั่ว ตัวสำคัญ ผันชีวิต ต้องยั้งคิด ชั่วเจ็ดปี ดีเจ็ดหน
ดีมีน้อย ชั่วมีนาน ผ่านตัวตน หนีไม่พ้น คนพันธุ์ชั่ว หัวขี้โกง
อย่าไปคิด ถึงพวกมัน ไอ้พันธุ์ชั่ว เดี๋ยวเงาหัว มันก็หาย ไปตายโหง
ละครโลก เรื่องใหญ่ ไม่ลาโรง คนคดโกง โลงที่ไหน จะใส่พอ
ตื่นตีสี่ มีความฝัน เทพสรรค์สร้าง จะแม่นาง
สั่งมา หรือข้าขอ
ฝันถึงคน อยู่ไกล ตั้งใจรอ ได้พะนอ ขอแม่นาง อย่าหมางเมิน
ขยับผ้าห่ม ข่มตาหลับ กลับไปฝัน ต่อเหตุการณ์ ก่อนเก่า แต่เนาเนิ่น
หากความจริง ดังฝันนี้ คงดีเกิน จะได้เพลิน พอพบ ประสพกัน
กินยัดหมอน นอนเปลือง เรื่องของจิต พะวงคิด ห่วงหา เก็บมาฝัน
แสนไกลห่าง อย่างนี้ คงมีวัน ได้พบกัน ในฝันตื่น ขมขื่นใจ
เช้าวันพุธ ยี่สิบห้า กรกฎาแล้ว จิตผ่องแผ้ว รวยรื่น ชื่นผ่องใส
เป็นวันเกิด สองหลาน เบิกบานใจ อวยพรชัย เป็นสุนทร ด้วยกลอนกานต์
ให้นิตยา ชาตรี สองพี่น้อง เขาทั้งสอง ครองเงินตรา มหาศาล
โภคาทรัพย์ ใหญ่โต มโหฬาร ประกอบอาชีพ การงาน สราญใจ
ให้สมบูรณ์ พูนสุข พ้นทุกข์โศก รับสิทธิโชค โรคภัยหนี ไม่มีไข้
พรคุณพระ คุ้มครอง ปัดผองภัย คิดสิ่งใด จงได้สม อารมณ์ปอง
พร้อมครอบครัว สมสง่า เสริมราศรี อารมณ์ดี มีผิวพรรณ อันผุดผ่อง
ขวัญดวงใจ ให้แม่นี ที่หมายปอง เป็นที่พึ่ง ให้น้อง ๆ และรินนา
คนจะสุข สุขที่ใจ ใช่สนุก คนจะทุกข์ ทุกข์ที่ใจ ใช่อิจฉา
คนจะรวย รวยที่ใจ ใช่เงินตรา จงมุ่งหน้า ตั้งใจทำ แต่ความดี
ให้รำลึก ถึงคำครู ผู้สั่งสอน พึงสังวรณ์ ไว้จงหนัก เกียรติศักดิ์ศรี
ให้รู้รัก สมัครสมาน สามัคคี รักแม่นี บังเกิดเกล้า เขาเทใจ
อีกเดวิด ริชเชิร์ด เกิดเดือนนี้ พรใดดี โปรดช่วย อำนวยให้
สิ่งศักดิ์สิทธิ์ ทุกแห่งหน ตำบลใด โปรดดลใจ ให้ประสพ พบความดี
จิตประสงค์ ส่งแรงใจ ปรารถนา ลุงกับป้า มาอยู่ใกล้ ในครั้งนี้
นำความรัก มามอบให้ ด้วยไมตรี กลอนกวี เขียนไว้ ด้วยใจจริง
เกาการเมือง เรื่องยุ่ง เหมือนยุ่งกัด คันชะมัด ขอตัดใย ไม่สุงสิง
แต่คันปาก อยากด่า ว่าไอ้ลิง อันที่จริง ลิงกับหมา ชวนฮาเฮ
เห็นหน้าจอ ทีวี มีลิงเก่ง จูงหมาเบ่ง ไม่เกรงกลัว ทำหัวเส
ผูกเนคไท ใส่สูท พูดโมเม ฉลาดเก เกร่ไปมา ได้ค่าตัว
อวดคนรู้ กูใหญ่โต ทำโม้เขื่อง เล่นการเมือง สอดไส้ ไร้เงาหัว
ทำธงชาติ ขาดวิ่น เกือบสิ้นตัว ยกคนชั่ว ข่มคนดี สีกะบาล
มีแต่เก่ง เก่งกล้า เก่งสามารถ ประเทศชาติ เสื่อมลง น่าสงสาร
คนที่เก่ง แก่เก่า เขารำคาญ รับประทาน กลับมาเบ่ง เก่งจริงจริง
มองดูหมา กัดกัน มันอดสู มองดูหมู กัดกัน มันหยดติ๋ง
มดกัดหมัด ลิงกัดหมา ปลากัดปลิง แปลกแต่จริง สัปดน คนกัดกัน
มองการเมือง ขุ่นเคืองใจ ให้ปวดหัว ใจสั่นรัว กลัวธงชาติ ขาดสะบั้น
อยากให้เลิก ราวี หยุดตีกัน ถึงวันนั้น ผืนธงชาติ ผงาดงาม
อยากรู้ม๊อบ ถามมานะ ด่าสะบัด ถามมนัส บอกว่าดี ศรีสยาม
เดี๋ยวก็รู้ หมูหรือหมา ข้าติดตาม พระสยาม ท่านย่อมรู้ ผู้บีทา
ย้อนมาเพียร เขียนนิราศ วาดชีวิต ภาษาอังกฤษ ฟิตโฟไฟ ไว้ดีกว่า
หลีกพ้นห่าง ทางวิโยค โลกมายา ใครจะหา เห็นแก่ตัว กลัวไปใย
พฤหัส นัดคุณนา ทานอาหาร มื้อกลางวัน
บ้านคุณนา ที่อาศัย
เชสเตอร์ฟิลด์ ถิ่นตำบล หนทางไกล ยี่สิบไมล์ โดยประมาณ ผ่านไฮเวย์
ข้าวแกงผัด จัดไว้พร้อม เตรียมต้อนรับ ก่อนจะกลับ พาไปเพลิน เดินเที่ยวเตร่
แบลนเดอร์มิลล์ กว้างใหญ่ คล้ายทะเล แรงเสน่ห์ ลึกซึ้ง ภาพตรึงใจ
แหล่งพักผ่อน หย่อนอารมณ์ ชมทิวทัศน์ ธรรมชาติ จัดรังสรรค์ ปั้นแต่งให้
ริ้วรายรอบ ขอบพร่างพริ้ว แนวทิวไพร น้ำเย็นใส ไหวลมคลื่น ยืนเพ้อชม
เป็นบุญตา ที่มาเยือน เหมือนความฝัน เทียบสวรรค์ ชั้นใด จึงได้สม
เกาะแหลมยืน ชื่นฤทัย กลางสายลม ใต้เงาร่ม พฤกษา พนาวัลย์
ฝูงเป็ดห่าน คลานต้วมเตี้ยม เตรียมรอรับ พร้อมจะงับ รับประทาน อาหารขวัญ
เหล่ากระรอก หลอกวิ่ง ช่วงชิงกัน ย้อหยอกพลัน วิ่งพลาง ขนหางฟู
แข่งกับดีน แจสซี่ วิ่งหนีไล่ เมื่อเข้าใกล้ เจ้ากระรอก แกล้งกรอกหู
ไม่คลาดตา คุณย่าต๋อย เฝ้าคอยดู บางครั้งปู่ ดูด้วย ช่วยระวัง
เห็นประมง สมัครเล่น เป็นพรานเบ็ด เกี่ยวเหยื่อเสร็จ เบ็ดโยนน้ำ ตามชายฝั่ง
เดินสะพาน ไต่ราว เงาไม้บัง แหม่มฝรั่ง ระวังเด็ก โหวกเหวกโวย
คนอยู่ไกล รู้ไหมว่า ข้าฝากฝัน เกือบสายัณห์ ตะวันรอน อ่อนระโหย
เรือบดเล็ก เห็นเด็กพาย สายลมโชย สิ้นแรงโรย ฝันสลาย ตามสายลม
คงครั้งแรก และสุดท้าย จะได้เห็น หรือจักเป็น นางฟ้า มาอุ้มสม
บุญวาสนา มาอีกครั้ง จะนั่งชม ชื่นอารมณ์ เสน่หา แบลนเดอมิลล์
อิ๋วโชเฟอร์ เธอเคลื่อนขับ รับเปลวแดด สองแปดแปด มุ่งกลับบ้าน สถานถิ่น
ลุงนั่งหน้า ป้านั่งคู่ ดูเจ้าดีน เลิกป่ายปีน สักครู่ คุดคู้ไป
พอย่างเข้า เช้าวันศุกร์ ก็ฉุกคิด ถึงญาติมิตร เย็นนี้ มีเคลื่อนไหว
โทรหาติ๋ม เจ้าเก่า เขาคอไวน์ ตอบตามสาย จะไปรับ กลับจากงาน
ไปด้วยกัน หันรถจอด ที่คอสโก้ คว้าขวดโต ฟรอนเทียร่า มาสังหาร
วาซาบิ แซลม่อน นอนเต็มจาน รับประทาน แคลิฟอร์เนียร์ไวน์ ให้โอชา
หนึ่งลิตรครึ่ง รินขวดใหญ่ ไปแค่กึ่ง หน้าชักตึง ใจเริ่มคึก หันปรึกษา
ปลานิลนุ่ม ทอดเนื้อนิ่ม จิ้มน้ำปลา ต้องเบือนหน้า หนีข้าว อยากเข้านอน
โทรเรียกหา ชาตรีอิ๋ว ดิ่วไปรับ ลุงป้ากลับ สู่เคหา มาพักผ่อน
เสาร์พรุ่งนี้ มีเที่ยวไกล ไปตะลอน เลยริชมอนด์ ห้าสิบไมล์ ชิมไวน์กัน
รุ่งสว่าง กระจ่างแจ้ง แห่งวันนัด เจ้าหนิงผัด เป็นกระมัง ตั้งใจมั่น
เตรียมเบรคฟัสท์ ผัดไทย ให้กินกัน แต่ไม่ทัน ลุงกับน้า ไม่กล้ารอ
เพราะเจ้าติ๋ม เตรียมอาหาร ทานอิ่มแปร้ ทอมเลยแย่ หิวแทบตาย น้ำลายสอ
รีบออกรถ โดยทันที มิรีรอ น้ำมันพอ จรลี ที่ทำไวน์
ดูเส้นทาง อย่างดี ไม่มีผิด มุ่งสู่ทิศ ทางตะวัน ตกเฉียงใต้
คุยไปพลาง กางแผนที่ มีติดไป ตำบลใด ไม่มีหลง ตรงเส้นทาง
ออกไฮเวย์ ชาล๊อตวิลล์ ถิ่นทางเก่า มองเทือกเขา ผ่านคันทรี่ มียุ้งฉาง
รุกขชาติ ลาดทิวทัศน์ สองข้างทาง ทุกก้าวย่าง สะพรั่งสวย ด้วยไม้งาม
เสียดายข้า แค่กวี อดิเรก สุดสรรเสก เชิงกวี ศรีสยาม
พอเพียงเพลิน ยังเกินกว่า พยายาม นำความงาม ให้ปรากฏ ในบทกลอน
อยากจะนำ ความรู้สึก บันทึกไว้ มาเรียงร่าย ร้อยความ คำอักษร
จนปัญญา หาถ้อยคำ มาพร่ำวอน เพื่อร้อยกลอน สะออนสอาง ดังตั้งใจ
มาบัวลี่วิลล์ ถิ่นกำหนด รถเลี้ยวเข้า ป่าพิงเขา เสียดสูง ทุ่งฟาร์มไร่
องุ่นแดง พันธุ์เด่น เห็นรำไร ไกลสุดไกล สุดสายตา น่ายินดี
บังคับถือ ซื้อแก้ว แล้วรายล้อม ให้หนิงทอม เดินนำ ประจำที่
เริ่มแก้วแรก รับแจกริน กลิ่นรสดี เรียงไปที ละขวด ดวดให้เมา
ชอบรสใด เชิญให้ซื้อ ถือกลับบ้าน รสจัดจ้าน ทั้งไวน์แดง และไวน์ขาว
ชวนชี้ชม ที่บ่มไวน์ ให้พวกเรา มีไกด์กล่าว บรรยาย ได้ฟังกัน
นับร้อยปี ที่ก่อตั้ง ถึงครั้งนี้ ประธานาธิบดี โทมัส เจฟเฟอสัน
จนเป็นไวน์ ชั้นยอดเยี่ยม ไร้เทียมทาน รับรางวัล อันดับสาม ของสากล
อันไวน์ดี ที่มีอยู่ ในยูเอส เป็นเสตท แคลิฟลอเนียร์ เสียท่วมท้น
ได้เหรียญทอง ครองยอดไวน์ ในสากล สังเกตคน อเมริกัน นั้นชอบไวน์
แต่ตัวฉัน นั้นถนัด ฟาดแต่เหล้า เมื่อแก่เฒ่า คิดจะลอง ของแปลกใหม่
หนึ่งเดือนแล้ว ยกแก้วก้าน หันลองไวน์ ชักถูกใจ ในรสชาด อาจเปลี่ยนแปลง
โรงผลิตไวน์ ในอเมริกา ถ้าอยากรู้ ต้องตามดู อยู่ในราว เจ็ดสิบเก้าแห่ง
แค่เดินชิม ลองลิ้มรส คงหมดแรง ชิมไวน์แพง มักจะฝาด รสชาติดี
ขอบใจหนิง กับทอม ยอมสละ เสียเวลา พาลุงไป ได้ถึงที่
หากหันหน้า มาชิมไวน์ ได้สักปี นับแต่นี้ คงห่างเหล้า เข้าหาไวน์
สงสารทอม ทำหน้านิ่ว เพราะหิวข้าว เพราะพวกเรา เขาอดทน จนลมใส่
โกลเด้นคาเรล บัฟเฟ่ต์ เร่เข้าไป มื้อใหญ่ใหญ่ บ่ายแก่แก่ เต็มแปร้พุง
ไปทำคอม กินข้าว บ้านเจ้าเป๋อ แล้วนัดเจอ ที่แฮมตัน ในวันพรุ่ง
ชาตรีรับ ขับรถพา ป้ากับลุง จุดหมายมุ่ง คือวัดป่า สันติธรรม
อาสาฬหะ บูชา เวียนมาถึง แหล่งที่พึ่ง พาลพบ ครบองค์สาม
รัตนตรัย คล้ายดวงแก้ว อันแวววาม พระพุทธธรรม สาวกสงฆ์ องค์บูชา
วันพรุ่งนี้ ที่สาวก ต้องเฝ้าวัด ชาวพุทธศาสน์ จัดเป็นวัน เข้าพรรษา
พุทธบริษัท ทั่ววัดไทย ในอเมริกา พระศาสนา จรรโลงอยู่ คู่คนไทย
เข้าวัดไทย แฮมตัน วันอาทิตย์ ล้างให้จิต สิ้นมัวหมอง พบผ่องใส
ชาววัดป่า หาสัจธรรม ค้ำจุนใจ วนาไพร พันธุ์ไม้ป่า บรรดามี
ขับจากบ้าน ชั่วโมงครึ่ง จึงถึงวัด ทางสายลัด เส้นไฮเวย์ หกสิบสี่
ปากน้ำเจมส์ กว้างไกล สายนาที สะพานวิถี เชื่อมไว้ สุดสายตา
ทั้งลาวไทย หลายร้อย คอยใส่บาตร เสียงประกาศ แห่เวียน เทียนพรรษา
ต่างรับศีล สวดมนต์ ภาวนา ทอดผ้าป่า ศรัทธาทาน วันงานบุญ
ตลาดนัด ของขาย มีให้เห็น วัฒนธรรมเด่น ลาวไทย ไม่มีสูญ
เรี่ยไรได้ เข้าวัด จัดหาทุน ไว้เกื้อหนุน พุทธศาสน์ ปฏิบัติธรรม
เตรียมโรงทาน อาหารไทย ไว้แต่เช้า ได้กินข้าว กันทุกคน จนอิ่มหนำ
มีคนไทย ไปมา ขาประจำ กลองยาวนำ แห่เทียน เวียนทักษิณา
ย้อนไทยแลนด์ แสนคำนึง นึกถึงเพื่อน ตั้งสามเดือน อดเหล้า เข้าพรรษา
เป็นโอกาส พักผ่อน หย่อนกายา ออกพรรษา เริ่มใหม่ ไม่ว่ากัน
คนกินเหล้า เมายา ยังยับยั้ง รู้จักตั้ง สติดี มีพรสวรรค์
เข้าพรรษา หาเหล้าริน กินทุกวัน เพราะสวรรค์ สั่งลงมา อย่าอาวรณ์
ออกจากวัด ไปเวอร์ จิเนียร์บีช มุ่งสู่ทิศ ตะวันออก ไม่ยอกย้อน
เจ้าชาตรี อดตาหลับ ขับตะลอน โอเชี่ยนฟร้อนส์ เมืองนอฟอร์ค ออกไปไกล
ฐานเนวี่ ที่ยิ่งใหญ่ สุดในโลก รบโชนโชก ทั่วมหา ชลาศรัย
ขุมอาวุธ ยุทธภัณฑ์ อันเกรียงไกร สะสมไว้ คลังรายรอบ ครอบคุ้มครอง
เมดเตอร์ บอล-อาร์คติค แอตเลนติค แปซิฟิค ของเขา เป็นเจ้าของ
เจ้าทะเล ลึกล้ำ รบช่ำชอง ฝึกประลอง ท่องนที มีพลัง
สะพานทอด รอดอุโมงค์ ลงใต้น้ำ ดิ่งลึกด่ำ ถ้ำรอด ทอดขวางฝั่ง
เชคสพีค เชื่อมอ่าว เฝ้าระวัง รถคับคั่ง ระหว่างวีคเอนด์ เป็นธรรมดา
เคี้ยวคดโค้ง ขึ้นลงทาง ต่างระดับ ทัศนอับ ด้วยฝนตก กระจกฝ้า
ลีนน์เฮพเวิ่น อิสท์มอลล์ พักผ่อนตา อีกไม่ช้า สู่ที่หมาย เข้าปลายทาง
จอดพักศูนย์ บริการ เรื่องการข่าว เที่ยวท่องอ่าว เชคสพีค แอตแลนติคกว้าง
เรื่อยริมหาด ได้มองเห็น เป็นช่องทาง โรงแรมขวาง ทางคนเดิน เพลินหาดทราย
เรือทะเล ลอยไกลโพ้น โดนคลื่นซัด สายลมพัด กระแทกฝั่ง ไม่ห่างหาย
เจ็ตสกี ตีแหวกน้ำ ทำกรีดกราย พอเข้าใกล้ สปีดโบ๊ต ลดความเร็ว
มิได้เยือน เหมือนชีวิต จะมิดมืด จะจืดชืด มืดตา คว้าน้ำเหลว
พอนั่งรถ นานนัก ชักปวดเอว ตัดใจเร็ว รถเลี้ยว เที่ยวเจมส์ทาวน์
เมืองเจมส์ทาวน์ ย่างเข้าปี สี่ร้อยหนึ่ง รำลึกถึง วันก่อตั้ง แต่ครั้งเก่า
เกิดสงคราม ฝ่ายเหนือ เมื่อนานเนา ไม่อาจเล่า กล่าวประวัติ ขาดข้อมูล
ขับรถลง เฟรี่ ที่ท่าน้ำ แล่นลอยลำ ข้ามเจมส์ รถเต็มทุ่น
ห้าสิบคัน เรียงราย ไม่ชุลมุน แพตรงศูนย์ ไม่มีเอียง ลำเลียงไป
เสียงเครื่องเครือ เรือแรง แล่นเร็วรี่ สิบนาที กว่า ๆ เห็นจะได้
เป็นอย่างน้อย ความกว้าง ห่างหลายไมล์ ไม่ต้องจ่าย เพนนี ฟรีทุกคัน
อยู่ระหว่าง กลางลำน้ำ งามทิวทัศน์ ธรรมชาติ บรรจงสร้าง ดังเสกสรร
กวีเอก เสกสม ชมสายธาร ภาพตระการ ไม่สามารถ อาจบรรยาย
เดินหน้าไป ไม่ข้ามกลับ ขับรถอ้อม เป็นทางล้อม แบบวงรี กลับที่หมาย
ขับรถเข้า สองเก้าห้า มาสบาย ไม่เบื่อหน่าย รถติดขัด จัดสัญจร
เจอน้ำเจมส์ รถข้ามผ่าน สะพานแขวน เข้าสู่แดน เกลนเอเลน ริชมอนด์
โทรชาณุ วัฒนา อย่ารีบนอน กินกันก่อน คิงส์บัฟเฟ่ต์ เดินเกร่คอย
ต้องเร่งรีบ หยิบจาน มองผันผิน อาหารจีน กลิ่นสะอาด รสชาดอร่อย
กุ้งปูปลา หมูหมัก พริกผักซอย ไก่เป็ดหอย สอยซด หมดสองชาม
มาตอนหิว ซิวซ้ำ ขอน้ำเสริม ตักมาเติม สองเกือบพอ ต่อถึงสาม
กลับไปบ้าน นอนผึ่ง ถึงสองยาม เป็นไปตาม ธรรมชาติ นิราศไกล
จันทร์อังคาร ผ่านเดือน จูไลแล้ว โอ้น้องแก้ว ข้าอยากรู้ เจ้าอยู่ไหน
เจ้าระกำ สำราญ ประการใด เก็บดวงใจ ไว้ดีดี ให้พี่เชย
เริ่มวันแรก เอาจริง เดือนสิงหา อเมริกา ว่ายังไง ทำไมเฉย
เรื่องสิทธิ สิว่าแน่ แต่กลับเชย ไม่นึกเลย มายก๊อด จอดหรือแจว
เรื่องของเรื่อง มิใช่เรื่อง ต้องเคืองขัด เขียนนิราศ ตอนขัดเคือง ได้เรื่องแจ๋ว
จึงเขียนเล่า สร้างเข้าใจ ไว้เป็นแนว ผ่านมาแล้ว ก็ให้ผ่าน ไม่พาลเก
เรื่องกรีนการ์ด บัตรโซเชียล เวียนสองรอบ เกิดมิชอบ มาพากล ชักฉนเฉ
ถามไปที่ อิมมีแกรนท์ แสนโมเม ชักโปเก อเมริกัน มันยังไง
พอตรวจสอบ เข้าจริงจัง ยังสาเหตุ สองแพคเกจ ของเรา เอาไว้ไหน
คอมยอมรับ คนไม่รู้ อยู่แห่งใด จะหาใคร รับผิดชอบ ตอบฉันที
ฉันจะขอ พิพากษา โทษาจริต โทษความผิด ควรตกแก่ เจ้าหน้าที่
อย่าด่าคอม ยอมรับ เสียโดยดี โลกใบนี้ ดีทุกอย่าง ยังไม่เจอ
ถ้าคอมดี คนดี งานดีด้วย เครื่องนั้นช่วย คนทำ สม่ำเสมอ
ฉงนใจ ในเหตุการณ์ ที่ฉันเจอ มีคนเซ่อ บนสวรรค์ ฉันฝันเอง
บอกแล้วว่า ข้าไม่เอา เรื่องเซ้าซี้ แต่งานนี้ เหตุบังคับ ให้ฉับเฉง
ความผิดพลาด หนึ่งในพัน เป็นฉันเอง ใจนักเลง อย่างข้า ไม่ว่ากัน
โชคข้าดี ที่ข้ารู้ หมู่หรือจ่า ข้ารู้ว่า ไหนนรก หรือสวรรค์
ประณีตมั่ว ชั่วกับดี มีปนกัน เจอกับฉัน เหตุการณ์ดี มีกำไร
อเมริกา คราซัมเมอร์ เจอสัมผัส เริ่มออกัส มีแสงแดด ส่องแผดไหม้
ที่กรุงเทพ คงระอุ คุเป็นไฟ หรืออย่างไร คลิกไปดู รู้ไม่ดี
เรื่องชุมนุม กลุ่มแกนนำ ทำประท้วง ไปก้าวล่วง เขามากนัก เรื่องศักดิ์ศรี
ยุติธรรม ศาลสถิต คิดคดี คนราวี บุกรุก เข้าคุกตะราง
คนโบราณ ว่าตะราง ใช่ขังหมา เฉียดไปมา กันทำไม ไม่คิดบ้าง
ประชาชน คนไทย มิใช่ฟาง เอาไปวาง สุมไฟ เพื่อไล่ยุง
ทำตีหน้า ข้าไม่กลัว ตั้งตัวสู้ ถ้าหมาหมู่ กรูเข้ามา ข้าจะยุ่ง
เข้าไปนอน ในตะราง นั่งตบยุง มือลูบพุง ก่ายหน้าผาก เพราะอยากดัง
จงทำดี มีจุดมุ่ง ผดุงชาติ หากเป็นทาส ความชั่ว ตัวตายฝัง
ทาสน้ำเงิน เพลินน้ำเน่า เอาแต่ตังค์ กรรมบดบัง นั่งสมเพท ทุเรศคน
การเมืองไทย คงไม่พ้น คนโสโครก ขุมนรก อันร้ายกาจ ชาติสับสน
ทุจริต คิดอุบาทว์ ชาติอับจน วงวังวน คนจังไร อีกหลายปี
บางกลุ่มจ้อง มองเห็นทาง กูบ้างแล้ว คงไม่แคล้ว รัฐสภาไทย ภูติพรายผี
สาปสูดเลือด เชือดชิ้นเฉือน ประชาชี ดูให้ดี ในปีหน้า ข้าทำนาย
น้ำดีดี มีมากมาย กลายเป็นเน่า น้ำเก่าเก่า เง่างี่ สีปูนป้าย
ดึงหน้าด้าน ออกบดบัง สิ้นยางอาย เดี๋ยวน้ำลาย ออกมาฟ้อง ไม่ต้องกลัว
ชนชาวไทย สนใจงาน การเมืองบ้าง หาคนกลาง ตั้งใจดี ไม่มีชั่ว
สอบประวัติ ให้กระจ่าง ทั้งครอบครัว ลูกเมียผัว ญาติพงเผ่า เหล่าพืดพันธุ์
แสนสงสาร บ้านเมืองไทย ใจจะขาด อเนจอนาถ เหลือเกิน บ้านเกิดฉัน
พวกหน้าเหม็น นักการเมือง ขุ่นเคืองกัน ยมบาล ตราไว้ เอาไปที
เวอร์จิเนียร์ อเมริกา สิงหาสาม เป็นฤกษ์ยาม งามสง่า ถึงราศรี
อิ๋วดวงรัตน์ ชูปรีชา เมียชาตรี เกิดวันนี้ เจ้ามีโชค โฉลกชัย
ลุงกับป้า มาร่วมเรือน เจ้าเหมือนลูก ได้ความสุข ที่ลุงป้า อยู่อาศัย
เจ้าดูแล เหมือนแม่พ่อ น่าพอใจ จะมอบให้ ในคำกลอน จากพรพรหม
จงร่ำรวย ต่อไป ในภายหน้า ปรารถนา สิ่งดีดี จงมีสม
จตุรพิธ พรชัย ได้ชื่นชม เริงอารมณ์ สมบูรณ์ พูนทวี
ให้ดีนชอน สอนง่าย ไม่ดื้อรั้น จงสบสันต์ สุขสำเร็จ เป็นเศรษฐี
เป็นมิ่งขวัญ กัลยา เจ้าชาตรี ทุกอย่างดี แฮปปี้เบิร์ด วันเกิดยู
อยู่สองเดือน ผ่านมา ห้าคนเกิด จะกำเนิด มาอีกหนึ่ง นะเจ้าหนู
ชื่อว่า
ชอน อ้อนลืมตา ขึ้นมาดู อยากเห็นปู่ เห็นย่า ขวัญตายาย
อันชีพคน วนเวียน เพียรไว้เถิด สิ่งประเสริฐ แห่งโลกนี้ มีอีกหลาย
จงคิดดี ทำดี อย่ามีคลาย บันทึกไว้ อย่าให้สูญ เรื่องคุณธรรม
มาพำนัก อเมริกา ในครานี้ ได้สุขี ไม่มีตังค์ ยังใจป้ำ
ที่ผ่านมา มิเคยมี ใจสีดำ จึงขอนำ กำลังใจ ให้ทุกคน
มีเงินน้อย น้ำใจมาก รักลูกหลาน ผู้สืบสาน สายใย ในแห่งหน
ใครเป็นลูก ต้องดูแล แม่ของตน ลูกกี่คน ต้องรู้จัก สามัคคี
เสาหลักชัย ในยูเอส เขตถิ่นฐาน ใครคนนั้น เขามั่นคง ทรงศักดิ์ศรี
ชื่อก็งาม นามจรัส รัชนี เธอคนนี้ เป็นที่หนึ่ง พึงศรัทธา
เตรียมกับข้าว คาวหวาน ไว้ครันครบ เชิญมาพบ ปะสังสรรค์ กันพร้อมหน้า
หนิงชาตรี เดวิด และรินนา ไม่อาจมา คือริชชาร์ด ขาดประชุม
ได้แค่สี่ พี่น้อง มาตามนัด ที่ลุงจัด เพราะอยากเห็น เจ้าเป็นกลุ่ม
สามัคคี มีบ่อยครั้ง นั่งชุมนุม ใครจะกลุ้ม ใครจะเหงา ต้องเข้าใจ
หรือขาดตก บกพร่อง ต้องเข้าช่วย คนไหนรวย ช่วยพึ่งพา ได้อาศัย
เรือรัชนี แล่นทวนน้ำ ช่วยจ้ำพาย สู่หลักชัย อนาคต สดสวยงาม
แม่ของเจ้า เขาดิ้นรน ทนเพื่อลูก จะทุกข์สุข ปานใด เขาไต่ถาม
หมั่นสอนเจ้า ทั้งห้า พยายาม สร้างคุณงาม ความดี ไม่มีจน
ประสบการณ์ ที่ผ่านมา ข้าบอกกล่าว ให้พวกเจ้า ตระหนักเห็น เป็นกลอนด้น
ใช้รูปแบบ อุปกรณ์ มาสอนคน เรื่องรวยจน ญาติกา ลุงชาชิน
สบายใจ เมื่อได้ลอง หมากรุกฝรั่ง แท้ที่ทั้ง มิถนัด ในศาสตร์ศิลป์
ทอมเดินหมาก ทั่วกระดาน อ่านจนชิน เขาใช้ควีน และบิชอปส์ รอบกระดาน
เจ้าเดวิด ติดตั้ง คอมพิวเตอร์ น้าติ๋มเป๋อ ซื้อมาเล่น เครื่องเต็มบ้าน
หนิงรินนา ชาตรี บริการ ให้สองหลาน มิวดีน กินโค้กเย็น
อิ๋วนงเยาว์ เฝ้าโยง ซี่โครงอ่อน ส่วนเจ้าชอน อยู่ในท้อง มองไม่เห็น
ทุกคนอื่น รื่นอุรา ครามื้อเย็น สังเกตเห็น กลุ่มพวกเขา เราชื่นใจ
เสาร์อาทิตย์ คิดเที่ยวท่อง ต้องชะงัก ควรหยุดพัก สักที จะดีไหม
ไทสันจับ ติ๋มกับเป๋อ โอเวอร์ไทม์ ดอลล่าร์ได้ มากกว่า ค่าชั่วโมง
ส่วนชาตรี เจ็บตา ต้องหาหมอ ไปนั่งรอ ปล่อยดวงรัตน์ จัดห้องโถง
ทุกคนต่าง อยู่กับเหย้า เฝ้ากับโยง พอเย็นลง ไปรับขวัญ บ้านรินนา
ประเพณี มีนานนับ เรื่องรับขวัญ ชาวลาวนั้น ค่อนข้างมัก เป็นหนักหนา
เรียกขวัญคืน
ยืนมั่น โอ้ขวัญมา ลุงกับป้า ช่วยผูกให้ ด้ายข้อมือ
มีกับข้าว เหล้ายา เลี้ยงอาหาร เชิญเพื่อนบ้าน น้องพี่ ที่นับถือ
เล่นหมากรุก ปลุกอารมณ์ ข่มตาปรือ จับไมค์ถือ โก่งตะเบ็ง ร้องเพลงกัน
ดึกเลิกงาน ถึงวันรุ่ง จ่ายตลาด เดินวอลมาร์ท ฟาอิสต์ คิดสังสรรค์
อพาร์ทเมนต์ ติ๋มเป๋อ นัดเจอกัน เพื่อปิดวัน วีคเอนด์ เหมือนเช่นเดิม
ก๋วยเตี๋ยวเนื้อ เจือหมูหั่น ปั้นลูกชิ้น ลูกหลานกิน อิ่มหนำ ต้องทำเสริม
ได้ความสุข หมากรุกแกล้ม แต่งแต้มเติม ชักจะเริ่ม สูสี จึงมีวิน
รุ่งวันจันทร์ งานมีรอ จ่อลูกหลาน ส่วนตัวฉัน
นั้นว่างเปล่า เฝ้าถวิล
หาสิ่งรู้ คู่ปัญญา เป็นอาจิณ ปล่อยใจบิน ลัดฟ้า กลับมาเยือน
ความแก่เฒ่า เข้ามาหา ข้ามากแล้ว จึงไม่แคล้ว ห่วงมิตร คิดถึงเพื่อน
อดีตกาล นานเกินกว่า จะลืมเลือน ติดตามเตือน อมตภาพ ตราบนิรันตร์
พี่ทองสุข ทุกข์ทนร้อน ป้อนข้าวข้า อาบน้ำท่า ประแป้ง แต่งตัวฉัน
ข้ามคลองคู ดูลิเก หนังเร่กัน กระแทกกระทั้น ฉันขี่คอ เข้ากะเอว
ส่วนพี่เติม เสริมความรู้ ผู้เกื้อหนุน เก็บเงินทุน การศึกษา เกรงข้าเหลว
พี่ทองห่อ ก็ด่วนพราก จากไปเร็ว ผ่านปล่องเปลว สู่แดนสรวง ห่วงอาลัย
วัฒนา รัชนี อยู่นี่แล้ว ยังไม่แคล้ว ห่วงกังวล เสียจนได้
อยากให้เขา อีกคนฟื้น คืนจิตใจ คือวินัย ใจทะนง ผู้หลงทาง
คนคิดดี มุ่งทำดี ย่อมมีสุข รู้ผิดถูก ผูกเครือญาติ มิบาดหมาง
เลิกทิฐิ ริษยา ระอาอาง คือแนวทาง นำไปสู่ ผู้เจริญ
หลบชีวิต อันมิดมืด จืดชืดแสน จากเมืองแม้น แดนนรก ระหกระเหิน
หาแมนเมือง เรืองรุ่ง มุ่งเพลิดเพลิน หนทางเดิน ยังอีกไกล ไม่ไหวติง
อยู่บ้านเกิด เมืองนอน อาวรณ์หวัง แม้จะตั้ง ใจไว้ ไม่สุงสิง
แต่สุดทน คนใจโลภ มาโฉบชิง ต้องเอาจริง
กันซะบ้าง ตั้งตาคอย
อยู่เมืองนอก บอกตามตรง ดำรงชีพ ไม่ถูกบีบ เงินจับจ่าย จะใช้สอย
ความจำเป็น จึงต้องคิด ประดิดประดอย จ่ายแต่น้อย คอยระวัง ฟังอัตรา
เงินบาทแข็ง แรงขึ้นหน่อย จึงค่อยกด ถ้าบาทลด กดไม่ไหว ไร้ดอลล่าร์
ค่าเงินบาท จัดว่าอ่อน ตอนฉันมา อเมริกา ถ้าบาทแข็ง แย่งกำไร
ไปเดินช็อป หอบเงินดอล รอบวอลมาร์ท สายตากวาด ดูราคา น่าสงสัย
ตัดสินยาก หากว่าเห็น เซลล์เมื่อใด ถึงถูกใจ ก็ไม่ซื้อ ถือเงินดอลล์
ลองกดถาม วาโคเวีย เสียหลายครั้ง ถามสตังค์ ในอัตรา ข้าจะถอน
ธนาคาร กีดกันข้า อย่าอาวรณ์ อย่าใจร้อน ฝากเอาไว้ ฉันใช้เอง
ใครรวยเกิน เงินมีมาก ฝากเอาไว้ ธนาคารใช้ ไปหมุนเวียน หลายเกวียนเข่ง
ธุรกิจ เอาเปรียบ เหยียบกันเอง คนไวเก่ง ฉวยโอกาส ฟาดไปอาน
นี่คือเหตุ ประเทศด้อย น้อยอำนาจ ตกเป็นทาส ประเทศใหญ่ ไปทุกด้าน
มีคนโกง คงอำนาจ รัฐบาล โง่ดักดาน ผลาญเงินตรา คาคงคลัง
ป.ร.ส.
จ่อคอหอย เสียย่อยยับ พาพวกงับ อิ่มพุง หลายถุงถัง
ไอเอ็มเอฟ เสพดอกเบี้ย ต้องเคลียร์ตังค์ จ่ายเงินค้าง หมดได้ ใช่เงินมัน
ไปโกยเงิน ล่วงหน้า มาจับจ่าย หนี้กองใหญ่ ท่วมตัว ยังยั่วหยัน
แค่โดนเกล็ด งับเศษหนม ก็ชมมัน เขาหลอกฟัน คอรากหญ้า ข้าเศร้าใจ
รัฐบาล เผาผลาญไป ไทยไม่เข็ด แบ่งประเทศ ยังไม่รู้ อยู่ข้างไหน
แผกเป็นเด๋อ
เผลอแหกตา ประชาไทย บ้าบรรลัย ไม่รู้รัก รู้จักพอ
ที่ข้าเขียน เวียนมา หาใช่เรื่อง นักการเมือง
สมัยนี้ ตีหน้อก้อ
กื๋อคอสั้น ฟันกันแหลก แปลกเหมือนจอ ปอกหลอกล่อ ประชาชน จนทั้งเมือง
จ้องจ้วงจาบ หยาบช้า ด่าไม่หยุด อมนุษย์ แน่นสภา พาลหาเรื่อง
อวิชชา ด่าเมื่อไร เขาคายเคือง ทำวางเขื่อง อ้างประชา บังหน้าตน
เขียนเรื่องเงิน เพลิดเพลินดี มีก็ใช้ หมดเมื่อใด ก็เสาะหา อย่าสับสน
แค่เพียงพอ อยู่ได้ ไม่ทุกข์ทน ไม่หลงตน ลืมสัตย์ ปฎิญาณ
อีกสิบวัน จะผันเวียน เปลี่ยนที่เที่ยว เผลอเดี๋ยวเดียว หกสิบวัน ดังฝันหวาน
จะไปเห็น เทนเนสซี่ มีตำนาน คือเป็นบ้าน เกิดเอลวิส เพรสลีย์
รัฐติดใกล้
ตอนใต้เหนือ เมื่อไปถึง จะขอบึ่ง ท่องรัฐ มิสซิสซิบปี้
อยากจะเห็น เส้นชีวา มหานที ชื่นชีวี ยามได้เห็น ฝันเป็นจริง
มิวสิคทาวน์ เทนเนสซี่ เมืองท่องเที่ยว รอประเดี๋ยว ข้าจะได้ ไปสุงสิง
พานงเยาว์ เข้าพำนัก อยู่พักพิง ต้องทอดทิ้ง ที่อยู่นาน บ้านชาตรี
รอวันศุกร์ เช้าสิบเจ็ด เตรียมเสร็จสรรพ คนคอยรับ ขับรถเบนซ์ เป็นเศรษฐี
มาดามเชปเพิร์ด เจิดจรัส รัชนี นับวันนี้ อีกเก้าวัน จะพลันจร
ฝึกอังกฤษ ฟิตโฟไฟ ให้จัดจ้าน พูดเขียนอ่าน ความเข้าใจ ในอักษร
ไปแต่งเสริม เติมนิราศ ไม่ขาดตอน สร้างคำกลอน อาทรหวัง ครั้งได้เยือน
เวอร์จิเนียร์ สัปดาห์นี้ มีแดดกล้า สาดส่องมา ร้อนไหม้ ที่ใดเหมือน
อุตุแจ้ง แสงรังสี มีคำเตือน อย่าแชเชือน ช่วยฟังไว้ ให้ระวัง
ร้อนร่างกาย ไม่ร้ายรน พอทนได้ แต่ร้อนใจ ให้รู้สึก ลงลึกฝัง
เมื่อหนาวกาย ใช้ผืนผ้า คลี่มาบัง เย็นใจจัง ดังใจข้า พาชื่นเย็น
เจ้ากระรอก ออกวิ่งไล่ ไต่ต้นโอ๊ค ทรวงเศร้าโศก ตกภายใน ใครเล่าเห็น
นั่งเขียนกลอน แต่ตอนเช้า จวบเข้าเพล หาที่เย็น ยะเยือก เลือกถ้อยคำ
ลมสงัด ไม่พัดเลย ทำเฉยนิ่ง ไม่ไหวติง หรือกริ่งว่า ข้าจะช้ำ
ลมเจ้าเอย เฉยอยู่ใย เจ้าใจดำ รับถ้อยคำ รักข้าไว้ ไม่บอกเธอ
เจ้านกน้อย คล้อยถลา หาข้าหน่อย ข้ายังคอย บินมาบ้าง อย่าพลั้งเผลอ
เจ้าโบยบิน ไปถิ่นไหน มิได้เจอ ข้าพร่ำเพ้อ ถึงเจ้านก อกข้าตรม
เห็นเครื่องบิน บินมา ใจข้าหวั่น คิดเมื่อวัน จะห่างไกล ขื่นใจขม
หนุนแนบเนื้อ นวลชิด สนิทชม แม้นเจ้าตรม ขมขื่น จงฝืนใจ
มองท้องฟ้า มืดมิด เหมือนชิดเจ้า พอรุ่งเช้า เจ้ากระจ่าง สว่างไสว
แต่จิตข้า สิมืดมิด สนิทใน สุดอาลัย ไม่เห็นแสง ยิ่งแคลงคลาง
ดูต้นโอ๊ค เขียวชอุ่ม กระพุ่มพลิ้ว ก่ายเกลียวริ้ว ปลิวไสว มิไกลห่าง
แต่กับข้า เขาเมียงเมิน เดินหลีกทาง จึงอ้างว้าง เปล่าเปลี่ยว เหลือเดียวดาย
ยินชะนี กู่ก้อง ร้องหวนโหย เสียงโอดโอย เรียกหาคู่ ดูใจหาย
ข้าก็ครวญ หวนหา น่าเสียดาย เหลือเพียงกาย ดายเดียว เปลี่ยววิญญา
อยากใคร่พบ ประสพพักตร์ บอกรักเจ้า อยากโลมเล้า เย้าเล่ห์ เสน่หา
จะช้อนร่าง มิห่างชื่น รื่นอุรา แก้วกานดา เจ้าอย่าแหนง เปลี่ยนแปลงเลย
เนิ่นนานวัน กระชั้นชิด คิดถึงบัตร เรื่องกรีนการ์ด เป็นอย่างไร ทำไมเฉย
อิมมิแกรนท์ แสนยักยึก ไม่นึกเลย เหมือนไม่เคย โดนด่า ว่าช้าจัง
เดือดร้อนแกรม เชปเพิร์ด เกิดโมโห หาเบอร์โทร เจรจา อีกคราครั้ง
ไร้คำตอบ เมื่อใด คงได้พัง เล่าให้ฟัง ยังสเตท ครองเกรสซิว
ทำการงาน บกพร่อง ต้องทวงถาม โทรติดตาม สามสี่หน จนแกรมฉิว
แม็กซิกัน ฉันไม่ใช่ ทำไมยิว จำต้องซิว เพื่อร้องสิทธิ์ ถูกลิดรอน
ให้ใจเย็น ไม่เป็นไร ใครล่าช้า สำหรับข้า ยังไม่คิด ติดไว้ก่อน
ถ้าผิดนัก จะลากยาว มาเข้ากลอน อนุสรณ์ สืบสาน ตำนานมี
ล่วงสู่วัน ที่แปด แดดยิ่งเผา ตั้งแต่เช้า จนถึงเที่ยง ต้องเลี่ยงหนี
อยู่ห้องแอร์ แน่นอนกว่า ท่าจะดี สูบบุหรี่ ต้องนอกบ้าน ยอมทานทน
อเมริกา ถึงหน้านี้ ที่สัมผัส ร้อนชะมัด อึดอัดแท้ แลสับสน
ส่องแมกไม้ ใบหญ้า ถ้าไม่ทน จะล่วงหล่น ก่อนพร่างพรู ฤดูกาล
นึกอยากนำ ความรู้ ภูมิศาสตร์ อาจารย์พงนารถ สอนสั่ง ครั้งเตรียมทหาร
โลกตั้งแกน แผ่นดินป่า สุธาธาร รอบจักรวาล ผ่านหมุนเวียน เปลี่ยนฤดู
ถูกไต่ฝุ่น หมุนไซโคลน เฮอริเคนซ้ำ กระแสน้ำ ปาล์มทุ่งหญ้า หาความรู้
โปร่งทึบป่า ชั้นอากาศ จัดภาพดู แยกหมวดหมู่ โซนอาศัย ในโลกา
ทั่วโลกกว้าง วางกฎเกณฑ์ เป็นธรรมชาติ ให้บทบาท เหนือชีวิต ทุกทิศา
ผู้รู้ซึ้ง ถึงทุกข์โศก โลกมายา คือสัมมา องค์พระพุทธ วิสุทธิ์ธรรม
มนุษยชาติ จัดเป็นหมู่ อยู่อาศัย อนามัย ภัยจากโรค ทุกข์โศกกล้ำ
วิบัติภัย หฤโหด กฎแห่งกรรม คือสิ่งนำ ทำให้ข้า มาคิดปลง
วิปริต ฮีทสตอร์ม ย่อมวิบัติ หากใครขาด ระมัดระวัง หรือพลั้งหลง
เซลผิวหนัง ไหม้ลุกลาม เสื่อมทรามลง เกิดเป็นผง ขรุขระ ตกกระลาย
ใกล้สิบแปด นาฬิกา รินนาหนิง ไม่ทอดทิ้ง ลุงป้า พาผันผาย
นำขึ้นรถ หลบร้อน พักผ่อนกาย ชฎาไทย แต่ร้านลาว ชิมข้าวแกง
กลับบ้านหนิง สิงห์ทอมรอ โขกหมากรุก เริ่มสนุก
ขึ้นมาก เพราะหมากแข็ง
บิช๊อบควีน กินกราวรูด อาวุธแรง ไวระแวง แวดระวัง ตั้งใจเดือน
ส่งกลับมา บ้านชาตรี เกือบสี่ทุ่ม ดีนอ้อนอุ้ม ออดย่า ทำหน้าเขิน
ทุกคืนอยู่ ปู่กับย่า พาเล่นเพลิน เหตุบังเอิญ กลับมาช้า จะงอแง
เคยชวนเล่น ตอนเย็นค่ำ ปล้ำสนุก เคล้าคลอคลุก ทุกเวลา ถ้าจะแย่
กลัวจะเจ็บ ตัวเจ้า เฝ้าดูแล ย่าปู่แก่ ต้องเหนื่อก่อน นอนระรวย
ใกล้เวลา จะคลาไคล ไปเทนเนสซี่ อยู่ที่นี่ มิเคยห่าง การแทงหวย
เวอร์จิเนียร์ ล็อตเตอรี่ มีทางรวย หากบุญช่าย โชคชง แทงตรงเบอร์
ยี่สิบเอ็ด นิ้วยาว หนักแปดปาวด์สิบ หล่อจากทิพย์ เวอร์จิเนียร์ แฮนโอเวอร์
น่าเอ็นดู ตอนปู่ย่า ได้มาเจอ เมื่อตอนเธอ สองขวบกว่า หน้าตาดี
เกิดคืนจันทร์ วันที่สี่ เดือนเมษา สองพันห้า ชะตาสูง รุ่งราศรี
แม่ดวงรัตน์ ชูปรีชา พ่อชาตรี เอื้อปราณี อาทรเลี้ยง เพียงดวงใจ
เริ่มเรียนรู้ ดูหลักแหลม แถมกล้าแกร่ง โดดเล่นแรง ปู่ย่าจับ รับไม่ไหว
โยนเตะบอลล์ ร่อนรถล้อ จ๋อข้างกาย วิ่งว่องไว ปราดเปรียว เปรี่ยวป่ายปีน
สุภาพบุรุษ สุดยอดชาย จงไว้ชื่อ เพื่อโลกลือ คือฉลาด แห่งศาสตร์ศิลป์
เกียรติจารึก บันทึกไว้ ในปัถพิณ นามนั้น
ดีน บดินทร์ ชูปรีชา
หกสิบวัน ผันเวียน เปลี่ยนชีวิต ฟ้าลิขิต ขีดวง ตรงใจข้า
มลรัฐ เวอร์จิเนียร์ อเมริกา หนีมายา ข้าคิดถึง คะนึงครวญ
โทรศัพท์ ทางไกล ก็ไม่เหมือน อยู่ใกล้เพื่อน ได้ฮาเฮ กลุ่มเสสรวล
ไม่มีวัน เว้นว่าง ต่างเชิญชวน ไร้เรรวน ปฏิเสธ ทุกเหตุการณ์
เมืองปทุม ธานี มีปุ๊ปื้ด ยามค่ำมืด นั่งก๊ง วงอาหาร
แดงมานะ นิกูลพงษ์ ก๊งมานาน ก่อนกลับบ้าน นัดวันใหม่ เมื่อไหร่มา
คนชื่อเหลือ ไม่เบื่อง่าย ขอให้บอก เขารีบออก จากกุฏิ รุดไปหา
ถึงคลองสาม สนุกเกอร์ เจอปรีชา บ้านพฤกษา มานะพร้อม นั่งล้อมวง
ราชบุรี มีเพื่อนล้ำ ทำหน้าสร้อย หายเงื่องหงอย ฝอยไม่หยุด พูดโขมง
นักเพลงหนุ่ม ลูกทุ่งทอง ต้องดำรง อยากลาโรง ส่งนิกูล ลุ้นเจ้าโย
สมศักดิ์กิ๊ว ดิ่วเมืองกาญจน์ บ้านสมยศ ถึงนั่งรถ นานไกล ใจสุโข
บุญฤทธิ์ เข้าพรรษา ท่องนะโม คนใหญ่โต ทางการเมือง ต้องประมวล
อีกเดือนเดียว เสียวไส้ ใกล้เกษียณ ชักจวนเจียน งานว่าง นั่งกำสรวล
พฤหัส จัดตำรา มาทบทวน ปรับขบวน ราชกรีฑา ติณามัย
สิ่งประเสริฐ เกิดจากกรรม ธรรมสัจจะ คุณมานะ บอกเจ้าแดง แข็งใจไว้
ปุ๊กับปื้ด ยังไม่เห็น จะเป็นไร อยู่ที่ใจ เพียงอย่างเดียว เดี๋ยวก็ดี
เหลืองศิริ มิเคยท้อ ขอว่ายน้ำ ขาประจำ กิจวัตร ขัดฉวี
เป็นอย่างน้อย ลอยในน้ำ สามสิบนาที พอแรงมี ชวนต้อยษา มากินไวน์
คุณลั่นทม รวยสมใจ ไปฉลุย พ่อค้าปุ๋ย ลุยขึ้นลง ไม่สงสัย
ขับรถอึด ยึดถนน หนทางไกล เช็คของใคร ไม่ผ่าน ศาลอาญา
คุณบวร ปทุมมาลย์ กลับบ้านมืด ลากยาวยืด ปื้ดอนุรักษ์ ชื่นบุปผา
บอกสนใจ อยากไปเกร่ อเมริกา คอยตั้งตา หาลู่ ดูหนทาง
โอ้เพื่อนเกลอ ไม่เจอกัน ฝันบ้างไหม คนอยู่ไกล หวนคะนึง คิดถึงบ้าง
ด้วยความรัก จากดวงใจ ไม่จืดจาง เพราะเส้นทาง แห่งชีวิต ลิขิตกรรม
ห้าสิบดาว พราวเด่น เป็นสง่า อเมริกา ห่างไกล ไทยสยาม
ชีพข้าฝัง หยั่งมั่นคง ไตรรงค์งาม ทุกโมงยาม รำลึกชาติ ศาสน์กษัตรา
ครั้งศิษย์วัด บวชเรียน มุ่งเขียนอ่าน ปณิธาน บริสุทธิ์ พุทธศาสนา
ถวายเบื้อง ยุคลบาท กษัตริยา ในฐานะ หน้าพระพักตร์ ราชองครักษ์เวร
จปร.
จ่อจดใจ ไม่หม่นหมอง แม้นปิดทอง หลังองค์พระ ใครจะเห็น
เกิดครั้งเดียว ไม่เสียดาย แม้ตายเป็น ตามกฎเกณฑ์ แห่งกงกรรม จะทำดี
ธรรมดา อันนักกลอน นอนไม่หลับ กระส่ายกระสับ ห่วงอรรถรส และบทศรี
คิดเนื้อความ คำสำแดง แจ้งคดี คล้องท่วงที ตอบรับ กับบทความ
ไม่ต่อเนื่อง เรื่องจริงแท้ แก้ลำยาก ค่อนลำบาก ยากเดินเรื่อง ขุ่นเคืองขาม
เลยตามเลย มักเคยตัว หากมั่วตาม พยายาม ค้นคำศัพท์ หลับไม่ลง
เพียรเขียนถ้อย ค่อยคอยเสริม เติมให้สม พจนานุกรม ระดมเปิด เกิดประสงค์
แต่ติดด้วย ว่าผู้อ่าน จะพาลปลง จึงดำรง คงคำง่าย เรียงใส่กลอน
ออกัสท์เทนธ์ เป็นวันศุกร์ ลุกขึ้นเช้า วันข้าพเจ้า ต้องจากเพื่อน สองเดือนก่อน
อันความนาน มิผลาญเผา สิ่งร้าวรอน จิตอาวรณ์ นำกลอนมา รักษาใจ
อีกสองวัน สำคัญยิ่ง สิ่งประเสริฐ ให้กำเนิด เกิดตนมา อย่าสงสัย
แม่รักลูก ลูกปลูกรัก ปักดวงใจ ขอฝากไว้ ในสุนทร ด้วยกลอนกานต์
พสุธา มหาสมุทร สุดฟากฟ้า เหนือคณา กว้างใหญ่ แผ่ไพศาล
กี่กัปกัลป์ อนันต จักรวาล ไม่เปรียบปาน ประดุจบุญ คุณมารดา
ค่าด่ำดื่ม ปลื้มฉ่ำ คำว่า แม่ ซาบซึ้งแท้ สูงยิ่ง สิ่งปรารถนา
เหนือสิ่งใด ใจเคารพ นบบูชา บุตรธิดา ควรรักจริง ยิ่งชีวัน
ลูกคือเลือด หล่อชีวิต จิตใจแม่ แน่นอนแท้ บังเกิดกาย ไม่แปรผัน
เลือดในอก ตกเป็นก้อน นอนในครรภ์ กว่าจะสรรค์ เสกสร้าง ร่างตัวตน
สามไตรมาส ชาติกำเนิด เกิดจุติ พฤกษาผลิ พันธุ์ดอก แล้วออกผล
สุดเจ็บปวด รวดร้าว เข้าใจดล ดวงกมล แม่ห่วงหวง แสนห่วงใย
สายโลหิต ผลิตน้ำนม ประหงมเลี้ยง รักลูกเพียง ดวงชีวา จะหาไหน
แม่ผ่ายผอม ถนอมรัก ปักดวงใจ เลี้ยงลูกใหญ่ เติบโต โอ้พระคุณ
เฝ้าชะแง้ แลหา ทุกข์คลาคล่ำ แม่ระกำ กล้ำกลืน ยืนหยัดหนุน
พร้อมวิญญาณ มอบชีวิต จิตการุณ ก่อเกื้อกูล กอรปแก่ลูก อย่างผูกพัน
สู้สั่งสอน อบรม บ่มชีวิต วางลิขิต ทางไว้ ในความฝัน
อยากเห็นลูก สุขสราญ ไปนานวัน ทรัพย์โอฬาร สรวงสมบัติ จัดจากใจ
ลูกสร้างกรรม
ทำให้แม่ ต้องหมองหมาง ระคายคาง ลงนรก จะหมกไหม้
กอรปกรรมดี ที่ลูกทำ ประจำใจ เหมือนแม่ได้ ขึ้นสวรรค์ ชั้นดาวดึงส์
องค์สิริกิติ สถิตใจ ไทยทั้งผอง วันที่สิบสอง สิงหา ใกล้มาถึง
พระบารมี ศรีบุญญา ฝังตราตรึง ไทยซาบซึ้ง
คะนึงท้น พ้นรำพัน
องค์พระแม่ มิ่งโมฬี ศรีสยาม พระแม่งาม น้ำพระทัย ดังสายสวรรค์
พระราชกิจ เคียงพระวรกาย ไท้ราชัน ต่างพระกรรณ ต่างพระเนตร ทุกเหตุการณ์
ทั้งพสก เหล่าสรรพสัตว์ มวลพฤกษา ทั่วพารา ปรีเปรม เกษมศานต์
พระคุณแม่ แผ่เมตตา คุณานันต์ พระจอมขวัญ องค์มหา ราชินี
ตัวของข้า เวลานี้ ไม่มีแม่ คงเพียงแต่ แผ่บุญให้ ได้สุขศรี
ว่าแต่แม่ แม้แต่พ่อ ก็ไม่มี รัชนี เจ้าคือน้อง ท้องเดียวกัน
เทนเนสซี่ แนสวิลล์ บินมาหา ร่วมชายคา เห็นหน้าน้อง ต้องสุขสันต์
อพาร์ทเมนต์ ขออาศัย คงหลายวัน อย่าหุนหัน หาว่าพี่ นี้รบกวน
จงพาพี่ ท่องเที่ยวไป หลายสถาน ไปชมบ้าน ธารไศล เรือกไร่สวน
หากแม้นไม่ สบอารมณ์ หรือสมควร อย่าเรรวน กำสรวลไห้ เกรงใจเลย
เวอร์จิเนียร์ อย่าเสียใจ ไม่ไปลับ จะต้องกลับ รับไออุ่น หนุนเขนย
ข้าไม่เบื่อ เนื้อหมูแฮม แยมครีมเนย อย่านิ่งเฉย ห่วงข้าบ้าง ตั้งใจรอ
เทนเนสซี่ มีเรื่องเล่า เอามาฝาก กลอนแต่งมาก หรือไม่ ไฉนหนอ
ที่เมืองเจ้า เขียนไว้ ยังไม่พอ จะมาต่อ ขอจากเธอ เวอร์จิเนียร์
ศุกร์วีคเอนด์ เย็นใจ ได้พักผ่อน ผึ่งเส้นหย่อน ผ่อนคลาย ให้หายเปลี้ย
อยู่เมืองไทย ไวน์กับเหล้า ก็เมาเพลีย เวอร์จิเนียร์ ได้พัตกอล์ฟ ชอบใจจริง
ทอมต้องการ ออกกำลัง นั่งฮอนด้า ลุงกับป้า ตามใจยอม ทอมกับหนิง
สนามพัต จัดจำลอง เป็นของจริง ตีใส่ชิ่ง วิ่งลัดเลาะ เกาะแก่งเนิน
โบกี้ส์กอล์ฟ ยาวตลอด บอร์ดสตรีท พรมประดิษฐ์ อิฐกั้นแถว แนวโขดเขิน
กลิ้งลงขึ้น พื้นช่องทาง ตั้งหน้าเดิน พัตเพลิดเพลิน เดินเหงื่อซึม ลืมเรื่องราว
เป็นคืนแรก ทดลองก่อน นอนอพาร์ทเมนต์ แอร์เยือกเย็น ลดลงหน่อย ค่อยหายหนาว
ติ๋มคุยด้วย แถมช่วยนวด หวดเสียยาว กับนงเยาว์ กว่าจะนอน เกือบค่อนคืน
ปูผ้านุ่ม คลุมพื้นพรม นวมห่มอุ่น มีหมอนหนุน สองสามใบ ผ้าหลายผืน
หลับสบาย ไร้กังวล กรนทั้งคืน สองโมงตื่น ยืนโอ้เอ้ วิหารลาย
จนแสงแดด แสดส่อง ช่องหน้าต่าง ฟ้าสว่าง ยังนั่งบ่น อยู่จนสาย
อาหารเช้า บ้านเจ้าติ๋ม อิ่มสบาย เลือกผ่อนคลาย ที่ไหนอีก วันวีคเอนด์
สังเกตเป๋อ เจอะไทสัน เริ่มงันงก นิ้วใช้ยก จกลำบาก เจอยากเข็ญ
อยากถอนตัว กลัวเสียดาย ให้ลำเค็ญ อาจต้องเผ่น กลับเมืองไทย ไปก่อนกาล
อยู่เมืองไทย ได้ก็ดี มีอรรถรส เจอทั้งคด เจอทั้งมั่ว ชั่วล้างผลาญ
อเมริกา ถ้าไม่บ่น ทนได้นาน ประกอบการ อาชีพ รีบหาเงิน
มือหายป่วย ด้วยรักษา อาจผ่าตัด ต่อกรีนการ์ด มั่นเหมาะ บินเหาะเหิร
เวอร์จิเนียร์ เคลียร์ไทสัน กลับปั่นเงิน จะได้เพลิน สุขสันต์ ตอนบั้นปลาย
โรดส์แอทแลท
ยูไนเสตท สังเกตเห็น ตรวจบนเส้น เห็นถนน จนทุกสาย
เก้าสิบห้า ฝ่าขึ้นเหนือ เพื่อผ่อนคลาย คาร์โลไลน์ โบว์ลิ่งกรีน ขับกินลม
ใช้ความเร็ว มิค่อยได้ ให้อึดอัด รถติดขัด น่าฉงน บ่นกันขรม
เก้าสิบห้า คือสายหลัก มักนิยม คนเที่ยวชม เหนือใต้ ใช้ไฮเวย์
โบว์ลิ่งกรีน ถิ่นอาศัย ในชนบท ติ๋มเลี้ยวรถ ออกทางซ้าย ชักไขว้เขว
รอฉุกเฉิน พอเทินได้ ไม่โมเม ขับโอเค ตามแผนที่ มีติดมา
มองท้องทุ่ง รุ่งขจี สีสวยสด เมื่อขับรถ ต้องดูป้าย ทั้งซ้ายขวา
เผลอไม่นาน ผ่านถนน ดั้นด้นมา ทิววนา โผล่สปอร์ต ซิลวาเนียร์
ผู้โดยสาร ทั้งสามคน บ่นไม่เลิก เฟดเดอร์ริคสเบิร์ก อยู่ใกล้ ๆ ตรงไหนเนี่ย
วัฒนา หน้าแจ่มใส ไม่ใคร่เพลีย เส้นทางเคลียร์ เข้าวอลมาร์ท ชอปปิ้งมอลล์
บี๊ฟฮอทด็อก พอร์คเบคอน ก้อนเย็นเยือก มีให้เลือก มากมาย น้ำลายสอ
เอาเพนนี ที่ไหน มาจ่ายพอ สิ้นเดือนรอ บัตรเครดิต เขาคิดบิลล์
กลับถึงบ้าน ตะวันคล้อย ระอ่อนแสง ความอ่อนแรง เจอรสไวน์ กลับหายสิ้น
แถมอาหาร อิตาลี อย่างดีกิน เคยได้ยิน ชื่อชิกเก้น พามาชอน
จากหลานสาว ฝีมือปรุง เจ้าหนุงหนิง ช่างเก่งจริง ยิ่งนักหนา ใครหวาสอน
พอสองยาม ลุงกับป้า จะเข้านอน ตักไว้ก่อน คนละถ้วย กล้วยบวชชี
บอกว่าเรียน มาจากครู ผู้สอนสั่ง ได้เยี่ยงอย่าง ทั้งขยัน ขมันขมี
จะเป็นใคร เสียอีกเล่า คือเจ้านี นำสิ่งดี ที่แม่ให้ มาใช้งาน
อันที่จริง หนิงนิตยา หลานข้านี้ เป็นเด็กดี มาก่อนเก่า ดังเล่าขาน
บืนมาอยู่
อเมริกา แต่ช้านาน ห่างไกลบ้าน ผ่านชีวิต ด้วยจิตทน
สู้ดาบหน้า พาลูกสาว คือเจ้าเป้ ไปร่อนเร่ แคลิฟอร์เนียร์ เป็นเมียพิสนธ์
อันสามี ที่ทำตัว เหมือนชั่วคน สุดอดทน ใต้บังคับ จึงกลับใจ
เกือบไม่พ้น ทนทุกข์ทาน ทรมานจิต จึงหวนคิด แยกทาง ต่างผลักไส
ใครจะเป็น ใครจะอยู่ ดูต่อไป ลูกในไส้ ส่งศึกษา ตั้งหน้าเรียน
เมื่อเป้จบ ไฮสคูล หาทุนเสริม เรียนเพิ่มเติม พยาบาล เก่งอ่านเขียน
ถึงบัดนี้ มีเงินได้ จ่ายหมุนเวียน ด้วยความเพียร และตั้งใจ ในความดี
แต่งกับทอม ถนอมรัก เป็นหลักแหล่ง ไม่เปลี่ยนแปลง ความรัก ไม่ผลักหนี
เป็นครอบครัว ขึ้นใหม่ ตั้งใจมี บุญราศี ต่อนี้ไป หายระทม
งานมีทำ นำรายได้ มาใช้สอย ทีละน้อย ร่วมเก็บหอม ออมสะสม
ป้ากับลุง เห็นหนุงหนิง ใจจริงชม เจ้าเหมาะสม ที่เป็นพี่ ชาตรีรินนา
วันอาทิตย์ ที่สิบสอง ของยูเอส เวอร์จิเนียร์เสตท แหล่งท่องเที่ยว ข้าเทียวหา
ถึงวีคเอนด์ เป็นฟรีเดย์ อเมริกา ขับรถมา ตะวันออก เมืองยอร์คทาวน์
พอบ่ายสาม กว่าครึ่ง ก็ถึงที่ ใครที่มี ความหลัง คงนั่งเหงา
ใจที่เคย อ้างว้าง คงสร่างเซา ร่มพฤกษ์เงา บรรเทาคลาย ด้วยสายธาร
ยอร์คริเวอร์ เธออยู่นี่ พี่มาพบ มากันครบ เจ้าพบข้า น่าสงสาร
เจ้าแยกจาก เจมส์มา ก็ช้านาน สร้างวิมาน ธารธารา น่าภิรมย์
ออกเชคสพีค อ่าวงาม ธรรมชาติ เธอพิลาศ สะอาดตา ครายลโฉม
อยากอยู่ยอร์ค บอกรักเจ้า ประเล้าประโลม ขอชื่นชม
เชยชิดยอร์ค บอกรักจริง
แลเรือใหญ่ ไกลอ่าวคอด ทอดสมอ คงเฝ้ารอ คอยชะแง้ แม่ยอดหญิง
หรือว่าเจ้า เฝ้ารอข้า อย่าประวิง จะทอดนิ่ง อยู่ใย ใกล้ข้ามา
เพ่งตาจ้อง มองเรือใบ หลายไมล์ลิบ เกินกว่าสิบ ลิบโลก ตกขอบฟ้า
อย่าให้ไกล ไปกว่านี้ หลบลี้ตา ที่ข้ามา ด้วยห่วงใย อยากได้เจอ
ทอดฤดี สีน้ำเงิน น่าเพลินพิศ ยามแนบชิด ครั้งใด ทอดใจเผลอ
สะดุ้งภวังค์ สั่งเรือใบ ไปบอกเธอ ว่าข้าเพ้อ ถึงเจ้า เยาวภา
แนวโขดหิน หาดทราย ประกายเพชร ประมงเบ็ด เรียงราย ทั้งซ้ายขวา
มองสะพาน สะท้านคลื่น รื่นอุรา มองเห็นปลา หลงเหยื่อ น่าเบื่อใจ
ตะวันรอน อ่อนแสงโรย ลมโชยพลิ้ว คนเริ่มหิว เริ่มตั้งวง ไม่สงสัย
เปิบข้าวเหนียว ส้มตำ ชื่นฉ่ำใจ ความหิวคลาย ภายใต้เสียง ตะวันรอน
สุริยา ลับลาไป สิ้นไร้แสง ข้าโรยแรง จำไกล จากไปก่อน
ยอร์คริเวอร์ เจออีกครา อย่าร้าวรอน ห่วงอาวรณ์ ถึงข้าบ้าง อย่าร้างนาน
สองเก้าห้า จ้าสว่าง จับทางนอร์ท เรสท์เอเรีย แวะจอด ก่อนถึงบ้าน
จดจารึก บันทึกไว้ ในเหตุการณ์ ท่องเที่ยวผ่าน อเมริกา มาอ่านไทย
เทนเนสซี่ ข้าถวิล บินวันศุกร์ เตรียมสนุก
ไว้ล่วงหน้า จะแจ่มใส
แพ็คกระเป๋า จัดข้าวของ ต้องคลาไคล ท่องเที่ยวไป ในโลกกว้าง ตั้งใจจร
เห็นนงเยาว์ เขาเตรียมตัว ไม่มัวช้า เก็บเสื้อผ้า เพียงพอใช้ นำไปก่อน
รัชนี มีห้องหับ ให้หลับนอน ข้าอาวรณ์ การท่องเที่ยว แก้เปลี่ยวใจ
อยากจะผ่าน อาหารตา พาไปเห็น เก็บมาเป็น อนุสรณ์ แต่งกลอนให้
เมื่อถึงครา ตอนลาลับ กลับเมืองไทย อาหารใจ ได้หวลถึง ครั้งหนึ่งมา
ของส่วนมาก ฝากไว้ ในบ้านติ๋ม จัดวางริม ซอกตู้ ของคูหา
อยู่อาศัย เทนเนสซี่ สี่สัปดาห์ จะกลับมา อาศัยเจ้า เฝ้าดูแล
เช้าวันจันทร์ ตะวันอ่อน ถึงตอนทุ่ม ความกลัดกลุ้ม สุมส่วนไหน ไม่แยแส
สมองคิด ติดค้าง ฝังดวงแด นำมาแปล เป็นอักษร ร่ายกลอนกล
จึงขอเกลา กล่าวไว้ ในนิราศ มิให้ขาด ครั้งเก่า เล่าอีกหน
อเมริกา คราครั้งนั้น ดั้นเวียนวน เคยผจญ มาหนหนึ่ง ยังตรึงใจ
แคลิฟอร์ เนียร์ลอส แองเจลิส เพื่อนสนิท ทัวร์นำมา ข้าอาศัย
เจ
บี พี สีสดสวย รวยน้ำใจ ออกตั๋วให้ จึงได้พบ ประสบการณ์
สิบกว่าปี ที่มาเยือน เหมือนเมื่อนี่ ได้เพื่อนดี เคยร่วมทุกข์ สนุกสนาน
อยู่ครึ่งเดือน เหมือนหนึ่งปี ที่ยาวนาน ทุกถิ่นฐาน
ที่ได้ไป ใจฝังจำ
ฮอลลีวู้ด ชุดแสดง ที่แจ้งโล่ง มาเข้าโรง หนังเมืองไทย ให้คลาคล่ำ
นางเอกเด่น พระเอกดัง ยังเคยจำ แสดงนำ ดารา ตุ๊กตาทอง
ไปเดินชม ชอร์บราเดอร์ เจอะโรงถ่าย ฉากมากมาย หลายชาดรส สยดสยอง
ฉากบู๊ถล่ม ผีล้างผลาญ ขนชันพอง ไปเดินมอง สวนสนุก ดิสนีย์แลนด์
แซนดิเอโก้ โชว์โลมา ปลาฉลาด
อัจฉริยะ เก่งกาจ ฉลาดแสน
เลยไปช็อป ของฝาก จากชายแดน ผู้คนแน่น หน้าตาแปลก แม็กซิกัน
พอทัวร์กลับ เมืองไทย ฉันไม่กลับ โทรศัพท์ รัชนี น้องสาวฉัน
ให้อยู่ต่อ อเมริกา สี่ห้าวัน โชคดีฟัน ค่าเครื่องบิน กินกราเซียโน
ยู.
เอส. เอ จาก แอลเอ เกร่นิวยอร์ค ตะวันออก อเมริกัน ตะวันโผล่
แอตแลนติค ซิตี้ มีกราเซียโน ไม่อดโซ อิ่มตื้อ ทุกมื้อไป
เที่ยวนิวยอร์ค ออกแพน ซิลวาเนียร์ เมืองฟิลาเดลเฟียร์ อยู่ใกล้ ๆ
เข้าเรตดิ้ง ชอปปิ้งเอาท์เล็ท ซื้อเสร็จไป อยู่สบาย อเมริกา ห้าหกวัน
ร้อยเอกแกรม เชฟเปิร์ด เปิดโอกาส จ่ายตลาด ในพี.เอกซ์ สิ่งเสกสรร
ซื้อของใช้ ได้ของฝาก จากมะกัน เหมือนความฝัน ที่ผ่านมา สิบห้าปี
อีกสามวัน จะโยกย้าย ไปหาน้อง เขาคอยจ้อง ต้องการพบ ประสพพี่
ไม่เห็นหน้า ค่าตา มานานปี มาคราวนี้ มีความหมาย ได้อยู่นาน
พี่ก็รอ ใจจ่อจด อดไม่ได้ นิราศร่าย รื่นรมย์ ชมถิ่นฐาน
ลุกขึ้นเช้า สลัดฝัน วันอังคาร ทันเหตุการณ์ เขียนกวี แสนดีใจ
นั่งตรงไหน เขียนตรงนั้น เพื่อกันพลาด เขียนนิราศ ไม่พลาดวัน ทันสมัย
จะมีเสริม เติมแต่ง ตรงแห่งใด ไม่เป็นไร เพียงนิดหน่อย ค่อยค่อยเป็น
อยากประดิษฐ์ คิดกลอนพร่ำ คร่ำครวญหา จิตนา
การณ์ไกล ใครจะเห็น
ใต้ส่วนลึก ดื่มด่ำ ค่ำเช้าเย็น เก็บซ่อนเร้น อยู่ภายใน ไว้คนเดียว
คิดถึงลูก อยู่เมืองไทย ใจจะแหลก รักลูกแมกซ์ ห่วงลูกหนึ่ง คิดถึงเหมียว
อยากให้ลูก รื่นรมย์ รักกลมเกลียว พ่อแม่เที่ยว เดี๋ยวก็กลับ ไม่ลับไกล
คิดสับสน อลหม่าน ในการเขียน กลอนวนเวียน หลงป่า พาไปไหน
กลัวจะยุ่ง สะดุ้งตื่น กลับฝืนใจ คนอยู่ไกล ใจคงพรั่น สั่นระรัว
คิดถึงเพื่อน เคยร่วมงาน ทหารกล้า เกษียณมา อยู่อาศัย ในถิ่นทั่ว
เลี้ยงลูกหลาน เล่นการเมือง เปลืองครอบครัว มาออกทัวร์ เหมือนข้า น่าจะเสบย
คิดถึงกอล์ฟ หลุมสอง ต้องว่างเว้น ไม่ได้เล่น เพราะว่าห่าง จึงวางเฉย
กลอนวันเกิด อวยพรให้ ไม่เว้นเลย ทุกเดือนเคย ร่วมออกรอบ กอล์ฟชมรม
สำนักงาน ธงชัย ไปบ่อยครั้ง เข้าไปนั่ง ดังเลขาฯ พาสุขสม
เตรียมทหาร จปร. ข้าขอชม สมาคม ห่างชุมนุม กลุ่มกรรมการ
เห็นน้องสาว เดินก้าวขา อย่างช้าเชื่อง คงมีเรื่อง อันใดเล่า จงกล่าวขาน
เห็นรถจอด ดอดแต่บ่าย ไม่ทำงาน กลับมาบ้าน ชาตรี มีสิ่งใด
มองหน้าตา ไม่เสบย เสียเลยนี่ อย่าช้าที รีบกล่าว แล้วเล่าไข
ก็ที่แท้ เจ็บเนื้อตัว กลั้วแกมไอ ไม่สบาย ต้องหาหมอ รอชาตรี
เพเชี่ยนเฟิร์ท เปิดอินเชิร์น เดินเข้าตรวจ หมอสำรวจ ปอดให้ ใช่หมอตี๋
เอกซเรย์ ปอดดู ให้รู้ดี เกรงจะมี ติดเชื้อ เพื่อเยียวยา
จวนบ่ายสาม ตามฟังข่าว อาการไข้ พี่ห่วงใย ติ๋มน้องสาว เจ้าหนักหนา
ขอโชคลุ้น บุญดลด้วย ช่วยภาวนา เกิดกำลัง วังชา อย่ามีภัย
พอสิ้นกลอน อาวรณ์นี้ ชาตรีถึง สองโมงครึ่ง บ่ายกว่า เห็นจะได้
นำพาสปอร์ต ป้ากับลุง ใส่ถุงไป ปล่อยคนไข้ นอนพักผ่อน หย่อนกายา
ความเป็นหลาน บริการให้ ไม่เคยบ่น เกิดเป็นตน มาถึงนี้ ดีหนักหนา
คนเจ็บไข้ ได้ป่วย ช่วยเยียวยา บุญจะพา พระจะช่วย รวยรุ่งเรือง
เสียงหนุงหนิง กริ่งมาถาม ความเจ็บป่วย รีบมาช่วย ขอลานาย ไม่รู้เรื่อง
นายซิงแขก แปลกเสียจริง จนหนิงเคือง พอรู้เรื่อง น้ากลับได้ ไม่ต้องมา
พอตกเย็น ไปเยี่ยมเยียน เวียนไปพบ ติ๋มจดงบ เงินประมาณ การรักษา
ซี
วี เอส ฟาร์มาซี มีขายยา ส่งให้น้า ที่อพาร์ทเม้นต์ ก็เย็นใจ
เปิดราคา ออกมาดู หูแทบดับ เขียนกำกับ นับเงินสั่น อกหวั่นไหว
แค่เจ็ดเม็ด หกพัน ผันเงินไทย อินเชินท์จ่าย แทนให้ด้วย ช่วยห้าพัน
อเมริกา ถ้าเจ็บป่วย ช่วยกันยาก ใช้เงินมาก ควักดอลล่าร์ จ้าระหวั่น
มีกฎหมาย ไม่ต้องกลัว อินชัวรัน อเมริกัน ค่ารักษา ไม่น่าแพง
เที่ยงวันพุธ มีจุดหมาย เตรียมไว้แล้ว คงไม่แคล้ว ก่อนตะวัน พลันทอแสง
หนิงรินนา พากินเฝอ เจอของแพง พริกบดแดง ใส่ชามโต โหระพา
สินน้ำใจ ไมตรี ที่มีให้ หลานชวนไว้ จึงมิขาด ปรารถนา
ตอนขากลับ จึงรับรู้ ผู้นำพา เป็นวันเกิด เจ้ารินนา หลานข้าเอง
เชิญลุงป้า น้าติ๋มเป๋อ กินเฝอเวียต เพื่อเป็นเกียรติ เกิดรินนา คนกล้าเก่ง
ไปแปดคน แปดชาม ว่าตามเพลง ลูกชิ้นเด้ง กุ้งหมู ดูพุงกาง
หนิงชวนข้า ว่าเจ้าทอม ทำเซอร์ไพรส์ พร้อมส่งให้ ลุงศึกษา เวลาว่าง
อยากจะดู ให้รู้แน่ แผ่ออกกาง ดึงตาราง หมากรุก ผูกตำรา
สามกระดาน มันสนุก หมากรุกฝรั่ง ทอมต้องนั่ง กุมขมับ ยอมรับว่า
กับจากแนสวิลล์ เมื่อใด ให้หวนมา ขอเวลา แก้มือหน่อย จะคอยลุง
พฤหัส ที่สิบหก ดิลกเลิศ เป็นวันเกิด หลานรินนา ชะตารุ่ง
ทรัพย์สมบัติ ฟูเฟื่อง เรืองบำรุง เงินถังถุง จรุงลาภ ตราบนิรันดร์
คิดสิ่งใด จงได้สม อารมณ์มาด งามวิลาศ เปรียบนางฟ้า มาเสกสรร
ขออวยชัย ให้ครอบครัว สุขทั่วกัน เป็นมิ่งขวัญ แห่งตระกูล ด้วยบุญญา
ให้หายเจ็บ หายไข้ ไม่มีโรค สิ้นทุกข์โศก โฉลกดี มีมาหา
ทรัพย์ที่ดิน ซื้อไว้ ได้ราคา รวยเงินตรา สุดปลาบปลื้ม อย่าลืมลุง
พอตกสาย ย้ายสิ่งของ กองเป็นแถว คืนเดียวแล้ว จะหลับนอน ก่อนวันพรุ่ง
บรรจุกระเป๋า เข้าไปอัด ยัดเต็มตุง ป้ากับลุง วันพรุ่งนี้ จะหนีไกล
เห็นเจ้าติ๋ม ยิ้มแป้น แจ้นมาหา ดูสีหน้า ยังชาเย็น เพราะเป็นไข้
ดิ๊กสปอร์ต ยังอุตส่าห์ พาพี่ไป ออกตังส์ให้ จ่ายคอสโก้ กางเกงยีนส์
อีกไม่ช้า จะได้เห็น เทนเนสซี่ คืนพรุ่งนี้ ไปแต่งกลอน นอนแนสวิลล์
หกโมงเช้า เข้าริชมอนด์ ก่อนขึ้นบิน บอกเจ้าดีน ย่ากับปู่ ไปอยู่ไกล
จะโทรศัพท์ มาหา อย่าซนดื้อ ใช้ลูกตื๊อ อาจจะโดน ไม้เรียวได้
กว่าจะอุ้ม เจ้าไปนอน เล่นอ่อนใจ เดี๋ยวคุณยาย บินมาเยือน เป็นเพื่อนดีน
เย็นวันนี้ มีสตอร์ม พร้อมทรันเดอร์ อยู่บ้านเป๋อ ยังไม่วาย คลายถวิล
เรียกเจ้าอิ๋ง ชาตรีด้วย ช่วยพาดีน มาลองกิน มักกะโรนี ที่ลุงทำ
เช้าพรุ่งนี้ ตีห้า ข้าต้องพร้อม ยังไม่ยอม หลับนอน ตอนหัวค่ำ
สนั่นร้อง ก้องหล้า ฝนฟ้าพรำ แต่หัวค่ำ ยังเฝ้าร้อง ก้องครวญคราง
นี่ก็ล่วง มิดไนท์ วันใหม่แล้ว ยินเสียงแว่ว เม็ดฝน ชักหม่นหมาง
กราบสวดมนต์ พักผ่อน ก่อนเดินทาง ไฟสว่าง คงไม่หลับ จึงดับไป
เช้าเจ็ดโมง สิบห้า กว่าเล็กน้อย ขึ้นเรียบร้อย ยูเอส แอร์เวย์ไฟลท์
นอร์ทโคโร ไลน่า ลัดฟ้าไกล เปลี่ยนเครื่องใหม่ บินตรง ลงแนสวิลล์
อีกชั่วโมง คงจะถึง เทนเนสซี่ มาครั้งนี้ มิได้กลัว ทัวร์นกขมิ้น
มีแหล่งนอน หมอนผ้าห่ม ขนมกินๆ ลงเครื่องบิน เคลมแบคเกจ ให้เสร็จการ
แสนอุ่นใจ เหลือบเหลียวดู คู่สร้างสม สบายอารมณ์ ชมมอง จ้องคนผ่าน
เหมือนใบหยก กิ่งทอง ดองมานาน ยินเสียงยาน ผ่านหู จึงรู้ดี
ต๋อยนงเยาว์ เขาเห็นแล้ว แน่วไปหา สะกิดข้า บอกให้รู้ ว่าอยู่นี่
เห็นนายแกรม แย้มยิ้ม อิ่มปรีดี รัชนี ก็ดีใจ ได้พบกัน
นับตั้งแต่ พระราชทาน งานศพแม่ ถึงจะแก่ ไปสิบปี ไม่มีผัน
เพราะอย่างไร ก็ดี พี่น้องกัน ปีเดือนวัน จะผ่านไป ไม่เลือนลาง
เมอซิเดส มุ่งดาวทาวน์ จะเข้าบ้าน ขับไม่นาน รถสี่เลน แล่นเป็นหาง
ส่งแกรมเสร็จ ซื้อผักบุ้ง พะรุงพะรัง ก่อนเดินห้าง ขอกินข้าว เพื่อเอาแรง
ได้มาเห็น เทสเนสซี่ มีความหมาย สะดวกสบาย ทั้งสนุก ทุกหัวระแหง
ดุ่มเดินตรวจ สำรวจป้าย ของไม่แพง กลัวหมดแรง หมดดอลล่าร์ จะพาจน
นีขับรถ ตรวจตราดู แถบหมู่บ้าน อลังการ อิฐแกร่ง หลายแห่งหน
คนที่เมือง เทนเนสซี่ มีน้อยคน ที่ยากจน ล้วนเศรษฐี มีสตังค์
ออกจากรอส เข้าคอสโก้ โผล่มาแชลล์ ของเนืองแน่น ขอดอลล่าร์ สักห้าถัง
ซื้อหนึ่งคัน รถเข็น ของเป็นลัง แค่ตัวอย่าง แซมเปิ้ล เดินตัวปลิว
กลับมาถึง อพาร์ทเม้นต์ ตอนเย็นหน่อย เห็นแกรมคอย เตรียมตัว ไม่กลัวหิว
ชวนไปวาย เอ็มซีเอ เร่ชมวิว ดูปลาซิว ว่ายแซง แข่งเงือกงาม
ไร้อาวรณ์ นอนคืนแรก แม้แปลกถิ่น รูปโต-สิน ถวิลไว้ ไม่เคยขาม
กราบไหว้วอน พรคุณพระ จตุคาม จากสองยาม รุ่งตะวัน ไม่ฝันเลย
ฟูกอัดลม ห่มผ้าผวย ช่วยแก้หนาว มีน้องสาว อีกห้อง กับน้องเขย
เจ้าแมงโก้ หมาโตใหญ่ ไม่คุ้นเคย ยังเฉยเมย กะลิ้มกะเหลี่ย เคลี้ยที่นอน
แผนวันพรุ่ง รุ่งวันเสาร์ คือเช้านี้ รัชนี ขับกินลม ชมสิงขร
เลี้ยวช่ำชอง มองเพลิดเพลิน เนินลุ่มดอน ถึงแดดร้อน ตอนตะวันสาย ไม่คณา
ดูแกรมซ้อม ไตรแอทล่อน ตอนปั่นไบ้ท์ช สี่สิบไมล์ ไม่มีเหนื่อย ไม่เมื่อยขา
วิ่งลำลอง อีกสองไมล์ ไปกลับมา ได้เวลา กลับบ้าน ทานกลางวัน
บ่ายถึงค่ำ ย่ำสำรวจ ตรวจพื้นที่ แกรมกับนี เขาต้องการ บ้านจัดสรร
หาจุดลง ปลงใจ ให้พ้องกัน ดูหลายบ้าน ยังไม่มี ที่ถูกใจ
จะปลูกเรือน เขาเตือนไว้ ให้ค่อยคิด ถ้าปลูกผิด จิตจะหมอง ไม่ผ่องใส
ทุกนาที ที่ชีวิต และจิตใจ ต้องอาศัย เป็นสถาน วิมานแมน
อยากบรรยาย ในคำกลอน สุนทรเอ่ย ไม่คุ้นเคย กับทาวซั่น หรือล้านแสน
ว่าแต่บ้าน ชาวฝรั่ง เมืองต่างแดน บ้านไทยแลนด์ ก็แสนยาก จักบรรยาย
วันอาทิตย์ วีคเอนด์ เทนเนสซี่ เช้าวันนี้ ออกตะรอน แต่ตอนสาย
บ้านที่ชอบ รายรอบเมือง สุดเคืองคาย หมู่บ้านใหม่ ไปเรื่อย เมื่อยก็กิน
ทุกแห่งหน สกลไกล ไม้ชอุ่ม โรยกิ่งพุ่ม คลุมเทือกแถว แนวโขดหิน
ผ่านหุบเหิน เนินผา เป็นอาจิณ ทั่วทุกถิ่น มีคฤหาสน์ จัดรายเรียง
ดูตัวบ้าน หันดูที่ มีความสุข เดินสนุก บุกทุกห้อง มองเฉลียง
ดูหน้าต่าง ข้างบันได ใต้ระเบียง วิวใกล้เคียง เมียงมองม่าน กลั้นน้ำลาย
สร้างแล้วเสร็จ กำลังสร้าง ที่ว่างเปล่า เป็นอู่อ่าว เว้าแหว่ง แย่งกันขาย
โซฟาเตียง โต๊ะตั่ง ตั้งลวดลาย โป๊ะโคมไฟ ส่ายระย้า ดูน่ามอง
แกรมกับน้อง ต้องไปรัฐ เคนตั๊กกี้ รัชนี พาข้าไป เตรียมจ่ายของ
กักตุนเสีย เกินมากมาย จนก่ายกอง เปิดตู้มอง เหมือนโกลสเซอรี่ มีของชำ
พฤหัส ที่จะถึง จึงเคลื่อนย้าย เพื่อแข่งไตร แอทล่อน ไปก่อนค่ำ
รวมห้าวัน สี่คืน ใช่ฝืนทำ ยอมตรากตรำ เคนตั๊กกี้ นีกับแกรม
คงทิ้งข้า กับนงเยาว์ เฝ้าแมงโก้ เดินจูงโซ่ นำพา หมาหัวแหลม
น้ำตาลไหม้ สีข้าวสาร น้ำตาลแซม หน้ายิ้มแย้ม แถมฉลาด วิ่งปราดเปรียว
มิสเตอร์แกรม ตื่นแต่เช้า เข้านิสสัน เขารักงาน ขยันคิด ติดแน่นเหนียว
นักกีฬา แข็งแรง แกร่งนักเทียว ใจเด็ดเดี่ยว แต่เยือกเย็น เป็นคนดี
แคปปิตอลวัน เวอร์จิเนียร์ หรือนอร์ททร๊อป ทำมารอบ อย่างสบาย มาหลายที่
ย้ายมาอยู่ นิสสัน เงินฟันดี เทนเนสซี่ มันนี่มาก จึงอยากทำ
การไปแข่ง เคนตั๊กกี้ อาจมีหวัง ซ้อมกำลัง วังชา มาคลาคล่ำ
ทดลองวิ่ง ทางไกล ไว้ประจำ ทั้งว่ายน้ำ จักรยาน อย่างทานทน
รัชนี เอกเซอร์ไซส์ เพื่อไดเอท งานบ้านเสร็จ รีบไม่วาย นับหลายหน
ออกกำลัง เพื่อรักษา ชีวาตน ให้ห่างพ้น โรคภัย ที่จ้องพาล
บ่ายวันนี้ ชวนกันทัวร์ โอปรี่โอลด์มิลล์ เหนือแนสวิลล์ สักสิบไมล์ ไกลจากบ้าน
ข้ามแม่น้ำ โคลัมเบีย เคลียร์ยวดยาน เดินกันนาน สำราญรมย์ ชมโรงแรม
อาคารล้อม หลังคาร่ม ชมพฤกษา กลางร้านค้า อาคารใหญ่ พันธุ์ไม้แจ่ม
งามประดับ เด่นโดม ร่มโรงแรม แสงวาวแวม สลัวส่อง มองเพลินตา
กว้างไกลโข มโหรฐาน ลานจอดรถ ห้างเคี้ยวคด เรียงติดต่อ มอล์พลาซ่า
ร้านเกลื่อนกลาด ดาษดื่น น่าตื่นตา ล้วนสินค้า แหล่งโรงหนัง ที่ฟังเพลง
รัฐกำเนิด เกิดเอลวิส เพรสลี่ย์ เทนเนสซี่ ดนตรีโขมง ดังโฉงเฉง
เมืองมิวสิค สัญลักษณ์ นักบรรเลง ตำนานเพลง อเมริกา มานมนาน
เดินครึ่งวัน ผ่านไป ไม่ได้เสี้ยว ร้านรวงเลี้ยว หลากหลาย ดังเล่าขาน
ล้วนแหล่งหรู ดังอยู่ถ้ำ งามตระการ แต่ละร้าน ลวดลาย ซื้อขายเพลิน
ก้าวขาลาก อยากให้นวด เพราะปวดหลัง ตั้งหลายครั้ง นั่งลุก แบบฉุกเฉิน
เห็นสปา นวดน้ำ แกล้งทำเมิน ความเจริญ เชิญชม นิยมดี
อพาร์ทเมนต์ ตอนเย็นนั่ง ต่างปรึกษา ทอดสายตา พาอารมณ์ ชมไพรสีห์
ฟังเรื่องเก่า เล่าเรื่องใหม่ ให้รัชนี ดอกไม้สี หลากพฤกษา นานาพันธุ์
โต๊ะเตียงตั่ง นั่งเก้าอี้ มีอาหาร รับประทาน สำราญใจ ได้สังสรรค์
พ่นฉลุย คุยสนุก กันทุกวัน พี่น้องกัน สามัคคี น่าดีใจ
ฝรั่งแกรม น้องเขย ไม่เคยเศร้า เจ้านงเยาว์ แสนดี พี่สะใภ้
ปล่อยเวลา ล่วงนาน พ้นผ่านไป หาสิ่งใหม่ ใจหวังปอง ที่ต้องการ
ตะวันพรุ่ง รุ่งวันใหม่ ไปดูที่ รัชนี มีมีทติ้ง วิ่งเรื่องบ้าน
ต้องต่อรอง ในราคา สร้างอาคาร ข้าอยู่บ้าน ทอดอารมณ์ ชมพฤกษ์ไพร
สายลมพริ้ว มองทิวป่า พนาเวศน์ เสียงอึงเอ็ด พนาวัลย์ ข้าหวั่นไหว
ยินจักจั่น ลั่นหรีด กรีดเรไร ก้องแนวไพร ใกล้อพาร์ทเม้นต์ เช่นเสียงเพลง
สิบโมงเช้า เจ้ายังเพรียก เรียกใครเล่า เห็นใจเจ้า บอกข้าไหม ใครข่มเหง
หรือเป็นเพียง เสียงประสาน ร่วมบรรเลง ร้องเป็นเพลง บรรเลงเศร้า ไม่เข้าใจ
ก้องสนั่น ข้าครั่นคร้าม ยามเจ้ากรีด เสียงแรงฤทธิ์ รุมเร้า เจ้ารู้ไหม
ข้ากังวล ข้าทนได้ ไม่เป็นไร ข้าหนักใจ ตอนที่เจ้า เฝ้ากังวล
ดอกหลากสี มีพันธุ์ไม้ อยู่ใกล้ข้า จะสง่า กว่าโอ๊คสัก และหลิวสน
ถึงเวลา ฟ้ายะเยือก เยี่ยมเยียนยล ก่อนล่วงหล่น ทนเปลี่ยนสี เย้ายียวน
เข้าสเตท สปริงลา มาซัมเมอร์ ต้องจากเธอ ยอดนงนุช สุดสงวน
เมฆลอยเลื่อน เดือนจากฟ้า ข้าคร่ำครวญ นี่ก็จวน จะถึงฟอลล์ ก่อนหนาวเย็น
โทรชาตรี ที่เวอร์จิเนียร์ เคลียร์กรีนการ์ด เงียบสงัด บัตรไม่มี ที่จะเห็น
รออีกสอง สามวัน ฉันใจเย็น จะโทรเน้น อีกสักครั้ง ตั้งใจรอ
คุยกับน้อง ต้องการเกิด เรื่องเปิดร้าน ขายอาหาร กันสักที ดีไหมหนอ
ไปหนใด ส่ายตามอง จ้องรีรอ หาที่พอ เหมาะกับงาน อาหารไทย
ไปข้างนอก ออกไปเยือน เหมือนขยัน นีทำฟัน นัดพบหมอ ในตอนบ่าย
ตอนหาหมอ ฉันรอนั่ง อย่างสบาย ชื่นฉ่ำใจ ในห้องแอร์ แต่ง่วงนอน
ออกจากตึก สำนักงาน หมอฟันแล้ว เบ๊นซ์วิ่งแน่ว เปลี่ยนทางใหม่ ไม่ให้ย้อน
งัดแผนที่ คลี่กางพลัน ทางสัญจร อากาศร้อน ไปผ่อนคลาย เดินในมอล์
อาหารว่าง มีสั่งมา ให้ข้าลิ้ม รสเคยชิม จิ้มราดซ้อส น้ำลายสอ
แม็กซิกัน จานอร่อย ค่อยคล่องคอ สองอย่างพอ ก็สุโข ทาโก้เบล
แวะโครเก้อร์ เจอแล้วต้อง จ้องแทงหวย หากเกิดรวย ช่วยไม่ได้ ใครจะเห็น
ก่อนกลับบ้าน ผ่านถนน วนหลายเลน พารถเบ๊นซ์ ปีนไศล ขึ้นไปชม
รับฟังข่าว เขาทำให้ ใบกรีนการ์ด จากเท็กซัส จัดเฉพาะ ให้เหมาะสม
ถูกส่งกลับ ไปที่เก่า จึงเศร้าซม อยากได้สม ชมบัตร ต้องตัดใจ
สปอนเซอร์ รัชนี เปลี่ยนที่อยู่ เขาอยากรู้ ดูไม่แปลก แฟกซ์ไปให้
ส่งซูซาน ก็อปเวอนเมนท์ จึงเย็นใจ อาจจะไม่ เกินสิบวัน นั้นเต็มที
นอนชั่งใจ เมื่อได้แล้ว ไม่แคล้วคลาด คงได้วาด สิ่งฝัน กันเต็มที่
ทำโซเชี่ยล ให้สำเร็จ เสร็จสรรพดี จะจรลี รอบเสตท ยู เอส เอ
รัชนี มีแรงใจ ให้หมดแล้ว แถมเพื่อนแอ้ว โทรอาวรณ์ ชวนร่อนเร่
อยากไปไหน ให้บอกมา จะฮาเฮ จะเที่ยวเตร่ เมื่อใด ให้รีบโทร
อากาศค่อน ร้อนเร่า เข้าวันพุธ ป่านนี้บุช ผู้ทะนง คงสุโข
ประธานา ธิบดี นี้ใหญ่โต หากโมโห ประเทศไหน ไปโรมรัน
ทั้งวันเช้า จดเย็น อยู่เป็นสุข ไม่มีทุกข์ เลยสักนิด แถมคิดฝัน
เพียงแต่กิน กับนอน ก็ค่อนวัน นีอยู่บ้าน ฉันก็อยู่ ดูทีวี
เวอร์จิเนียร์ โทรบอกมา ว่าเอกสาร เขาต้องการ ได้ลายเซ็น เป็นสักขี
ผ่านมาทาง เวอร์จิเนียร์ เคลียร์ชาตรี สองคนนี้ คือตัวข้า ป้านงเยาว์
เขียนข้อความ ลงเอ-อาร์ อีเลฟเว่น ตกตอนเย็น ต้องกรอกลง ส่งให้เขา
แกรมจัดการ ฟอร์มด้วย ช่วยบรรเทา เดี๋ยวสองเรา คงได้เซ็น เป็นพยาน
รัชนี กับนงเยาว์ เข้าครัวอยู่ ข้าอยากรู้ ดูเขาทำ ยำอาหาร
เคี่ยวนึ่งอบ ตลบอวล ชวนรับทาน หมดเกลี้ยงจาน สปาเก็ตตี้ มีขนมปัง
เรื่องอาหาร อิตาลี รัชนีเก่ง ปรุงกินเอง ทั้งไทย และฝรั่ง
มีเสน่ห์ ปลายจวัก มิอยากดัง เคยรับจ้าง เป็นครูให้ เมื่อใครเรียน
พอท้องอิ่ม ยิ้มแย้ม จิตแจ่มใส สบายใจ ที่ได้เซพ รวมเก็บเหรียญ
รู้ประหยัด กวาดตู้เย็น เก็บจนเตียน กินให้เหี้ยน แล้วจ่ายใหม่ เก็บไว้กิน
อเมริกา ถ้าประหยัด ไม่ขัดสน ควรทำตน ธรรมดา อย่าบ้าบิ่น
รับค่าแรง พอคุ้มค่า เชิงหากิน ไม่หมดสิ้น เปลืองนัก รู้จักออม
แต่ตัวฉัน บำนาญน้อย ด้อยดอลล่าร์ พอเทียบค่า ถึงหน้าแห้ง สิ้นแรงผอม
คิดเงินบาท ยิ่งไม่ไหว ที่ไหนออม ต้องยินยอม ตะล่อมล้อ ขอพักพิง
เกือบสัปดาห์ ที่มาเห็น เทนเนสซี่ จากชาตรี เจ้ารินนา และหนุงหนิง
อยู่เวอร์จิเนียร์ ให้อาศัย ด้วยใจจริง เคยสุงสิง กับลูกหลาน นานสองเดือน
มาแนสวิลล์ การกินอยู่ ดูฟู่ฟ่า นีน้องข้า ทุ่มเทใจ หาใครเหมือน
อันตราย จากบุหรี่ น้องนี้เตือน ไม่อาจเลือน ลืมเขา เมื่อเราไกล
ความอดทน คนเรานี้ มีจุดสุด บางครั้งหยุด เคลิ้มหลง น่าสงสัย
จิตของข้า เคยกล้าแกร่ง ด้วยแรงใจ ยังอ่อนไหว ด้วยถวิล สิ้นทานทน
โทรไปหา เจ้าวินัย อยากไต่ถาม ไม่หมดความ ตามคาดหมาย ส่ายสับสน
อยากจะรู้ ผู้พันธ์นี้ สักกี่คน พูดชอบกล คนจริต คิดใกล้ตัว
ชื่อวินัย น้องรัชนี พี่ของติ๋ม มิรู้อิ่ม เศรษฐกิจ คิดปวดหัว
มั่วการงาน โลภการเงิน จนเกินตัว หมกมุ่นมั่ว เมามัวลาภ บาปมีจริง
พุธกลางคืน ตื่นสองครั้ง ฟังเสียงแซ่ ใบพัดแอร์ หมุนข้างบ้าน รำคาญยิ่ง
ซ้ำซอกซอน ซู่ซ่า ข้าประวิง กลบเสียงหริ่ง หรีดเรไร เหลือเลือนลาง
หยิบกระดาษ งัดปากกา มาหลังบ้าน อยากเบิกบาน ตื่นตีห้า ก่อนฟ้าสาง
สู้เสียงแอร์ แม้จะลั่น ครั่นครวญคราง รุ่งสว่าง สร่างไสว ไร้สายลม
ส่องแสงเงิน ผ่านเนินเขา เงาทิวป่า เริ่มเจิดจ้า ทีละนิด จิตขื่นขม
ฟ้าสว่าง พราวพร่างตา แต่ข้าตรม จำฝืนข่ม จมผนึก ลึกลงใจ
ยามฟ้าหลัว มัวมืดมิด มีสว่าง แจ่มกระจ่าง สว่างวน เวียนจนได้
ยามจิตข้า ฝ้ามืดมิด สนิทใน แล้วทำไม ไม่สว่าง ดังฟ้าวน
จะคิดหวัง ครั้งใด ให้ติดขัด มักอึดอัด ขัดสมอง ต้องสับสน
อยากเห็นหน้า เหลียวหาใคร ได้สักคน บังเกิดผล อันบรรลุ ที่จุใจ
ผมข้ายาว กราวหล่น ชนใบหู พอส่องดู หูถูกคลุม พุ่มไสว
รัชนี มีฝีมือ ถือกรรไกร ตัดผมให้ หายคันหู ดูผู้ดี
ตัดให้แกรม แถมให้ข้า ดูหน้าผ่อง ยามยิ้มย่อง มองสง่า มีราศรี
ขอขอบใจ ในน้ำจิต มิตรไมตรี ยาวอีกที เซฟดอลล่าร์ อย่ารั้งรอ
เสียงหึ่งหั่ง ดังทั่วถิ่น เครื่องบินร่อน ไม่หยุดหย่อน ครึ่งค่อนวัน กันเลยหนอ
เห็นสนามบิน ส่วนตัว กลัวไม่พอ ฉันไม่ขอ ฝันเฟื่อง เรื่องเครื่องบิน
เขาสองคน วนวุ่น แลผลุนผลัน เตรียมแข่งขัน ไตรแอททาลอน หลุยสวิลล์
หอบกระเป๋า หิ้วรุงรัง ทั้งของกิน จากแนสวิลล์ เคนตั๊กกี้ สี่ชั่วโมง
ก่อนจะไป ทิ้งให้แกง พะแนงเนื้อ ทำหวังเพื่อ พิสูจน์ตน พ่นโขมง
อร่อยเหาะ เหมาะนักหนา ข้าเฝ้าโยง บายสี่โมง เกินมาครึ่ง ถึงหรือยัง
เจ้าแมงโก้ นอนอยู่ใกล้ ไม่พลุกพล่าน หลับสำราญ เลยถ่ายรูป เป็นความหลัง
หมาสิบขวบ
ถือว่าเฒ่า เขาระวัง ถ้าพลาดพลั้ง เขาจากไป ไห้ระงม
ต้องเสงี่ยม เตรียมตัว กลัวการจาก แม้นเรื่องยาก วัฏจักรนี้ มีขื่นขม
การพรากพลัด นำสัจธรรม ค้ำอารมณ์ รู้ชื่นชม รู้ชอกช้ำ กรรมบันดาล
อย่ารังเกียจ เดียดฉันท์ มันว่าสัตว์ จึงถูกจัด ที่อยู่ให้ ไกลสถาน
มนุษย์สัตว์ บัญญัติไว้ ในตำนาน เป็นนิทาน สัตว์พูดได้ ให้เลี้ยงคน
อันคนดี สัตว์ก็ดี มีอยู่ทั่ว อันคนชั่ว ไม่ดีกว่า สัตว์หน้าขน
หากคนดี สัตว์ดี มีมงคล คนหน้าขน สมควรจัด เป็นสัตว์เลว
เจ้าแมงโก้ ตัวนี้ มีมรรยาท ถึงเป็นสัตว์ กัดได้ ไม่ไหลเหลว
ข้ามิเอา เจ้าไปเปรียบ เทียบคนเลว ที่เหลวเป๋ว เลวระยำ ให้ช้ำใจ
หวนคำนึง ถึงเจ้าซน คนเฝ้าบ้าน คงสำราญ กับพี่เหมียว เชียวใช่ไหม
พ่อกับแม่ แม้อยู่ห่าง หนทางไกล ส่งจิตใจ ฝากคำนึง คิดถึงเธอ
วิชัยช้าง กวางหนึ่ง ไม่เห็นหน้า ทำการค้า พึงระวัง อย่างพลั้งเผลอ
เศรษฐกิจ ไทยแลนด์ แสนจะเบลอ หลบอย่าเจอ แจ็คพ็อต จอดกลางคัน
พวกฝูงลิง ชิงสมบัติ ขัดทุกเรื่อง เพราะการเมือง
หมุนเวียน เปลี่ยนแปรผัน
เด็กชายใหม่ รักหมู่ อยู่ไหนกัน โตไม่ทัน ไทยวันนี้ ถึงมีเวร
คิดถึงเพื่อน จากไกล ใจว้าวุ่น คงชุลมุน อยู่เมืองไทย มองไม่เห็น
เพื่อนของข้า แต่ละนาย ล้วนใจเย็น หากไม่เล่น การเมือง มิเคืองคาย
เพื่อนราชา รุ่นศูนย์หนึ่ง คิดถึงมาก เป็นเพื่อนรัก ร่วมโรงเรียน มานานหลาย
ได้ทราบข่าว ไม่เศร้าทุกข์ สุขสบาย ข้าผ่อนคลาย ใจชื้น ชื่นฤดี
เพื่อนชมรม หลุมสอง จ้องออกรอบ ชวนดวลกอล์ฟ กันทุกเดือน เหมือนน้องพี่
วันเกิดกลอน อวยพรให้ มาหลายที แต่เดี๋ยวนี้ ต้องว่างเว้น ไม่เป็นไร
เตรียมทหาร ชาญชัย ไม่เคยถอย คงเหลือน้อย ลงทุกครา อายุไข
คนเลขา เตรียมรุ่นสอง ต้องจากไกล แต่จิตใจ อยู่ที่รุ่น พูนทวี
โทรไปถาม พันเอก พิศิษฐ์แล้ว ยังแน่แน่ว แน่นเหนียว กันเต็มที่
กิจกรรม ของคนแก่ แม้นานที สามัคคี ของรุ่นสอง ต้องชื่นชม
ประธานธงชัย เกื้อสกุล ทั้งรุ่นรัก เจองานหนัก แม้เหนื่อยหน่าย คล้ายขนม
เป็นประธาน มากมาย หลายชมรม ทุกสังคม ชมผลงาน ท่านคนดี
คิดถึงร้าน ริมกรีน ถิ่นสังสรรค์ ต้องห่างพลัน ด้วยลิขิต ขีดวิถี
เคยร่วมดื่ม ลืมทุกข์ สุขมากมี เสียงดนตรี กลับมาจาง เพราะห่างกัน
คิดถึงยอด หฤทัย ใจจะขาด ต้องนิราศ ห่างแน่ แม่จอมขวัญ
จวบปีหน้า ฟ้าใหม่ ได้พบกัน ขอคงมั่น เพียงเธอ ไม่เผลอใจ
ยี่สิบสี่ สิงหา นาฬิกาชี้ ค่ำคืนนี้ ดูโดดเดี่ยว เปลี่ยวไฉน
พร่ำนิราศ คิดถึง คะนึงไป ส่งดวงใจ ใฝ่ละเมอ ถึงเธอคอย
ตื่นแต่เช้า เจ้าแมงโก้ เขาโผล่หน้า เดินเข้ามา ปลุกข้าตื่น ยืนถดถอย
เจ้าตั้งท่า หันหน้านำ ทำสำออย ไปยืนคอย ให้ผูกโซ่ แมงโก้เดิน
ออกแป๊บเดียว ฉี่เสร็จ สำเร็จกิจ แล้วเดินบิด เหลือกตา ตีหน้าเจิ่น
มองประตู รู้ท่า เมียงตาเมิน เปิดให้เดิน ปลดโซ่ โซฟานอน
แม้นว่าเจ้า เปลี่ยนวน เป็นคนได้ คงว่าง่าย เชื่อฟัง คำสั่งสอน
เจ้าเป็นสัตว์ จงตัดใจ ไร้อาวรณ์ ทุกขั้นตอน ถูกเลี้ยงดู ดังผู้คน
อย่าท้อถอย น้อยใจ ในวาสนา ถึงเป็นหมา ก็หมาหล่อ ไม่ฉ้อฉล
มิโดนด่า ว่าเป็นสัตว์ ไอ้ชาติคน เกิดกุศล ผลบุญ หนุนนำพา
กรรมจำจอง ต้องเป็นสัตว์ ในชาตินี้ ญาณวิถี มีได้ ไว้ชาติหน้า
พ้นจากห้วง บ่วงกรรม ที่ทำมา เป็นเทวดา บนสวรรค์ ชั้นพรหมแมน
ข้าอยู่โยง พร้อมนงเยาว์ เฝ้าแมงโก้ สุมกองโต ล้วนอาหาร สำราญแสน
แฮมฮอทดอก ตอกไข่ ใส่ในแพน โทรส์ตสองแผ่น ขนมปัง นั่งพุงกาง
พอคล้อยบ่าย อุ่นแกง พะแนงเนื้อ ชักจะเบื่อ ยังเหลือสอง ต้องสะสาง
อันรสชาติ นั้นไม่แพ้ แม่ครัววัง อาหารว่าง มีทั้งวัน ฉันอิ่มเอม
โทรศัพท์ เคนตั๊กกี้ มีสองสาย บอกบรรยาย ความสนุก สุขเกษม
จึงปล่อยน้อง ท่องเที่ยวไป ให้ปรีเปรม เข้าร่วมเกม ไตรกีฬา แอททาลอน
โทรศัพท์ จากชาตรี มีหลายครั้ง วันนี้ยั้ง งานหยุด รุดไปก่อน
สนามบิน ไปและกลับ รับแม่ดอน เครื่องจะร่อน แลนดิ้ง ลงดีซี
รับหนังสือ เรื่องราว ได้ข่าวเพิ่ม ส่งบ้านเดิม ที่แกรมขาย บ่ายวันนี้
เป็นเอกสาร การแสดง ความยินดี ตามอีกที คือกรีนการ์ด อาจสิบวัน
เข้าเที่ยงค่อน ร้อนจริง เดือนสิงหา ยี่สิบห้า ปลายเดือน เหมือนดังฝัน
อเมริกา มาไกลลิบ แปดสิบวัน แหล่งสวรรค์ ของเศรษฐี ผู้มีเงิน
แต่ตัวข้า มาที่นี่ อย่างมีแผน หาทดแทน ความสนุก แบบฉุกเฉิน
ต้องปรับตน อยู่บนฐาน อันส่วนเกิน แค่เพลิดเพลิน ค้นคว้า หากำไร
ด้วยเงินทอง ของหายาก ลำบากยิ่ง ข้อเท็จจริง ของแน่ แก่ไฉน
หอบสังขาร ควานหาเงิน ก็เกินไป สังคมไทย รู้เข้า เขานินทา
ยิ่งจะคิด คิดไป ก็ไม่พ้น ยิ่งจะทน ทนไป ให้หนักหนา
ธุรกิจ คิดอยู่รอด ตลอดมา รวมเงินตรา หาเรียกหุ้น ลงทุนกัน
เมื่อคิดไป คิดมา ปัญหาเกิด คิดจะเปิด
ร้านค้า ตั้งหน้าฝัน
รุมสมัคร สามัคคี พี่น้องกัน ขายอาหาร ชวนเพื่อนพ้อง มองทำเล
หากได้เงิน คงเพลินใจ ไม่ต้องบุก หากล้มลุก คลุกคลาน อาจพาลเฉ
จะก้าวเดิน เดินหน้า อย่าโลเล แม้นซวนเซ เพราะเกแก่ แก้ยังไง
เป็นวันเสาร์ เจ้าแมงโก้ โผตามป้า เข้าไปหา ถึงก้นครัว กลัวไฉน
อันที่แท้ เจ้าแลจ้อง มองอะไร อยู่ที่ไหน ฮอทด็อก บอกด๊อกที
แกรมคงผ่อน นอนพัก เจอหนักแอ้ บอกถึงแก่ แม้ถึงหนัก เคนตั๊กกี้
กำลังใจ มิได้แก่ แม่รัชนี วันพรุ่งนี้ เริ่มกีฬา แอททาลอน
โดดว่ายน้ำ ปล้ำจักรยาน ซมซานวิ่ง ต้องแน่จริง สองพันกว่า หน้าสลอน
การกุศล ทุกคนร่วม อ่วมอรชร คืนนี้นอน ผ่อนพัก หนักใจแทน
ผ่านวันวัน ฝันลมลม ชมบรรยากาศ กลิ่นสะอาด ไร้ละออง ต้องใจแสน
เขียนนิราศ ขาดเพื่อนใจ ในต่างแดน สิ่งทดแทน คือคิดถึง ฝังตรึงตรา
หนึ่งสัปดาห์ เดินหน้าผ่าน วันเสาร์นี้ เทนเนสซี่ มีอย่างน้อย ร้อยองศา
ดวงอาทิตย์ ผลิตพลัง สั่งบัญชา ส่องแสงกล้า ข้ากลัวเจ้า จะเผาใจ
อยากได้เมฆ เสกเป็นฝน หล่นชะโศก สายลมโกรก ใบโอ๊คสั่น ข้าหวั่นไหว
เสียงซู่ซ่า แข่งข้าครวญ ถึงนวลใย แล้วทำไม ไม่นำพา ให้ข้าที
แดดร้อนเผา แต่เจ้าสน ยืนต้นเฉย ทำละเลย ดังเย้ยดวง สุริสีย์
หรือเยาะข้า มองหาใคร ก็ไม่มี เจ้ายวนยี นี่ไฉน ใยลู่ลม
ข้าเฝ้ามอง จ้องต้นสัก เจ้ารักป่า หลีกเร้นข้า เข้าป่าใหญ่ ไม่เผยโฉม
เห็นก้านกิ่ง เจ้าทิ้งใบ ไปกับลม ข้าอยากชม โลมต้นสัก ที่รักใบ
ไม้ประดับ รับทางจร ตอนคนผ่าน งามตระการ เขียวชอุ่ม พุ่มไสว
คนอื่นชม สมใจแล้ว แผ้วผ่านไป ข้าตั้งใจ ได้ชมเจ้า อยากเคล้าคลอ
หลากสีสัน พันธุ์ไม้ดอก เด่นสะพรั่ง แม้กระถาง ยังงามหรู เชิดชูช่อ
จึงขอเด็ด เจ้ามาดอม ถนอมพะนอ หากรั้งรอ พอเจ้าเฉา ใครเล่ามอง
เจ้าอย่าว่า ข้าใจร้าย ไปเลยเจ้า ใครพบเข้า ข้าถูกแย่ง แข่งเจ้าของ
หากผู้อื่น เขาเด็ดเจ้า เข้าครอบครอง ข้าคงต้อง หมองระทม ชมเพียงเงา
ปลดปล่อยข้า อย่าสงสัย เร่งไต่ถาม ดอกไม้งาม ที่ข้าถือ นั้นคือเจ้า
ส่งกลิ่นโชย ชูสล้าง ไม่สร่างเซา รู้ว่าเจ้า นั้นแสนดี มีน้ำใจ
คนนักกลอน กะล่อนหน่อย กระร่อยกระหริบ มะกอกสิบ เก้าตะกร้า ปาไม่ไหว
ถึงผาดโผน โดยทุกลูก ถูกกลางใจ ไม่เป็นไร ขอไหว้วอน เพราะกลอนพา
พอตกเย็น แสงแดดร่ม ลมสงัด เสียงฟังชัด หริ่งเรไร โหยไห้หา
ดังข้าเพรียก เรียกยอดขวัญ กัลยา ห่างไกลตา เป็นไฉน ใคร่ชิดชม
อาทิตย์อ่อน ผ่อนแสง สุริยฉาย เปล่งประกาย ส่องอาคาร ตระหง่านสม
หลังคาเขียว ทาสีขาว เร้าอารมณ์ ยืนให้ชม
ในห้วยหุบ เหมือนรูปวิว
เทือกไศล รายรอบ ล้อมขอบข่ม แดดรอนร่ม ลมกรรโชก โกรกใบพลิ้ว
โอ๊คประดับ เด่นรับลม ชมทัศน์วิว แลละลิ่ว หลิวสลับ กลับอาวรณ์
เพิ่งจะเห็น เป็นกระรอก ออกวิ่งโล่ หรือเจ้าโชว์ โผล่ออกมา หน้าสลอน
เจ้านกน้อย นิ่งอยู่ไหน ไม่บินจร เมื่อวันก่อน ยังร่อนมา ให้ข้ามอง
ตะวันลับ ดับแสง ความแรงกล้า พ้นจากหล้า เจิดจ้าแจ้ง แสงจันทร์ส่อง
สองคืนนี้ ไม่มีจันทร์ ให้ฉันมอง ใจที่ปอง ต้องสลาย ในเมฆา
เมื่อคืนวาน จันทร์ก็ดับ ลับก้อนเมฆ พระพรหมเสก ให้เมฆพ่น หล่นมาหา
แสงกระพริบ
ระยิบระยับ จับสายตา จักรสายฟ้า เปรี้ยงแปลบ แสบถึงทรวง
แต่ค่ำนี้ ไม่มีฝน มายลเยือก มองทิวเทือก เยือกเย็น เด่นแมนสรวง
เคยเห็นดาว พราวพร่าง สว่างดวง ไม่อาจล่วง โรยหลั่น ดั้นเมฆา
ธรรมชาติ เป็นไฉน ใช่อุปสรรค แห่งความรัก แรงใคร่ ใจปรารถนา
มิต้องการ เพชรนิล ดวงจิดา มีแก้วตา เพียงสองดวง แมนสรวงอาย
เมื่อน้องสาว เขาไปพัก เคนตั๊กกี้ อยู่ที่นี่ กิจกรรม ซ้ำเหลือหลาย
ใช้เวลา ชำระกลอน นอนสบาย อดออกไป ใฝ่หา ประสบการณ์
เสาร์-อาทิตย์ โทรฟรี มีโทรศัพท์ ทั้งกดไป กดรับ ได้ขับขาน
วิสัยทัศน์ จัดบรรยาย ในเหตุการณ์ อยู่ที่บ้าน ไปหาข่าว เขาเล่ามา
เช่นโทรไป คนใกล้ชิด พิษณุโลก ถามสุขโศก โชคดี มีไหมหนา
อาจรังวัด จัดที่ดิน สิ้นพฤศจิกา ต้นธันวา เดินสำรวจ ตรวจที่ดิน
โทรไปหา เจ้าจ๊ะเอ๋ เซฮัลโหล มาใหญ่โต สหรัฐ ใช่พลัดถิ่น
มาดามทูต ต่างประเทศ เขตธานินทร์ เจ้ายุพิน เป็นหลานข้า มาช้านาน
เซคเคียวริตี้ ทูตมะกัน ชั้นเยี่ยมยอด นายคาลอส เกิดหลงรัก ปักถิ่นฐาน
เชิญราชทูต พร้อมด้วยข้า มาร่วมงาน เป็นประธาน แต่งงานแกรนด์ แสนสุขใจ
จากเมืองไทย ไปอเมริกา มาบังคลาเทศ แล้วจากเขต วอชิงตัน จะผันไหน
ครบหนึ่งปี มีที่อยู่ รู้ที่ไป ถึงอย่างไร กลางเดือนหน้า พบปะกัน
รับฟังข่าว กรีนการ์ด เขาจัดให้ ยังรอได้ ไม่ขัดเคือง เรื่องสมัน
โทรกรุงเทพฯ
คุยกับลูก ใจผูกพัน คุยข้างบ้าน เรียกอาม่า ข้าหนีไกล
รั้วใกล้ชิด บ้านติดกัน ด้วยกันสาด ถามป้าวาด อยู่ร่มเย็น เป็นไฉน
ลุงสุเมธ กับอากง คงสุขใจ ข้าจากไป อีกไม่นาน กลับบ้านเดิม
ถามถึงอั๋น ผ่านถึงซน คนกับหมา ได้ทราบว่า ซนมันคึก ยิ่งฮึกเหิม
ซนชะมัด ฟัดวุ่นวาย ได้เหมือนเดิม เป็นส่วนเสริม เติมให้เหมียว หายเดียวดาย
เพชรราชา จตุคาม รามเทพ มานะเก็บ เอาไว้ให้ ไม่จำหน่าย
แจกผองเพื่อน เพื่อคุ้มครอง ป้องกันภัย ใจและกาย ให้โรงเรียน วัดราชา
ความเป็นเพื่อน เตือนเสมอ อยากเจอเพื่อน ไม่ลืมเลือน
เพื่อนตั้งใจ ปรารถนา
วันเลี้ยงส่ง เพื่อนสั่งไว้ ไปอเมริกา ให้กลับมา สังสรรค์ บ้านดอนเมือง
จันทร์สาร์ทจีน กินเป็ดไก่ ในพฤกษา คุณปรีชา ตระเตรียมไว้ ให้ครบเครื่อง
หมูปูปลา สุราไวน์ ไม่สิ้นเปลือง ข้าทราบเรื่อง เขียนคำกลอน อวยพรชัย
เงินมากอง ทองมาหา เป็นอาเสี่ย จงซินเจีย ยู่อี่ซิน หนี่ฮั่วไฉ้
พ้นภัยพาล การงานดี มีอนามัย ขอส่งใจ มากินด้วย อำนวยพร
น้องข้ากลับ จากหลุยสวิลล์ เคนตั๊กกี้ ผลงานดี เสร็จกีฬา แอททาล่อน
ว่ายขี่วิ่ง ชิงเวลา มาราธอน ถึงบ้านนอน แผ่พังพาบ หลับเป็นตาย
ห้าสิบกว่า นับว่าแกร่ง ยังแข็งกล้า ร่วมกีฬา ประเภทนี้ มีบุญหลาย
แม้อยากแข่ง ในปีหน้า ที่ฮาวาย ควอริไควร์ ไม่ให้ถึง สิบสองชั่วโมง
ซุปปิซซ่า ไอศกรีม ลิ้มจนหมด กลับคืนสด ชื่นได้ หายใจโล่ง
ซักซ้อมใจ ร่างกายฟิต ชีวิตยง อานิสงส์ ย่อมกลับมา หาตนเอง
ที่เมืองนอก ออกกำลังกาย ในนอกบ้าน ทำทุกวัน เกิดพลัง จะปลั่งเปล่ง
ก็ตัวเขา ตัวข้า ว่ากันเอง ขืนกินเก่ง หลงลืมตัว กลัวอ้วนตาย
อุปกรณ์ เอกเซอร์ไซด์ อยู่ในห้อง ไม่จำต้อง ดิ้นรน หรือขวนขวาย
อยากจะเรียก ความสดชื่น คืนร่างกาย เอกเซอร์ไซด์ ไว้ต่อเนื่อง นั้นเรื่องดี
อันตัวข้า ยาเหล้า เอานิดหน่อย คิดค่อยค่อย ลดละเลิก เรื่องบุหรี่
เลิกแล้วเริ่ม เติมซ้ำซาก มากทุกที อีกกี่ปี คงเลิกได้ ไม่กังวล
ยังอาวรณ์ ก่อนใกล้ตาย คงได้ลด ทันทีอด เดี๋ยวนี้ คงมีผล
เลิกชักช้า น่าลำบาก ยากลำบน ยินเสียงบ่น ทนลำบาก อยากเลิกรา
เรื่องกรีนการ์ด เขาจัดส่ง ตรงมานี่ เมื่อวานนี้ ยี่สิบเจ็ด เดือนสิงหา
บันทึกไว้ เขาให้เกร่ อเมริกา แทนวีซ่า มาตอนไหน ได้ทันที
สิทธิ์อาศัย ได้ถาวร ครั้นจรจาก อย่านานนัก หากจะไป จากที่นี่
ขออย่าเพลิน เกินจนถึง แค่หนึ่งปี ต่ออีกที ปีที่สิบ สิงหาคม
อยู่แนสวิลล์ เป็นถิ่นใหม่ อยากไปเที่ยว ดีกว่าเปลี่ยว เป็นฤาษี เฝ้าอาศรม
อพาร์ทเมนต์ เลี้ยวซ้ายขวับ ขับกินลม เลือกแหล่งชม แนซเซซ เทรซปาร์คเวย์
เลี้ยวจอดปาร์ค แวะชมป่า พนาเวศ ยืนสังเกต ดิ่งลึกด่ำ ทำใจเขว
สูงลดหลั่น เชิงชันเหนือ เหลือคะเน ออกไฮเวย์ เก็บภาพไว้ ใต้สะพาน
แลระลิ่ว เชื่อมทิวเขา ยาวละเลียด สูงเสียบเสียด เฉียดยอดภู ดูมาตรฐาน
ตอม่อย้ำ ค้ำตัววี ตัวทีคาน เห็นยวดยาน ผ่านและรอด ตลอดเวลา
นั่งเบนซ์นิ่ง วิ่งทางเลียบ เงียบสนิท ลงเอกซิท ได้ไฟเขียว เบนเลี้ยวขวา
เข้าแฟรงคลิ้น ถิ่นที่หมาย อยากได้มา หอนาฬิกา ร้านค้าเพียบ จอดเลียบทาง
สองสามร้าน ผ่านประตู ดูแอนทีค ของจุ๊กจิ๊ก ติดป้ายโชว์ โก้กว่าห้าง
เฟอร์นิเจอร์ เซอวีเนียร์ จัดเคลียร์วาง ฝีมือช่าง แฮนด์เมด เพชรแววเงา
เดินแฟรงคลิน แฟคตอรี่ มีห้างร้าน แปลงสถาน โรงงานเดิม เสริมของเก่า
เป็นช็อปปิ้ง สิ่งโบราณ แต่นานเนา นำของเก่า เอามาตั้ง วางเรียงโชว์
ตามถนน วนกลับบ้าน ผ่านเบลนท์วูด แหล่งดึงดูด ที่สถาน อันสุโข
บนไฮเวย์ เส้นทาง กว้างใหญ่โต ยินเสียงโทร จากคุณตุ๊ อยู่ไม่ไกล
ตุ๊ผู้หญิง เพื่อนนี สามีฝรั่ง คนตัวอย่าง คุณสมบัติ อัชฌาศัย
สามสิบหก กว่าปี หนีจากไทย มาอยู่ใน แนสวิลล์ เพียงถิ่นเดียว
สู้ลำบาก ตรากตรำ อย่างคร่ำหวอด แย่ตลอด จะหาใคร ใคร่แลเหลียว
ไม่เคยง้อ ไม่ท้อแท้ แม้ครั้งเดียว หายโดดเดี่ยว ในภายหลัง ครั้งแปดปี
ไปรู้จัก กับเธอ เจอหฤหาสน์ ทรัพย์สมบัติ มากล้น พ้นจากหนี้
คนอำเภอ วัฒนา ปราจีนบุรี ผู้สามี รีไทร์ สบายองค์
การรู้จัก คนไทย ในต่างประเทศ โปรดสังเกต เจตนา อย่าลุ่มหลง
ทั้งคนดี คนไม่ดี มีให้ปลง มีทั้งตรง มีทั้งคด จงจดจำ
ถึงอย่างไร ต้องให้คิด เตรียมผิดหวัง ตั้งแต่ครั้ง อยู่เมืองไทย ชวนให้ขำ
สังคมดี บังหน้าไว้ คนใจดำ เลวระยำ ย้ำอีกครั้ง ระวังเจอ
ตลอดพุธ สุดจะหวัง ครั้งยิ่งใหญ่ สมาชิกใหม่ ชูปรีชา มาแล้วเหวอ
มาแล้ววา มาพรุ่งนี้ ที่อยากเจอ คุณย่าเห่อ เจอไอ้จ๋อ ไม่รอรี
ซื้อให้ชอน ก่อนจะคลอด กอดเก็บไว้ หลานชายใหม่ เกิดมา เสริมราศรี
รอเก้าเดือน เหมือนรอเจ้า ถึงเก้าปี คลอดซะที เจ้าพิชา เห็นหน้ากัน
เป็นเวลา ย่ากับปู่ อยู่เทนเนสซี่ พร้อมย่านี คอยคอนแกรท ทูเลชั่น
ดีนบดินทร์ จะได้น้อง ท้องเดียวกัน เป็นหลานขวัญ แก้วตา คุณย่านี
ตกฟากเพชร เจ็ดโมงเช้า สี่สิบห้า ตามโหรา ว่าดีเลิศ ประเสริฐศรี
ฤกษ์เทอดตี้ ออกัส พฤหัสบดี ดวงเศรษฐี มีสตางค์ ดั่งราชา
โชคชอนดี มียายดอน มาป้อนข้าว ดูแลเฝ้า หมุนเวียน เปลี่ยนเสื้อผ้า
ส่วนเจ้าดีน ต้องคอยดู เป็นหูตา โตขึ้นมา ตั้งหน้าหมั่น ขยันเรียน
พฤหัส บดี
นีพาเที่ยว ขับคนเดียว ปรู้ดปร๊าด ฉวัดเฉวียน
สี่สามศูนย์ เมอซิเดชเบนซ์ เผ่นอย่างเซียน วิ่งวกเวียน วนไฮเวย์ แวะเคลิ้กวิลล์
วัดคำนวณ จวนสี่สิบไมล์ สายยี่สิบสี่ ดูแผนที่ ตรวจเส้นทาง พลางถวิล
โทรศัพท์ หาเจ้าชอน อาวรณ์ดีน เข้าเคลิ้กวิลล์ มุ่งแม่น้ำ คัมเบอร์แลนด์
เอ็กซิทสี่ เลี้ยวรี่ซ้าย สายเจ็ดเก้า เมืองแก่เก่า ดาวน์ทาวน์เบน เป็นวงแหวน
โฉบชมวิว ริมริเวอร์ คัมเบอร์แลนด์ งดงามแสน แม้นใครเห็น เป็นบุญตา
มหา ลัย คอลเลจ เขตคริสตจักร หลังคาปัก โบสถ์กางเขน เด่นสง่า
เลียบลำน้ำ คัมเบอร์แลนด์ แสนตรึงตรา บุญที่มา รู้ว่ามี สุดดีใจ
โลกเรานี้ มีคนอยู่ หลายหมู่เหล่า ถิ่นที่เขา นั้นอยู่เย็น เป็นไฉน
คราวหนึ่งครั้ง ยังได้เยือน เหมือนเปิดใจ หูตาไกล กำไรชีวิต ติดตามตน
อเมริกัน ฟุตบอล ตอนเยือนถิ่น แนสวิลล์ สเตเดียม เต็มเปี่ยมล้น
เจ็ดแปดหมื่น ตื่นตาดู เห็นผู้คน ทะลักท้น เยียดยัด เต็มอัฒจรรย์
ทีมแพคเกอร์ เจอศึกหนัก จากวิซคอนซิล สู้แนสวิลล์ เจ้าถิ่นใหญ่ ทีมไตตั้น
แกรมโชคดี ได้ฟรีบัตร ขึ้นอัฒจรรย์ เราอยู่บ้าน ดูทอดถ่าย ทางทีวี
กติกา เกมการเล่น เคยเรียนรู้ สมัยอยู่ นายร้อย ห้อยกระบี่
สนุกดี คนพากย์คล่อง ต้องรัชนี ลุ้นมันดี มีเอ็กไซท์ ไม่อยากนอน
เป็นกีฬา ยอดนิยม ในยูเอส มีคอลเลจ และกลุ่มโปร เฟซชั่นนอล
ค่าตัวแพง แข่งทั้งปี มีต่อกร ไม่หยุดหย่อน คนนิยม ชมทั่วไป
ใกล้ความจริง เดือนสิงหา สามสิบเอ็ด สองพันเจ็ด แล้วหนา มาอาศัย
เจ็ดทิวา เจ็ดราตรี จากนี้ไป จากเมืองไทย อยู่ไกลลิบ เก้าสิบวัน
แล้ววันศุกร์ สิ้นสัปดาห์ จะผ่านพ้น ไม่ดิ้นรน ทนได้ ใจมุ่งมั่น
นีไปไหน ชวนไปด้วย ต่างช่วยกัน ไปทำฟัน อีกครั้ง ชวนนั่งรอ
อาทิตย์นี้ มีแถม เที่ยวแมมฟิส บ้านเอลวิส เพรซลีย์ ที่ร้องขอ
ดีกว่าเที่ยว ช็อปเพลิน เดินในมอล์ เพราะชอบพอ เขานักร้อง ก้องปฐพี
จีไอบลู,
บลูฮาวาย ในอดีต นำลิขิต ให้เอลวิส เพลซลีย์
การแต่งกาย ไว้ทรงผม คารมดี เพิ่มสันสี ให้โลกเรา ไม่เหงาเลย
ชั่วโมงนี้ สิ้นแม้เงา ของเขาแล้ว ยังร้องแจ้ว เสียงจริง ไม่นิ่งเฉย
อเมริกัน นั้นปลาบปลื้ม ไม่ลืมเลย ไปชื่นเชย ชมบ้าน กันเรื่อยมา
คนหลั่งไหล แห่ไปดู ที่อยู่เขา ถึงทีเรา ตามโอกาส ไม่พลาดหนา
คนดีดี อย่างเขา เราศรัทธา เดือนสิงหา ที่สิบหก จากโลกไป
ข้านั่งรอ รัชนี ที่ไคร้ลีกต์ ถึงหรุกหริก พลิกไปมา ถ้าไม่ไหว
ตอนกลับบ้าน ผ่านปลาดิบ รีบลงไป หาแกล้มไวน์ ได้แซลม่อน แต่งกลอนเพลิน
ออกกำลัง วังชา ภาคเช้าบ่าย เพราะเนื่อยหน่าย กายเมื่อยล้า มานานเนิ่น
จักรยาน ยังไม่พอ ต่อลู่เดิน ให้เพลิดเพลิน เข้าไว้ กายชาชิน
เจ้ายูลิค กรดในเลือด เคยเดือดร้อน คอเรสเตอรอล ชอบเกาะติด เป็นนิจสิน
เดินไม่ไหว ให้ปวดขา เป็นอาจิณ คอลจิซิน กินไว้มาก จักไม่ดี
กินต้องเลือก ว่าหมูเห็ด หรือเป็ดไก่ ยิ่งเครื่องใน ยอดผัก ควรตักหนี
เพราะกินปลื้ม ลืมกาย มาหลายปี เก๊าส์ย่ำยี บีฑา ข้าหนักใจ
มาเมืองนอก บอกใจตัว ว่ากลัวโรค จ่ายโชนโชก ดอลล่าร์ หาจากไหน
ออกกำลัง รักษาโรค อย่าตกใจ จำเอาไว้ อโรคยา ปรมาลาภา
ความหนักใจ ยังคายเคือง เรื่องบุหรี่ ของไม่ดี เลิกไม่ได้ ทำไมหนา
ตัดสินใจ ไว้รอหน่อย คอยเวลา ไว้รักษา ความเครียด เบียนเบียดใจ
โอ้คืนนี้ พี่คิดถึง คะนึงหา ดวงจันทรา ข้าไม่รู้ เจ้าอยู่ไหน
ปล่อยให้ดาว ดวงเดียว ลอยเปลี่ยวใจ รอเมื่อใด แสงทอง จะส่องมา
ที่เห็นเจ้า เต็มดวง ลวงใครเล่น ถือว่าเป็น ผู้ครอง ทั่วท้องฟ้า
ระวังก้อน เมฆน้อย เคลื่อนคล้อยมา บังจันทรา เสื่อมแสง สิ้นแรงโลม
เซพเทมเบอร์ เจออะไร ใครจะรู้ เดือนศัตรู สู้กันไป ใจหาญโหม
ถึงฤดู เดือนกันยา ฟ้าโพยม อาจถาโถม โจมพลัง คลั่งสงคราม
ประวัติศาสตร์ สอนทรงจำ เดือนทำศึก ดูบันทึก แม้ประเทศ เขตสยาม
ลองศึกษา หน้าประวัติ ศาสตร์สงคราม กันยาดำ มืดทมิฬ แผ่นดินไฟ
สถานการณ์ การเมือง ระหว่างประเทศ ขัดแย้งเหตุ ส่งคำเตือน ความเคลื่อนไหว
อะไรเกิด อะไรเป็น น่าเห็นใจ ตั้งตนไว้ ให้เป็นกลาง วางเที่ยงตรง
เตรียมวาดฝัน วันอาทิตย์ คิดแผนไว้ ว่าจะไป บ้านเอลวิส คิดประสงค์
วันนี้เสาร์ เราทั้งหลาย ได้ตกลง บ่ายสองโมง ไม่สงสัย ไปกับแกรม
ช่วงภาคเช้า เข้าไปช็อป ชอบก็ซื้อ หอบสองมือ ถือของกิน และกับแกล้ม
มาโบโร่ กลิ่นหอม ติดงอมแงม นั่งรถแกรม ชมหมู่บ้าน ตระการตา
ทั้งชมบ้าน ผ่านที่ มีทุกแบบ เฆี่ยนไฟแลบ กลับอพาร์ทเมนต์ เป็นห่วงหมา
ดูฟุตบอล อเมริกัน ทันเวลา สำหรับข้า ไปมาด้วย ช่วยชมวิว
คืนวันเสาร์ ต้องเข้านอน เสียก่อนดึก ช่วยกันนึก เตรียมอาหาร ไว้แก้หิว
ว่าจะห่อ แซนด์วิส ติดไปซิว ขี้เกียจหิ้ว หิวจะจอด ตลอดทาง
หงายกระติก สีแดง น้ำแข็งแช่ ดูให้แน่ แช่ขวดไหน เอาไว้บ้าง
สิ่งสำคัญ คือแผนที่ ต้องมีกาง ระหว่างทาง ให้สังเกต เรสท์แอเรีย
แพคกล้วยหอม พร้อมลูกพลัม กล้วยน้ำว้า ใช้มีดผ่า
ใสโครเวฟ เก็บก็เสีย
หกโมงตื่น เตรียมตัว ไม่งัวเงีย ทุกอย่างเคลียร์ มุ่งตะวันตก ยกทีมไป
แกรมคนเดียว เดี่ยวสบาย ทั้งไปกลับ หน้าที่ขับ นิสสัน รถคันใหม่
รัชนี มีทักษะ อธิบาย ผู้บรรยาย เส้นทาง นั่งเอ้เต
ปล่อยแมงโก้ สุนัขเฒ่า อยู่เฝ้าบ้าน มันพลุกพล่าน เดินไปมา ตีหน้าเย๋
เบอร์สี่สิบ ทางทอดไกล สายไฮเวย์ ชมเสน่ห์ ไพรพฤกษา พนาวัลย์
เมืองแมมฟิส ทิศเซาท์เวสท์ เทนเนสซี่ มิสซิสซิปปี้ ออร์แคนซัส รัฐปิดกั้น
สร้างธุรกิจ ติดเขตแบ่ง แข่งขันกัน แดนสวรรค์ พื้นไร่นา ทุ่งสาโท
จากแนสวิลล์ แจคสัน ยันเมมฟิส มุ่งสู่ทิศ ตกค่อนใต้ ห่างไกลโข
มิสซิปปี้ อยู่เบื้องหน้า บ่อนกราเซียโน รัฐใหญ่โต มิสซูรี่ ที่ใกล้กัน
สองร้อยไมล์ สามชั่วโมง คงอ่อนเปลี้ย เรสแอเรีย เพลียพักก่อน ช่วยผ่อนผัน
ปล่อยปลดเปลื้อง สิ่งเคืองคาย ได้ครบครัน เหมือนสวรรค์
ผู้สัญจร ตอนเดินทาง
ข้ามขุนเขา โขดเขิน เนินไศล พันธุ์แมกไม้ ชวนมอง ทั้งสองข้าง
ทะเลสาบ ห้วยแม่น้ำ และลำราง เจาะช่องทาง ระหว่างคู ดูเพลินใจ
ถ้าท่องเที่ยว ครบทุกเมือง คงเรื่องยาก จำนวนมาก ข้ายอมรับ นับไม่ไหว
พิพิธภัณฑ์ โบสถ์แบปตีส วิทยาลัย ก่อนที่หมาย ออกเอกซิท คิดเรื่องกิน
ถนนเพสแซนด์วิว ซิวเบรคฟัสท์ จัดการเสร็จ อร่อยเอร็ด น้ำส้มคั้น ร้านเพอร์คิ่น
ครึ่งชั่วโมง โค้งเมมฟิส ติดปีกบิน เข้าถึงถิ่น บ้านเอลวิส เพรสลีย์
หกดอลล่าร์ ค่าเข้าเขต จอดเกรซแลนด์ รถเนืองแน่น จากแดนไหน ไปจอดนี่
นามถนน ในเมมฟีส ชื่อเพรสลีย์ ใกล้เคียงมี ที่บริการ จอดแคมป์กราวน์
นำออกโชว์ ของเคยใช้ ในอดีต สไตล์เอลวิส ชีวิตดัง เมื่อครั้งเก่า
ผู้อัจฉริยะ ความสามารถ ประวัติยาว ใครอยากเข้า ซื้อทิคเก็ต เข้าเขตใน
มีโรงแรม ภัตตาคาร ย่านกิ๊ปช็อป เรียงรายรอบ ม็อบฝูงชน คนหลั่งไหล
ชมเครื่องบิน ชุดคอนเสิร์ต มอเตอร์ไซด์ เก็บรายได้ คนอยู่หลัง รวยมั่งมี
จากเกรซแลนด์ แล่นรถไป ทุนิก้า ล่องใต้มา หามลรัฐ มิสซิสซิปปี้
แลทุ่งโล่ง ปลอดโปร่งฟ้า สิบห้านาที แหล่งเศรษฐี ขุดทอง ลองเสี่ยงดวง
เป็นหย่อมย่าน การพนัน ทุกชนิด เงินมีติด กระเป๋ามา อย่าเป็นห่วง
โจรแขนด้วน อิ่มอ้วนพี มีเล่ห์ลวง ตัดใจล้วง ควักดอลล่าร์ ดึงมาลอง
ทีละห้า คว้ายี่สิบ หยิบไม่หยุด จิตมนุษย์ หนึ่งไม่พอ ต้องขอสอง
เชอราตัน โกล์ดบัลลี่ ที่ขุดทอง โจรท้องป่อง แฮพตลอด สล็อตแมชชีน
ตอนขากลับ ขับรถผ่าน บ้านเอลวิส ทิ้งเมมฟีส ไว้เบื้องหลัง สั่งถวิล
เมืองเมมฟีส คิดฝันหา เป็นอาจิณ ไม่เพียงยิน ยังยลเยือน เหมือนฝันจริง
โอชาลีย์ มีสเต็ก เค็กสลัด จอดหิวจัด ฟัดขนมปัง แล้วนั่งนิ่ง
โปเตโต้ เพนเซอรอยน์ อร่อยจริง ซ่อมระวิง ช้อนซุปครีม จิ้มตามใจ
กลับมาถึง อพาร์ทเม้นต์ ก็เย็นโข เจ้าแมงโก้ ทำโฮเสียง เพียงร้องไห้
ดังครางฮือ คือซิกแนล แสนห่วงใย เงียบทันใด พอได้ลิ้ม ชิมไก่งวง
เรื่องค่าแรง แพงหูฉี่ ที่ยูเอส ทุกประเทศ ค่าแรงงาน นั้นน่าห่วง
ประเทศน้อย ด้อยพัฒนา หาผลพวง มักก้าวล่วง เรื่องค่าแรง ไม่แพงเลย
ค่าครองชีพ จะบีบรัด จัดไม่ทั่ว ไม่พ้นตัว มัวหมาง นิ่งวางเฉย
ซื้อผู้แทน นั่งสภา หน้าเฉยเมย เขาละเลย พวกชนชั้น กรรมกร
เลเบอร์เดย์ อเมริกา น่าคึกคัก เป็นวันพัก ผ่อนกาย หายเดือดร้อน
สนามหลวง ห่วงบ้านเรา ยังร้าวรอน วันกรรมกร หนึ่ง พ.ค. ล่อกันนัก
อเมริกา ว่าจ้างผลิต คิดสินค้า แล้วตีหน้า เอมอิ่ม นั่งยิ้มหัว
ขับรถเล่น เย็นใจ ไม่มัวซัว ไม่ต้องกลัว จะอดตาย ใช้คนเป็น
วันที่สาม เดือนกันยา การันเดอร์ วันเลเบอร์ อเมริกา ที่มาเห็น
เขาขนของ ไปปิคนิค ต่อวีคเอนด์ เริงร่มเย็น เป็นความสุข ทุกครัวเรือน
ตามวิสัย ในเมืองนอก ออกจากบ้าน เช้าอังคาร เริ่มงานใหม่ ทำได้เหมือน
งานประจำ สม่ำเสมอ ไม่เบลอเบือน คนแชเชือน เตือนสองครั้ง สั่งหยุดงาน
ถึงเวลา ทำหน้าที่ ไม่หนีหลีก พอชนวีค รายได้เห็น เป็นมาตรฐาน
แท็กต้องจ่าย อย่าได้ขัด รัฐบาล ประกอบการ งานใด ได้เสรี
มีการจ้าง ผู้ใช้แรง ทุกแห่งหน ผู้อดทน คนขยัน เมคมันนี่
คนเกลียดคร้าน งานไม่ทำ เพราะกรรมมี เลี้ยงชีวี อย่างลำบาก ยากลำเค็ญ
แท็กจากรัฐ จัดอินฟลาฯ ประชาชาติ สร้างสมบัติ ส่วนกลาง ดังที่เห็น
คืนความสุข จนครบถ้วน ที่ควรเป็น คนซ่อนเร้น คอรัปชั่น โดยฟันเอียน
เรื่องการเงิน การคลัง ยังมิเสีย จัดดอกเบี้ย กับหลักทรัพย์ หมุนปรับเปลี่ยน
เททุ่มเงิน เดินตลาด จัดหมุนเวียน คงเสถียร แต่ละรัฐ จัดได้ดี
พอสำรวจ ตรวจอัตรา ค่าเงินบาท ในตลาด การเงิน อยากเมินหนี
เงินบาทแข็ง แข่งส่งออก บอกไม่ดี ต่างเคลื่อนหนี ผลิตภัณฑ์ การลงทุน
อยากจะกด เงินดอลล่าร์ ออกมาใช้ เมื่อเงินไทย แข็งค่า คงน่าลุ้น
เศรษฐกิจ เมืองไทย ไหม้เป็นจุล นักลงทุน หมุนไม่ขึ้น ต่างมึนชา
เมื่อวันวาน ฐานเงินบาท จัดแลกเปลี่ยน ต่อหนึ่งเหรียญ สามสิบสาม กับจุดห้า
แต่พรุ่งนี้ มีขึ้นลง คงอัตรา กดดอลล่าร์ นำมาเก็บ กลัวเจ็บใจ
มาท่องเที่ยว เทนเนสซี่ ดีไปอย่าง ที่เหินห่าง จากข่าวสาร เลิกหวั่นไหว
แต่ก็เบลอ
เจอข้อเสีย ละเหี่ยใจ ข่าวเมืองไทย ถ้ารู้น้อย ไม่ค่อยมัน
เพราะการบ้าน การเมือง ใช่เรื่องเล็ก มีแต่เด็ก ใจละเมอ พวกเพ้อฝัน
คราบน้ำนม ไม่ทันสิ้น กลิ่นคาวมัน คอรัปชั่น แย่งกันกิน สิ้นยางอาย
ถ้ารู้มาก จะยากนาน รำคาญถ้อย ยิ่งรู้น้อย น่าหัวร่อ จนงอหาย
ทำไม่รู้ กู่ไม่ชี้ พวกผีพราย มันกล้ำกราย ไทยย่อยยับ ถึงอับจน
ห่วงนิราศ อเมริกา ที่ข้าเขียน มักวกเวียน เข้าการเมือง เรื่องสับสน
คิดถึงเหมียว ลูกสาวข้า กับหมาซน สุขกมล เสียยิ่งกว่า ด่าการเมือง
พ่อกับแม่ คิดถึงเหมียว เดี๋ยวก็กลับ คว้าโทรศัพท์ รีบโทรไป ได้รู้เรื่อง
รู้ข่าวคราว แหล่งสถาน บ้านดอนเมือง มิคายเคือง ทุกเรื่องไป ใจเบิกบาน
เหมียวรักแม่ รักพ่อ พ่อก็รู้ พ่อไม่อยู่ แม่ก็ไกล แกล้งใจหาญ
พ่อฝึกลูก ปลูกฝังให้ ใจทนทาน จากลูกนาน คิดถึงลูก ทุกคืนวัน
อาทิตย์หน้า อยากไปไหน ในแผนที่ ดูให้ดี ที่เที่ยวใด ให้สุขสันต์
เทนเนสซี่ ดีที่ไหน รีบไปพลัน ประสบการณ์ บั้นปลาย ดูให้ดี
ไปเดินปาร์ค ซาตานูก้า ถ้าจะยาก แต่ไกลมาก หลุยส์วิลล์ เคนตั๊กกี้
อาจไปต่อ อินเดียนน่า เวลามี คิดอีกที มีเวลา ศึกษาดู
กิจวัตร รัชนี มีการเปลี่ยน จะหมุนเวียน ร่างกาย กลัวคล้ายหมู
ไม่ลงพุง ถุงท้อง มองน่าดู ควรต่อสู้ เอ็กเซอร์ไซด์ ใช่อดกิน
วันนี้ไป คูลสปริง ชอปปิ้งมาร์ท เข้าทอยอาร์รัส ร้านเด็กเห็น ต้องเป็นดิ้น
มีออร์เดอร์ มอเตอร์ไซด์ จากนายดีน พูดได้ยิน โทรศัพท์ ไอวอนท์ไซด์
ชาตรีส่ง รูปลูกชาย ไปเทนเนสซี่ ย่ารัชนี ดูอีเมล์ เห็นภาพถ่าย
มองสายเลือด สดสี เธอดีใจ หลานในไส้ ลูกของลูก ใจผูกพัน
นีน้องข้า เป็นย่ายาย ได้หลานห้า ดูแล้วน่า ชื่นใจ กระไรนั่น
ทุกคนได้ ใช้สัญชาติ อเมริกัน ผู้เบิกบั่น สรรค์สร้าง ทางชีวี
แกรมเชปเปิร์ด เปิดโลกกว้าง ทางชีวิต เขียนลิขิต ไว้ให้ ไม่หน่ายหนี
คนเสริมสร้าง ทางเชปเปิร์ด เกิดบารมี คือรัชนี ชูปรีชา น้องข้าเอง
ฐานะพี่ ข้าภูมิใจ ในตัวน้อง คนทั้งสอง คู่ของเขา เป็นคนเก่ง
ร่วมกันสู้ ดิ้นรน สร้างตนเอง รัชนีเก่ง แกรมฉลาด สามารถจริง
แกรมศึกษา สูงส่ง ดำรงชีพ ได้สามสิบ กว่าปี นับดียิ่ง
ให้ลูกหลาน น้องพี่ ที่พักพิง คนใจจริง จริงใจ หาใครเทียม
รู้คุณค่า ของเงิน ดำเนินชีวิต มีความคิด เป็นสมบัติ ประหยัดเขียม
ผ่านงานหนัก รู้จักตน เป็นคนเจียม จิตเต็มเปี่ยม ด้วยปัญญา เมตตาธรรม
เดือนกันยา ยังหน้าร้อน มาผ่อนพัก อยากรู้จัก สัมผัสจร ซุกซอนซ้ำ
เก็บจารึก บันทึกไว้ ในทรงจำ แล้วเก็บงำ นำมาเล่า เกลาเป็นกลอน
พุธพฤหัส จัดรายการ อยู่บ้านช่อง ไม่เที่ยวท่อง ไปทางไหน ได้พักผ่อน
ตกตอนบ่าย ใกล้สายัณห์ ตะวันรอน นั่งเบนซ์จร ร่อนจากบ้าน แถบชานเมือง
มุ่งสายแปด แนสวิลล์ ถิ่นเมืองใหญ่ ซื้อจับจ่าย ของชำ ไปตามเรื่อง
ทุกถนน วนจนทั่ว ไม่กลัวเปลือง นั่งชมเมือง ที่เนืองแน่น เสียแสนนาน
แนสวิลล์ เมืองหลวง เทนเนสซี่ ทำเลดี มีอารยธรรม นำสืบสาน
ศิลปกรรม ล้วนเก่าแก่ แต่โบราณ ทั้งอาคาร คริสต์ศาสนา มหาวิทยาลัย
ข่ายถนน หนทาง ต่างระดับ เอกซิทรับ สลับเลน รถหลั่งไหล
ขยับเขยื้อน เคลื่อนคลาน สัญญาณไฟ น่าเสียดาย คงได้มา คราครั้งเดียว
อยู่แผ่นดิน อเมริกา ข้ารู้สึก มองให้ลึก ลองตรึกตรอง มาท่องเที่ยว
กับกรุ๊ปทัวร์ ชั่วสิบวัน นั้นเดี๋ยวเดียว ไม่คุ้มเที่ยว ท่องชม สมอยากมา
ค่าโรงแรม แถมค่ากิน บินไปกลับ จ่ายจ๋ำหนับ นับแสนบาท นั้นหนักหนา
เพียงสัมผัส อากาศเย็น เห็นอเมริกา ดูไร้ค่า น่าใจหาย เสียดายจัง
อันตัวข้า มาสามเดือน เหมือนเยือนบ้าน มีน้องหลาน คอยเอาใจ ให้ความหวัง
หิ้วไปโน่น หอบมานี่ มิใช้ตังค์ นำไปนั่ง พาไปเดิน เพลิดเพลินดี
วันพฤหัส มีบัตรชม โรงงานสร้าง รถยนต์นั่ง นิสสัน เทนเนสซี่
โรงงานใหญ่ มหึมา น่ายินดี แต่ละปี ผลิตประมาณ ครึ่งล้านคัน
พาร์คกิ้งล็อต จอดคนงาน เห็นลานกว้าง ประกอบสร้าง รถยนต์ คนนิสสัน
เต็มตลอด จอดเรียงราย หลายพันคัน ล้วนนิสสัน งามตา ช่างน่าดู
พอถึงบ่าย ไกด์เชื้อเชิญ เดินเข้าห้อง เพื่อรับรอง เตรียมต้อนรับ เตรียมขับสู้
อธิบาย โดยฉายหนัง ให้นั่งดู พอรับรู้ ถูกเชื้อเชิญ เดินเข้าไป
ขึ้นนั่งรถ เรียบร้อย ไม่ห้อยโหน สวมเฮดโฟน บนคาร์คาร์ท จัดแว่นให้
แหม่มนำเที่ยว ผู้เชี่ยวชาญ การบรรยาย รถพาไป ตามจุด หยุดชี้แจง
หนึ่งชั่วโมง โยงรถตาม เป็นสามท่อน วิ่งเร่ร่อน ตามไลน์ ไม่หน่ายแหนง
จากเหล็กแผ่น เล่นตามไลน์ ไม่ใช้แรง ผู้แสดง ก็มีคน ปนกลไก
มีเครื่องจักร เป็นแรงงาน เหมือนปั้นหุ่น คนช่วยหมุน เล็กน้อย คอยส่งให้
ทุกขั้นตอน รวบรัด อัศจรรย์ใจ คุมการใช้ เครื่องไฟฟ้า พาจักรกล
อธิบาย ไลน์ขั้นตอน ของการผลิต เริ่มแต่ติด ตัวถัง ดังเริ่มต้น
จนกระทั่ง หมดจด เป็นรถยนต์ ที่ให้คน ขึ้นไปขับ นับพันคัน
จากเหล็กบล็อก ล็อครู รู้ขนาด มาเรียงจัด อัดแรง อย่างแข็งขัน
เครื่องจักรกล ยักย้าย ถ่ายเทพลัน เป็นรูปคัน วางลง ตรงแชสซึ
เดินตามไลน์ ใส่ลูกล้อ ต่อเอนจินส์ จนไปสิ้น แล้วเสร็จ แอกเซสซารี่
ได้รูปร่าง อินสเป็ค เช็คอย่างดี รถหลากสี นิสสัน คันงดงาม
เธอบรรยาย ให้ทุกคน จนเหนื่อยอ่อน แล้วเธอย้อน ว่ายังไง ใครจะถาม
ตัวข้าเอง ก็ตั้งหน้า พยายาม ยากติดตาม ฟังเธอโม้ โนอันเดอร์แสตนด์
จากนิสสัน ดูบ้านต่อ ไม่รอช้า รถลัดมา ถ่ายภาพเล่น ตอนรถแล่น
รูปทุ่งทิว วิวไศล ไปทั่วแดน สู่ยังแคว้น แดนสมัคร จะพักพิง
บ้านบริดส์โม โผล่หลายที นีจะสร้าง เช็คเส้นทาง สปริงฮิลล์ ถิ่นช็อปปิ้ง
วัดจากบ้าน คลานสามไมล์ ใกล้จริง ๆ เลยชอปปิ้ง ซื้อของใช้ ในกู๊ดวิลล์
เลือกกางเกง เล็งไว้สอง ลองซื้อใส่ เดินเข้าไป ทาร์โกเบลล์ เห็นก็หิว
ครั้นซ์ซุปรีม ชิมอีกครั้ง สั่งมาซิว พอหายหิว หิ้วฝากแกรม แถมสองอัน
แม็กซิโก โชว์อาหาร ทานเก๋ไก๋ เพียงยาไส้ มิใช่หม่ำ เป็นล่ำสัน
เด็กผู้ใหญ่ ใครก็ชอบ เพราะกรอบมัน แม็กซิกัน แฟรนไช ขายจนรวย
ขากลับบ้าน ผ่านแนชเชส เทรชปาร์คเวย์ ขับรถเกร่ ลอดผ่าน สะพานสวย
ตามถนน เก้าสิบหก โชคอำนวย แวะซื้อหวย ขอรวยนิด พับบริคมอลล์
ถึงวันศุกร์ แทบทุกบ้าน ทำงานหมด เขาออกรถ ขับไป ไม่เหลือหลอ
รัชนี ไปทำฟัน ปล่อยฉันรอ เสร็จจากหมอ ก็รีบกลับ รับฉันไป
ยังที่จุด สุดสวย ด้วยทิวทัศน์ ยิ่งแดดจัด ยิ่งไม่พรั่น หรือหวั่นไหว
กลัวว่าฝน จะหล่นพรำ ให้ฉ่ำใจ เตรียมกล้องไป เก็บภาพหรู ไว้ดูกัน
ฝั่งแม่น้ำ คัมเบอร์แลนด์ แดนแนสวิลล์ แลเห็นถิ่น ดาวน์ทาวน์ ราวสวรรค์
หน้าแอล-พี สเตเดียม เตรียมจอดพลัน ข้ามสะพาน เชลบี้สตรีท คิดคำนึง
เทนเนสซี่ ที่มาชม สมใจข้า ถือว่ามา ตามตั้งใจ เรียกได้ ถึง
ถ่ายภาพสวย ช่วยเตือนจำ ตอกย้ำตรึง ว่าครั้งหนึ่ง เทนเนสซี่ ที่ได้ชม
สนามกีฬา ใหญ่โต ระโหฐาน แปดสิบพัน ตระการตา สง่าสม
ถ่ายฟุตบอล อเมริกัน ที่ฉันชม สนุกรื่นรมย์ สมใจ ในทีวี
เดินสะพาน ไปดาวน์ทาวน์ ยาวเหยียดย่าง ยิ่งช่วงกลาง ลำแม่น้ำ งามสาดสี
หลายสะพาน ยวดยานผ่าน น่านนที เทนเนสซี่ ที่ใครชม สมชื่อนาม
ข้าเดินผ่าน สะพานเก่า เขาสงวน ไกด์ชักชวน เชิญผู้คน ให้เดินข้าม
เรือลอดกลาง หว่างกระแส แลดูงาม คนเดินข้าม เรือแล่นลอด ทอดสายชล
วาสนา มาแนสวิลล์ ถิ่นมิวสิค เริงระริก เร้าใจ ให้ฉงน
เสียงดนตรี มิเหือดหาย คลายกมล เรื่องร้อนรน หายเหือด เลือดเย็นชา
พบความหวัง ครั้งสำคัญ ใช่ฝันเฟื่อง มิใช่เรื่อง ประหลาด วาสนา
คัมเบอร์แลนด์ แนสวิลล์ ถิ่นงามตา อยากได้มา อยู่ใกล้ ในแนสวิลล์
เทนเนสซี่ เหมือนมีมนต์ ดลใจขลัง ประทับฝัง ตรึงตราใจ ไม่รู้สิ้น
ไออบอุ่น ละมุนละไม คล้ายแผ่นดิน เคยอยู่กิน ดินแดนนี้ มาแสนนาน
รุ่งวันเสาร์ เราไปชม การต้มเหล้า ตื่นตอนเช้า เข้าในครัว กลั้วอาหาร
ไข่ดาวแฮม แถมขนมปัง ตั้งเต็มจาน รับประทาน กันไว้เผื่อ เมื่อเดินทาง
มุ่งตำบล เชลบี้วิลล์ ถิ่นจุดหมาย แล้วเลี้ยวซ้าย วิ่งวน ถนนว่าง
มองฟาร์มวัว รั้วฟาร์มม้า ตลอดทาง อยู่ท่ามกลาง คันทรี่ วิสกี้ดัง
เห็นทะมึน ยืนยอดเขา เข้าไปใกล้ ที่เก็บใส่ ไม่รู้มี สักกี่ถัง
หลายล้านลิตร ผลิตเตรียมขาย หลายสตังค์ แทบจังงัง
ตั้งตายล เดินวนเวียน
ชมเตากลั่น ควันโขมง สายโยงติด โรงเหล้าผลิต วิสกี้ แจ็คเดเนียล
อยากผสม กับโซดา ให้อาเจียน เพราะเป็นเซียน มาก่อนเก่า เมื่อเมามาย
แต่ครั้งนี้ ที่ได้มา ข้าอยากเห็น ลับซ่อนเร้น ในโลกนี้ มีอีกหลาย
ยังไม่รู้ ว่าเขาคิด ผลิตอย่างไร เคยแต่ใช้ ผลผลิต คิดไม่เป็น
แหม่มทัวร์ไกด์ พาไปดู จนรู้แน่ เริ่มตั้งแต่ ตั้งต้น จนได้เห็น
ข้าวบาร์เล่ย์ ไรน์คอร์น ก่อนมาเป็น กลั่นจนเย็น เค้นจนใส ใส่ขวดงาม
ไม้เมเบิ้ล จากป่า นำมาเผา น้ำภูเขา ทำเหล้าดี มีในถ้ำ
ป้อนปรุงยีสต์ ใช้ฮีทกลั่น เรียงชั้นทำ กรองจนน้ำ ใสแจ๋ว ดังแก้วตา
ใช้คนชิม คนดม ผสมผสาน หมักไว้นาน จนได้ที่ ไม่มีส่า
การติดตั้ง ถังผสม มหึมา ใช้เวลา ต้มกลั่น ทุกวันไป
รัฐบาล ฟันแทค แจ็คแดเนียล ไปหมุนเวียน เศรษฐกิจ ผลผลิตขาย
สิทธิบัตร พัฒนา ก้าวหน้าไกล เงินกำไร จ่ายให้เห็น เป็นส่วนรวม
เรื่องยาดอง ของมึนเมา ไทยเรานั้น ทุกวี่วัน ผันภาษี ที่หละหลวม
มีซิกแซ็ก แทคหดหาย ให้กำกวม กินกันอ่วม รวยจนอ๊วก จวกกันอาน
เมเจอร์แกรม เชปเปิร์ด เปิดกระเป๋า ควักซื้อเหล้า เอาสามแจ็ค แลกกลับบ้าน
เข้าคอสโก้ ซื้อโคล่า มาลองทาน หลับสำราญ วันพรุ่งนี้ มีที่ไป
ต๋อยนงเยาว์ รีบเข้านอน ก่อนผู้อื่น เกรงไม่ตื่น ได้ทัน เธอหวั่นไหว
เตรียมสำเร็จ เสร็จสรรพ แบบฉับไว สามโมงไป เคนตั๊กกี้ ที่รอมา
ลุยสเวียล เคนตั๊กกี้ อยู่ที่ไหน ข้าตั้งใจ เต็มเปี่ยม เตรียมไปหา
ไม่อยากให้ มีฝน หล่นลงมา อยากพบหน้า เจ้าเสียจัง ตั้งใจจริง
รู้ว่าเจ้า เมืองอาชา มีม้าแกร่ง จัดการแข่ง ถ้วยเดอบี้ ที่ใหญ่ยิ่ง
ริมแม่น้ำ โอไฮโอ้ โก้เสียจริง ข้าจะดิ่ง ไปหาแล้ว นะแก้วตา
เจ้าอย่าห้าม ข้าข้ามน้ำ โอไฮโอ้ ข้าขอโผล่ ไปเยือนถิ่น อินเดียนน่า
เคเอฟซี เขามีชื่อ เลื่องลือชา หอบหิ้วพา เพื่อมาฝาก นั่งปาร์ควิว
สามโมงครึ่ง บึ่งผงาด อพาร์ทเม้นต์ ขับเลาะเลน เบนเลี้ยวขวา มุ่งหน้าฉิว
นิสสันแกร่ง แซงว่องไว สายลมปลิว เมฆสูงลิ่ว ปลิวมาทับ ขับสโลว์
แพดไฟเดอร์ ยิ่งเจอฝน ทนทายาท เผ่นผงาด ไม่เหลียวหลัง ดังโมโห
เกาะถนน แน่นิ่ง เหมือนวิ่งโชว์ เจ้าแมงโก้ โงหัว บอกกลัวใจ
เจ้าแมงโก้ โชว์ความเก่ง นักเลงหมา เรื่องภาษา อเมริกัน ไม่หวั่นไหว
แต่แมงโก้ โง่หนักหนา ภาษาไทย ไม่เข้าใจ ต้องฝรั่ง สั่งจึงทำ
ก่อนจะเข้า เมืองหลุยส์ ต้องลุยฝน เห็นรถยนต์ ล้อหงาย ไทยเรียกคว่ำ
คงแฉลบ ลื่นเฉี่ยวราว เข้าไปตำ หัวคะมำ ตีลังกา หลังคาเยิน
ไม่ใช่หนึ่ง มีถึงสอง ต้องติดแหงก ต้องใช้แหวก ทีละคัน มันฉุกเฉิน
เป็นบ้านเรา แซงกันแหลก แหวกกันเพลิน พวกหมางเมิน
ไม่มองเส้น ไม่เป็นคิว
สะพานยาว เข้าเยือนถิ่น อินเดียนน่า มองย้อนมา ปลาบปลื้ม จนลืมหิว
พาร์คกิ้งล็อต จอดเข้าซอง มองหาวิว ช่วยกันหิ้ว หอบถุง พะรุงพะรัง
แกรมเดินมุ่ง จูงแมงโก้ วิ่งโชว์หุ่น วนเวียนหมุน หาเก้าอี้ ดีดีนั่ง
เคเอฟซี อินเดียนน่า งัดมาวาง พอพุงกาง โพสต์ท่า หาภาพงาม
ก่อนจะกลับ ขับรถเข้า ดาวน์ทาวน์เล่น เวียนตระเวน เห็นศิลป วะวาบหวาม
ทรงยุโรป ก่อนเก่า เข้าสงคราม ตระหง่านงาม จำไว้ ให้ติดตา
วนเมืองหลุยส์ กรุยดาวน์ทาวน์ จนแทบทั่ว ฟ้าเริ่มมัว
กลัวขับยาก จะหนักหนา
หลุยส์วิลล์ กลิ่นที่ฝัง ยังตามมา เซาท์หกห้า ฝ่ายสายฝน จนแนสวิลล์
กลับอพาร์ทเมนต์ เย็นย่ำ ฝนฉ่ำฟ้า มองเมฆา นภาสลัว ทั่วทุกถิ่น
กลิ่นระรื่น ชื่นฤทัย จากไอดิน แนสวิลล์ อีกสามวัน ต้องพลันจร
คงในราว เช้าพฤหัส จัดแผนไว้ เดินทางไกล ไปแล้วหนา ขอลาก่อน
มาเยี่ยมเยียน เขียนเก็บไว้ ในคำกลอน อาจจะย้อน กลับมาใหม่ ตั้งใจคอย
วันจันทร์ผ่าน อังคารมา ข้าพรักพร้อม เก็บตะล่อม ที่จ่อมกอง ของใช้สอย
เหลือเวลา ตั้งหน้าคิด ประดิดประดอย ไม่ให้ใคร รอคอย พลอยรำคาญ
แกรมกับนี ไปเวอร์จิเนียร์ สัปดาห์นี้ แกรมพบพี่ นีตระเตรียม ไปเยี่ยมหลาน
เขาย้ายจาก เวอร์จิเนียร์ มาเสียนาน ได้ทำงาน ในนิสสัน นานแรมปี
ต๋อยกับข้า มาพำนัก พักที่บ้าน หมดรายการ ท่องเที่ยว เทนเนสซี่
รวมเวลา ข้ามาเยือน เดือนพอดี แกรมกับนี อาจสนุก หรือทุกข์ใจ
เป็นธุระ ปะปัง อย่างดียิ่ง ไม่เคยนิ่ง คอยติดตาม และถามไถ่
ชวนออกกำลัง คืนวังชา อนามัย เอาใจใส่ ให้ทุกอย่าง ไม่ค้างคา
ทั้งสองวัน พาผันผาย ไปเที่ยวช้อป วนเสียรอบ หอบเหนื่อย จนเมื่อยขา
เช้าวันพุธ ฉุดให้ตื่น ฟื้นขึ้นมา ไม่เห็นหน้า สั่งนงเยาว์ เขาเข้าเมือง
เมื่อวานนี้ คุณลิซ่า มาถึงบ้าน พูดติดพัน เรื่องบ้านไว้ ให้ได้เรื่อง
วิ่งให้ครบ จบพันไมล์ ไหน ๆ ก็เปลือง เหลือเพียงเรื่อง สนนราคา น่าตกลง
คืนวันพุธ สุดท้าย ในทริปนี้ เทนเนสซี่ มีมนตรา ข้าไหลหลง
ธรรมชาติ ช่างเป็นใจ ไม่คลายปลง นภาโปร่ง ไร้เมฆา ฟ้าสีบลู
แสงสีทอง ส่องอำไพ วับไวแสด อุ่นไอแดด ไม้ชูใบ ประกายหรู
กระแตไต่ ใบบัง กิ่งพรั่งพรู วิหคคู่ โลดเต้น เย็นโพยม
ฮัมมิ่งเบิร์ด เปิดปีก กระดี๊กกระดั๊ก บินปักหลัก มิไปไหน ไร้คู่สม
เหลือบมามอง จ้องหน้า เห็นข้าตรม ถลาลม วูบวับ บินลับไป
คงไม่พร้อม จะยอมอยู่ ดูใจข้า บินลับฟ้า ไปแห่งหน ตำบลไหน
หรือห่วงลูก อยู่หลัง ที่รังใด จึงหนีไป ไกลจากข้า อย่างชาเย็น
เจ้ารอบิ้น กินอะไร ในพงหญ้า โปรดเงยหน้า อ้าปาก ข้าอยากเห็น
คาบไปฝาก ลูกของเจ้า ทุกเช้าเย็น อย่าซ่อนเร้น เลยหนา ข้าขอมอง
เจ้าบลูเจ สีฟ้า ทำท่าเก่ง เป็นนักเลง เบ่งจริงหนา ท่าจองหอง
โดดดึ๊กดั๊ก ดึ๋งดั๋ง ดังเด็กดอง เจ้าลำพอง มองข้าใย มาใกล้ที
ฟลิ้นสีเหลือง ตัวเล็ก กระจ้อยร่อย อย่าสำออย พี่ไปนัก เจ้ารักพี่
ส่งกรี๊ดกร๊าด พลอดพร่ำ ทำดนตรี เจ้ารักพี่ พี่ก็รู้ อยู่แก่ใจ
เจ้าคอสโน่ โผผิน แกล้งบินปร๋อ ปล่อยพี่รอ เจ้าอยู่ เธอรู้ไหม
สีของเจ้า ส้มแดง ทำแร้งใจ บินเสียไกล ให้ข้าเหงา จนเศร้าซม
สะแปโร่ โอ้คนดี อย่าหนีรัก ขาดหนุนตัก รักพี่ชื่น ก็ขื่นขม
เจ้าตัวเล็ก น้ำตาลลาย ให้พี่ชม เป็นคู่สม ชมชื่นใจ ให้แสนนาน
เพลินชมนก ตกใจวาบ ด้วยปลาบปลื้ม จนหลงลืม ชมไม้ ในไพรสันห์
มองร่มรื่น ชื่นฤดี ทุกวี่วัน ทุกครั้งผ่าน ไปมา ข้าเฝ้ามอง
ต้นไซปริส คริสตมาส จัดเป็นคู่ โชว์ใบหรู ดูสง่า อย่าผยอง
หรืองามเท่า ไม้บ้านข้า กาสะลอง เหมือนพี่น้อง ครองสวาท ไม่คลาดกัน
โอ๊คเมเปิ้ล เนินไหล่เขา เจ้ายืนต้น คงจะหล่น ล่วงใบ ปลายคิมหันต์
บ้านฝรั่ง สร้างไม่เว้น แต่ละวัน ถูกห้ำหั่น ตัดรอน ตอนอ่อนวัย
อัญชันแดง เต็งรัง สักประดู่ เคยมีอยู่ คู่สยาม งามไสว
แต่เดี๋ยวนี้ ถูกโจร โค่นบรรลัย ถึงปลูกใหม่ เล็กน้อย ไม่ค่อยพอ
แมโคว์ทรี สีชอุ่ม คู่กลุ่มสน โดนแดดฝน โชนสดสี ขจีช่อ
สู้ซัมเมอร์ มาเจอฟอล เหลือท่อนตอ แม้ต้นฝ่อ ใบสีสัน ตระการตา
เครฟมาโด้ เรดบัด สลัดพุ่ม รักสุมทุม ชอุ่มลาย ใบระย้า
ต้นอ่อนเยาว์ เขาแหนงหน่าย ไม่ทำยา แต่หน้าตา เจ้าไม่แพ้ แมโคว์ทรี
เฟิร์นกระถาง ช่างสวยสด งดงามหรู เคยหลบอยู่ เพียงพงป่า พนาสีห์
ริ้วสลวย สวยแห่งเจ้า เร้ายวนยี เจ้าจึงมี ที่อยู่ใหม่ ในบ้านเรือน
อ้อนกระถาง ระยางสาย สยายพุ่ม เขียวชอุ่ม นุ่มละไม ใครงามเหมือน
แม่รี่โกล์ด โชนดอกใกล้ ในครัวเรือน อยู่เป็นเพื่อน ข้าด้วย ช่วยแต่งกลอน
ข้าเรียกเจ้า ว่าดาวเรือง เหลืองสว่าง ซ่อนอยู่กลาง ใจข้า เป็นอนุสรณ์
เมื่อหมางหมอง ข้องขัดใด ในสุนทร บังเกิดกลอน แคล่วคล่อง มองดาวเรือง
ดอกไม้ใด ใหญ่น้อย ไม่ค่อยคิด ดอกสถิต ใจพี่ ต้องสีเหลือง
อันกลิ่นไอ ไม่สำคัญ นั้นดาวเรือง กำแพงเหลือง รั้วแดง มิแห้งโรย
วันทั้งวัน ฉันมองฟ้า ค้นหาเมฆ ไม่สมเสก ดังดวงใจ น่าไห้โหย
คืนวันพุธ สุดเย็นฉ่ำ น้ำค้างโปรย แผ่วลมโชย ยอดสน เวียนวนไกว
เยือกเย็นจริง ยิ่งกลางวัน บรรยากาศ แสนสะอาด ปราศละออง แลผ่องใส
วันสั่งลา แนสวิลล์ ถิ่นอุ่นไอ นีพาไป โอปารี่แลนด์ แดนนักทัวร์
เพื่อนของนี ชื่อนิดรอ จากฟลอริด้า เธอเข้ามา พักผ่อน พร้อมกับผัว
สองคนชิด สนิทใน ใจพันพัว ไปรับตัว ทัวร์กันที่ โอปารี่แลนด์
หลับสนิท ไม่คิดฝัน คืนวันท้าย เตรียมการไว้ เรียบร้อย คล้อยตามแผน
เจ้าแมงโก้ นั่งทับขา ข้าแทบแบน สุขใจแสน แดนสีสัน ผ่องพรรณราย
สโมคกี้เมาท์ บังเงาแสง สุรีย์ศรี สิ้นราตรี แสงวีนัส จรัสฉาย
ค่อยค่อยเลื่อม เรืองรอง ส่องประกาย รุ้งพร่างพราย สยายขจี วิศิรินทร์
สายสาดแสด แดดแดง เริ่มเด่นโดด งามสุโรจน์ เรืองนเรศ ทั่วเขตขินธ์
ผ่านปุยฟ้า ฝ่าละออง ส่องธานินทร์ เทพพรหมอินทร์ สัตว์พืชมนุษย์ สุดภิรมย์
วิหคกา ลารัง ถลาร่อน โผจากคอน ก่อนจะสาย เฉิดฉายโฉม
ระยิบระยับ จับนภา ระย้าโพยม เยือกเย็นลม ห่มด้วยฟ้า ยามลาไกล
สิ้นแสงทอง ส่องเมฆา ฝ่าโขดเขิน เป็นแสงเงิน แจ่มฟ้า จ้าไสว
สะท้อนเทือก สโมคกี้ สีนวลใย สลวยไศล ไพรพนา พร่างฟ้าบลู
สายสี่สิบ ลิบลับ ขับโลดแล่น บุกฝ่าแดน เทนเนสซี่ ที่งามหรู
ยาวตลอด กอดหุบไหล่ ไปบนภู ขนานคู่ สู่สม ยมนา
เชื่อมแปดหนึ่ง บึ่งขึ้นเหนือ เพื่อบลิซโทล มุ่งสตอล ต้นหกสี่ รี่เลี้ยวขวา
ชาล็อตวิลล์ ริชมอนด์ แรมรอนมา จนสุริยา คล้อยดวง แสงล่วงโรย
สิบชั่วโมง สี่สิบห้า เวลาสิ้น จากแนสวิลล์ ถึงริชมอนด์ ระอ่อนโหย
เรสแอเรีย เพลียเหนื่อยหาย พระพายโชย พอหายโหย เบรคฟัสต์ลันซ์ น้ำมันเต็ม
โชเฟอร์ฝรั่ง นั่งจ้อง มองถนน สองมือวน พวงมาลัย ไปตามเข็ม
ตามแซงสวน ตลอดสาย ใจอิ่มเอม ปลื้มปรีเปรม เกษมสนุก สุขสราญ
ทิ้งสโมคกี้ เมาท์เท่น เป็นเบื้องหลัง ส่งเส้นทาง แรมมา แอปปาลาช่าน
เสียบเทียมฟ้า ดังกาฬสินธุ์ ถิ่นภูพาน เด่นตระการ ชั้นเขาลาด เชิงฉัตรงาม
พักชมวิว ทิวลึกราบ แสนปลาบปลื้ม ไม่อาจลืม เชิงชัน อันวาบหวาม
ปลายสายตา ยังยลเงา ทิวเขางาม จวนใกล้ค่ำ จำต้องจร ริชมอนด์รอ
ปลื้มปิติ เวอร์จิเนียร์ หายเพลียสิ้น เข้าแกสกิ้น สปริงฟิลล์ ดังบินปร๋อ
เนื้อมัสมั่น มันย่อง เคี้ยวคล่องคอ น้ำลายสอ ขอไวน์ดอง ไว้รองพุง
มีแกงแถม แกรมชอบมาก ถูกปากด้วย สั่งติ๋มช่วย เตรียมทำ ต้มยำกุ้ง
โทรบอกย้ำ น้ำใส จะไปปรุง ข้าวให้หุง คอยท่า จะมากิน
พฤหัส ห้าโมงเย็น เห็นลูกหลาน หิ้วอาหาร หอมฟุ้ง จรุงกลิ่น
ลิฟวิ่งตัน ขวดใหญ่ ยกไวน์ริน กลับคืนถิ่น เคยอาศัย ในเวอร์จิเนียร์
มาคราวนี้ มีกรีนการ์ด บัตรอาศัย ไม่ต้องให้ ดิ้นรน จนปลกเปลี้ย
ถือกรีนการ์ด บัตรทุกอย่าง ต่างก็เคลียร์ ต้องทำเสีย ในคราวที่ รัชนีมา
ทำให้ฟรี มิต้องใช้ จ่ายสักเหรียญ บัตรโซเชียล เซคเคียวริตี้ มีไว้หนา
ธุรกรรม ทุกชนิด เมื่อคิดมา อเมริกา จะค้าขาย สบายแฮ
ภายในสอง สัปดาห์ ข้ารอรับ เขาส่งกลับ ตามแอดเดรส เสร็จแหงแก๋
คงไม่เหมือน บัตรเก่า เฝ้ากันแล เกือบโดยแฉ แย่เสียงจัง ให้นั่งทวง
รัชนี มีแผนบ่าย ไปรับริชช์ มาใกล้ชิด แนบดวงใจ แสนไห้ห่วง
ยาแก้ไอ ช่างร้ายกว่า ยาทั้งปวง ได้ผลพวง เสพย์ติด ชีวิตมัว
เจ้าริชเชิร์ด เกิดบ้านฉัน โรงพยาบาลกรุงเทพฯ กลับมาเสพย์ ติดยา น่าปวดหัว
อเมริกัน ช่วยเยียวยา รักษาชัวร์ ไปรับตัว กลัวจะขาด รวมญาติกัน
วันเสาร์เย็น เป็นดินเนอร์ เจอกันครบ ได้พร้อมพบ คณาญาติ ดังวาดฝัน
รัชนี มีผลพวง ห่วงติดพัน พัลวัน พัลเก ได้เฮฮา
รวมน้องพี่ สี่คนตาม สามฝรั่ง นับรวมทั้ง ของหนิงสี่ ชาตรีห้า
เจ้าแมงโก้ เทนเนสซี่ สี่รินนา พบพร้อมหน้า ยี่สิบสอง ห้องอัดแอ
ทั้งคาวหวาน อาหารฝรั่ง ตั้งเต็มโต๊ะ เจ้าแมงโก้ อิ่มเอม จนเปรมแปร้
เจ้าดีนซน วนปรื๋อปร๋อ ไม่งอแง มีเพียงแต่ เจ้าชอน ยังอ่อนเยาว์
ไร้คำตอบ ไม่สอบถาม ความรู้สึก เป็นเบื้องลึก สุนทรี รัชนีเขา
มองความสุข เห็นเพลิดเพลิน เกินคาดเดา แฝงด้วยเงา ที่เศร้าสร้อย ไม่น้อยเลย
เป็นการดี ที่ตั้งใจ ให้บังเกิด สิ่งประเสริฐ เลิศอย่างนี้ ดีกว่าเฉย
อันตัวข้า กับนงเยาว์ เฝ้าละเลย ต้องนิ่งเฉย ดูหลานรัก สามัคคี
เหมียวปิดบ้าน ทำงานค่ำ เย็นย่ำถึง วิชัยหนึ่ง เฝ้าสำนักงาน ฉันอยู่นี่
โอกาสร่วม รวมกัน นั้นพอมี แต่วันนี้ สั่งให้พราก จากพรพรหม
ไม่ปานเปรียบ เงียบหรือเหงา เศร้าหรือสุข สนุก ทุกข์ ข้ารับได้ ไม่สาสม
อันความดี ที่ทำไว้ แม้ได้ลม ตัดความตรม ข่มความเศร้า คือเราเอง
แกรมรัชนี มีธุระ พบปะญาติ ไม่ยอมพลาด กาลเวลา ท่าเขม็ง
เห็นจับปลาย ชนต้น อลเวง ใช้บรรเลง เพลงเครติท มีติดตัว
ไม่ขุ่นเคือง เรื่องลูกหลาน เสร็จงานสิ้น กลับแนสวิลล์ สบายใจ ไม่ปวดหัว
ออกจากนี่ ราวตีห้า ฟ้ายังมัว พร้อมเจ้าตัว แมงโก้ กลับโกโฮม
ทิ้งให้ข้า กับนงเยาว์ เฝ้าอพาร์ทเมนต์ ไม่จำเป็น ไปเหนื่อยหนัก หรือหักโหม
ถ้าท่องเที่ยว ทุกวัน จะพลันโทรม นั่งเขียนโพม ชมข่าว ชาวโลกา
ในบัดนี้ ที่อยู่ใหม่ อพาร์ทเมนต์ ซุกซ่อนเร้น หาความรู้ ในคูหา
ความเงียบเหงา เข้ามารุม สุมอุรา แต่ว่าข้า ไม่ยึดติด คิดคำนึง
พยายาม ทำจิตใจ ให้ปราศจาก การคิดมาก ไม่ล้วงลึก ไปนึกถึง
เรื่องก่อนเก่า เร่าร้อน ย้อนคำนึง ปล่อยตายนึ่ง ขึงอดีต มิดฝังไป
สูบเตียงลม ผ้าห่มนอน จัดหมอนม่าน นิวาสถาน พักอู่ อยู่อาศัย
เวอร์จิเนียร์ สปริงฟิลด์ ถิ่นแดนไกล จวนเจียนใกล้ ใบไม้ฟอล ริชมอนด์เย็น
สามสี่วัน สั่นหนาว ราววินเตอร์ เกือบได้เจอ ฤดูกาล ฉันอยากเห็น
ยี่สิบเอ็ด กันยายน เริ่มต้นเย็น ถือว่าเป็น ใบไม้หล่น จากต้นไป
แค่วันนี้ มีเมฆเลื่อน เกลื่อนท้องฟ้า แดดเคยจ้า ฟ้ากระจ่าง สว่างใส
แสงลางเลือน เหมือนสั่งฟ้า ฝนลาไกล เกิดอุ่นไอ ไม่หนาวเย็น เช่นเมื่อวาน
สามเดือนกว่า ที่ข้าออก นอกประเทศ ยูไนเตท สเตท นิเวศน์สถาน
มองดูเหมือน เมื่อตะกี้ มิช้านาน หนึ่งปีผ่าน วงการเมือง เรื่องในไทย
วันที่สิบเก้า กันยายน คนอึดอัด ปฏิวัติ จัดระบอบ ตีกรอบใหม่
ว่าโชคดี ปีห้าศูนย์ บุญของไทย ใครจัญไร ถ้าอยากรู้ คอยดูเอง
ยอมหันมา มองการเมือง เรื่องบัดสี เพราะตอนนี้ มีการข่าว เล่ามาเจ๋ง
เสียงขรม ถ่มน้ำลาย ลดกันเอง สื่อใดเก่ง ตะเบ็งแซ่ แห่เถิดเทิง
รัฐธรรมนูญ ศูนย์อำนาจ แห่งรัฐา ใส่ตะกร้า เขย่าน้ำ ยามยุ่งเหยิง
เสียงชาวบ้าน แตกแยก แหกกระเซิง เจอชั้นเชิง พวกหน้าด้าน จะพาลฮือ
พวกขี้โกง หน้าเก่า เขาโผล่หน้า พอปากอ้า เห็นลิ้นไก่ ยังไขสือ
ปูนที่ป้าย ไม่ทันแห้ง แกล้งกระพือ ว่าข้าคือ ผู้รักชาติ องอาจครัน
ทั้งหนุ่มแก่
แม่เล้า เข้ามาเพียบ บ้างเอาเทียบ เข้าไปเกย แล้วเย้ยหยัน
อีกไม่เกิน หนึ่งปี คงมีอัน จะต้องฟัน อีกหลายหน คนอัปรีย์
การเมืองไทย ไม่พ้นชั่ว มั่วกันนิ่ม ต้องหอกทิ่ม ตำไส้ ให้เป็นผี
ขุดต้นตอ คอรัปชั่น กันอีกที คนไทยดี มีอยู่มาก ขอฝากไทย
อยู่ริชมอนด์ นอนเป็นเบือ ไม่เบื่อหน่าย ตื่นก็สาย สบายเกิน เพลินไฉน
หวังมุ่งหน้า ภาษาอังกฤษ ฟิตยังไง แต่จิตใจ ไม่ยอมรับ หลับลูกเดียว
ตาสว่าง เป็นบางคืน นอนดื่นดึก ไม่เคยนึก เรื่องประหลาด หรือหวาดเสียว
คุยกับคอม ไม่ยอมเกม เต็มที่เทียว สู้เต็มเหนี่ยว หน่วงหนัก จึงพักนอน
หนึ่งสัปดาห์ อพาร์ทเมนต์ เริ่มเป็นที่ เซคเคียวริตี้ บัตรโซเชียล ได้เวียนร่อน
อเมริกา ผู้อาศัย ไม่อาวรณ์ คิดขั้นตอน ก่อนจะปลง ตกลงใจ
ถึงตอนนี้ มีอย่างเดียว เที่ยวไปก่อน เพราะทุนรอน ยังไม่รู้ ว่าอยู่ไหน
อยากหารถ ซื้อผ่อน ตะรอนไป เที่ยวให้ไกล หลายสเตท ยูเอสเอ
ย้อนมามอง ลองเขย่า กระเป๋าแห้ง แทบหมดแรง แม้แข็งใจ ยังไขว้เขว
ต้องมั่นมุ่ง พยุงไว้ อย่าให้เซ มัวลังเล กลัวเวลา จะช้าที
หลายสิบวัน นานนัก พักเสียหน่อย หยุดเรียงร้อย ถ้อยสุนทร อักษรศรี
เฝ้าเหตุแต่ง แปล่งแปลก แยกคดี จัดวาที สิ่งที่เห็น เป็นคำกลอน
เป็นเวลา สองเดือน เหมือนใจขาด กลอนนิราศ หยุดชะงัก เรียงอักษร
เวอร์จิเนียร์ อพาร์ทเมนต์ เป็นแหล่งนอน พักแต่งกลอน ไปสองเดือน เหมือนเลิกรา
ได้แต่บ่น จนแล้ว ไม่จนรอด เหมือนเรือจอด ผูกแท่น ไว้แน่นหนา
ไม่คล้อยเคลื่อน เลื่อนลอยลง ในคงคา สื่อภาษา เริ่มสุดแสน จะแคลนเคือง
จำต้องรีบ หยิบปากกา คว้ากระดาษ ตั้งใจวาด นิราศใหม่ ให้ต่อเนื่อง
จำต้องเริ่ม ใจไม่ห่าง ถึงต่างเมือง ยุคย้อนเรื่อง นำมาเล่า เข้าร้อยกรอง
เริ่มรำลึก นึกน้อมตาม ความรอบรู้ สุนทรภู่ ครูตัวอย่าง ชนทั้งผอง
ขอกลอนไกล หลากรื่น คืนเนืองนอง มันสมอง โปร่งปลอด ไม่ถอดใจ
ล่วงยี่สิบ พฤศจิ วันมีโชค ได้โฉลก รัชนี มีบ้านใหญ่
สามสิบล้าน สนนราคา น่าชื่นใจ ช่วยกันย้าย สิ่งของ กองพะเนิน
แกรมชาตรี เข้มแข็ง หัวแรงเรี่ยว สามสี่เที่ยว เทียวไปมา ฝ่าโขดเขิน
เช่ายูฮอลล์ ย้ายขน กันจนเพลิน เพียงจ่ายเงิน รายวัน น้ำมันเต็ม
ยี่สิบดอลล์ ก่อนมาเป็น เช่นวันนี้ รัชนี ใช้ชีวิต จิตข้นเข้ม
ลุเหตุการณ์ ผ่านแผน แสนกลเกม ปลื้มปรีเปรม เปรื่องปัญญา พามั่นคง
รู้จักก่อ พนอหนุน เจือจุนจิต สุจริต ตั้งใจ ไม่ไหลหลง
ยึดมั่นหมาย ใจมุ่ง ผดุงดำรง จุดประสงค์ จำนงใส ดังใจปอง
คฤหาสน์ หลังใหม่ ปลายชีวิต ได้สมคิด สมกมล คนทั้งสอง
รัชนีแกรม เชฟเปิร์ด บรรเจิดครอง ร่วมฉลอง บ้านใหม่ ด้วยใจจริง
ยี่สิบสอง พฤศจิกา มาแนสวิลล์ จังหวะกิน ไก่งวง แทงค์สกีฟวิ่ง
ซี่โครงหมู มันบด รสดีจริง แทงค์สกีฟวิ่ง จารึก บันทึกจำ
เพราะกินไก่ เจอเก๊าส์ เราจะแย่ ที่แน่แท้ ก็เพราะไก่ ใจถลำ
ทั้งหน่อไม้ ไวน์ด้วย ช่วยกันยำ จนนั่งค้ำ เข่างอ ไม่ขอเดิน
ตอนนั่งรถ ขดขา ฝ่าความหนาว ผ่านโขดเขา ลำเนาไพร ไศลเขิน
เทนเนสซี่ ครั้งที่สอง ไม่ต้องเดิน นั่งเพลิดเพลิน ใจร้อนเร่า หัวเข่าบวม
พฤศจิกา ยี่สิบสาม ยามแดดบ่าย เดินพอส่าย ได้บ้าง อย่างหละหลวม
ซ้ำไก่งวง แทนยา ถ้ากลับบวม คงจะอ่วม เสียคราวนี้ พลีใจยอม
จะว่าไป ไก่งวง ใช่ลวงหลอก อยากจะออก คำชม รสกลมกล่อม
เนื้อหนั่นอก ลำยอง ใช่ของปลอม ขอซะง่อม สองชิ้น กินเสียเลย
ตื่นนอนเช้า เฝ้าสังเกต อาเพศพิษ ไม่ออกฤทธิ์ เล่นงาน กลับพาลเฉย
แถมมันบด ซี่โครงหมู คู่กับเนย จบลงเอย แค่อิ่ม ได้ปริ่มเปรม
เทนเนสซี่ ยังมีฝน หล่นจากเมฆ สวรรค์เสก สรรสร้าง สุขเกษม
สิ่งสัมผัส คฤหาสน์ใหม่ ใจอิ่มเอม ได้เติมเต็ม สิ่งรู้ ดูเหตุการณ์
นอนเจ็ดวัน แนสวิลล์ ถิ่นเศรษฐี บ้านรัชนี หลังโต รโหฐาน
เห็นน้ำพุ กลางบึงน้ำ งามตระการ เทียมวิมาน โอฬาริก ฉีกแหวกแนว
ตื่นตอนเช้า ยืนงง ตรงหน้าต่าง ส่องสว่าง มองไกล ฟ้าใสแจ๋ว
เหนือยอดหญ้า เกล็ดน้ำแข็ง แสงพร่างแพรว ประกายแวว วูบวาบ กำซาบทรวง
หนาวยิ่งหนาว ซึมใน ใจชุ่มชื่น อุ่นระรื่น ชื่นฤทัย ไคล้แมนสรวง
เดินเลาะลัด สัมผัสหนาว เย็นร้าวทรวง หนาวเหน็บหน่วง หนีบแน่น แสนเย็นชา
ลุเจ็ดวัน ผันผาย ต้องไกลก่อน คงได้ย้อน อีกครั้ง ตั้งใจหา
เทนเนสซี่ ที่ได้ยล ต้องมนตรา ใช้เวลา เกือบหนึ่งวัน เพื่อสัญจร
ทางสายเส้น เทนเนสซี่ มีเมืองน็อกซ์ สวยไม่หยอก บ่งบอกงาม ตามเขิบขรณ์
ธัญพืช ยามผลัดใบ ไร้อาวรณ์ ลืมร้าวรอน ลาลำต้น หล่นลงดิน
ก่อนหล่นล่วง ยังห่วงใย ใบเปลี่ยนสี เหลืองแสดแดง สดดี ด้วยสีศิลป์
คลุมสิงขร ขุนเขา เคล้าธานินทร์ สุขชีวิน เกษมสันต์ วันได้ชม
ที่เกลาโกร๋น หล่นใบ ไม่เหลือหรอ คงแต่ตอ ก้านกิ่ง นิ่งขื่นขม
ยืนเหี่ยวแห้ง แล้งราก ตากแดดลม หนาวระทม ทุกข์ทน ต้นไร้ใบ
คนคิดสร้าง ภาพยนตร์ คนกับผี ฤดูนี้ ฉากถ่ายทำ งามไฉน
เงาพนา ป่าโปร่ง เตียนโล่งใบ มองรำไร โปร่งปรุ ทะลุตา
ไฮเวย์ทอด เคยบอดทาง บดบังมิด เคยปกปิด ด้วยสุมทุม กลุ่มพฤกษา
ใบเคยบัง ร้างสิ้นใบ ไม่บังตา เห็นหลังคา เรือนชาน บ้านชุกชุม
เฉียดพันไมล์ ทอดสายทาง ระหว่างรัฐ แลถนัด ศิวิลัย หลายแหล่งขุม
ยวดยานยนต์ ต้นไหลหลั่ง ดังชุมนุม โค้งลาดลุ่ม ไศลเขิน เนินพนา
เหน็ดเหนื่อยนัก พักเรสท์ แอเรียก่อน เพื่อพักผ่อน หย่อนความเพลีย ปรกเปลี้ยขา
ชวนกันเปิป เสิร์ฟอาหาร ซ่านโอชา คลายกายา ย่านชอปปิ้ง ทุกสิ่งมี
ยังได้ยล บนเส้นทาง ต่างพฤกษา คล้ายมายา คราผลัดใบ ไม้เปลี่ยนสี
ในวินเตอร์ เจอเยือกหนาว เร้าฤดี พันธุ์หลากสี สรรรู้สึก รำลึกจำ
ออกจากรถ บางคนบ่น ไม่ทนหนาว เส้นทางยาว กว่าจะถึง จึงจวนค่ำ
จราจรติด ทุกวีคเอนด์ เป็นประจำ ถึงบ้านค่ำ เวอร์จิเนียร์ หายเพลียกาย
จะต้องเหย้า เฝ้าอยู่ ในยูเอส ด้วยสาเหตุ จะสะสาง เส้นทางสาย
ขาดยวดยาน จำเฝ้าโยง โล่งสบาย คิดอยากได้ รถสักคัน ไว้สัญจร
ที่เวอร์จิเนียร์ ต้องทำใหม่ ใบขับขี่ ยังไม่มี ไม่ให้ขับ จับถ่ายถอน
จำต้องสอบ เพื่อโล่งใจ ไร้อาวรณ์ หยุดก่อนกลอน เปิดตำรา ตั้งท่าทาง
กอดหนังสือ ถือร่อน บ้างนอนอ่าน คิดสอบผ่าน อ่านวกวน จนสว่าง
แทรฟฟิคไซน์ เครื่องหมายชี้ ที่บอกทาง จราจรกลาง ออกกำหนด เป็นบทเรียน
ยิ่งลำบาก ยากจริง ก็ยิ่งฟิต ภาษาอังกฤษ อ่อนทั้งอ่าน และการเขียน
เปิดจนดิกส์ พลิกไปมา ระอาเอียน เลยร่ำเรียน ภาษาด้วย ช่วยปัญญา
ดีเอ็มวี ปฏิเสธ ไม่ให้สอบ เพราะไม่ชอบ ด้วยที่อยู่ อู่เคหา
แกล้งลักไก่ ไปทดลอง สองครั้งครา ฟาวล์กลับมา ทั้งสองครั้ง แทบคลั่งใจ
เขาต้องการ แน่นอน แหล่งพำนัก ว่าฉันพัก เลขที่บ้าน สถานไหน
ธนาคาร สเตทเมนท์ เซ็นยันไป เขาจะให้ มีสิทธิ์สอบ ดูชอบกล
ความโชคดี ทีเดียว ก็สอบได้ ไม่สอบใหม่ หลายที สี่ห้าหน
เป็นการฝึก ประลอง สมองตน ยังพอทน เพียงหนึ่งรอบ สอบคนเดียว
เมินตัวช่วย มาแชร์ แปลคำถาม ไม่ต้องล่าม หันหลังชน ทนสู้เดี่ยว
ถ้าสอบตก ก็สอบใหม่ ไปคนเดียว ที่หวาดเสียว เพราะอังกฤษ ฟิตไม่ดี
รับเลินเนอร์ เพอมิท มีสิทธิ์ขับ นั่งกำกับ มีคู่ไป ใบขับขี่
สามสิบวัน สอบถนน วนอีกที ใบขับขี่ จึงจะได้ เป็นใบจริง
หลังที่หนึ่ง มกรา จะมาสอบ พาวนรอบ เวอร์จิเนียร์ ให้เนี๊ยบหนิง
สอบทักษะ ยานยนต์ ถนนจริง ถ้าขับซิ่ง อาจสอบซ่อม ก็ยอมยิน
อเมริกา มาคราวนี้ มีบัตรครบ ถือว่าจบ ภาคหนึ่ง จึงผายผิน
กำหนดกลับ ไทยแลนด์ คืนแผ่นดิน จองเที่ยวบิน เตรียมตัว ตั๋วคอนเฟิร์ม
ระหว่างอยู่ ริชมอนด์ เดินวอลมาร์ท เหมือนตลาด ตุนของใช้ เอาไว้เสริม
ของใหม่สด ลดราคา มาเพิ่มเติม แกล้งเดินเฉิ่ม มองสำรวจ ดูตรวจตรา
ทั้งของกิน ทั้งของใช้ เต็มในร้าน รถเต็มลาน เดินไม่เบื่อ ซื้อเสื้อผ้า
เล็งของถูก เมินของแพง แข่งราคา ซื้อจ่ายมา พอหมดเงิน ก็เพลินใจ
เมียงมองมอล์ จ่อจ้อง มองกระเป๋า ยวนยั่วเย้า เยอะแยะ แตะไม่ไหว
สินค้านอก เขียนบอกแบรนด์ ต้องแค่นใจ อยากจับจ่าย ใช้ส่วนตัว ก็กลัวจน
เห็นห้างร้าน ดารดื่น ต้องยืนนึก สักกี่ปึก ดอลล่าร์ รถมาขน
ดูไทยจีน ฝรั่งแขก แปลกพิกล เห็นแต่คน ซื้อของ กองพะเรอ
รอสเบสท์บาย โคร์ไดเลิดส์ เซียร์เมซี่ โอลเนวี่ คอสโก้ และโครเกอร์
ออกร้านนี้ ปรี่ร้านนั้น ก็พลันเจอ ก้มเผยอ ปากกระเป๋า เศร้าอารมณ์
ลุคอราวด์ กระเป๋าเหี่ยว เดี๋ยวเดียวจอด ดิกซ์สปอร์ต อยากจะได้ ก็ไม่สม
ยืนเล็งของ สองสามอย่าง ต่างเดินชม จบไม่จม จืดจาง เลยนั่งมอง
เดินดูคน วนดูรถ จนหมดวีค กระเป๋าฉีก น้ำลายไหล ไม่ได้ของ
ซื้อของฝาก นิดหน่อย ค่อยเมียงมอง จดจ่อจ้อง มองราคา เบือนหน้าวาง
วันอาทิตย์ ตั้งจิตไว้ ไปเอาท์เล็ต ขอสังเกต สินค้าแบรนด์ ไว้ใช้บ้าง
วิลเลี่ยมเบิร์ก หนทางไกล ไปตามทาง เตรียมสตางค์ ซื้อฝากลูก คงถูกใจ
ไปมาแล้ว ครั้งหนึ่ง จึงรู้ที่ ไปคราวนี้ ขอขยับ ขับรถให้
อยากคุ้นเคย คุมเครื่องยนต์ หนทางไกล หาของใช้ มีระดับ กลับไปชม
สนทนา อินเทอเน็ต เกร็ดความรู้ เหมียวให้ดู สิ่งต้องการ อันเลอโฉม
เด็กวัยรุ่น ชอบใช้แบรนด์ แสนนิยม เลือกให้สม ใจลูก ถูกใจเธอ
บรรยากาศ ริชมอนด์ ในตอนนี้ หนาวฤดี ตามฤดู ผู้ใดเผลอ
ลืมเสื้อหนาว เมื่อใด อาจได้เจอ ร้องละเมอ ในคราวนั้น สั่นทั้งตัว
ทั้งหนาวลม หนาวฟ้า พากันหนาว ต้องเสื้อยาว กลัดกระดุม หมอกคลุมหัว
อยู่ในบ้าน เปิดฮีทเตอร์ อย่าเผลอตัว ข้าไม่กลัว ความหนาว คราวเหมันต์
อเมริกา ข้าอาศัย ในสเตท เดือนที่เจ็ด นับแต่มา คราคิมหันต์
ธรรมชาติ เปลี่ยนไป ไม่เว้นวัน พืชไม้พันธุ์ เปลี่ยนแปลง ตกแต่งใบ
วันที่ห้า ธันวาคม บรมชนก หิมะตก พราวพรั่ง นั่งสั่นไหว
สามชั่วโมง ขาวจ๋อง ดังยองใย ยอดหญ้าใบ ไม้ขาว ผ่องพราวตา
หนาวอะไร จะเท่า เหมือนหนาวเยือก มีสิทธิ์เลือก ที่อยู่ อู่เคหา
จะขออยู่ ใกล้น้อง ละอองตา จะได้พา เนื้ออุ่น ละมุนละไม
มานั่งชม ถิ่นฐาน ดูบ้านช่อง ชวนขึ้นล่อง มองนกกา ที่อาศัย
บินหนีหนาว มาจากเหนือ เพื่ออุ่นไอ ล่องลงใต้ หาที่ซุก หนีทุกข์ทน
ได้มาเจอ เวอร์จิเนียร์ นับว่าหนาว ยามร้อนผ่าว
แทบจะพอง สยองขน
อุบัติภัย ไม่ร้ายกาจ อาจพอทน มาเยี่ยมยล ธรรมชาติ จัดว่างาม
ข่ายถนน หนทาง เขาวางแบบ มิคับแคบ รับปวงชน ไว้ล้นหลาม
จะลงทุน ธุรกิจ ต้องติดตาม มีเรือนราม อาศัย ให้ร่มเย็น
บริการ งานรัฐ ที่จัดให้ แหล่งหย่อนใจ ไม่มีขาด จัดให้เห็น
เคยเข้าไป ริชมอนด์ ตอนบ่ายเย็น การละเล่น หลากหลาย มีให้ดู
เช่นบ้านเรา ออกร้าน ตอนงานวัด สเตทรัฐ จัดให้ ไม่อดสู
งานดนตรี งานเกษตร สังเกตดู ให้ความรู้ ความบันเทิง รื่นเริงรมย์
ย่านพักผ่อน หย่อนหยุด บูชกาเดนท์ มีเครื่องเล่น รอไว้ ได้เหมาะสม
ผู้ใหญ่เด็ก ทุกเพศวัย ได้ใช้ชม สิ่งเริงรมย์ ยั่วยวน ชวนสนใจ
สะดวกกิน สะดวกใช้ ไม่ขัดสน มีให้ยล
พึ่งพา ได้อาศัย
อาหารฝรั่ง ญวนเขมร สเปนไทย มะกันใต้ นิโกรแมกซ์ แขกอินเดีย
ตุนอาหาร คอสโก้ โกรเซอรี่ เต็มแปร้ปรี่ หลายชุด ไม่บูดเสีย
ข้าเลยเก่ง เรื่องแกง เพราะแรงเชียร์ เวอร์จิเนียร์ คงไม่จบ เรียนครบครัน
อพาร์ทเมนต์ สปริงฟิลด์ ถิ่นอาศัย ติ๋มกับเป๋อ ต้องไป ทำไทสัน
โรงงานไก่ การันตี อเมริกัน ยืนทั้งวัน รับเงิน ก็เพลินดี
อาทิตย์เสาร์ เขาหยุดพัก พำนักผ่อน ถ้าถึงตอน โอเวอร์ไทม์ ได้มันนี่
เทนดอลล่าร์ เปอร์ชั่วโมง โล่งใจดี เมคมันนี่ จ่ายค่าบ้าน พาลระอา
อเมริกัน ผันเงินคล่อง ไม่ต้องหวั่น ถ้าเป็นบ้าน เมืองเรา เขาอิจฉา
ทนเอาหน่อย ค่อยค่อยทำ คลำเงินตรา อเมริกา อนาคต สดใสจริง
ต้องตั้งใจ ใช้ภาษา เวลาว่าง สนใจบ้าง ช่างสังเกต ทุกเหตุสิ่ง
นำออกใช้ ไม่ต้องกลัว มั่วระวิง อาจเจอสิ่ง ไม่คาดฝัน เข้าวันนึง
เกิดเป็นคน ควรทนไป ใจต้องสู้ เรื่องความรู้ คือสิ่งดี เป็นที่พึ่ง
จิตแห่งตน ทนหวาดหวั่น อย่าพรั่นพรึง สิ่งลึกซึ้ง คือใจตน อย่าจนใจ
ยังเสียดาย ใจของข้า ถ้ายังหนุ่ม ยังกระชุ่ม กระชวย คงรวยได้
ณ บัดนี้ ของแน่ คือแก่ไป เงินรีไทร์ ใช้สำรอง ประคองตน
แม้นจิตใจ ใต้สำนึก รู้สึกอยู่ แค่อยากรู้ เรียนไป คงไร้ผล
ยังจำต้อง ใฝ่หา มาสู่ตน เพราะเป็นคน สนใจ อยากใคร่เรียน
กลับคืนเหย้า ในคราวนี้ มีจุดหมาย เรื่องทั้งหลาย ที่คายคราง ถางให้เฮี่ยน
สังคายนา โปร่งใส ให้โล่งเตียน กลับมาเรียน อังกฤษ ฟิตดีดี
หาตำรา ตำรับ จับขึ้นอ่าน น่ารำคาญ ตัวข้า เบือนหน้าหนี
แหล่งความรู้ อู่วิชา บรรดามี ลองอีกที คงได้อ่าน สำราญใจ
การเมืองไทย ใกล้วัน จะผันเปลี่ยน มีหมุนเวียน นักปกครอง ลองกันใหม่
ยี่สิบสาม เดือนธันวา พาแห่ไป พวกพ้องใคร ไม่ต้องฟัง เลือกตั้งมา
โค้งสุดท้าย ไก่จะขัน วันหมาหอน พวกปากบอน ปากนักเลง ตะเบ็งด่า
กลิ่นน้ำลาย ไหลท่วมทุ่ง คลุ้งพารา หว่านเงินตรา ปลิวว่อน ก่อนโกงกิน
อันตัวข้า ตั้งใจ ไปเลือกตั้ง แต่ถูกยั้ง หมดสิทธิ์ คิดหันหิน
เวอร์จิเนียร์ เสียตัว ตั๋วเครื่องบิน ต้องเสียสิ้น สิทธิ์ไป ไม่ได้ความ
บอกลูกสาว เข้าไปแจ้ง ที่แหล่งเขต ต่างประเทศ กลับไม่ทัน ดั้นสยาม
อย่าถือโทษ โกรธเลยหนา อย่าเอาความ ใครก็ตาม เลือกเข้ามา ข้าอยากดู
อย่าหลงเลือก ตัวมาร ผลาญสะบัด อย่าให้สัตว์ ครองเมือง เรื่องอดสู
ทั้งคนชั่ว ตัวอัปรีย์ มีให้ดู อาจหดหู่ เหี่ยวแห้ง แย่งกันโกง
เจอวงจร ตอนอุบาทว์ ชาติย่อยยับ เดี๋ยวต้องปรับ แปรงปรุง ยุ่งตายโหง
สิ้นสมัย ตายเสียที ไอ้ขี้โกง อ้างว่าโปร่ง ใสแจ๋ว แล้วบดบัง
ออกเตร็ดเตร่ อเมริกา ที่มาเห็น ยกสิ่งเร้น มาวิเคราะห์ เจาะความหวัง
มองประเทศ เขาเจริญ เพลินภวังค์ นำตัวอย่าง แนวความคิด ติดปัญญา
มองสังคม การเมือง เรื่องเศรษฐกิจ เกิดความคิด สะกิดใจ ไว้นักหนา
ประชากร อเมริกัน ฉันเห็นมา สบายอุรา ค่อนข้างสุข ไม่ทุกข์ทน
เขาลำบาก ไปอีกแบบ แทบไม่เห็น ทุกแห่งเป็น ธรรมชาติ ไม่ขัดสน
มีงานทำ แม้ลำบาก ไม่ยากจน ว่ายเวียนวน ในวัฏจักร ที่รักดี
หาเงินง่าย จ่ายเงินคล่อง ไม่ต้องทุกข์ หาความสุข ตามเหตุการณ์ สถานที่
ไอ้ที่ชั่ว มั่วซกมก ก็มากมี แต่ว่าดี กว่าขี้โกง ปลอดโปร่งใจ
ถึงยังไง ใช่จะเบือน เลือนถิ่นฐาน ข้ากลับบ้าน สี่เดือนหน้า จะมาใหม่
ภาวนา ให้รัฐบาล บริหารไทย คิดกันใหม่ ทำให้ดี สักทีเทอญ
เวอร์จิเนียร์ หนาวเหน็บ เก็บข้าวของ เตรียมสั่งจอง ที่นั่ง จำห่างเหิน
เกาะนิปปอน ร่อนถลา พาไปเดิน หลับให้เพลิน ไปสู่ฝัน สุวรรณภูมิ
ต้องไปพบ ประสพใหม่ ในเบื้องหลัง เรื่องบางอย่าง ก่อนเก่า ร้อนเร่าสุม
กลับไปดับ รับหน้าที่ หนีไฟรุม เพื่อครอบคลุม สภาพการณ์ งานส่วนตัว
สิ่งคั่งค้าง สางเสียที ทั้งหนี้สิน เรื่องที่ดิน เรื่องบ้าน พาลปวดหัว
ต้องแก้ไข ให้เหลือน้อย ค่อยเบาตัว ไปพันพัว ผูกไว้ ด้วยใจดี
นี่กลางเดือน ธันวา เข้ามาแล้ว ยังผ่องแผ้ว ในริชมอนด์ ไม่หมองศรี
ที่อยู่ได้ เพราะใจปลง ประสงค์ดี ทางชีวี เรียบง่าย สบายอุรา
สปริงฟิลด์ กินไม่เปลือง เรื่องอาหาร อยู่วันวัน อ่านหนังสือ ถือกระจ่า
มักลืมกลืน ฝืนไม่ไหว กลัวถ่ายยา ออกวังชา สม่ำเสมอ กลัวเจอเซ
แทบตะลึง ถึงกระนั้น ฉันยังพลาด น่าประหลาด มัวไปหลง ดงโรเซ่
แถมหน่อไม้ ไก่ย่าง ต่างประเด เกือบลงเปล โยกเยก กระเผลกเดิน
และครั้งนี้ ยิ่งยวด ปวดเข่าซ้าย กว่าจะหาย ใช้เวลา มานานเนิ่น
อยู่กับที่ มีเวลา มาเผชิญ อ่านเพลิดเพลิน ดูหนัง นั่งเล่นเกม
เฝ้าสังเกต มวลแมกไม้ ที่ใกล้แฟลต เขียวเหลืองแสด แดงดำ น้ำตาลเข้ม
ถูกลมฉุด หลุดล่วงใบ ใต้ต้นเต็ม เป็นปุ๋ยเปรม ปีหน้า คราสปริง
ดูต้นไม้ แต่ใบเขียว จนเหี่ยวโกร๋น เหมือนดังโดน วิญญาณป่า มาสู่สิง
ยิ่งความหนาว เหน็บช้ำ คงช้ำจริง บางครั้งนิ่ง หู่หด หมดอาลัย
คนข้างหลัง ยังห่วงฉัน กันหรือเปล่า ที่บ้านเรา จะหนาวเย็น เป็นไฉน
อุ่นอกชื่น ตื่นขึ้นมา ครั้งคราใด เพียงอยู่ใกล้ ในความฝัน ฉันก็พอ
ทิ้งเพื่อนพ้อง น้องพี่ ที่ไกลโพ้น มีใครบ่น คิดถึงบ้าง กระมังหนอ
สักกี่คน ก็ไม่รู้ ผู้เฝ้ารอ ใจจดจ่อ รอกุมภา มาพบกัน
ทั้งข่าวดี ข่าวร้าย ได้จากเพื่อน มาย้ำเตือน ย้ำคิด ติดใจฉัน
คุณมนัส จัดสไคป์ ไปคุยกัน เห็นทุกวัน ดังอยู่ใกล้ ไม่ไกลเลย
เสาร์อาทิตย์ ผ่านมา ข้าขับรถ ความใสสด รถไปกลับ ยังขับเฉย
ซ้อมมือบ้าง บนทางไกล ให้คุ้นเคย หากเฉยเมย เลยจะเรื้อ เมื่อขับจริง
สังเกตป้าย ใช้สปีด ลิมิทบ่ง ถนนโค้ง เส้นทางคด ดูรถซิ่ง
เกือบทุกคัน ขับผิดกฎ กำหนดจริง เหยียบรถวิ่ง เกินลิมิท ผิดกฎเกณฑ์
ถึงนอร์ฟอคส์ ผ่านแฮมตัน ยันเวอร์จิเนียร์บิช ไปให้ชิด ชายทะเล ขับรถเล่น
เห็นโรงแรม ว่างเปล่า ด้วยหนาวเย็น คลื่นกระเซ็น ซู่ซ่าน ต้านแรงลม
อุโมงค์ลอด ทะเลผ่าน สะพานข้าม ความเร็วห้าม ห้าสิบ ดูเหมาะสม
สองฟากฝั่ง ไปมา คมนาคม ต้องชื่นชม งานสร้าง ทางสัญจร
เจ้าติ๋มนั่ง ข้างฉันขับ ขยับกล้อง เจ้าเป๋อจ้อง ส่องถ่ายวิว ทิวสลอน
ส่วนเจ้าต๋อย พลอยสนุก ทุกขั้นตอน สิ้นอาวรณ์ จรมาพบ ประสบการณ์
กลับทางเก่า แวะเอาท์เลท วิลเลี่ยมเบิร์ก ซื้อไม่เลิก เบิกดอลล่าร์ มาเผาผลาญ
ถูกหรือแพง แดงเข้าไว้ ไม่ประมาณ ซื้อกลับบ้าน เป็นของฝาก จากน้ำใจ
เงินมีน้อย ค่อยระวัง กลัวครางโอด ยี่ห้อโค้ช โดดเด่น เช่นไฉน
ของฝากลูก จะถูกแพง ต้องแข็งใจ ซื้อจนได้ จ่ายดอลล่าร์ ไม่ว่ากัน
เห็นยี่ห้อ ยูเอส เมดไชน่า สู้ราคา ถ้าได้ซื้อ คือสวรรค์
คุณภาพ คงโอเค อเมริกัน มาตรฐาน ประกันได้ ต้องจ่ายเงิน
เดินภายนอก ออกหนาว เข้าในอุ่น ไปเดินหมุน เกาะแกะ แก้เคอะเขิน
ชมสินค้า หลากหลาย ไปจนเพลิน พากันเดิน ตลอดแนว ทั่วแถวทิว
เนื้อหมูทอด กระเทียมเจียว ข้าวเหนียวปั้น นึ่งจากบ้าน กระติ๊บใหญ่ ไว้แก้หิว
มื้อกลางวัน ยันมื้อเย็น พล่องเป็นซิว ของกินหิ้ว ใส่ถุง พะรุงพะรัง
ฤดูนี้ เวอร์จิเนียร์ ต้องสู้หนาว คอยดูข่าว อากาศไว้ ไม่ผิดหวัง
หิมะถล่ม จมตอนเหนือ เหลือกำลัง คอยระวัง วี.เอ.สเตท สังเกตการณ์
เห็นพฤกษา ไร้ใบ ใจเหี่ยวห่อ ระหว่างรอ แต่งกลอน ก่อนกลับบ้าน
ไม่มากนัก สักร้อยหน้า ถ้าประมาณ คนได้อ่าน คงศึกษา ข้ารำพัน
รอสัมผัส อากาศดี ที่เมืองนอก จำคำบอก อย่าไปลับ กลับบ้านฉัน
ใช้ชีวิต เปลืองจิตใจ ไปวันวัน เหมือนดังฝัน ยามตื่น ทั้งชื่นตรม
วัฒนา กับชาณุ อยู่ไทสัน กลับถึงบ้าน คุยโว โม้ขรม
ดูแลกาย ให้สดชื่น รื่นอารมณ์ ไทสันชม เขาทั้งสอง คล่องแคล่วดี
บางวันเล่า สาวเรื่อง โกรธเคืองแค้น ที่เก็บแน่น ฝังใจ ให้หมองศรี
ทั้งตลก ขบขัน ทุกวันมี ถ้อยพาที กรอกหู สู่กันฟัง
ตีห้าครึ่ง บึ่งจากบ้าน ผ่านไปรับ ไปและกลับ รับใส่รถ นั่งตอนหลัง
พอสิ้นวีค รับโบนัส จัดสตางค์ มิติดค้าง สามสิบดอลล์ ก่อนเช็คบิล
เจ๊คนนี้ ที่รับส่ง แซ่โล้งเล้ง เสียงตะเบ็ง เซ็งแซ่ เชียวแม่หลิน
ทำไทสัน นับสิบปี พอมีกิน แต่นางหลิน ไม่มีรถ หมดหนทาง
ยืนตัดไก่ ปลายโบนส์ โยนลงกล่อง โดยไม่ต้อง เสียเหงื่อ เพื่อถากถาง
บางวันเกิด เมื่อยน่อง ร้องโอดคราง ทั้งลูกจ้าง และนายจ้าง ต่างยินดี
ทุกพฤหัส มัดดอลล่าร์ มาจับจ่าย น่าเสียดาย ค่าเช่าบ้าน พาลหมองศรี
ถ้ารูดการ์ด ประหยัดหน่อย ค่อยดูดี สะดวกที่ สภาพคล่อง ไม่ต้องกลัว
เขาเอ่ยนาม ทั้งดำขาว มากล่าวบอก มาจากนอก ใกล้ไกล เรียกให้มั่ว
เจ้าล็อกเกอร์ ยิ่งน่าขำ ดำทั้งตัว ตีนถึงหัว ตัวสูงยาว ชาวซูดาน
มีแก่สาว ลาวเขมร บ้างเป็นใบ้ ทุกวันไป มีเรื่องเล่า มากล่าวขาน
โจ้ตยูนิท ซุปเปอร์ไวส์ คุมใกล้งาน สนุกสนาน ทุกพฤหัส ฟัดค่าแรง
ส่วนเดวิด ฟิตทั้งงาน การศึกษา อีกปีกว่า จบพยาบาล ทำงานแข็ง
รับเงินเดือน เฟิสต์สตาร์ด จัดว่าแพง คงจะแกร่ง การอาชีพ รีบตักตวง
อยู่ด้วยกัน ฉันดูแล ให้แกด้วย ยังต้องช่วย ค่าศึกษา น่าเป็นห่วง
เจ้าริชชาร์ด ย้ายมาใกล้ ได้ผลพวง ยังน่าห่วง อยู่นัก เรื่องดรั๊กสโตร์
มาได้เมีย มาริซ่า น่าตาสวย แต่ต้องช่วย ลดน้ำหนัก อึกอักโข
ใช่คนท้อง แต่ต้องคุม อุ้มแตงโม ตัวแกโต ก็โอเค อย่าเกรวน
ส่วนชาตรี มีแม่ยาย ไปเลี้ยงลูก คงคิดถูก คิดดี ไม่มีหวน
อันจะย้าย ไปเทนเนสซี่ แม่นีชวน กระอักอ่วน หรืออึดอัด ต้องวัดดวง
เจ้ารินนา เจ็บหนัก กระอักอ่วน เกิดตีรวน กับไทสัน ฉันชักห่วง
ความเจ็บปวด อันเหลือทน เกิดผลพวง หมอไม่ล่วง รู้ได้ ใช้ยาดี
ไม่น่าแปลก แม็กกับพู ดูแลให้ บรรเทาได้ ในหมู่ลาว เขาอีหลี
กิจวัตร จัดระเบียบ ประเพณี จัดบายศรี สู่ขวัญ พันข้อมือ
ยี่สิบสอง ในวันเสาร์ ลาวมีบัตร มาเชิญนัด ชวนไทยเรา เขานับถือ
บ้านสีพวน ชวนฉันไป ผูกไม้มือ คนนับถือ คือพี่เชื้อ เมื่อเวลคัม
ประเพณี มีไฉน ดูไม่ออก เราบ้านนอก ยิ่งไม่รู้ ดูน่าขำ
ข้าไปรบ ลาวมาแล้ว ไม่แคล้วจำ วีรกรรม เมืองลาว เว้าว่าดี
ติ๋มกับเป๋อ ไม่อยากไป ให้เกะกะ หาจังหวะ เตรียมชิง จะชิ่งหนี
ไปนิวยอร์ค ดาวน์ทาวน์ ดูเข้าที แต่กลัวมี หิมะ ชะหนาวเย็น
จะไปไหน ไปกัน ฉันไม่ว่า เรื่องรถรา ช่วยขับได้ ไม่ยากเข็ญ
ถึงมกรา ไปขยับ ว่าขับเป็น มีไดร์พเวอร์ ไรเซ่น เป็นเดิมพัน
แต่หมู่นี้ ลืมสนิท ฟิตฝรั่ง ยิ่งยามว่าง ยิ่งขี้เกียจ มักเดียดฉันท์
มาเมืองนอก คราวหน้า จะฟังมัน ขอผลัดวัน ประกันพรุ่ง อย่ายุ่งใจ
ก็ได้คำ ลืมสอง น่าหมองหม่น รู้สึกตน มากอยู่ อายุไข
เพียงยังดี อยู่นิด ที่คิดไกล ถึงยังไง ภาษาแย่ ด้วยแก่เกิน
ร้อนก็เก๊าส์ หนาวก็หวัด ฟัดจนน่วม ระอาอ่วม ล้มแล้วลุก เมื่อฉุกเฉิน
เจอเครื่องใน ไก่ย่าง นั่งเพลิดเพลิน เดี๋ยวเดียวเดิน ไม่ไหว ไม้ค้ำยัน
แค่วันนี้ มีความพร้อม ไม่ยอมพลาด เดินวอลมาร์ท หาของ ต้องเลือกสรร
มีออเดอร์ ฟรอมไทแลนด์ ส่งแผนงาน อเมริกัน ยี่ห้อดี เคเอ็นวาย
เดินเลาะโลว์ โผล่เมวี่ เบบี้รัสท์ มองผาดผาด ราคาแรง แพงเหลือหลาย
ยี่ห้อดัง ของต้องดี มีลวดลาย หยุดชั่งใจ ไว้สักนิด ก่อนคิดปลง
ยามอยู่ว่าง หวังอยากรวย หวยโครเกอร์ เลือกแต่เบอร์ เฉียดใกล้ ชักไหลหลง
คว้ามาขูด รูดขยับ กลับงวยงง มีแต่ลง ไม่มีขึ้น ยิ่งฝืนตรม
คิดถึงเมือง สองแคว แม้ไกลห่าง ปักหลักวาง ฐานไว้ ได้เสกสม
ชุบชีวี เป็นที่อยู่ อู่ชื่นชม ปิงวังยม น่านฟ้า ข้าคำนึง
คิดทุกครั้ง คราใด ใจเคารพ ขอน้อมนบ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ คงคิดถึง
นเรศวร พระเอกา ฝังตราตรึง เป็นที่พึ่ง ซึ้งดวงใจ ไม่คลายคลอน
หลวงพ่อพุทธ ชินราช สุดงามเลิศ หล้าบรรเจิด ประเสริบสุข สโมสร
เมื่อโอกาส ตอนกลับไทย ไปขอพร เบิกอมร แจ่มฟ้า ให้ข้าที
วอนหลวงพ่อ โสธร องค์ศักดิ์สิทธิ์ โปรดเนรมิตร เปล่งพลัง แผ่รังษี
เรื่องไหนร้าย หายลับ กลับกลายดี สมราศรี ได้โฉลก โชคอำนวย
เป็นวันเสาร์ สิบโมงกว่า มาอู่ฟอร์ด สตรีทบรอด จอดรถ คันสดสวย
ปกติฟอร์ด อเมริกา น่าจะรวย ได้ตัวช่วย แต่กลับช้ำ ซ้ำแย่ลง
ช่างชาตรี กุลีกุจอ ขอโชว์ชี้ บอกว่านี่ เป็นสิ่งของ และห้องโถง
เก็บรายได้ ซ่อมดีเซล เป็นชั่วโมง ยังอยู่โยง ยึดอาชีพ รีบตักตวง
หลังเช็ดรถ เรียบร้อย ค่อยค่อยขับ นำรถกลับ
สบายใจ ด้วยหายห่วง
ถ้ารถดี ย่อมไปไกล ไม่เสี่ยงดวง อันจะห่วง คือจะไป เที่ยวไหนดี
ไทสันไก่ ให้ติ๋มเป๋อ เจอวันหยุด เริ่มวันพุธ ทำงานใหม่ นับได้สี่
ทัวร์นิวยอร์ค เอาไหม เป็นไรมี นิวเจอซี่ เป็นที่หมาย ตั้งใจเรา
เป๋อจัดการ อาหารเพียบ จนเรียบร้อย มีไม่น้อย ทยอยกอง สองกระเป๋า
ผ้าห่มนอน นำไปด้วย ช่วยแบ่งเบา บรรเทาหนาว หากนอนรถ งดโมเต็ล
สี่คนไทย ใหม่เอี่ยมอ่อง จะท่องทริป ไปไกลลิบ โดยลำพัง หวังจะเห็น
เงินมีนับ ขับรถดี อ่านแผนที่เป็น ร้อนเหนาวเย็น ฝนหิมะ ก็จะไป
ส่วนตัวข้า อยากพาน้อง ท่องนิวยอร์ค มาเมืองนอก ทั้งที ดีไฉน
หยุดคริสตมาส โอกาสทอง ผ่องอำไพ ขับรถให้ ไปค้นหา ประสบการณ์
ยี่สิบสาม เดือนธันวา เช้าอาทิตย์ รถเครื่องติด น้ำมันเต็ม เกษมศานต์
เคลื่อนฝ่าฟ๊อก หมอกหนาแน่น ต้องแล่นคลาน ออกจากบ้าน อพาร์ทเม้นต์ สปริงค์ฟิลด์
ตั้งใจดิ่ว สู่นิวยอร์ค ออกถนน เห็นยานยนต์ แลยวดยาน ฉันถวิล
สายเก้าห้า ฝ่าอีสาณ ปานไก่บิน ไปเยือนถิ่น แอตเลนติค ตอนวีคเอน
วอชิงตัน ดีซี มีหลายแยก ตีรถแหวก แยกแมรี่แลนด์ อย่างแสนเข็ญ
บัลติมอร์ มองดูป้าย ใจเยือกเย็น ไม่ค่อยเห็น เพราะเม็ดฝน หล่นมาบัง
แต่ละคัน เคี่ยนขับจี๋ หนีนรก ปาดกระจก ยกไฟเลี้ยว เสียวรถหลัง
ท่องคาถา หลวงพ่อคง จงระวัง สมาธิตั้ง ให้แน่แน่ว แคล้วคลาดภัย
เพ่งหนทาง สว่างเช้า เคล้าฝนหมอก โอ้นิวยอร์ค ข้าไม่รู้ เจ้าอยู่ไหน
เลยเอ็กซิท เล็กนิดเดียว ไม่เลี้ยวไป พุ่งเข้าใน กลางใจเมือง บัลติมอร์
จึงต้องขับ นับถนน วนจนรอบ วิ่งชิดขอบ เลี้ยวขวาซ้าย ทางไหนหนอ
ถึงหมู่บ้าน ผ่านซอกซอน ย้อนชะลอ หลงแน่หนอ ขอแผนที่ คลี่ออกดู
บัลติมอร์ แมรี่แลนด์ แสนเรืองรุ่ง มิหมายมุ่ง กลับได้มา หาสิ่งรู้
ไม่ได้คิด ไม่ได้หวัง ตั้งใจดู โชคบุญชู ช่วยดาลดล ได้ยลเยือน
สองชั่วโมง บัลติมอร์ พอพบเค้า เส้นทางเก่า ขับไปใหม่ อย่าให้เหมือน
สังเกตป้าย ทางนิวยอร์ค ช่วยบอกเตือน บ่ายหน้าเยือน อักษรบ่ง เลิกหลงทาง
ไม่หยุดยั้ง กลางสายฝน ปนหมอกฝ้า สองเก้าห้า พารถข้าม ลำน้ำกว้าง
เดอลาแวร์ ริเวอร์ เจอเส้นทาง จ่ายสตางค์ ค่าทางด่วน จวนค่ำเย็น
ขับไปนาน ผ่านเข้าสู่ นิวเจอร์ซี่ ความหวังมี ใกล้ที่หมาย คงได้เห็น
ไม่มีแสง ตะวันส่อง มองเยือกเย็น เฉียดรัฐเพน วิลวาเนียร์ เดอลาแวร์
ตั้งหลักไมล์ ใช้เอ็กซิท สิบสี่ซี ดูไม่ดี ขี่ผิดช่อง ต้องหลงแน่
เอถึงดี ลงทางเดียว ลืมเหลียวแล ต้องเปลี่ยนแปร เอ็กซิทหน้า สิบห้าอี
ข้ามสะพาน ผ่านเลาะ ขึ้นเกาะใหญ่ อยู่ชิดใกล้ แมนฮัตตัน นั้นเจอซี่
ถนนซอก ตรอกซอย ไม่น้อยมี ชื่อเจอซี่ ซิตี้ อยู่นี่เอง
เพราะหลงทาง จึงทำให้ เสียเวล่ำ จนมืดค่ำ ทำโขมง เริ่มโฉงเฉง
ดีกว่าหลง ติดยา ฆ่าตนเอง ชาตินักเลง ยังยอมกลัว มั่วติดยา
อเมริกา มาย่านนี้ มีหลายเกาะ เป็นแหล่งเหมาะ มะกันชน คนแน่นหนา
ตึกตระการ ตระหง่านสูง จรุงตา แหล่งการค้า มหานคร ขจรไกล
ยามค่ำคืน ตื่นภวังค์ ปลั่งเจิดจ้า แสงจับฟ้า พราวพร่าง สว่างไสว
ฝั่งตรงข้าม น้ำฮัดสัน นั้นวิไล ส่องแสงไฟ สาดสี ฉวีวรรณ
สามทุ่มกว่า หาโมเต็ล เป็นที่พัก หายากนัก ของไม่แพง แห่งสวรรค์
โรงแรมถูก คงหายาก ลำบากครัน คิดขึ้นพลัน เทาซั่นกว่า น่าเสียดาย
ยอมทนหนาว เอาสักนิด คิดรอบคอบ ขับเวียนรอบ วกวน ค้นเป้าหมาย
สายฝนพรำ ยามค่ำมืด มิจืดคลาย เลี้ยวออกซ้าย
ย้ายเข้าขวา หาที่นอน
ตัดสินใจ ไปโมเต็ล หนีเย็นหนาว ลุคอราวด์ ไปเรื่อยเรื่อย เมื่อยก็ผ่อน
โอล์ดเนวี่ รี่ลงไป ไม่อาทร หนมปังปอนด์ ข้าวเหนียวปั้น กันหิวโซ
จอดแวะปั๊ม ไต่ถามแขก ข้าแปลกถิ่น หาที่กิน หาที่นอน อ่อนแรงโข
สี่ห้าครั้ง ซ้ำทางเก่า เฝ้าแถวโลว์ส ไม่โมโห หาไม่เห็น โมเต็ลมี
เหมือนกระเหรี่ยง เสี่ยงกลางกรุง ย่อมยุ่งเหยิง ขวัญตะเลิด เปิดเปิง กระเจิงหนี
ขับระวัง นั่งอ่านป้าย ดูให้ดี ห้าหกที ยังหมุนอยู่ คอมมูนิพอร์
เจอเบอเจนท์ เห็นเจเอฟ เคนเนดี้ มอนโกเมอรี่ สี่สี่ศูนย์ หมุนนั่นหนอ
ไปกี่ครั้ง ยังได้เจอ คอมเมอนิพอร์ หาวปากบ๋อ จะขอนอน หน้าวอลกรีน
เลี้ยวเข้าขวับ ขยับรถเทียบ ทำเงียบกริบ แค่สามสิบ มินิท คิดหันหิน
กลัวเจอกล้อง ส่องเวลา หน้าวอลกรีน แกล้งซื้อกิน โคล่า แล้วลาจร
ผ่านไปโลว์ เข้าลาน พาร์คิ่งล็อต ดับเครื่องจอด พอได้งีบ ก็รีบถอน
จอดคันเดียว เดี่ยวโด่ โอ้อาวรณ์ ท่องสัญจร คอมมูนิพอร์ ขับต่อไป
แหงนดูจันทร์ ลอยเด่น เย็นยะเยือก ต้องรีบเลือก แหล่งพักผ่อน ว่านอนไหน
ของแน่แน่ ต้องในรถ ถอดหมดใจ ทางรถไฟ ลองไปถาม คนดำที
ติ๋มเสแสร้ง แกล้งเกริ่นคุย ถุยฝรั่ง มันบอกทาง นิดหน่อย เลยถอยหนี
แปซิฟิค สี่แยกแกรนด์ แล่นดูที เลยคราวนี้ แล่นกินลม ชมดาวน์ทาวน์
ขับกันเพลิน บังเอิญตัน เพราะยันฝั่ง ต้องหันหลัง กลับลำ ระกำหนาว
มองเห็นฝั่ง แมนฮัตตั้น พรรณผ่องพราว เด่นสกาว สันติภาพ องค์เทพี
ขับรถย้อน เล็งบ่อนใหม่ หวังใคร่จอด หลับตลอด โดยไม่ย้าย ให้สุขี
บันดาลช่วย อำนวยชัย ให้โชคดี องค์เทพี ชี้นำทาง ยังบิ๊กเค
จากถามไถ่ ขายทั้งคืน แกล้งฝืนช็อป เดินวนรอบ นึกขอบใจ อย่าได้เขว
เจอที่นอน แล้วเรา เฝ้าบิ๊กเค ไม่เตร็ดเตร่ เกร่ไปไหน ให้หาวนอน
จะตีหนึ่ง ถึงตีสี่ ไม่มีฝัน กรนทั้งคัน ยินเสียงคราง ดังคนหอน
วัฒนา อ้อนว่าหนาว จนร้าวรอน ผ้าห่มนอน นงเยาว์ให้ จึงคลายคราง
ตีสี่ครึ่ง จึงขยับ ปรับเปลี่ยนใหม่ ขับรถไป ต่อตะลอน ก่อนฟ้าสาง
สบายใจ ให้เจ้าติ๋ม ขับชิมลาง พาหลงทาง อีกจนได้ แต่ไม่กลัว
วัฒนาควง พวงมาลัย ใจร้อนรุ่ม ไม่อาจคุม สติอยู่ ดูขับมั่ว
พอหลงทิศ ก็คิดหวั่น ใจสั่นรัว พลั้งเผลอตัว กลัวเสียเรื่อง จะเคืองคาย
สะพานเดียว ขับเลี้ยวข้าม สามสี่ครั้ง ผิดช่องทาง เกิดเรรวน จวนใกล้สาย
ส่งกุญแจ ให้ข้ารับ แล้วขับไป ว่ากันใหม่ เติมน้ำมัน ฉันขับเอง
ฟ้าเป็นใจ ใสสว่าง กระจ่างแจ้ง ทำใจแกร่ง แข็งใจขับ กระฉับกระเฉง
มองโมเต็ล เด่นโดดป้าย ใกล้นี่เอง เริ่มบรรเลง เพลงขยับ ขับสัญจร
แมนฮัตตั้น ที่มั่นหมาย ในนิวยอร์ค หาทางดอด ลอดใต้ดิน ทางลินคอน
ขับไปเหนือ มาแถวนี้ ขี่ตะลอน หลงซอกซอน รัทเทอร์ฟอร์ด จอดทันใด
ตรวจแผนผัง ทางลินคอน ร่อนละลิ่ว ขับลงดิ่ว ด่ำอุโมงค์ โล่งไฉน
โผล่เหนือเกาะ เหมาะเหม็ง เล็งมั่นใจ ตึกเอมไพร์ สเตท สำเร็จการ
สารถี ขี่สโลว์ ข้าโชเฟอร์ ติ๋มต๋อยเป๋อ เหม่อตาดู ผู้โดยสาร
ขับไม่จอด ถนนบรอดเวย์ เกร่เป็นนาน ไฟเขียวผ่าน เหลืองแดงจอด ตลอดแนว
วนอยู่ใต้ ตึกใหญ่สูง พุ่งสู่ฟ้า แดดส่องจ้า ตาพร่าพราง สว่างแจ๋ว
ตึกบังเงา หนาวเย็น เห็นไฟแพรว ตลอดแนว แมนฮัตตั้น ฉันขับวน
จำทำใจ ขับให้ชิน ด้วยถิ่นแปลก หลบซอกแซก แหวกว่าย ข่ายถนน
ไชน่าทาวน์ ไทม์สแควร์ ขับแถวน ไม่สับสน วนเวิลด์เทรด เขตเทพี
อเมริกา เมดดิสัน เซนทรัลปาร์ค ก่อนลาจาก ทางลินคอน จรวิถี
แวะเข้าชิ่ง ปาร์คิ่งล็อต หยอดเพนนี ขออีกที ย่ำนิวยอร์ค ยามเหนาวเย็น
สายสามเก้า เข้าอุโมงค์ ก็โล่งจิต ครั้งแรกคิด ถ้ำฮอลแลนด์ แสนยากเข็ญ
ออกลินค่อน จรเจอร์ซี่ ขี่ผิดเลน เหลือบแลเห็น คอสโก้ โผล่เข้าชม
เขาขูดกอง มองหิมะ หล่นชะไว้ มีมากมาย เต็มปรัก วางหมักหมม
ตกก่อนมา มิละลาย เหลือให้ชม หนาวระบม หากมาถึง ก่อนหนึ่งคืน
ไก่คอสโก้ โครงหมูอบ ตุนครบไว้ หิวเมื่อใด
จะต้องฟัด ไม่ขัดขืน
เวอร์จิเนียร์ ไกลนักหนา จะหวนคืน ยังสดชื่น ฉ่ำหัวใจ ไม่ร้อนรน
ติ๋มโดดขับ ฉาบเฉี่ยว เลี้ยวเอกซิท คงหลงผิด คิดสลับ เลยสับสน
ควรไปซ้าย กลายเป็นขวา พาวกวน หมู่บ้านคน อยู่อาศัย ใจระรวย
เห็นรถเมล์ โดยสาร แพตเตอร์สัน จอดรถพลัน งัดแผนที่ คลี่ออกช่วย
เกาะสายสาม ห้ามลืมหลง หรืองงงวย ให้ติ๋มช่วย อ่านแผนที่ ชี้เส้นทาง
เชื่อมไฮเวย์ สองแปดเจ็ด มุ่งเขตใต้ ขับต่อไป สายเก้าห้า จะมาขวาง
พอออกขวา หาทางเซ้าท์ เข้าเส้นทาง ขับระวัง พรางดูป้าย ไม่ระแวง
ขับเพลินไป ไม่ได้ความ เริ่มถามไถ่ ติ๋มบอกใช่ ถูกแน่นอน หล่อนเสียงแข็ง
ความไม่รู้ ดูแผนที่ แล้วชี้แจง นึกว่าแจ้ง แต่ไม่จริง ยิ่งหลงไกล
นึกสังหรณ์ เหลือบไปเห็น สายเมนส์แล้ว เสียงเธอแจ๋ว กลับแซวว่า ข้าหวั่นไหว
เธอบอกว่า ข้าจะหลับ พี่ขับไป ถึงยังไง ต้องได้เห็น เพนซิลวาเนียร์
มิรั้งรอ ขอเช็คเน วิเกเตอร์ หากพลั้งเผลอ ขืนไว้ใจ อาจได้เสีย
ออกเอ็กซิท อาซีมุท รีบรุดเคลียร์ แทบระเหี่ย ทาวน์มอรีส มุ่งมิชชิแกน
เปลี่ยนถนน วนออกใหม่ ให้ติ๋มขับ ข้าขยับ จับแผนผัง นั่งเกาะแน่น
สังเกตไมล์ ป้ายบอกทาง ตามวางแพลน ติ๋มขับแล่น โฉบฉิว ชมทิววนา
ลัดสายหนึ่ง บึ่งล่องใต้ ไม่ต้องเลี้ยว ชั่วโมงเดียว เลี้ยวถนน วนเก้าห้า
ผ่านเมืองงาม ยามชื่นชม ยมนา ภาพติดตรา ตรึงใจ ในสุนทรี
ไม่หลงทิศ ไม่ผิดเวย์ อยากเฮลั่น ตะวันตก เมืองเทรนตัน ดั้นวิถี
ก่อนค่ำเย็น ฟิลาเดลเฟียร์ เคลียร์มาดี ต่อหมายที่ บัลติมอร์ มุ่งวอชิงตัน
เลิกพะวง จะหลงทาง พรางยิ้มกริ่ม เพราะเอิบอิ่ม ปรีเปรม เกษมสันต์
นิวยอร์คไกล ได้พิชิต จิตผูกพัน ที่หมายมั่น ฉันจะมา เยี่ยมหาเธอ
ขับตระเวน เส้นขาไป ใช้ทางด่วน ขากลับทวน หวนเส้นทาง ฝั่งริเวอร์
หาเมืองเพน ซิลวาเนียร์ เสียจนเบลอ สั่งฝากเธอ เดอลาแวร์ จะแวะมา
ติ๋มขับฟอร์ด จอดบางแห่ง มีแรงเรี่ยว ไม่หวาดเสียว เหลียวหันมอง สองทุ่มกว่า
สี่คนเรา เข้าอพาร์ทเม้นต์ เย็นอุรา สิ่งคุ้มค่า คือประสบการณ์ สืบสานกลอน
แต่ละวัน ผ่านพ้น ทนสู้หนาว รวมเรื่องราว เพื่อพอเพียง เรียงอักษร
ประวัติศาสตร์ นิราศลา คราจากจร เชิงสุนทร กลอนกวี สร้างนิพนธ์
ริชมอนด์ กลอนไม่เดิน มัวเพลินช้อป ดูของชอบ หาของรัก ยอมหนักขน
คงไม่ครบ เหมือนใจอยาก ฝากทุกคน ถึงจะจน จนแค่เงิน แต่เพลินใจ
เดือนธันวา ปีห้าศูนย์ หมุนเวียนลับ ยังย้อนกลับ มกรา ฟ้าปีใหม่
ริชมอนด์ เวอร์จิเนียร์ อยู่เสียไกล ย่างปีใหม่ ใจคิดถึง คำนึงครวญ
จากเมืองไทย ไปต่างแดน แสนว้าเหว่ เที่ยวเตร็ดเตร่ สนุกไหน ยังใคร่หวน
เขาว่าน้ำ ไหลไป ไม่ไหลทวน ชีวิตเรา มีผันผวน ทวนเคาท์ดาวน์
ฝืนกดเหน็บ เก็บหนาวใจ ไว้เบื้องลึก เปิดสำนึก บริสุทธิ์ ดุจผ้าขาว
หาความรู้ ประดับใจ ไว้ทุกคราว ลบเรื่องราว ที่คาวคลุ้ง หายยุ่งใจ
ได้ทราบข่าว เศร้าสลด หมดความหวัง พระพี่นาง แห่งพระองค์ ปลงตักษัย
เสด็จลับ ดับขันธ์ สวรรคาลัย ไกลสุดไกล สู่ภพหล้า สุขาวดี
ยังความเศร้า โศกใจ ไทยทั่วทิศ น้อมดวงจิต อุทิศถวาย ให้สุขศรี
กราบบังคม ก้มเกล้า เจ้าจักรี มิ่งนารี องค์พระพี่นาง อยู่กลางใจ
ริชมอนด์ ตอนนี้อุ่น ละมุนละเมียด สายลมเสียด ซัดยอดสน วนสั่นไหว
ไม่ถึงเดือน จะเลื่อนลา มาเมืองไทย ขอขอบใจ อเมริกา ให้ข้าชม
เพียรไปช๊อป หอบของฝาก จากเมืองนอก ออเดอร์บอก ทางสไค้ป์ ให้ขรม
ดูดอลล่าร์ ในกระเป๋า ก็เศร้าซม อาจไม่สม อารมณ์ปอง ได้ของงาม
ลีทเทอร์แมน คีมเครื่องมือ ซื้อฝากอั๋น ได้หนึ่งอัน บอกไม่พอ ขออีกสาม
ลูกสาวขอ พ่อแม่เชื่อ ทุกเมื่อยาม เนื่องจากตาม ใจเขา แต่เยาว์วัย
ครีมแป้งผ้า ชุดนอน อุปกรณ์ไฟฟ้า นาฬิกา เอามาแจก แบกไม่ไหว
ทิมเบอร์แลนด์ ด็อกเกอร์ เคอวินไคน์ ยีนรีไวส์ ไนน์เวสต์ เกรดอย่างดี
แวะทาร์เก็ต เข้าเบสท์บาย ไปโครเกอร์ หันมาเจอ วอลมาร์ท โอลด์เนวี่
เซียร์นอดทรอม อ้อมไปโคร์ โผล่เจซี โน่นเมซี่ นี่ไดลัดส์ จัดซื้อมา
ของกองก่าย ไม่หมายปอง มองผาดเผิน ยิ่งอยากเดิน ยิ่งเพลินเพลิด เกิดตัณหา
อันโลกกว้าง พลังซื้อ คืออเมริกา สกุลดอลล่าร์ คล่องลื่นเวียน เปลี่ยนมือเร็ว
เป็นเสาร์ห้า มกราคม ผมไปสอบ ขับรถรอบ กริ่งเกรงว่า คว้าน้ำเหลว
รวมพลัง ตั้งใจ ผลไม่เลว ขับไม่เร็ว แล่นไม่ช้า พาแหม่มไป
สปีดลิมิท ชิดขวาซ้าย ป้ายต้องอ่าน กรรมการ ดีเอ็มวี ชี้ทางให้
เปลี่ยนเลนแซง สต๊อปไซน์ สัญญาณไฟ เธอพอใจ ผ่านไดร์พเวอร์ ไลเซ่นมา
เพียงหนึ่งใบ ใช้ขับขี่ ไอดีการ์ด ถือเป็นบัตร ใบสำคัญ ฉันรักษา
ขับทั่วทิศ คิดไปไหน ในอเมริกา คือสัญญา ตั้งหน้าหวัง ตั้งปณิธาน
ขับคนเดียว ไปเดี่ยวโดด ก็ขับได้ คิดอยากไป หาความสุข สนุกสนาน
ซื้อรถดี ขี่ไปหา ประสบการณ์ คงสำราญ เริงรื่น ชื่นฤดี
อเมริกา มาเที่ยวนี้ มีความหมาย ทุกอย่างได้ ตามครรลอง ไม่หมองศรี
แถมพบเห็น เป็นกำไร ให้ชีวี รัชนี เขาแอบไพล จึงได้มา
ข้าก็นึก ถึงบุญ คุณประโยชน์ ถ้ามีรถ อยากจะใคร่ ขับไปหา
ก่อนบินกลับ เมืองไทย ไปร่ำลา สี่เดือนมา พบกันอีก ใช่หลีกไกล
เวอร์จิเนียร์ ลูกของนี อยู่นี่หมด แม้เดี่ยวโดด แต่ทีท่า หน้าแจ่มใส
มองสีหน้า ข้ารู้ซึ้ง ถึงแก่นใจ ขื่นข้างใน เพราะไกลลูก จิตผูกพัน
เจ้าเดวิด ยังพากเพียร เล่าเรียนอยู่ ยังไม่รู้ กาลข้างหน้า จะเปลี่ยนผัน
การศึกษา ข้าร่วมด้วย ช่วยแบ่งปัน จ่ายเป็นพัน นับดอลล่าร์ ข้ายินดี
เจ้าริชชาร์ด ใช่ว่าเด็ก เล็กกว่าเขา ยังมัวเมา เสพยาไอ ไม่หน่ายหนี
มาริซ่า มาเป็นคู่ ดูจะดี แค่ยังมี บางเหตุการณ์ อาจผันแปร
บางครั้งเชียบ เงียบสงบ ดังจบเรื่อง ต้องชำเลือง โดยเฉพาะ ดูเบาะแส
อันการงาน ไม่คิดทำ ซ้ำวอแว รอเพียงแต่ เมื่อสวรรค์ บันดาลดล
เจ้ารินนา ทำหน้านิ่ว คิ้วขมวด ร้องว่าปวด มัสเซิล นั่งเดินบ่น
วิ่งหาหมอ ตรวจใหม่ เสียหลายคน บอกเหลือทน แทบทรุด ถึงหยุดงาน
เธออีกคน ก็ปวดเข่า คือเจ้าหนิง ร้านตาซิงค์ ทนระกำ ทำอาหาร
เป็นหัวแรง แข็งขัน ทุกวันวาร ไปทำงาน ไม่ว่างเว้น เป็นประจำ
เจ้าชาตรี มักระโหย แรงโรยอ่อน ดีนกับชอน ยิ่งเติบใหญ่ ใบหน้าขำ
อิ๋วดูแล แม่หุงหา มาประจำ บ่นพึมพำ ว่าแขนปวด รวดร้าวใจ
รัชนี โทรหา บรรดาลูก จิตพันผูก ทุกคืนค่ำ พร่ำเสียงใส
เรียกหาดีน หาชอน ผู้อ่อนวัย เป็นย่ายาย ใจคำนึง จึงหมั่นโทร
ส่วนเจ้าติ๋ม ยิ้มแหย ทำแก๋ไก๋ ช็อปเข้าไป ไม่ว่างเว้น เหมาเป็นโหล
ฝากเจ้าเป๋อ กลับเมืองไทย ขนขายโชว์ กระเป๋าโต สามสี่ใบ ใส่เต็มตุง
ให้ชาตรี จองตั๋ว บอกชัวร์แล้ว การนั่งแกร่ว อยู่บนเครื่อง นั้นเรื่องยุ่ง
ยี่สิบสี่ ชั่วโมง ลงเมืองกรุง หอบอีรุง ตุงนัง เบื่อนั่งนอน
เมื่อขามา มาสองคน บนเก้าอี้ ขากลับสี่ เรียงกันมา หน้าสลอน
เพราะเจ้าเป๋อ มาเพิ่ม เสริมเจ้าดอน ยายของชอน และเจ้าดีน บินด้วยกัน
พักแต่งกลอน ย้อนหยิบคว้า ภาษาฝรั่ง เขียนอ่านฟัง อย่างตั้งใจ ให้ถึงฝัน
แล้วเวลา ล่วงผ่านไป ในวันวัน รวดเร็วพลัน มิทันไร ใกล้เดินทาง
น่าเสียดาย วัยยามดึก คลายคึกคัก อุปสรรค มักรุมเร้า เข้าขัดขวาง
สมองไบร้ท์ สมัยเดิม เริ่มเจือจาง จำได้อย่าง ลืมเสียสอง มองก็เบลอ
พยายามสน สักเท่าใด ไม่กระเตื้อง พอรู้เรื่อง มิทันไร ก็ไพล่เผลอ
โอกาสไหน จึงจะโผล่ โกอินเตอร์ นั่งละเมอ เพ้อทำใจ จนใบ้กิน
ออกท่องเที่ยว เดี๋ยวเดียวกลับ ใกล้ ๆ ย่าน ออกจากบ้าน เข้าร้านเล่น เป็นนิจสิน
แวะโครเกอร์ เจอเป็นรูด ขูดใต้ดิน ถูกหวยกิน เข้าหลายดอล กลับนอนซม
พอยามว่าง ย่างวันเสาร์ ไปเอาท์เลท เดินสังเกต ดีเคเอ็นวาย ให้ได้สม
ด้วยบังเอิญ เดินมาพบ สบอารมณ์ ได้เรือนกลม นาฬิกา สง่างาม
ราคาถูก เสียด้วย เลยช่วยเหมา ควักกระเป๋า เปย์ดอลล่าร์ คว้ามาสาม
ยีนแรงเลอร์ รีไว สีเทาคราม เลือกช็อปตาม ออเดอร์ เธอสั่งมา
จันทร์ถึงศุกร์ ทุกค่ำเย็น เป็นกิจวัตร ไม่อยากพลาด นัดทุกวัน กับร้านค้า
วันไหนหยุด หงุดหงิด ดังติดยา ไม่ซื้อหา ถ้าได้ดู ก็ยังดี
เดือนมกรา อากาศหนาว เข้ากระดูก ความเย็นบุก คุกคามห้อง ต้องหมั่นหนี
ไปเดินวน อยู่บนมอล์ ก็อุ่นดี สินค้ามี ให้เลือกหา พาอุ่นไอ
เช้าสิบเจ็ด สังเกตฟ้า เมฆาครื้ม ลมหยุดตรึม ซึมเซา เศร้าไฉน
ยะเยือกเย็น เน้นเหน็บ เหมือนเจ็บใจ ละอองปราย คล้ายสำลี รี่แล่นพลัน
ล้อมรอบตัว กลั้วสำลี สีขาวนุ่น เปลวละมุน ฝุ่นละออง ต้องกายฉัน
เขาปรายโปรย โรยละลาย แล้วหายพลัน อีกไม่นาน พอกเพิ่ม เสริมทวี
เวอร์จิเนียร์ นั้นเคยมี ต่างสีสัน บัดนี้นั้น หันเวียน จึงเปลี่ยนสี
มองฟองขาว พราวพร่าง ดังสำลี ทั่วราตรี ขาวผ่อง ฟองสโนว์
ฉันเก็บภาพ ประทับใจ ไว้ในกล้อง ถ่ายรอบห้อง กล้องโซนี่ ดีอักโข
หนึ่งชั่วโมง แพนเต็มที่ วีดีโอ ภาพสโนว์ เหน็บหนาว คราวได้ยล
มิทันหาย ละลายฟอง ที่ต้องพื้น ฟ้ากลับครื้น แพรวพราย ด้วยสายฝน
กระพือโหม ลมรวยรื่น ชื่นใจดล ฝังกมล ได้ยลภาพ ตราบเท่านาน
ถึงวันนี้ มีสองครั้ง ดังที่เห็น ถือว่าเป็น ศุภนิมิตร ที่คิดฝัน
อาหารตา จึงมาพบ ประสบการณ์ กำไรนั้น มอบไว้ให้ ที่ใจตน
พอวันพรุ่ง รุ่งขึ้นเช้า ยังหนาวสั่น ตลอดวัน วางแผน แสนสับสน
เลิกไขว่คว้า หาเรื่องคิด จิตวกวน เริ่มอับจน ยามแก่เฒ่า เข้าชรา
ก่อนที่น้อง ทั้งสองคน พ้นไทสัน เตรียมอาหาร จานใหญ่ ไว้คอยท่า
ยืนหน้าเตา ปรุงสดสด รสโอชา พอเขามา เปิดฝาหม้อ ขอลิ้มลอง
เมื่อตอนเด็ก เรียนหนังสือ ถือกระจาด จ่ายตลาด มัดสองมือ หิ้วซื้อของ
จ่ายกับข้าว ให้คุณป้า มาสำรอง เคยเฝ้ามอง แกงผสม อย่างกลมกลืน
ซ้อมทำครัว เป็นตัวหลัก ปักตะหลิว ขวดซีอิ๊ว ขวดน้ำปลา ข้าต้องฝืน
เกือบทุกวัน ฉันเข้าครัว เป็นตัวยืน เมื่อหวนคืน กลับเมืองไทย จะไปทำ
ศิลป ปลายจวัก มักลับลี้ ผู้ใดมี อาจจะช่วย ให้รวยร่ำ
ทอดต้มแกง พะแนงผัด รู้จัดทำ ช่วยชุ่มฉ่ำ รักเร่ เสน่ห์นาง
เหมือนยามเฝ้า จับเจ่านั่ง หน้าหลังบ้าน ใครเดินผ่าน ทักทาย ไม่หมาดหมาง
เฒ่าชะแล แก่ชรา ทุกท่าทาง แขกฝรั่ง จูงสุนัข บ้างรักแมว
บ้างขนย้าย ออกเข้า มาเช่าใหม่ รถขับไป ถอยเข้าซอง มองทิวแถว
คนละคัน เรียงจอด ตลอดแนว ทั่วห้องแถว อพาร์ทเมนต์ ไม่เว้นวัน
คนส่วนใหญ่ อยู่ในห้อง มองไม่เห็น มียกเว้น เมื่อใครมอง มาห้องฉัน
เห็นข้านั่ง รับสายลม ชมแสงจันทร์ ส่งใจฝัน ถึงคนไทย ไปเยี่ยมเยียน
วันคืนไหน ไร้เมฆา ฟ้ากระจ่าง อยากจะนั่ง วางสุนทร แต่งกลอนเขียน
ธรรมชาติ ดาษดา พาวนเวียน หนาวจวนเจียน จุดเยือกแข็ง อ่อนแรงโรย
ต้องรีบชิง วิ่งเข้าบ้าน ซมซานซ่า ปวดทั่วหน้า ชาทั่วตัว ระรัวโหย
เปิดฮีทเทอร์ หนาวก็หาย ไออุ่นโชย ไม่แรงโรย รุมเร้า เหมือนหนาวใจ
อเมริกา พยากรณ์ เขาวอนนิ่ง ตรงความจริง ไม่เคยพลาด สักแค่ไหน
ทุกชั่วโมง ส่งข่าวออก บอกทันใด คนสนใจ คอยติดตาม ถามได้เลย
อันตัวข้า เริ่มชาชิน ในถิ่นหนาว แม้ร้อนเร่า ก็ชินชา ข้าวางเฉย
ความหนาวร้อน ซ่อนในใจ ไฉนเลย มัวนิ่งเฉย หากหันเห อาจเซซวน
นั่งคำนึง คิดถึงไทย จวนใกล้กลับ นงเยาว์นับ
ถอยหลัง หวังใจหวน
เก็บข้าวของ กองในหีบ หนีบเป็นพรวน ชาตรีชวน ลุงป้าช็อป เห็นชอบเดิน
กล้องถ่ายหนัง วีดีโอ รุ่นโซนี่ ออเดอร์มี จากลูก ต้องฉุกเฉิน
ไปสังเกต ที่เบสท์บาย รายจ่ายเกิน ควักจ่ายเงิน ขาดพอดี ชาตรีเปย์
แล้วไปช๊อป รอบใหญ่ ในวอลมาร์ท มองผ่านผาด สินค้า ท่าไก๋เก๋
อยู่ข้างใน ไม่มีสโนว์ ก็โอเค สโนว์เท สเปย์อ่อน ถึงตอนเย็น
สโนว์บาง เบาหวิว ปลิวปะทะ ความหนาวชะ เข้าเหน็บใน ใครเล่าเห็น
กลัวปอดบวม สวมเสื้อหนัง ยังเยือกเย็น นี่แหละเป็น เช่นนี้ ทั้งวี่วัน
วันอาทิตย์ เจ้ารินนา พาดูที่ ผ่อนหลายปี ที่ในดง พงไพรสันต์
แฮนโนเวอร์ เจอพฤกษา พนาวัลย์ นานาพันธุ์ สุมทุม พุ่มพฤกษ์พง
ขึ้นสู่เหนือ บุกตะลุย ติดหลุยส์ซ่า เลคแอนนา อยู่ไม่ไกล ไปไม่หลง
ปูลาดยาง ทางเนินหุบ ยุบขึ้นลง ถนนโค้ง เลี้ยวลด คดเคี้ยวไกล
ในตอนนี้ ดูรกร้าง เหมือนว่างเปล่า คงไม่เหงา เพราะมีผู้ อยู่อาศัย
ที่ด้านหลัง ติดราง ทางรถไฟ สี่สิบไร่ ดินอุดม พืชสมบูรณ์
รอเวลา สี่ห้าปี มีโอกาส คงไม่พลาด ทำให้ดี มีเงินหมุน
พยายามหน่อย เจ้ารินนา เร่งหาทุน มาอุดหนุน จุนเจือ เพื่อพัฒนา
สู้ลำบาก หากเก็บไว้ อย่าขายก่อน ด่วนใจร้อน ยอมดิ้นรน ทนไว้หนา
มิเลี่ยนแนร์ อยู่ไม่ไกล ไหลเงินตรา ล้านดอลล่าร์ จะไปไหน อยู่ในอวย
บรรยากาศ จัดไว้งาม ตามธรรมชาติ ล่องเนินลาด หลั่นลด ดูสดสวย
ความเจริญ กำลังถึง จะพึงรวย ถูกโฉลก โชคอำนวย ช่วยนับเงิน
แล้วหนึ่งวัน ก็ผ่านไป ไม่ย้อนกลับ คุณต๋อยนับ ถอยหลัง นั่งเคอะเขิน
เหลือครึ่งเดือน เตือนบอก จะออกเดิน ขึ้นบินเหิร สู่ฟากฟ้า มาเมืองไทย
ขึ้นวันจันทร์ ยังสั่นหนาว พราวระยิบ ต่ำยี่สิบ องศา ฟาเรนไฮต์
ถึงมีแดด แผดผ่อง ช่วยส่องคลาย มิละลาย ก้อนน้ำแข็ง ด้วยแรงเพลิง
ห่วงน้ำไหล ในท่อแอร์ ถูกแช่แข็ง ต้องใช้แรง ความร้อนดัน มันยุ่งเหยิง
น้ำแข็งย้อย เหมือนรูปปั้น มีชั้นเชิง กระดกเงิง กระเดิดง้ำ อยู่คร่ำไป
ที่ปากท่อ น้ำฝนทิ้ง ยังนิ่งแน่ เหมือนดังแซ่ ในฟิซเซอร์ ตู้เย็นไว้
เช้าขึ้นมา แข็งไปหมด รันทดใจ แข็งเป็นไต สยายย้อย ห้อยเป็นยวง
แกลลอนน้ำ สามกระบอก อยู่นอกบ้าน เย็นสะท้าน ต้านไม่ไหว แข็งหายห่วง
บรรยากาศ สุดวกวน เช่นกลลวง ได้ผลพวง ยามมาพบ ประสบการณ์
สี่ห้าวัน ที่ผ่านมา อากาศหนาว วันนี้เบา บรรเทาทุกข์ สนุกสนาน
ม่านเมฆหนา ฟ้าอุ่นขึ้น เริ่มชื่นบาน คิดถึงบ้าน ใกล้หวนกลับ สองสัปดาห์
ป่านฉะนี้ ที่เมืองไทย ไฉนเล่า มีใครเฝ้า เหลียวแล ชะแง้หา
ฟังจากข่าว ไม่เท่าเป็น เห็นกับตา ด้วยจากมา เสียนานโข โอ้บ้านเรา
การจัดตั้ง รัฐบาล หารส่วนสัด อำนาจรัฐ เปลี่ยนไปถือ มือใครเล่า
อาจหนีพ้น คนตัณหา สร่างซาเซา หรือคนก่อน อำนาจเก่า เข้ามายำ
ความจริงแท้ แม้เขาเตือน เหมือนเป่าสาก แต่ก็อยาก เตือนไว้ว่า อย่าถลำ
เลิกคิดบ้า อย่าโกงนัก จักเกิดกรรม ยิ่งรวยซ้ำ กรรมจะซัด เหมือนสัตว์เดน
ตั้งต้นใหม่ ทำเสียใหม่ เลิกใจคด ทุรยศ สัปดน คนเขาเห็น
นอกโปร่งใส ในขุ่นมัว ชั่วกรรมเวร ยิ่งกว่าเดน อมนุษย์ สุดอัปรีย์
คนเขาเลือก เสือกมาโกง กินโจ๋งครึ่ม แกล้งทำลืม รวบรัด น่าบัดสี
มีคนชัง ดังนรก ตกอเวจี ทำไม่ดี ใจถลำ กรรมจะทัน
เวลานี้ อเมริกา ทุกสเตท ทั่วยูเอศ ซาวหาเสียง เถียงกันลั่น
ฮิลรารี่ โอบาม่า มาแข่งกัน รีพับบริกัล มีรอมนี่ จอร์นแมคเคน
ผ่านดีเบท เสร็จแล้ว ไปเลือกตั้ง คนพลาดพลั้ง คะแนนโวท ไม่โดดเด่น
วันซุปเปอร์ ทิวส์เดย์ อาจเป๋เบน คงได้เห็น และได้รู้ ใครผู้นำ
เห็นคนเก่ง เบ่งกึ๋น มายืนพูด แล้วแต่ชุด เชิญหน้าม้า มากันหน
ชูธงป้าย พรายพราว ทั้งขาวดำ สืบผู้นำ ตามจากบุช ใกล้หลุดลอย
นโยบาย สร้างงาน ฐานเศรษฐกิจ กำหนดคิด ฟูเฟื่อง ไม่เงื่องหงอย
ดูคึกคัก พวกนักข่าว เขาเอนจอย เราเลยพลอย คอยลุ้น ไม่หนุนใคร
วันที่ห้า กุมภาพันธ์ ฉันก็กลับ ไม่ไปลับ คงได้มา หากันใหม่
อเมริกา ข้าให้คอย อย่าน้อยใจ ขออกลับไป ได้สังเกต เหตุการณ์เมือง
ตื่นตีสี่ มีดวงจันทร์ แจ่มกระจ่าง ส่องสว่าง กลางนภา ฟ้าแสดเหลือง
ผ่านปุยเมฆ กระจัดกระจาย พรายแสงเรือง งามประเทือง
เยื้องสลับ รับอมร
ส่งจิตใจ ไปกับจันทร์ ฉันขอฝาก พานำรัก ผ่านพุ่มพวง ดวงสมร
หายหม่นหมอง หมางไหม้ ไร้อาวรณ์ ข้าฝากกลอน วอนดวงจันทร์ มาปลอบใจ
ช่วยถามเขา ชาวบางกอก บอกข้าหน่อย ว่าเขาคอย อเมริกา มานานไหม
ราวแปดเดือน เหมือนแปดปี ที่จากไป สุดกู่ไกล ใช่อุปสรรค ให้รักจาง
บางกอกมี กิจกรรม ที่ทำอยู่ ข้าสุดกู่ ต้องทุรน ทนหม่นหมาง
อย่าระริก คิกคัก จนรักจวง ข้าอ้างว้าง โดดเดี่ยว เพียงเดียวดาย
ภาษาฝรั่ง ข้านั่งฟิต ติดอึดอัด แต่งนิราศ ปลอบใจ ก็ไม่หาย
อเมริกา มาคลายทุกข์ เพียงสุขกาย แต่ในใจ มิได้เป็น เช่นนั้นเลย
ห้องชั้นบน มีคนอยู่ ดูคึกคัก เดินตึกตัก ข้าไม่ติง ฟังนิ่งเฉย
เลี้ยงสุนัข ร้องครางอิ๋ง เขาทิ้งเลย ข้าก็เคย เลี้ยงรัก สุนัขมา
เกิดหนึ่งครอก ใช่ตัวเดียว เจ้าเหมียวบ่น ลูกเจ้าซน ก็ซนจริง ยิ่งกว่าหมา
ป่านฉะนี้ ตัวโตใหญ่ ไม่ธรรมดา ชื่อว่าหมา ก็ยังดี กว่าขี้โกง
เตรียมกระเป๋า เอาขึ้นชั่ง วางน้ำหนัก เก็บของฝาก เลือกเฟ้น เป็นโขยง
ช่องคับแคบ แอบซุกไซ้ ในรูโพรง ชั่งให้ตรง อย่าเกินกว่า ห้าสิบปาวด์
เป๋อกับติ๋ม เขาลิ้มลอง ขนของค้า โอนโควตา ให้เจ้าเป๋อ หนึ่งกระเป๋า
เกินน้ำหนัก ไม่พอดี มีปรับยาว เป็นเรื่องราว เสียดอลล่าร์ ค่าระวาง
ของเป็นน้ำ ห้ามใส่แบ็ค แบกขึ้นเครื่อง อาจเป็นเรื่อง ขุ่นเคืองข้อง ถึงหมองหมาง
ให้ใต้ท้อง ลงบรรทุก กันทุกทาง กระเป๋าวาง ส่องทุกใบ ให้เอกซเรย์
อันเครื่องมือ พอจะใช้ คล้ายอาวุธ ป้องกันสุด ขึ้นไม่ได้ อย่าไฉเฉ
ทำแกล้งโง่ ซื่อบ้า พาเกเร ขืนโมเม นำขึ้นไป ถูกไล่ลง
อ่านอยู่ร่ำ ทุกค่ำเช้า เฝ้าฟุตฟิต เรื่องอังกฤษ ทำยังไง จะไหลหลง
พอเริ่มนั่ง ฟังเข้าหน่อย ก็ปล่อยปลง ฟังแล้วงง ง่วงงับ ม่อยหลับพลัน
ถึงตอนนี้ หมดพลัง จะนั่งอ่าน ชักเริ่มพาล จะขี้เกียจ นึกเดียดฉันท์
กลัวนึกว่า ภาษาใคร ภาษามัน เลยแกล้งขยัน หยิบอ่านเรื่อย เมื่อยก็นอน
ร่างนิราศ อาจนำศัพท์ จับมาพ่วง เพื่อลุล่วง นำอังกฤษ ติดอักษร
ผันเสียงพ้อง คล้องได้ความ ตามบทกลอน บางบทตอน
แกล้งปะปน ระคนไป
ใช่เล่นลูก อาจถูกผิด อย่าคิดมาก อ่านลำบาก ยากจะปลง อย่าสงสัย
คนได้อ่าน อาจพ้นทุกข์ สุขสบาย ข้าตั้งใจ ร่ายนิราศ อเมริกา
เวอร์จิเนียร์ เจ้าอยู่นี่ อย่าหนีหาย คอยได้ไหม ข้าไม่ลับ กลับมาหา
ถึงวันนี้ ยี่สิบสาม มกรา อังคารหน้า กุมภาพันธ์ วันเดินทาง
ก็วันนี้ อบอุ่นคลาย ค่อยหายหนาว หาเรื่องราว คิดขึ้นมา จะสะสาง
ยกอักษร เข้ามาเคียง ร้อยเรียงวาง ขึ้นเป็นร่าง นิราศ จัดร้อยกรอง
เวอร์จิเนียร์ อย่าเสียใจ ขอไกลก่อน อย่าอาวรณ์ เลยนะเจ้า อย่าเศร้าหมอง
ไม่นานนัก จักมาใหม่ ดังใจปอง ขอฝากของ ไว้ที่เจ้า เฝ้าดูแล
ธุรการ งานข้ามี ที่คอยท่า หลายปัญหา มีไว้ ให้ข้าแก้
ขืนปล่อยปละ ละทิ้ง ยิ่งเชือนแช ข้าไม่แปร แค่สี่เดือน อย่าเคลื่อนคลาย
เกลนแอลเลน ริชมอนด์ เคยผ่อนพัก ยังตระหนัก รักอยู่ มิรู้หาย
จำจากเธอ เวอร์จิเนียร์ ข้าเสียดาย คงไม่วาย รำลึก นึกถึงเธอ
มกรา ยี่สิบสี่ วันนี้หนาว ฟังอ่านข่าว ดินฟ้า อยู่เสมอ
มักแปรเปลี่ยน เวียนวน จนฉันเบลอ คอมพิวเตอร์ แสดงโชว์ สโนว์บาง
ตื่นขึ้นมา อากาศอุ่น ละมุนละม่อม น้ำเงินย้อม ระบายฟ้า เมื่อคราสาง
สายตาจ้อง แพนกล้องถ่าย ไม่วายวาง ถ่ายไปพราง สังเกตพราง ตั้งใจรอ
อากาศเย็น เยือกมา ฟ้าเปลี่ยนสี แดดที่มี เหือดหาย ไปไหนหนอ
ให้ข้าอุ่น เพียงนิดหน่อย ไม่ค่อยพอ เตรียมกล้องจ่อ ไว้จับ ภาพสโนว์
ทั้งแต่งกลอน เล่นเกม อ่านอังกฤษ ตามใกล้ชิด สโนว์ไม่มา น่าโมโห
พอบ่ายสาม ก็หายสั่น ตะวันโต อาทิตย์โผล่ ฟ้าสีคราม งามละออง
เหยี่ยวถลา กาวิหค นกกระจอก ทั้งกระรอก ออกมาเต้น เห็นหยอยหยอง
ไต่กิ่งสน ต้นไร้ใบ ชวนให้มอง เจ้าเจ้าของ นิวาสถาน ให้ฉันชม
ข้ามาอยู่ ได้ดูเจ้า คลายเหงาจิต เจ้าอย่าคิด หรือหาว่า ข้าขื่นขม
ข้ามาอยู่ เป็นเพื่อนเจ้า คอยเฝ้าชม ชื่นอารมณ์ ในยามร้าง ที่ห่างไกล
อยู่ใกล้เจ้า ทุกวี่วัน ฉันห่วงเจ้า เย็นเยือกหนาว ยิ่งกว่านี้ เจ้าลี้ไหน
น้ำแข็งตก ปกคลุม ข้ากลุ้มใจ หิมะไป เจ้าก็มา ข้ายินดี
ข้ารักเจ้า อยากเข้าใกล้ ได้สัมผัส แม้เป็นสัตว์ เจ้าดำรง คงศักดิ์ศรี
จงปกป้อง ประคองกาย ไว้ให้ดี ศัตรูมี หลากหลาย มากมายครัน
เริ่มวันเสาร์ หนาวจัด มีนัดเที่ยง เป็นมื้อเลี้ยง จากน้ำใจ คนไทสัน
ส่งเจ้าเป๋อ กลับเมืองไทย คงไปนาน ออกจากงาน ไปพัก รักษาตัว
รับประทาน อาหารฝรั่ง สั่งบุฟเฟ่ต์ อาจต้องเปย์ ดอลลาร์ เป็นค่าหัว
ปลาหมูไก่ ผลไม้เค้ก สเต็กวัว ซี่โครงคั่ว อบนึ่ง รสถึงใจ
เข้าโกลเด้น ดารแร่ล ถนนแกสกิ้น เพื่อนชื่อหลิน สาวเวียตนาม ตามไปจ่าย
กับเจ้าติ๋ม ช่วยกันออก บอกสบาย แม้มีจ่าย เสียดายดอล ก่อนจะกิน
บ้านรินนา มกราสอง จำต้องงด ตามกำหนด จะเลี้ยงให้ เมื่อไกลถิ่น
ปกติ มีชุมนุม กลุ่มศิลปิน อดได้ยิน เสียงบรรเลง เพลงไทยลาว
อเมริกาค่ำ ไทยย่ำรุ่ง จรุงเลิศ เป็นวันเกิด สามสิบห้า ของลูกสาว
ยี่สิบเจ็ด มกรา อายุยาว ผ่องพรรณพราว สกาวทรัพย์สิน มิลเลี่ยนแนร์
ใกล้วันกลับ หลับสบาย ไม่สะดุ้ง นอนจนรุ่ง ตะวันแผด ส่องแดดแจ๋
เยี่ยมยายซู ผู้เป็นลาว เฒ่าชะแล ไม่ยอมแก่ เจ็ดสิบหก ซื่นอกใจ
อดีตลาว เรฟฟูจี ที่ไทสัน ยังทำงาน ไปกลับ ขับรถไหว
อพยพ พาครอบครัว แต่ผัวตาย มีลูกชาย อยู่อเมริกา ฐานะรวย
แถมมีฟาร์ม ให้คนเช่า ยี่สิบเก้าเอเคอร์ รักเจ้าเป๋อ ชวนไปเยือน ปลูกเรือนสวย
รินนาพู ผู้นำทาง ช่างอำนวย เจ้าดอนด้วย นงเยาว์ด้วย ช่วยไปคุย
เนื้อที่กว้าง เส้นทางดี มีบรรยากาศ ออกตลาด ก็ไม่ไกล ได้ฉลุย
แก่ร่ำรวย ด้วยเข้มแข็ง ใช้แรงลุย พอพูดคุย จึงรู้ดี นี่ป้าซู
แวะเยี่ยมเยียน เพื่อนชาวลาว คราวขากลับ เขาต้อนรับ เป็นอย่างดี มิอดสู
เรือนด้านหลัง ครั้งรินนา กับเจ้าพู เคยเช่าอยู่ ณ
ที่นี่ หลายปีมา
ทุกวันนี้ รินนาย้าย ไปตั้งฐาน ออมซื้อบ้าน ของตนเอง เก่งนักหนา
ห้าสิบแปด ชายผู้นี้ ชื่อปรีชา คุณรจนา เป็นคู่ทุกข์ มีลูกโต
กลับมาถึง
อพาร์ทเม้นต์ ก่อนเย็นย่ำ แวะไปหม่ำ ปิสซ่า หน้าคอสโก้
หิ้วมาบ้าน ทานทุกคน จนพุงโล ตอนหิวโซ โจ้ไม่ยั้ง นั่งล้อมวง
วันจันทร์เช้า เข้าสไค้ป์ เรียกไปบ้าน ถามเรื่องงาน ของลูกสาว ตามเป้าประสงค์
จะตลอด ไปรอดฝั่ง ดังใจจง เจตจำนง อยากได้งาน ใกล้บ้านดี
เป็นโรงงาน ของญี่ปุ่น ต้นทุนหนัก ไม่ลำบาก เดินทางไป ใกล้วิถี
ผลิตภัณฑ์ ทำทั่วไป เกี่ยวไอที บางกระดี่ ติวานนท์ ทนทำไป
เหลือเจ็ดวัน ฉันคงอยู่ ยูไนเต็ด หนีสเตท อเมริกา แล้วมาใหม่
ทุกวันนี้ ยังคงหนาว เข้าเหน็บใน สั่นอะไร ก็ไม่สั่น เท่าหวั่นทรวง
ผลกระทบ ไม่เหมือนใคร คือไอ้ติ๋ม ต้องฝืนยิ้ม ในอุรา น้ำตาล่วง
เมื่อน้ำขึ้น อย่าเพิ่งพัก รีบตักตวง หาผลพวง แห่งชีวิต คิดให้ไกล
อิ๋วชาตรี มีดีนชอน ยายดอนกลับ จำเป็นรับ แบกภาระ อย่าสงสัย
ไปทำงาน ก็แสนเมื่อย กลับเหนื่อยใจ ต้องเลี้ยงให้ ทางถูก ลูกจึงดี
ลูกชายสอง ต้องแข่งขัน กันศึกษา ช่วยนำพา ชี้ทางสู้ สู่เกียรติศรี
เขาทั้งสอง สอนรู้รัก สามัคคี รู้ชั่วดี กตัญญู รู้แทนคุณ
โลกหมุนไป ใจหมุนวน คนหมุนเปลี่ยน กงกำเกวียน เปลี่ยนเรื่อยไป ไม่คลายสูญ
หกสิบหก อายุขัย ได้เพิ่มพูน อันญาติพงศ์ วงประยูร สูญสิ้นไป
วัฏจักร แห่งชีวิต สถิตมั่น จะยาวสั้น มิรู้แน่ ว่าแค่ไหน
สิ่งที่คิด ฝังติดตรึง ซึ้งกลางใจ คือผู้ให้ กำเนิด เราเกิดมา
คุณแม่สิน พ่อสิงโต ผู้โอ๋กล่อม ทะนุถนอม ทั้งกายใจ ไข้รักษา
สร้างวิสัย ให้พากเพียร เรียนวิชา สำเร็จมา รักษาชาติ เชี่ยวชาญชัย
วันพรุ่งยาม สามสิบมกรา วันข้าเกิด บุญประเสริฐ พ่อแม่ท่าน บันดาลให้
ข้าสำนึก รำลึกคุณ ทูนเหนือใด ลึกฝังใจ คุณแม่สิน พ่อสิงโต
เป็นวันนี้ อังคารหน้า เหนือฟ้ากว้าง บินเดินทาง กลับคืนบ้าน คงนานโข
กลับสู่เหย้า กราบแผ่นดิน ถิ่นนะโม หลวงพ่อโต องค์มิ่งขวัญ อันรุ่งเรือง
เข้าสัปดาห์ วาระท้าย ในทริปนี้ ทุกอย่างที่ ปณิธาน สานสืบเนื่อง
เพียงบางส่วน สมควรค่า มาเห็นเมือง แดนรุ่งเรือง สิวิลัย ให้คำนึง
ความผูกพัน อันเกิดมี ที่บังเกิด โอกาสเปิด เกิดรู้สึก ใจนึกถึง
ยัวเวลคัม ทำให้ข้า ฝังตราตรึง ส่วนลึกซึ้ง ยิ่งกว่าบัตร คือญาติวงศ์
บริการ ที่หลานให้ อาศัยบ้าน เป็นสถาน ทุกทั่วยาม ตามประสงค์
ข้ายอมรับ บาปบุญนำ คือกำกง ยังดำรง ทุกเช้าค่ำ ด่ำกมล
หนิงรินนา รัชนี ชาตรีติ๋ม ส่งรอยยิ้ม อิ่มปรีดา ผลากุศล
ข้าทดสอบ กำลังใจ ไว้ทุกคน รู้จักตน รู้จักผู้ ปูชนีย์
ริชมอนด์ ไบร้ท์เวย์ ทิมเบอร์พาส ไม่ได้ขาด สองครั้งเห็น เทนเนสซี่
ผ่านสเตท เขตลำน้ำ ข้ามคีรี น้องรัชนี ใจนักสู้ ผู้แอบไพร์
หกสิบหก สุดวันนี้ ยี่สิบเก้า พอรุ่งเช้า ขึ้นสามสิบ อายุใหม่
สิ่งประเสิรฐ เลิศล้ำค่า กว่าสิ่งใด พ่อส่งใจ คิดถึงลูก ทุก ๆ คน
สายฝนพรม ลมระรื่น ชื่นฉ่ำโลก ได้โฉลก โชคอำนวย ด้วยกุศล
ตะวันจ้า ฟ้าสีคราม ยามได้ยล ฟ้าหลังฝน คนหลังทุกข์ สุขดวงแด
มองนภา ฟ้าน้ำเงิน น่าเพลินพิศ ส่งสายจิต พลังมุ่ง พุ่งกระแส
สู่สวรรค์ ชั้นฟ้า พาดวงแด พบพ่อแม่ แผ่ซึมซับ กราบบูชา
พ่อแม่นี้ มีพระคุณ บุญใหญ่หลวง ที่ห่วงหวง ลูกรัก เป็นหนักหนา
ความโชคดี มีแม่พ่อ พะนอมา เมื่อถึงครา สุดคิดถึง คะนึงครวญ
หลายคนรู้ ใกล้เวลา ข้าจะกลับ อยากให้รับ ไปเลี้ยงดู ชูสงวน
นกกับแม็ก มีน้ำใจ ได้ชักชวน ร่วมแก๊งก๊วน ชวนชุมนุม กลุ่มชาวไทย
ไทยไดเนอร์ ส่งเป๋อบิน คืนถิ่นเก่า เบียร์ไวน์เหล้า พร้อมลุงป้า หน้าแจ่มใส
สามกุมภา วันอาทิตย์ สนิทใจ เคยท่องไกล ไปร่วมเที่ยว ทีมเดียวกัน
บุญวัดไทย ไปยอร์คทาวน์ เข้าเจมส์แก่ง อีกหลายแห่ง ชักชวนไป ได้สุขสันต์
จัดปีใหม่ ไทยสรวลเส เฮฮากัน แจกรางวัล กุศลฉลาก ได้กับลุง
ขอเซย์ไฮ กู้ดบายที สี่เดือนครบ คงได้พบ ดังตั้งใจ ที่หมายมุ่ง
มีปัญหา เพียงใด โปรดใช้ลุง ที่เมืองกรุง เทพไทย อย่าได้เกรง
ตกเย็นมื้อ ซื้อจยีนเพิ่ม เสริมโทนิค กระเป๋าฉีก
เพียงเล็กน้อย ห้อยโหวงเหวง
จัดพิเศษ อพาร์ทเม้นต์ เป็นกันเอง คุยครื้นเครง สรวลสันต์ วันฤกษ์ดี
รุ่งสามสิบเอ็ด ชักเข็ดหนาว ยังร้าวสั่น ออกพ่นควัน ยันไม่นิ่ง ต้องชิงหนี
เย็นรู้สึก ต่ำกว่าศูนย์ พูนทวี ล่วงเกินสี่ โมงเช้า ยังหนาวชา
สี่มื้อเช้า เรายังเหลือ เพื่อชีวิต อย่าไปคิด ให้มากมาย กระไรหนา
ครั้งที่สอง แล้วมาอยู่ ดูอเมริกา ในคราวหน้า มาใหม่ ให้เหมือนเดิม
ส่วนเจ้าเป๋อ ทำไทสัน วันสุดท้าย พอตกบ่าย รับดอลล่าร์ นำมาเสริม
พกไปจ่าย เมืองไทยแลนด์ ดินแดนเดิม กลับไปเริ่ม ชีวิตเก่า อาจเบาแรง
บ้านรินนา จัดปาร์ตี้ เสาร์ที่สอง โทรสั่งจอง ต้องให้ไป อย่าหน่ายแหนง
เลี้ยงแก้ตัว กลัวน้อยหน้า ราคาแพง คงหมดแรง กว่าจะกลับ หลับเครื่องบิน
ท่านสีพวน พ่อเจ้าพู รออยู่รับ พร้อมส่งกลับ ผูกด้วยด้าย และสายสิญจน์
เตรียมสำรับ จัดกับข้าว ให้เรากิน ไทยลาวจีน ปนมะกัน อันโอชา
อันสังคม ลาวกับไทย ใช่ใครอื่น ต่างม่วนซื่น รื่นสุขสันต์ เพียงหรรษา
หากงานใด ไม่แจกเหล้า เมาสุรา หมดเฮฮา เป็นปาร์ตี้ ที่สุดเซ็ง
ตะวันทอ ยอแสง รุนแรงกล้า นาฬิกา บ่ายสี่โมง ชี้ตรงเผ็ง
กดออร์แกน แค่นขยับ ขับบรเลง เล่นเป็นเพลง แห่งความหลัง ฟังจนเพลีย
แกงขี้เหล็ก ยังมีเหลือ เนื้อต้มใหม่ ของไม่ใส่ ตู้เย็น ไม่เห็นเสีย
อากาศเย็น เช่นนี้ เวอร์จิเนียร์ ต๋อยเขาเคลียร์ อยู่ในครัว ตัวเป็นเกลียว
สุวรรณภูมิ ห้าทุ่มกว่า เที่ยวขากลับ คนคอยรับ เมื่อไปถึง คงหนึ่งเหมียว
นับถอยหลัง ตั้งชั่วโมง โล่งใจเชียว ประเดี๋ยวเดียว อเมริกา อีกห้าคืน
ยิ่งวันกลับ รุกมาใกล้ ใจยิ่งวุ่น เจ้าประคุณ ลุ้นไม่ยั้ง ต้องสั่งฝืน
ใจเลิกวุ่น ทันใด วายทั้งยืน สู้กล้ำกลืน ปล่อยให้วุ่น จึงอุ่นใจ
รุ่งศุกร์หนึ่ง เดือนกุมภา ฝนฟ้าตก หนาวเหน็บอก ตกทั่วฟ้า มาเม็ดใหญ่
ลมกระโชก โกรกซ้ำ ยิ่งฉ่ำใจ มองออกไป ดูมืดครึ้ม เหมือนซึมเซา
ยามมืดมิด จิตจ่อเปี่ยม เตรียมกลับบ้าน จากเสียนาน แม้นบางที ก็มีเหงา
บททดสอบ รอบสองนี้ มิใช่เบา บ้านของเรา ร้างมาได้ ถึงแปดเดือน
เจ็ดโมงกว่า ฟ้าเริ่มขาว ยังหนาวสั่น คิดถึงวัน จะกลับไทย ไปหาเพื่อน
ถึงห่างนาน สักเพียงไหน ไม่เคยเลือน อาจพบเพื่อน เพื่อสังสรรค์ วันตรุษจีน
ฝนพรมพรำ ฉ่ำทั่วทิศ ริชมอนด์ ไม่หยุดหย่อน เลยสักนิด คิดหันหิน
สรรพสัตว์ หยุดทำมา เลิกหากิน กบจำศีล เกือบทั้งวัน ฉันยังนอน
เจ้ารินนา บึ่งมาถาม ความกฎหมาย แม็กลูกชาย เกณฑ์ทหาร หรือผันผ่อน
กลัวกลับไทย ไม่ได้ ให้อาวรณ์ ลดเดือดร้อน รีบปรึกษา ปัญหาคลาย
หัวใจโล่ง สี่โมงเย็น วีคเอนด์เริ่ม เสาะสิ่งเสริม เติมให้ตน พอฝนหาย
นึกตรึกตรอง มองกระเป๋า ก็เบาใจ ของสิ่งใด ไม่ต้องซื้อ คือมันเต็ม
โกยน้ำแข็ง จากตู้เย็น เป็นกระติก จยีนโทนิค ยังไม่หมด รสข้นเข้ม
ผัดฉ่าไก่ ไข่เจียวแหนม แกล้มกรอบเค็ม พออิ่มเอม กลับจากบ้าน หลานชาตรี
เกือบตีหนึ่ง เอนตัวนอน เขียนกลอนต่อ มือจดจ่อ ปลายปากกา เริ่มตาหยี
สมองตื้อ มือชักเปรี้ย เสียแล้วซี วันพรุ่งนี้ แต่งต่อ ขอพักตา
ก่อนกรนครอก บอกกับญาณ อย่าซ่านฟุ้ง ตะวันรุ่ง วันพรุ่งนี้ ยังมีค่า
ปิดสมอง ลงสนิท ยามนิทรา ตื่นขึ้นมา มองฟ้าใหม่ ให้ชื่นบาน
อากาศดี บริสุทธิ์ เช้าวันเสาร์ ช่วยนงเยาว์ เขายังยุ่ง ปรุงอาหาร
เก็บข้าวต้ม กับรองท้อง ไว้สองจาน พอสำราญ ซ่านอารมณ์ ออกชมวิว
สงวนตัว กลัวเก๊าส์ เข้ากำเริบ อาหารเสิร์ฟ เห็นเป็นไก่ แล้วใจหวิว
แม้นเป็นหมู เนื้อปลา ค่อยน่าซิว เหือดหายหิว ชุ่มชิวหา โอชามัน
พอใกล้เที่ยง เริ่มเมียงมอง จ้องขึ้นรถ ซื้อของสด เตรียมไว้ก่อน ตอนสังสรรค์
หลายภาษา มาพรักพร้อม ห้อมล้อมกัน คนไทสัน ไม่แร้งใจ ไร้อาวรณ์
แวะคอสโก้ โผล่โครเกอร์ เจอวอลมาร์ท ไม่เคยพลาด ร้านฟาร์อิสท์ ริชมอนด์
หอบพะรุง หิ้วพะรัง ก่อนสั่งจร ขอลาก่อน เป๋อบ๊ายบาย กลับไทยแลนด์
ตะวันแรง แสงสด ทรงกลดกล้า ถึงเวลา ไปสนุก สุขใจแสน
ลาวร่วมเลี้ยง ให้เกียรติฉัน วันกลับแดน เชิญขึ้นแท่น เปล่งปราศรัย ให้ลาวฟัง
ครั้งเสือพราน ผ่านศึก นึกอดีต เสี่ยงชีวิต นำร่างกาย เข้าไปฝัง
เสียงปืนใหญ่ ยังก้องหู ไม่รู้จาง ภาพพินพัง ฝังในจิต แนบติดตรึง
ศึกสองเส้า สร้างลาวแยก แตกสลาย หนีแยกย้าย พ้นชายแดน แสนคิดถึง
วัฒนธรรม ประจำชาติ ยังมัดตึง ค่าลึกซึ้ง แน่นตรึงตรา หาเปลี่ยนแปร
ตีหนึ่งนอน หลับสนิท หยุดคิดฝัน จนตะวัน พรันพรุ่ง รุ่งแดดเจ๋
ประเดี๋ยวเดียว เขียวครึ้ม ซึมดวงแด ชายตาแล ฟ้าสลัว กลั้วหนาวเย็น
หันเข้าหา ถ้อยกาแฟ เทสเตอร์ชอยท์ ชงอร่อย นั่งโซฟา หน้าอพาร์ทเม้นต์
ร่างนิราศ ติดมือ ถือจนเย็น อยากจะเห็น เจ้ากระรอก ออกหากิน
เสียงรถหวอ ไม่ขาดสาย ได้ยินเสียง ส่งสำเนียง เสียงสะท้อน วอนถวิล
ทุกวันหวอ ดังจ่อหู อยู่อาจิณ เหตุพังพิน เพียงเล็กน้อย คอยเซคเคียว
วันอาทิตย์ มิตรไทสัน มากันหลาย อิ่มสบาย ได้ลองลิ้ม ชิมก๋วยเตี๋ยว
ฝีมือเป๋อ เจ้าเก่า เขาคนเดียว ปรุงก๋วยเตี๋ยว ทั้งแห้งน้ำ ชามเป็นกอง
ชาตรีอิ๋ว ดิ่วมารับ ลุงกับป้า ได้เวลา เชิญร่วมวง ส่งฉลอง
บ้านแม็ก
นก ยกทะเล มาเทกอง ได้ลิ้มลอง หอยปูกุ้ง กลัวพุงโร
คุยถูกคอ รอทีวี มีถ่ายทอด กีฬายอด สุดระทึก กลับดึกโข
ชิงแชมเปี้ยน อเมริกา ซุปปะโบว์ ฮือฮาโฮ โห่ร้อง ก้องเสียงเชียร์
นิวอิงแลนด์ เป็นต่อ นิวยอร์คไจแอนท์ เงินล้านแสน หมุนเดิมพัน กันได้เสีย
แต่พ่ายแพ้ ไปเล็กน้อย หน้าม่อยเพลีย เดินระเหี่ย จากสนาม ยามปราชัย
รุ่งวันจันทร์ สำคัญยิ่ง เตรียมสิ่งของ ตาชั่งลอง สองสามพัก หนักมากไหม
อาจถูกปรับ หลายดอลล่าร์ ถ้าหนักไป แพคของใส่ ให้กระชับ กลับบ้านเรา
อาหารฝรั่ง นั่งมื้อเย็น เป็นของหนิง เธอรีบวิ่ง มาจ้อง จองก่อนเขา
ขอโอกาส เลี้ยงส่งลา ป้านงเยาว์ ควักกระเป๋า เซ็นเช็ค เรื่องเล็กจัง
หนิงนิตยา พี่สาวใหญ่ ในหมู่หลาน จิตเป็นทาน หว่านกุศล บนความหวัง
ภายภาคหน้า จะโชคดี มีสตังค์ มั่นใจตั้ง แห่งคุณงาม ทำความดี
ตกตอนค่ำ ทำธุระ เบ็ดเตล็ด เมื่อแล้วเสร็จ สำเร็จกิจ จิตสุขศรี
ยังอาวรณ์ นอนกับพื้น ตื่นฝันดี ขอลาที่ ริชมอนด์ ตอนหกโมง
สี่คนกลับ รับเป็นสิบ รีบกลับบ้าน ส่วนใหญ่หลาน เท่าที่เห็น เป็นโขยง
การเดินทาง ในครั้งนี้ ยี่สิบสี่ชั่วโมง ถึงเคลงโคลง ลงเครื่องบิน ดินแดนไทย
อยู่บนเครื่อง เปลืองเวลา ลอยอากาศ มองทิวทัศน์ ก้มหน้าต่าง สว่างใส
ขาวน้ำแข็ง แสงสะท้อน ระอ่อนไอ หลายพันไมล์ ใกล้เข้าหา ข้าใจเย็น
สหรัฐ แคนาดา มาญี่ปุ่น วกเวียนหมุน หุนหัน จึงมองเห็น
เกทห้าสี่ หาลำบาก ออกยากเย็น แฮนเบคเข็น บ้างลากจูง พะรุงพะรัง
ควักดอลล่าร์ คว้าขนม ชมสินค้า หิ้วนำมา ฝากลูกสาว ที่เขาสั่ง
เอเอ็นเอ ช่วยแบกให้ ได้ประทัง พวกเรานั่ง อย่างสบาย เบียร์ไวน์กอง
สุวรรณภูมิ ไทยแอร์พอร์ต จอดสนิท ภารกิจ แล้วเสร็จสรรพ มารับของ
ทุกสายตา จากหลานลูก ผูกใจครอง สิ่งเศร้าหมอง โบยบิน สิ้นมลาย
เหมือนตื่นฝัน ผันลิขิต ชีวิตข้า ประสบการณ์ อเมริกา มีค่าหลาย
ร้อยนิราศ ฤาอาจกล้ำ คำอธิบาย เปรียบปานใด ไหนสุขเท่า เข้าแผ่นดิน
11 ก.พ. 51